💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-54 : ภาคอวสาน ตอนที่ 11 💫🕛💫

กระทู้คำถาม


สามชั่วโมงผ่านไป...

เอกรู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลิ่นหอมของอะไรบางอย่างซึ่งกำลังถูกย่างไฟโชยมาเตะจมูก เป็นกลิ่นที่คุ้นเคย ปลุกเร้าความหิวโหยให้เกิดขึ้นทันใด

"อืมม..." เขาส่งเสียงออกจากลำคอ ค่อยๆ ลืมตา และพยุงกายตัวเองลุกขึ้นนั่ง พอมองไปตามทิศทางที่กลิ่นนั้นโชยมาตามลม ก็เห็นหญิงสาวผู้รับสมอ้างว่าเป็น "รัชนี" กำลังนั่งยองๆ มือขวาถือไม้เสียบปลาช่อนตัวยาวเฟื้อยย่างอยู่บนกองไฟ ห่างจากตัวเขาออกไปประมาณระยะห้าหลา

หล่อนหันมายิ้มให้เขา และเอ่ยขึ้น "ตื่นแล้วเหรอคะ คุณเอก เป็นไงบ้างตอนนี้ ?"

"ดีขึ้นมากแล้วครับผม" เขากล่างแล้วยิ้มตอบ ในใจคิด ช่างเหมือนกับรัชนีราวกับพิมพ์เดียวกันแท้ๆ

"ผมหลับไปนานเท่าไรแล้วครับเนี่ย ?"

"ประมาณสามชั่วโมงค่ะ หลังจากที่ดิฉันชวนคุณเดินสำรวจ เรากำลังจะไปกัน แล้วคุณก็ไปไม่ไหว ก็เลยให้คุณนอนพักต่อ"

"แย่จังเลยผม.." อดีตมหาเปรียญกล่าวพลางยกมือคลำศีรษะตนเอง และพบว่ามันยังคงมีผ้าพันแผลผูกไว้อยู่ "กลายเป็นตัวถ่วงของคุณไปเลย แทนที่จะได้ช่วยสำรวจหาทางออก"

"ไม่เป็นไรค่ะคุณเอก อย่าคิดมากเลยค่ะ ไม่ได้เป็นตัวถ่วงอะไรสักหน่อย" หล่อนพยายามปลอบใจ พยายามสังเกตดูผู้ชายคนนี้แล้วก็บอกกับตัวเองได้ว่า เขาเป็นคนที่สุภาพและจริงใจคนหนึ่ง น่าจะพอพึ่งพาอาศัยและไว้วางใจได้

"คุณ...ปิ้งปลาอะไรอยู่ครับ ปลาช่อนใช่ไหมน่ะ ?"

"ใช่ค่ะ" หล่อนตอบแล้วยิ้มหวาน เป็นยิ้มที่กระชากใจเอกอย่างแรง!

"คุณจับมันได้ยังไงครับ มีเบ็ดเหรอ ?"

"ไม่มีค่ะ ดิฉันเอามีดพกเหลาไม้แหลม ทำเป็นฉมวก พุ่งแทงเอาค่ะ! ปลาชุกชุมมากค่ะตรงบริเวณโน้น" หล่อนชี้ไปในทิศทางซึ่งตรงกันข้ามกับจุดที่มีเทวรูปเจ้าแม่กาลี

"อ้อ...แปลว่า คุณคงได้สำรวจทางที่เรากำลังจะไปกันแล้ว หลังจากผมน็อก เครื่องดับไป"

"เอ่อ..ค่ะ! ใช่ค่ะ ทางนั้น ดิฉันเดินสำรวจไปทั่วแล้ว" หล่อนรีบตอบรับทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะต้องไปทางนั้นกับเขา ซึ่งจะต้องไปพบกับเทวรูปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรเสีย เราก็เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรก ถึงเขาจะดูเป็นคนดีน่าไว้ใจ แต่การจะให้กระทำ "เมถุนสังเวย" กับเขาเพื่อถวายแด่เจ้าแม่กาลี ต้องหลีกเลี่ยงจนถึงที่สุด! ขอให้นั่นเป็นหนทางสุดท้ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วเท่านั้น หล่อนถึงจะยอม !!

"คุณคงหิวแล้ว..." หล่อนพูดแล้วลุกขึ้น เดินถือไม้เสียบปลาช่อนย่างเข้ามาหาเอก แล้วยื่นให้เขา "ทานปลาย่างนี่นะคะ"

"แล้วคุณล่ะครับ ?" เอกยังไม่รับ แต่ถามหล่อน ทั้งด้วยความเกรงใจ และสงสัยกับเป็นห่วงว่าหล่อนทานอะไรบ้างหรือยัง แล้วพอย้อนถามจบ ท้องเขาก็ส่งเสียงดังจ๊อก

"ไม่เป็นไรค่ะคุณเอก ดิฉันยังมีปลาอีกสองตัว แทงมาได้สามตัวค่ะ เดี๋ยวจะไปปิ้งตัวที่สองต่อ คุณเอกทานก่อนเถอะนะคะ"

"ไม่เอาครับถ้างั้น" เขายกฝ่ามือตั้งขึ้นห้ามเหมือนฝ่ามือพระพุทธรูปปางห้ามญาติ "ถ้าคุณยังไม่ได้ทานแล้วผมจะทานก่อนคุณได้ยังไง คุณทานก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมจะไปปิ้งอีกสองตัวที่เหลือให้ คุณไม่ต้องแล้ว นั่งทานปลาตรงนี้เถอะนะครับ" พูดจบเอกก็ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกไป

หญิงสาวปราดเข้ามาขวางหน้าเขาไว้ แล้วยกปลาช่อนเสียบไม้ขึ้นมายัดใส่มือเขา

"ไม่เอาเหมือนกันค่ะ! ดิฉันตั้งใจปิ้งปลาตัวนี้ให้คุณโดยเฉพาะ รับไปทานเถอะนะคะ คุณต้องหิวมากแน่ๆ ดิฉันได้ยินเสียงท้องของคุณร้องอยู่นะ เมื่อตะกี้นี้"

"งั้น...เอาอย่างนี้ละกันครับ" เอกคิดหาวิธีการอย่างรวดเร็ว เขาไม่อาจกินปลาตัวนี้เพียงคนเดียวแล้วปล่อยให้หล่อนไปนั่งย่างปลาต่อได้ "เราสองคน...พบกัน ตรงกลางทางดีกว่าครับผม อยู่ทางสายกลางย่อมประเสริฐที่สุด ตามหลักการ มัชฌิมาปฏิปทา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า!"

หญิงสาวหัวเราะคิก แล้วถาม "คุณนี่ พูดเหมือนคนเคยบวชเลย !"

"ก็ใช่ครับผม" เอกพยักหน้าตอบด้วยยิ้มเปื้อนหน้า "ผมเคยบวชอยู่ช่วงหนึ่ง จริงๆด้วยแหละครับ คุณเดาเก่งจังเลย"

"อ้าว...จริงด้วยหรือคะเนี่ย ? ดิฉันเดาๆไปงั้นแหละค่ะ ก็จู่ๆ คุณก็ตั้งหลักธรรมพูดขึ้นมา อย่างที่ดิฉันนึกไม่ถึงเลยละค่ะ" พูดแล้วตัวเองก็รู้สึกทึ่ง และอดนึกในใจต่อไม่ได้...นี่มัน ผู้ชายในสเป็คของเราเลยนี่หว่า !! เราตั้งใจไว้ว่าคนที่จะมาเป็นคู่ของเรา ต้องเคยบวชเรียนมา และรู้หลักธรรมพอสมควร เราถึงจะไว้ใจฝากผีฝากไข้ฝากกายฝากใจให้ได้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีเลย! เพิ่งมาเจอเขานี่แหละ!!

พอนึกถึงตรงนี้ หญิงสาวก็รู้สึกว่าเลือดในกายสูบฉีดอย่างแรงจนขึ้นมาถึงใบหน้าจนแดงเรื่อ แต่แสงไฟจากกองไฟที่ลุกโพลงอยู่ซึ่งมีสีออกแดงๆส้มๆ ก็พอกลบเกลื่อนไม่ให้เอกสังเกตเห็นได้

"แล้ว...คุณจะ ยังไงคะ ถึงจะเป็น มัชฌิมาปฏิปทาที่คุณว่า ?" หล่อนถามและอดยิ้มให้เขามิได้

"ก็คือว่า....เรา...ทานด้วยกัน พร้อมกัน ครับผม!"  พูดจบ หนุ่มเอกก็หักปลาช่อนเสียบไม้นั้นตรงกลาง เสียงไม้เสียบหักดังกร๊อบ เขากระชากเอาตรงส่วนท่อนล่างกลางตัวถึงหางส่งให้หล่อน ด้วยเห็นว่ามันมีเนื้อปลามากกว่าท่อนหัวนิดหน่อย "คุณรัช ทานส่วนนี้นะครับ ผมจะทานส่วนข้างบนนี้"

"โอเคค่ะ!" หญิงสาวตอบรับ รับปลาส่วนนั้นมาพลางนึกชมเชย ขนาดแบ่งปลาให้แล้วยังให้ส่วนที่มีเนื้อมากกว่าให้เราอีก ช่างเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน!

"แบบนี้ลงตัวด้วยสิคะคุณเอก"

"ลงตัว ? ยังไงครับ" เขาเงยหน้าขึ้นถาม หลังจากฉีกเนื้อปลากินไปคำหนึ่ง

"ก็ปลามีสามตัว คุณเอกแบ่งให้ดิฉันครึ่งหนึ่ง เราก็ได้คนละครึ่ง เหลืออีกสองตัว ก็แบ่งกันคนละตัวเลยไงล่ะคะ"

"อ้อ...ครับผม" เขาพยักหน้า แล้วรีบบอกก่อนล่วงหน้า "สองตัวที่เหลือ คุณรัช เอาตัวใหญ่ไปเลยนะครับ ตัวเล็กเอามาให้ผม"

โห...อะไรจะเจนเทิ่ลแมนขนาดนี้...หล่อนนึกในใจ แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เอาค่ะ แบบนี้ ดิฉันก็เอาเปรียบคุณเอกมากไปแล้วอะ"

"เอ๊า...เอาป่งเอาเปรียบอะไรกั๊นน....อย่าคิดมากสิครับผม"

"ไม่เอา..."

"เอาตามนั้นเถอะครับ"

"ไม่!" หล่อนเน้นเสียงหนัก แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้อย่าง จึงดีดนิ้วดังเป๊าะ "นึกออกแล้ว! มีวิธีแล้วค่ะ!!"

"วิธีอะไรครับ ?"

"วิธีตัดสิน ใครจะได้ปลาตัวไหนไงคะ"

"ทำยังไงครับ ?"

"เป่า ยิ้ง ฉุบ แฮ่ !!" พูดจบแล้วหล่อนทำหน้าทะเล้น

เอกหัวเราะ "วิธีการโบราณมากเลยครับ!"

"มันเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดแล้วค่ะ อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้วิธี!!"

"รู้ครับผม ในทีมของผม เราเล่นกันบ่อยครับ"

"ทีมของคุณ...อ๋อ ทีมที่กัปตันวันชนะเป็นหัวหน้าเหรอคะ ?"

"ใช่ครับผม"

คำว่า "ในทีมของผม" นั้น เอกตั้งใจใช้ เพื่อดูปฏิกริยาของหญิงสาวคนที่อยู่ต่อหน้า และพอหล่อนถามกลับมาอย่างนั้น เขาก็มั่นใจมากขึ้น!

หล่อนไม่น่าจะใช่ รัชนี แต่เป็น รัชนก พี่สาวฝาแฝด !!

เพราะเธอไม่กระตือรือล้นที่จะถามถึงคนอื่นๆ ในทีมเลย โดยเฉพาะ สถาพร...ถ้าเป็นรัชนี จะต้องถามถึงพี่ชายแน่นอนว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนกับใคร เป็นอย่างไรบ้าง แต่นี่ หล่อนกลับเฉยเมย ไม่กล่าวถึงใครคนไหนทั้งสิ้น!

แต่ความที่หล่อนมีรูปร่างหน้าตาเหมือนรัชนีทุกประการ มันก็ทำให้ใจของอดีตมหาเปรียญอดหวั่นไหวมิได้!!

"คุณเอกคะ.." หญิงสาวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วมองหล่อนด้วยสายตาที่หล่อนรู้สึกว่าแปลก!

"เอ่อ...ครับผม มีอะไรหรือครับ ?"

"ทำไมถึงเงียบไปล่ะคะ ? แล้วทำไม คุณถึงมองดิฉันแบบแปลกๆ ชอบก๊ล !" จบคำถามแล้วหล่อนก็ทำท่าเอียงคอ

"อ่า..." เอกอ้ำอึ้ง พยายามรวมรวมเรียบเรียงคำพูด ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป

"คุณรัช...ที่อยู่ต่อหน้าผมตอนนี้เนี่ย...ใช่คุณหมอ รัชนี หรือเปล่าครับ ?"

หญิงสาวรู้สึกใจหายวูบนิดหนึ่งและนึก...นี่หมายความว่า เขาคงได้รู้จักกับรัชนีแล้วแน่นอน มิฉะนั้นคงไม่ถามออกมาอย่างนี้ เขากับรัชนีจะมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรบ้างนะ อยากรู้จริง!...

คิดอยู่ครู่เดียว หล่อนก็ตัดสินใจตอบตามความจริง

"ไม่ใช่ค่ะ!"

"อ้อ..." เอกส่งเสียงตอบรับรู้ออกไปก่อน แล้วลงท้ายว่า "ครับผม" เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี แล้วก็แทบหงายหลังเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้ายิงคำถามต่อมา

"คุณเอก...รู้จักรัชนีด้วยเหรอคะ ?"

"เอ้อ...รู้จักครับผม"

"เหรอคะ..." คนถามรู้สึกใจหายอีกวูบ "รู้จักเค้า...นานหรือยังคะ ?"

"ไม่นานหรอกครับผม ก่อนหน้าที่จะมาเจอคุณ สักเดือนนึง ไม่ถึงเดือนด้วยมั้งผมว่า.."

"งั้นเหรอคะ..." หล่อนรู้สึกโล่งอกที่ได้ยินคำตอบ อย่างน้อยก็เพิ่งรู้จักกันไม่นานหรอกน่ะ แค่ประมาณไม่ถึงเดือนเอง!

"คุณสองคน เหมือนกันมากเลยนะครับ ยังกะออกมาจากบล๊อกแม่พิมพ์เดียวกันเลย!" เอกบอกหล่อนไปตรงๆ

"มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วค่ะ ไม่ใช่เรื่องแปลก! เว้นเสียแต่ คุณไม่รู้เรื่องของพวกเรามาก่อน..." หล่อนหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามเขาอีกหนึ่งคำถาม "คุณเคยรู้ประวัติเรื่องราวของดิฉันกับรัชนีมาก่อนไหมคะ ?"

"ก็ พอรู้บ้างคร่าวๆ ครับผม" เอกพยักหน้าบอกหล่อนตามตรง

"ปลาหมดแระ...เราไปนั่งปิ้งปลาสองตัวที่เหลือกันเถอะค่ะ" หล่อนเอ่ยชวนแล้วโยนไม้เสียบปลาซึ่งตอนนี้เหลือแต่ก้างทิ้งไป ต้อยๆลุกขึ้นเดินไปที่กองไฟ

อดีตมหาเปรียญลุกขึ้นเดินตามหล่อนไปต้อยๆ พอไปถึงหน้ากองไฟซึ่งมีปลาสองตัวถูกเสียบไว้ด้วยไม้วางอยู่ ก็ได้ยินหล่อนพูดชวนแกมสั่งบังคับ

"มาค่ะ คุณเอก เป่ายิ้งฉุบกัน ใครแพ้ ได้ปลาตัวเล็ก ผู้ชนะได้ปลาตัวใหญ่ ฮี่ๆ..."

"ได้ครับผม ผมนับสามนะครับ" เขากล่าวยิ้มๆ แต่ในใจเริ่มว้าวุ่น

"ค่ะ! นับเล้ยย..."

" หนึ่ง...สอง...สาม !!"

ทั้งสองปล่อยสัญญาณมือออกประชันกัน ผลปรากฏว่า หญิงสาวออกฆ้อน  เขาออกกรรไกร !

"กรรไกรโดนฆ้อนทุบแล้วครับผม" เอกกล่าวด้วยหน้าเปื้อนยิ้ม "คุณรัช..รับปลาตัวใหญ่ไปนะครับผม"

"ค่ะ!" หญิงสาวตอบด้วยยิ้มแล้วก้มลงคว้าไม้เสียบปลาช่อนตัวที่ใหญ่กว่ายาวกว่าขึ้นมาอังไว้เหนือกองไฟ เอกก็ทำตาม

"คุณเอก ตอนที่เรียกดิฉันครั้งแรก คุณก็เรียกดิฉันว่า คุณรัช...ถึงตอนนี้ คุณก็ยังเรียกดิฉันเหมือนเดิมอีก.."

"ครับผม...แล้วไงต่อครับ ?"

"ตอนนี้ ดิฉันรู้แล้วว่า คุณรู้จักรัชนี แล้วคุณรู้ไหม ว่าดิฉัน ชื่อเต็มๆ ว่าอะไรคะ ?"

"อ่า..." เอกอ้าปากส่งเสียงนำไปก่อนขณะที่พยายามนึกถึงข้อมูลที่แอนดี้เคยบอก เขากำลังสับสนระหว่างชื่อ "รัชนก" กับ "รัชนู"

แล้วในที่สุดเขาก็เลือกตอบ "คุณคือ...อ่า...รัชนู ครับผม !!"

หญิงสาวยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาปิดปากหัวเราะคิกคัก

"นั่นมันชื่อแม่ดิฉันค่ะ !!"

"อ้าว เหรอครับ ตายละผม! ขอโทษครับๆ " เอกอุทานแล้วหัวเราะ "งั้นคุณก็คือ คุณ รัชนก!"

"ใช่ค่ะ! ดิฉัน รัชนก ส่วน รัชนี เป็นน้องสาวฝาแฝดของดิฉันเองค่ะ"

"อ้อ...ครับผม" เขากล่าวพลางพยักหน้า "ยินดีมากครับผม ที่ได้มีโอกาสพบเจอ และรู้จักคุณรัชนกครับ"

"ยินดีเช่นกันค่ะ คุณเอก..." หล่อนตอบและตั้งใจส่งสายตาหวานซึ้งให้กับเขา พลางบอกกับตัวเอง สงสัยคงต้องพาเขาที่หน้าเทวรูปเจ้าแม่กาลีเสียแล้วกระมังอีแบบนี้ !!

รัชนกมิใช่หญิงใจง่าย! ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยเสียตัวให้ผู้ชายคนไหน ยังคงความบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์! แต่ถึงตอนนี้ หล่อนรู้สึกหลงรักผู้ชายคนที่อยู่ต่อหน้าเข้าให้อย่างจัง! และเมื่อรู้ว่าเขาได้รู้จักรัชนี แฝดผู้น้องของตน หล่อนก็เกิดอาการหึงหวง อยากเป็นเจ้าของเขาขึ้นมาเสียแล้ว !!

"คุณรู้มาก่อน นานแล้วหรือครับ ว่าคุณมีน้องฝาแฝด ?"

"ค่ะ คุณเอก"

"รู้ได้ไงครับ ? ขออภัยนะครับที่ถาม ถ้าไม่อยากตอบ ไม่ตอบก็ได้นะครับ"

"ตอบได้ค่ะไม่เป็นไรเลย" หญิงสาวตอบพลางพลิกไม้เสียบปลาช่อนไปอีกด้านเหนือเปลวไฟ "ดิฉันมีแผ่นป้ายโลหะเล็กๆ สลักชื่อไว้ พ่อกับแม่ห้อยคอดิฉันมาตั้งแต่เกิด รัชนีก็มีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเธอจะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า"

เอกหวนคิดถึงคำบอกเล่าของแอนดี้ในตอนนี้เปิดเผยถึงชาติกำเนิดของรัชนีในห้องประชุมภายในยาน THE FUGITIVE แล้วจึงบอกหล่อน "ตอนนี้ เค้ารู้แล้วละครับ คุณรัชนก"

"คุณบอกว่า ตอนนี้เค้ารู้แล้ว ?"

"ใช่ครับผม"

"แปลว่า ทีแรก เค้าก็ไม่รู้ ใช่ไหมคะ ?"

"ใช่ครับ"

"แล้วเค้ารู้ได้ไงคะ ? มันเป็นความลับมากเลยนะระหว่างเราสองพี่น้อง"

"พอดีว่า กัปตันวันชนะ หัวหน้าของพวกผม มีลูกน้องคนหนึ่งชื่อแอนดี้ครับผม"

(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่