สองพี่น้องฝาแฝดใช้เวลาในขณะที่มหาเอกไม่อยู่ นั่งพูดคุยกัน แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาให้แก่กันและกันฟัง หลังจากนั้น รัชนกจึงได้รู้ว่าพ่อแม่ของตนคือใครและประสพชะตากรรมอันเลวร้ายอย่างไร และนั่นเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังให้แก่เธอมากยิ่งขึ้นต่อพวกทางการและทหาร เพราะตนเองได้เข้าร่วมกับองค์กรกอบกู้อิสระภาพตั้งแต่ต้น ส่วนรัชนีก็ได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า พี่สาวฝาแฝดของตนถูกคณะบุคคลในองค์กรกอบกู้อิสะภาพชิงพาตัวหลบหนีไปได้ทันก่อนหน้าที่พ่อแม่ของตนจะถูกสังหารและตนเองถูกทหารหญิงคนหนึ่งนำไปฝากเลี้ยงที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ที่สำคัญ หลักฐานลับเฉพาะสองอย่าง ทั้งคู่ต่างเปิดเผยให้กันและกันดู หนึ่ง คือแผ่นป้ายโลหะสลักชื่อซึ่งทั้งคู่ติดไว้กับสร้อยคอห้อยไว้ตลอดเวลา และอย่างที่สองซึ่งลับสุดยอดจริงๆ คือ "ตราประทับในที่ลับ" รูปสวัสดิกะแบบของนาซี ของรัชนก สักไว้ที่ด้านขวา ส่วนของรัชนี สักไว้ที่ด้านซ้าย
ซึ่งต้องหาโดยใช้นิ้วแหวกชัฏธรรมชาติที่ปกคลุมออกดูเท่านั้นจึงจะเห็น !!
สำหรับรัชนกนั้น ตอนที่เข้ามาในถ้ำ เธอเข้ามาเพียงลำพังหลังจากลงมาจากยานของพวกตน แล้วเหยียบถูกกลไกบนพื้นภายในถ้ำหลุดร่วงลงไปยังผืนน้ำเบื้องล่าง สุดท้ายถูกกระแสน้ำวนพัดพาเข้ามาในถ้ำลึกลับแห่งนี้ ก่อนจะไปพบกับมหาเอกในเวลาต่อมา และหลังจากได้เข้ามาอยู่ในถ้ำแห่งนี้แล้วก็ไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนๆของเธอได้อีก เนื่องจากวิทยุสื่อสารตกหายไปกับกระแสน้ำเสียแล้ว
ครั้นกล่าวถึงตัวอดีตมหาเปรียญ ทั้งสองพี่น้องต่างก็เล่าถึงความสัมพันธ์ของแต่ละคนที่มีต่อเขา และสรุปได้ว่า จนถึงบัดนี้ เขายังมิได้เปิดใจรับใครอย่างชัดเจน สถานะยังคลุมเครือทั้งคู่ เขาดูเหมือนมีใจ แต่ยังรักษาความเป็นสุภาพบุรุษชั้นเอกสมชื่อ ไม่มีการล่วงเกินโดยจงใจเกิดขึ้น
"จะว่าไปแล้ว เค้าปฏิบัติกะนก เหมือนนกเป็นน้องสาว ให้ความเอ็นดู เหมือนนกเป็นเด็กมากกว่าอะ" แฝดผู้พี่กล่าวอย่างเปิดอก
"โห...ขนาดมีโอกาสใกล้ชิดถึงขั้นเบียดตัวกัน เขายังไม่ทำอะไรเกินเลย ปล่อยให้เธอแอบอิงซบอกหลับไปอย่างนั้น ตบะโคตรแกร่งเลยอะ! ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ไม่มีทางปล่อยโอกาสงามๆแบบนั้นให้ผ่านไปเฉยๆ แน่!" แฝดผู้น้องวิจารณ์ด้วยความทึ่ง
"แหงละสิจ๊ะ! เป็นชายอื่น เค้าก็ฟันไปหลายรอบแล้ว!!" พูดจบก็หัวเราะกิ๊กกั๊ก
"ถามจริงๆ...ชอบเค้าไหม ?" รัชนียิงคำถามตรงไม่อ้อมค้อมและยิ้ม
"หืมม...เอาตรงๆ นะจ๊ะ ในเมื่อนีกล้าถาม นกก็กล้าตอบเหมือนกัน ชอบสิ! บอกเลย !! แล้วนีล่ะ ?" ตอบแล้วก็เอียงคอยิ้มถามกลับ
"เหมือนกันจ้ะ!" แฝดผู้น้องตอบโดยไม่ต้องคิด "ชอบตรงที่เค้าเป็นคนธรรมธัมโม เคยบวชเรียนมาก่อน และเค้าก็วางตัวคงเส้นคงวาอ่ะ เลยคิดว่าผู้ชายคนนี้ไว้วางใจได้"
"เค้าเคยจีบนีจังๆ ไหมอะ ?"
"อืม...มันไม่ชัดเจนนะจ๊ะ แบบว่า แสดงความห่วงใยในบางครั้งมากกว่า แต่จะพูดคำว่าเลิฟไล้ค์อะไรนี่ ไม่มีเลย! แล้วก็รักษาระยะห่างอยู่ตลอดเวลาอยู่ในทีมของกัปตันวันชนะ"
"คงเพราะอยู่กันหลายคนมั้งจ๊ะ เลยไม่กล้าเข้ามาใกล้ชิดกับนี ถ้าไม่มีพวกนั้นเป็นก้างก็ไม่แน่ม้างง ?" แฝดผู้พี่พูดแล้วก็ยิ้ม
"ไม่หรอกจ้า..." รัชนีส่ายหน้ายิ้มตอบ "เวลาที่มีโอกาสอยู่ห่างจากพวกกัปตันก็มี เค้าก็อยู่ของเค้าไปเรื่อยอย่างนั้นแหละ ดูเหมือนจะเขินๆ น่ะจ้ะ"
"อืม... ลักษณะแบบนี้ สงสัยจะรักษาพรหมจรรย์!"
"นีก็ว่างั้นแหละ! บริสุทธิ์ผุดผ่องแน่เลยผู้ชายคนนี้!!"
"โอยย....ในยุคกำลังจะขึ้นศตวรรษที่ 28 อยู่รอมร่อเนี่ย ผู้ชายบริสุทธิ์ ไม่เคยจิ้มหญิงอย่างเค้าเนี่ย มันแรร์ไอเท็มชัดๆ!!" แล้วสองพี่น้องก็พากันหัวเราะ ก่อนที่แฝดผู้พี่จะถอนใจ "เฮ่อออ...แล้วต่อจากนี้ไป เราจะยังไงกันดีล่ะเนี่ย ??"
"พูดจากใจเลยนะจ๊ะที่รัก" รัชนีกล่าวอย่างเปิดอก "เท่าที่เราเล่าเรื่องกันมา เค้ามีโอกาสใกล้ชิดกับนกมากกว่านีนะ มากกว่าแบบเยอะเลย นีว่านีจะอยู่ห่างๆดีกว่า ปล่อยให้เค้ากับนกใกล้ชิดกันดีกว่านะจ๊ะ!" พูดจบตัวเองก็รู้สึกใจหาย
"อ้าวว! ได้ไง ??? ก็ไหนบอกว่า คนในทีมกัปตันเค้าเชียร์นีกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ? ขืนทำแบบนั้นก็งานกร่อยสิจ๊ะ! แล้วนีแน่ใจเหรอว่าตัวเองจะไม่เสียใจ ?"
"อืมม..." แฝดผู้น้องกัดเล็บ และตีหน้าเศร้านิดหนึ่ง "ก็...ระยะแรกๆ คงมีซึมๆ บ้างแหละจ้ะ แต่ก็คงปรับตัวปรับใจได้ในที่สุด"
"ไม่เอา..." รัชนกจับสองมือของเธอมากุม "แบบนี้ นกห่างจากเค้าเองดีกว่า ให้เค้ามีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับนีบ้าง ไหนๆ ทีมกัปตันวันชนะก็เชียร์นีกันอยู่นี่นา อย่าให้พวกเค้าผิดหวังเลย แล้วก็อย่างที่นกบอก คุณเอกเค้าทำกับนกเหมือนนกเป็นน้องสาวมากกว่าจ้ะ! ไม่งั้น ก็มีอะไรกันไปแล้ว..." คราวนี้เป็นทีของแฝดผู้พี่ต้องใจหายกับคำพูดของตัวเองบ้าง
"แล้วนกก็ต้องเสียใจเหมือนกันน่ะสิจ๊ะ! จะลืมค่ำคืนที่อยู่ด้วยกันกับเค้าในถ้ำนี้ได้เหรอ ?? !!!" รัชนีเปลี่ยนเป็นฝ่ายกุมสองมือของแฝดผู้พี่บ้าง
"อืมม...ไม่รู้อะ ก็คงเหมือนอย่างที่นีพูดตะกี้นี้มั้ง ว่าคงซึมบ้างในระยะแรก หลังจากนั้นก็คงไม่เป็นไร..." พูดจบตัวเองก็อกสะท้อน!
"ว้า...!!" รัชนีส่ายหัว "เจอเด้ดล็อกแล้วสิแบบนี้ !!"
"นั่นสิเนาะ..."
"งั้นก็...เอางี้ละกัน" แฝดผู้น้องตัดสินใจ
"เอาไงเหรอ ?"
"เพื่อไม่ให้ใครเสียใจสักคน
เราครอบครองเค้าร่วมกัน !!"
รัชนกอ้าปากหวอ จ้องหน้าแฝดผู้น้อง
"เค้าจะโอเคเหรอจ๊ะ ? คนหนักในธรรมแบบนั้น !!"
"ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ"
"นกว่ายากส์! แล้วมีคำพูดคนโบราณอย่างหนึ่งเป็นข้อห้ามว่าไว้ด้วย ไม่รู้คุณเอกจะยึดถือหรือเปล่าสิ"
"คำพูดนั้นว่าไงจ๊ะ ?"
"เมียหนึ่งถูกตามครรลอง เมียสองต้องห้าม เมียสามตามตำรา!"
"อ๊ายย!! จะให้หาอีกคนนึงมาแจมเหรอ ?? แค่นี้ก็ปวดหัวพออยู่แล้ว!!" รัชนี่ส่ายหน้า แล้ววิจารณ์คำคนโบราณ "ที่เค้าว่า เมียสองต้องห้าม ก็ควรห้ามอยู่หรอกจ้ะ ถ้าทั้งสองเป็นคนอื่นคนไกล แต่เราสองคนเป็นพี่น้องกันนะ"
"ไม่ใช่พี่น้องธรรมดาด้วย เป็นฝาแฝดอีกต่างหาก!"
"อืม..นั่นสิ! เอ้อ...พูดถึงคำว่าฝาแฝด นีเคยได้ยินมาอย่างหนึ่ง.."
"อะไรจ๊ะ ?"
"ว่ากันว่า ฝาแฝดน่ะ อันที่จริง เกิดจากวิญญาณดวงเดียวกัน แล้วมาแบ่งเป็นสองตอนเข้าสู่ปฏิสนธิ หลังจากเกิดมาแล้ว ก็จะมีสายสัมพันธ์ต่อกัน"
"มันก็แน่อยู่แล้วนี่จ๊ะ ไม่ต้องฝาแฝดหรอก พี่น้องกันธรรมดาๆ ก็มีอะ สายสัมพันธ์ที่นีว่า"
"ไม่ๆๆ นกฟังนีก่อน...ฟังให้ดี นีเป็นหมอด้วยนะ เคยเจอคนเป็นฝาแฝดมาเหมือนกัน"
"เหรอ ? เป็นไงจ๊ะ ไม่เหมือนพี่น้องทั่วไปเหรอ ?"
"ไม่เหมือนจ้ะ!" รัชนีกล่าวอย่างหนักแน่นขึงขัง "เพราะว่า
เวลาที่แฝดคนหนึ่งเป็นอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเจ็บไข้ไม่สบาย หรือเกิดความโศกเศร้าเสียใจ อีกคนหนึ่งจะได้รับผลกระทบด้วย แม้จะอยู่กันคนละที่คนละแห่งก็ตาม ซึ่งพี่น้องธรรมดาเขาไม่เป็น !!"
"จริงหรือจ๊ะ ???" รัชนกทำตาโตด้วยความประหลาดใจ "ไม่เคยได้ยินมาก่อนนะเรื่องนี้"
"คอยดูกันต่อไปเถอะจ้ะ ระหว่างเราสองคนนี่แหละ" แฝดผู้น้องกล่าวต่อไป "คอยดูนะ เมื่อไรก็ตามที่นีหรือนกเป็นอะไรสักอย่าง เป็นต้นว่า เจ็บป่วย ไม่สบาย อีกคนหนึ่งก็จะรู้สึกไม่สบายตามไปด้วย!"
"เง้ออ....ทำไมต้องส่งมาให้อีกคนนึงด้วยอะ ??" แฝดผู้พี่ทำหน้างงๆ
"ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่นีเคยเห็นมาแล้ว เพื่อนนีเอง สองคนเป็นฝาแฝด อยู่กันคนละที่ เวลาคนนึงล้มหมอนนอนเสื่อ อีกคนก็ไข้ขึ้นตามไปด้วยซะงั้น!"
"เหรอ ??? อืมม...อันนี้ ทางร่างกาย แล้วทางใจล่ะ มีตัวอย่างไหมจ๊ะ ?" รัชนกซักถามต่อด้วยความสนใจ
"มีจ้ะ เพื่อนฝาแฝดคู่เดียวกันนั่นแหละ เค้าแยกกันอยู่คนละที่นะ ตอนนั้นนีกำลังเรียนมัธยม อยู่ชั้นเดียวกันห้องเดียวกันกับเค้า วันหนึ่งเค้ามีอาการซึมเศร้าทั้งวันโดยไม่มีสาเหตุ ถามว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองไหม เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรเลยทุกอย่างปกติ วันนั้นเค้ากินข้าวมื้อกลางวันไม่ลง บางทีก็นั่งน้ำตาไหล พอสอบถามไปทางน้องสาวฝาแฝดซึ่งอยู่อีกที่หนึ่งถึงได้รู้ว่า เค้าเลี้ยงหมาไว้ตัวนึง แล้วน้องหมาของเค้าตาย เค้าก็เลยเศร้าเสียใจ"
"โอยย....ไม่สบาย ไม่ว่าทางกาย หรือทางใจ ส่งผลกระทบหากันได้ทั้งคู่เลยหรือเนี่ย..." แฝดผู้พี่พูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง
"ใช่จ้ะ!" รัชนีพยักหน้า
"เพราะฉะนั้น ในระหว่างเราสองคนก็คงจะเหมือนกัน ถ้าใครคนหนึ่งเสียใจ อีกคนก็คงไม่มีความสุขได้หรอกนะ!"
"เง้อออ.......แล้วจะยังไงต่อไปกันล่ะเนี่ยย ???"
"ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ! รอดูอนาคตอย่างเดียวละกัน" รัชนีพูดเหมือนปลง
"รอดูท่าทีคุณเอกต่อไป...ถ้างั้น" รัชนกกล่าวปลงตาม "อะไรมันจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดละกันเนาะ.."
"จ้ะ..." แฝดผู้น้องพยักหน้า และยิ้มให้เหมือนพยายามปลอบใจ
"เค้าไปนานแล้วนะเนี่ย...เกินครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่กลับมาเลย" รัชนกพูดแล้วหันไปมองทางที่จะเข้าไปสู่ที่ตั้งเทวรูป ...มีเรื่องนี้เรื่องเดียว ที่เธอยังมิได้บอกให้รัชนีรู้ !!
พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็เห็นมหาเอกนั่งบนหลังลุงเต่ากลับมาแต่ไกลและโบกมือหยอยๆ ตะโกนมา
"กลับมาแล้วครับ...เดี๋ยวพวกเราย้ายไปอยู่บนหาดทรายตรงช่องทางโน้นกันนะครับ" เขาพูดพลางชี้ไปยังทางนั้น
"มันกว้างกว่าข้างบนนี้หรือคะ ?" รัชนีถามเมื่อลุงเต่าพาเขามาใกล้
"ใช่ครับผม กว้างมาก และมีลำธารข้างๆ ปลาชุมดีด้วยครับ ลุงเต่าคงจะหาปลามาจากตรงนั้น นอกจากนั้นแล้วยังมีหน่อไม้กับเห็ดขึ้นด้วย เห็ดโตๆ สวยๆ ดูน่าทานมากครับ"
"มีปลาชุม มีหน่อไม้ มีเห็ดด้วย โห....ยังงั้นย้ายไปกันเลยค่ะ!!" รัชนีตอบตกลงทันทีในขณะที่แฝดผู้พี่ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ
"งั้นผมลงจากหลังลุงเต่าละ ให้คุณรัชนีขึ้นหลังแกแทนนะครับ" ว่าแล้วก็ค่อยๆปล่อยมือจากการเกาะขอบกระดองเต่า ปล่อยตัวเองลงน้ำ
รัชนกลงน้ำตามมาแล้วบอกกับน้องฝาแฝด "นีขี่หลังลุงเต่าเถอะนะจ๊ะ ให้ลุงเต่าพาไป นกจะว่ายไปกับคุณเอก เคยไปสำรวจและเคยเห็นมาก่อนแล้วจ้ะ"
"โอเคจ้ะ!" รัชนียิ้มตอบรับ แล้วค่อยๆลงจากลานแผ่นหินมาอยู่บนหลังกระดองเต่าซึ่งลุงเต่ายืดตัวสูงขึ้นรอรับอยู่แล้ว
ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้น ทั้งสามคนก็ย้ายขึ้นมาอยู่บนหาดทราย ในทางเดินซึ่งลึกเข้าไปในช่องทางนั้นเล็กน้อย ยังไม่ถึงองค์เทวรูปซึ่งซ่อนอยู่ใในมุมมืด มีก้อนหินใหญ่ทางขวามือบังอยู่ ห่างออกไปร้อยกว่าเมตรเท่านั้น!
ลุงเต่า หลังจากส่งรัชนีมาถึงหาดทรายแล้ว ก็หดเท้าหดแขนและคอ พักผ่อนสงบนิ่งอยู่หน้าปากทางเข้า เสมือนเป็นยามรักษาการให้แก่คนทั้งสาม
"คุณสองคน คงได้พูดคุยกันมากมายแล้วนะครับ เป็นการส่วนตัว บนโขดหินทางโน้น" มหาเอกเอ่ยถาม หลังจากทั้งสามคนนั่งพักผ่อนกันสบายๆ บนหาดทราย
"คุยกันเยอะเลยค่ะ คุณเอก" รัชนีตอบ "และเราสองพี่น้องต่างฝ่ายต่างก็ได้รู้ถึงความเป็นมาของเรา และเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา"
"อึ้มม...งั้น เรื่องไหนที่เป็นการลับเฉพาะ ก็คงรู้กันเรียบร้อยแล้ว ใช่ไหมครับ ?"
"ค่ะ!" สองสาวตอบพร้อมกัน แล้วคนพี่ก็ทำตาโต ยกมือทาบอก "ตายละ! ลืมไปว่า คุณเอกกำลังหิว และยังไม่ได้ทานอะไรเลย!"
"ปลาย่างก็หมดไปก่อนหน้าที่คุณเอกจะกลับไปหาพวกเรา เหลือแต่ก้างอย่างที่นีว่าจริงๆ" พูดแล้วแฝดผู้น้องก็หัวเราะคิก
"เนาะ ลืมไปสนิท คุยกันเพลิน คุยไปกินไป กิกิ" รัชนกกล่าวเสริมแล้วหัวเราะตาม
"ไม่เป็นไรครับผม เดี๋ยวผมขอไปสำรวจดูหน่อไม้กับเห็ดทางโน้นสักหน่อย" แล้วเอกก็ลุกขึ้นยืน
"ไปดูด้วยกันดีกว่าค่ะ นกก็เคยเข้าไปสำรวจมาก่อนทีนึงแล้วหละ" รัชนกลุกขึ้น แล้วแฝดผู้น้องของเธอก็ลุกตาม
"ไปด้วยกันสามคนเลยค่ะ หน่อไม้นี่ทานดิบๆ ได้เลยนี่นา"
"เห็ดก็เหมือนกันครับ แต่ต้องตรวจดูก่อนว่าเป็นเห็ดอะไร บางชนิดมีพิษก็ทานไม่ได้นะครับ"
"ค่ะ...งั้นตามนกมาเลย ณ บัดนาว!"
รัชนกออกเดินนำหน้า เข้าไปใกล้ก้อนหินใหญ่ซึ่งหากเลี้ยวขวาอ้อมไป ก็จะพบกับเทวรูป หล่อนหยุดเดินเมื่อเข้าไปใกล้ถึงระยะประชิด ก้มลงมองพื้น
"รอบหินใหญ่นี่ไงคะ มีทั้งเห็ด และหน่อไม้ขึ้นทั้งเล็กทั้งใหญ่"
มหาเอกย่อกายลงนั่งยองๆ พิจารณาดูพืชพันธ์ที่ขึ้นอยู่ตรงนั้น
"หน่อไม้ดูแล้วก็เหมือนหน่อไม้ทั่วไปครับ แกะเปลือกข้างนอกออกสักสามสี่ชั้นก็ทานได้ ถ้ามีน้ำพริกมาด้วยละก็เยี่ยมเลยนะเนี่ย" พูดจบก็ลองใช้มือดึงหน่อหนึ่งขึ้นมา
(ต่อครับ)
💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-59 : ภาคอวสาน ตอนที่ 16 💫🕛💫
สองพี่น้องฝาแฝดใช้เวลาในขณะที่มหาเอกไม่อยู่ นั่งพูดคุยกัน แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาให้แก่กันและกันฟัง หลังจากนั้น รัชนกจึงได้รู้ว่าพ่อแม่ของตนคือใครและประสพชะตากรรมอันเลวร้ายอย่างไร และนั่นเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังให้แก่เธอมากยิ่งขึ้นต่อพวกทางการและทหาร เพราะตนเองได้เข้าร่วมกับองค์กรกอบกู้อิสระภาพตั้งแต่ต้น ส่วนรัชนีก็ได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า พี่สาวฝาแฝดของตนถูกคณะบุคคลในองค์กรกอบกู้อิสะภาพชิงพาตัวหลบหนีไปได้ทันก่อนหน้าที่พ่อแม่ของตนจะถูกสังหารและตนเองถูกทหารหญิงคนหนึ่งนำไปฝากเลี้ยงที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ที่สำคัญ หลักฐานลับเฉพาะสองอย่าง ทั้งคู่ต่างเปิดเผยให้กันและกันดู หนึ่ง คือแผ่นป้ายโลหะสลักชื่อซึ่งทั้งคู่ติดไว้กับสร้อยคอห้อยไว้ตลอดเวลา และอย่างที่สองซึ่งลับสุดยอดจริงๆ คือ "ตราประทับในที่ลับ" รูปสวัสดิกะแบบของนาซี ของรัชนก สักไว้ที่ด้านขวา ส่วนของรัชนี สักไว้ที่ด้านซ้าย ซึ่งต้องหาโดยใช้นิ้วแหวกชัฏธรรมชาติที่ปกคลุมออกดูเท่านั้นจึงจะเห็น !!
สำหรับรัชนกนั้น ตอนที่เข้ามาในถ้ำ เธอเข้ามาเพียงลำพังหลังจากลงมาจากยานของพวกตน แล้วเหยียบถูกกลไกบนพื้นภายในถ้ำหลุดร่วงลงไปยังผืนน้ำเบื้องล่าง สุดท้ายถูกกระแสน้ำวนพัดพาเข้ามาในถ้ำลึกลับแห่งนี้ ก่อนจะไปพบกับมหาเอกในเวลาต่อมา และหลังจากได้เข้ามาอยู่ในถ้ำแห่งนี้แล้วก็ไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนๆของเธอได้อีก เนื่องจากวิทยุสื่อสารตกหายไปกับกระแสน้ำเสียแล้ว
ครั้นกล่าวถึงตัวอดีตมหาเปรียญ ทั้งสองพี่น้องต่างก็เล่าถึงความสัมพันธ์ของแต่ละคนที่มีต่อเขา และสรุปได้ว่า จนถึงบัดนี้ เขายังมิได้เปิดใจรับใครอย่างชัดเจน สถานะยังคลุมเครือทั้งคู่ เขาดูเหมือนมีใจ แต่ยังรักษาความเป็นสุภาพบุรุษชั้นเอกสมชื่อ ไม่มีการล่วงเกินโดยจงใจเกิดขึ้น
"จะว่าไปแล้ว เค้าปฏิบัติกะนก เหมือนนกเป็นน้องสาว ให้ความเอ็นดู เหมือนนกเป็นเด็กมากกว่าอะ" แฝดผู้พี่กล่าวอย่างเปิดอก
"โห...ขนาดมีโอกาสใกล้ชิดถึงขั้นเบียดตัวกัน เขายังไม่ทำอะไรเกินเลย ปล่อยให้เธอแอบอิงซบอกหลับไปอย่างนั้น ตบะโคตรแกร่งเลยอะ! ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ไม่มีทางปล่อยโอกาสงามๆแบบนั้นให้ผ่านไปเฉยๆ แน่!" แฝดผู้น้องวิจารณ์ด้วยความทึ่ง
"แหงละสิจ๊ะ! เป็นชายอื่น เค้าก็ฟันไปหลายรอบแล้ว!!" พูดจบก็หัวเราะกิ๊กกั๊ก
"ถามจริงๆ...ชอบเค้าไหม ?" รัชนียิงคำถามตรงไม่อ้อมค้อมและยิ้ม
"หืมม...เอาตรงๆ นะจ๊ะ ในเมื่อนีกล้าถาม นกก็กล้าตอบเหมือนกัน ชอบสิ! บอกเลย !! แล้วนีล่ะ ?" ตอบแล้วก็เอียงคอยิ้มถามกลับ
"เหมือนกันจ้ะ!" แฝดผู้น้องตอบโดยไม่ต้องคิด "ชอบตรงที่เค้าเป็นคนธรรมธัมโม เคยบวชเรียนมาก่อน และเค้าก็วางตัวคงเส้นคงวาอ่ะ เลยคิดว่าผู้ชายคนนี้ไว้วางใจได้"
"เค้าเคยจีบนีจังๆ ไหมอะ ?"
"อืม...มันไม่ชัดเจนนะจ๊ะ แบบว่า แสดงความห่วงใยในบางครั้งมากกว่า แต่จะพูดคำว่าเลิฟไล้ค์อะไรนี่ ไม่มีเลย! แล้วก็รักษาระยะห่างอยู่ตลอดเวลาอยู่ในทีมของกัปตันวันชนะ"
"คงเพราะอยู่กันหลายคนมั้งจ๊ะ เลยไม่กล้าเข้ามาใกล้ชิดกับนี ถ้าไม่มีพวกนั้นเป็นก้างก็ไม่แน่ม้างง ?" แฝดผู้พี่พูดแล้วก็ยิ้ม
"ไม่หรอกจ้า..." รัชนีส่ายหน้ายิ้มตอบ "เวลาที่มีโอกาสอยู่ห่างจากพวกกัปตันก็มี เค้าก็อยู่ของเค้าไปเรื่อยอย่างนั้นแหละ ดูเหมือนจะเขินๆ น่ะจ้ะ"
"อืม... ลักษณะแบบนี้ สงสัยจะรักษาพรหมจรรย์!"
"นีก็ว่างั้นแหละ! บริสุทธิ์ผุดผ่องแน่เลยผู้ชายคนนี้!!"
"โอยย....ในยุคกำลังจะขึ้นศตวรรษที่ 28 อยู่รอมร่อเนี่ย ผู้ชายบริสุทธิ์ ไม่เคยจิ้มหญิงอย่างเค้าเนี่ย มันแรร์ไอเท็มชัดๆ!!" แล้วสองพี่น้องก็พากันหัวเราะ ก่อนที่แฝดผู้พี่จะถอนใจ "เฮ่อออ...แล้วต่อจากนี้ไป เราจะยังไงกันดีล่ะเนี่ย ??"
"พูดจากใจเลยนะจ๊ะที่รัก" รัชนีกล่าวอย่างเปิดอก "เท่าที่เราเล่าเรื่องกันมา เค้ามีโอกาสใกล้ชิดกับนกมากกว่านีนะ มากกว่าแบบเยอะเลย นีว่านีจะอยู่ห่างๆดีกว่า ปล่อยให้เค้ากับนกใกล้ชิดกันดีกว่านะจ๊ะ!" พูดจบตัวเองก็รู้สึกใจหาย
"อ้าวว! ได้ไง ??? ก็ไหนบอกว่า คนในทีมกัปตันเค้าเชียร์นีกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ? ขืนทำแบบนั้นก็งานกร่อยสิจ๊ะ! แล้วนีแน่ใจเหรอว่าตัวเองจะไม่เสียใจ ?"
"อืมม..." แฝดผู้น้องกัดเล็บ และตีหน้าเศร้านิดหนึ่ง "ก็...ระยะแรกๆ คงมีซึมๆ บ้างแหละจ้ะ แต่ก็คงปรับตัวปรับใจได้ในที่สุด"
"ไม่เอา..." รัชนกจับสองมือของเธอมากุม "แบบนี้ นกห่างจากเค้าเองดีกว่า ให้เค้ามีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับนีบ้าง ไหนๆ ทีมกัปตันวันชนะก็เชียร์นีกันอยู่นี่นา อย่าให้พวกเค้าผิดหวังเลย แล้วก็อย่างที่นกบอก คุณเอกเค้าทำกับนกเหมือนนกเป็นน้องสาวมากกว่าจ้ะ! ไม่งั้น ก็มีอะไรกันไปแล้ว..." คราวนี้เป็นทีของแฝดผู้พี่ต้องใจหายกับคำพูดของตัวเองบ้าง
"แล้วนกก็ต้องเสียใจเหมือนกันน่ะสิจ๊ะ! จะลืมค่ำคืนที่อยู่ด้วยกันกับเค้าในถ้ำนี้ได้เหรอ ?? !!!" รัชนีเปลี่ยนเป็นฝ่ายกุมสองมือของแฝดผู้พี่บ้าง
"อืมม...ไม่รู้อะ ก็คงเหมือนอย่างที่นีพูดตะกี้นี้มั้ง ว่าคงซึมบ้างในระยะแรก หลังจากนั้นก็คงไม่เป็นไร..." พูดจบตัวเองก็อกสะท้อน!
"ว้า...!!" รัชนีส่ายหัว "เจอเด้ดล็อกแล้วสิแบบนี้ !!"
"นั่นสิเนาะ..."
"งั้นก็...เอางี้ละกัน" แฝดผู้น้องตัดสินใจ
"เอาไงเหรอ ?"
"เพื่อไม่ให้ใครเสียใจสักคน เราครอบครองเค้าร่วมกัน !!"
รัชนกอ้าปากหวอ จ้องหน้าแฝดผู้น้อง
"เค้าจะโอเคเหรอจ๊ะ ? คนหนักในธรรมแบบนั้น !!"
"ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ"
"นกว่ายากส์! แล้วมีคำพูดคนโบราณอย่างหนึ่งเป็นข้อห้ามว่าไว้ด้วย ไม่รู้คุณเอกจะยึดถือหรือเปล่าสิ"
"คำพูดนั้นว่าไงจ๊ะ ?"
"เมียหนึ่งถูกตามครรลอง เมียสองต้องห้าม เมียสามตามตำรา!"
"อ๊ายย!! จะให้หาอีกคนนึงมาแจมเหรอ ?? แค่นี้ก็ปวดหัวพออยู่แล้ว!!" รัชนี่ส่ายหน้า แล้ววิจารณ์คำคนโบราณ "ที่เค้าว่า เมียสองต้องห้าม ก็ควรห้ามอยู่หรอกจ้ะ ถ้าทั้งสองเป็นคนอื่นคนไกล แต่เราสองคนเป็นพี่น้องกันนะ"
"ไม่ใช่พี่น้องธรรมดาด้วย เป็นฝาแฝดอีกต่างหาก!"
"อืม..นั่นสิ! เอ้อ...พูดถึงคำว่าฝาแฝด นีเคยได้ยินมาอย่างหนึ่ง.."
"อะไรจ๊ะ ?"
"ว่ากันว่า ฝาแฝดน่ะ อันที่จริง เกิดจากวิญญาณดวงเดียวกัน แล้วมาแบ่งเป็นสองตอนเข้าสู่ปฏิสนธิ หลังจากเกิดมาแล้ว ก็จะมีสายสัมพันธ์ต่อกัน"
"มันก็แน่อยู่แล้วนี่จ๊ะ ไม่ต้องฝาแฝดหรอก พี่น้องกันธรรมดาๆ ก็มีอะ สายสัมพันธ์ที่นีว่า"
"ไม่ๆๆ นกฟังนีก่อน...ฟังให้ดี นีเป็นหมอด้วยนะ เคยเจอคนเป็นฝาแฝดมาเหมือนกัน"
"เหรอ ? เป็นไงจ๊ะ ไม่เหมือนพี่น้องทั่วไปเหรอ ?"
"ไม่เหมือนจ้ะ!" รัชนีกล่าวอย่างหนักแน่นขึงขัง "เพราะว่า เวลาที่แฝดคนหนึ่งเป็นอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเจ็บไข้ไม่สบาย หรือเกิดความโศกเศร้าเสียใจ อีกคนหนึ่งจะได้รับผลกระทบด้วย แม้จะอยู่กันคนละที่คนละแห่งก็ตาม ซึ่งพี่น้องธรรมดาเขาไม่เป็น !!"
"จริงหรือจ๊ะ ???" รัชนกทำตาโตด้วยความประหลาดใจ "ไม่เคยได้ยินมาก่อนนะเรื่องนี้"
"คอยดูกันต่อไปเถอะจ้ะ ระหว่างเราสองคนนี่แหละ" แฝดผู้น้องกล่าวต่อไป "คอยดูนะ เมื่อไรก็ตามที่นีหรือนกเป็นอะไรสักอย่าง เป็นต้นว่า เจ็บป่วย ไม่สบาย อีกคนหนึ่งก็จะรู้สึกไม่สบายตามไปด้วย!"
"เง้ออ....ทำไมต้องส่งมาให้อีกคนนึงด้วยอะ ??" แฝดผู้พี่ทำหน้างงๆ
"ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่นีเคยเห็นมาแล้ว เพื่อนนีเอง สองคนเป็นฝาแฝด อยู่กันคนละที่ เวลาคนนึงล้มหมอนนอนเสื่อ อีกคนก็ไข้ขึ้นตามไปด้วยซะงั้น!"
"เหรอ ??? อืมม...อันนี้ ทางร่างกาย แล้วทางใจล่ะ มีตัวอย่างไหมจ๊ะ ?" รัชนกซักถามต่อด้วยความสนใจ
"มีจ้ะ เพื่อนฝาแฝดคู่เดียวกันนั่นแหละ เค้าแยกกันอยู่คนละที่นะ ตอนนั้นนีกำลังเรียนมัธยม อยู่ชั้นเดียวกันห้องเดียวกันกับเค้า วันหนึ่งเค้ามีอาการซึมเศร้าทั้งวันโดยไม่มีสาเหตุ ถามว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองไหม เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรเลยทุกอย่างปกติ วันนั้นเค้ากินข้าวมื้อกลางวันไม่ลง บางทีก็นั่งน้ำตาไหล พอสอบถามไปทางน้องสาวฝาแฝดซึ่งอยู่อีกที่หนึ่งถึงได้รู้ว่า เค้าเลี้ยงหมาไว้ตัวนึง แล้วน้องหมาของเค้าตาย เค้าก็เลยเศร้าเสียใจ"
"โอยย....ไม่สบาย ไม่ว่าทางกาย หรือทางใจ ส่งผลกระทบหากันได้ทั้งคู่เลยหรือเนี่ย..." แฝดผู้พี่พูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง
"ใช่จ้ะ!" รัชนีพยักหน้า "เพราะฉะนั้น ในระหว่างเราสองคนก็คงจะเหมือนกัน ถ้าใครคนหนึ่งเสียใจ อีกคนก็คงไม่มีความสุขได้หรอกนะ!"
"เง้อออ.......แล้วจะยังไงต่อไปกันล่ะเนี่ยย ???"
"ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ! รอดูอนาคตอย่างเดียวละกัน" รัชนีพูดเหมือนปลง
"รอดูท่าทีคุณเอกต่อไป...ถ้างั้น" รัชนกกล่าวปลงตาม "อะไรมันจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดละกันเนาะ.."
"จ้ะ..." แฝดผู้น้องพยักหน้า และยิ้มให้เหมือนพยายามปลอบใจ
"เค้าไปนานแล้วนะเนี่ย...เกินครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่กลับมาเลย" รัชนกพูดแล้วหันไปมองทางที่จะเข้าไปสู่ที่ตั้งเทวรูป ...มีเรื่องนี้เรื่องเดียว ที่เธอยังมิได้บอกให้รัชนีรู้ !!
พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็เห็นมหาเอกนั่งบนหลังลุงเต่ากลับมาแต่ไกลและโบกมือหยอยๆ ตะโกนมา
"กลับมาแล้วครับ...เดี๋ยวพวกเราย้ายไปอยู่บนหาดทรายตรงช่องทางโน้นกันนะครับ" เขาพูดพลางชี้ไปยังทางนั้น
"มันกว้างกว่าข้างบนนี้หรือคะ ?" รัชนีถามเมื่อลุงเต่าพาเขามาใกล้
"ใช่ครับผม กว้างมาก และมีลำธารข้างๆ ปลาชุมดีด้วยครับ ลุงเต่าคงจะหาปลามาจากตรงนั้น นอกจากนั้นแล้วยังมีหน่อไม้กับเห็ดขึ้นด้วย เห็ดโตๆ สวยๆ ดูน่าทานมากครับ"
"มีปลาชุม มีหน่อไม้ มีเห็ดด้วย โห....ยังงั้นย้ายไปกันเลยค่ะ!!" รัชนีตอบตกลงทันทีในขณะที่แฝดผู้พี่ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ
"งั้นผมลงจากหลังลุงเต่าละ ให้คุณรัชนีขึ้นหลังแกแทนนะครับ" ว่าแล้วก็ค่อยๆปล่อยมือจากการเกาะขอบกระดองเต่า ปล่อยตัวเองลงน้ำ
รัชนกลงน้ำตามมาแล้วบอกกับน้องฝาแฝด "นีขี่หลังลุงเต่าเถอะนะจ๊ะ ให้ลุงเต่าพาไป นกจะว่ายไปกับคุณเอก เคยไปสำรวจและเคยเห็นมาก่อนแล้วจ้ะ"
"โอเคจ้ะ!" รัชนียิ้มตอบรับ แล้วค่อยๆลงจากลานแผ่นหินมาอยู่บนหลังกระดองเต่าซึ่งลุงเต่ายืดตัวสูงขึ้นรอรับอยู่แล้ว
ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้น ทั้งสามคนก็ย้ายขึ้นมาอยู่บนหาดทราย ในทางเดินซึ่งลึกเข้าไปในช่องทางนั้นเล็กน้อย ยังไม่ถึงองค์เทวรูปซึ่งซ่อนอยู่ใในมุมมืด มีก้อนหินใหญ่ทางขวามือบังอยู่ ห่างออกไปร้อยกว่าเมตรเท่านั้น!
ลุงเต่า หลังจากส่งรัชนีมาถึงหาดทรายแล้ว ก็หดเท้าหดแขนและคอ พักผ่อนสงบนิ่งอยู่หน้าปากทางเข้า เสมือนเป็นยามรักษาการให้แก่คนทั้งสาม
"คุณสองคน คงได้พูดคุยกันมากมายแล้วนะครับ เป็นการส่วนตัว บนโขดหินทางโน้น" มหาเอกเอ่ยถาม หลังจากทั้งสามคนนั่งพักผ่อนกันสบายๆ บนหาดทราย
"คุยกันเยอะเลยค่ะ คุณเอก" รัชนีตอบ "และเราสองพี่น้องต่างฝ่ายต่างก็ได้รู้ถึงความเป็นมาของเรา และเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา"
"อึ้มม...งั้น เรื่องไหนที่เป็นการลับเฉพาะ ก็คงรู้กันเรียบร้อยแล้ว ใช่ไหมครับ ?"
"ค่ะ!" สองสาวตอบพร้อมกัน แล้วคนพี่ก็ทำตาโต ยกมือทาบอก "ตายละ! ลืมไปว่า คุณเอกกำลังหิว และยังไม่ได้ทานอะไรเลย!"
"ปลาย่างก็หมดไปก่อนหน้าที่คุณเอกจะกลับไปหาพวกเรา เหลือแต่ก้างอย่างที่นีว่าจริงๆ" พูดแล้วแฝดผู้น้องก็หัวเราะคิก
"เนาะ ลืมไปสนิท คุยกันเพลิน คุยไปกินไป กิกิ" รัชนกกล่าวเสริมแล้วหัวเราะตาม
"ไม่เป็นไรครับผม เดี๋ยวผมขอไปสำรวจดูหน่อไม้กับเห็ดทางโน้นสักหน่อย" แล้วเอกก็ลุกขึ้นยืน
"ไปดูด้วยกันดีกว่าค่ะ นกก็เคยเข้าไปสำรวจมาก่อนทีนึงแล้วหละ" รัชนกลุกขึ้น แล้วแฝดผู้น้องของเธอก็ลุกตาม
"ไปด้วยกันสามคนเลยค่ะ หน่อไม้นี่ทานดิบๆ ได้เลยนี่นา"
"เห็ดก็เหมือนกันครับ แต่ต้องตรวจดูก่อนว่าเป็นเห็ดอะไร บางชนิดมีพิษก็ทานไม่ได้นะครับ"
"ค่ะ...งั้นตามนกมาเลย ณ บัดนาว!"
รัชนกออกเดินนำหน้า เข้าไปใกล้ก้อนหินใหญ่ซึ่งหากเลี้ยวขวาอ้อมไป ก็จะพบกับเทวรูป หล่อนหยุดเดินเมื่อเข้าไปใกล้ถึงระยะประชิด ก้มลงมองพื้น
"รอบหินใหญ่นี่ไงคะ มีทั้งเห็ด และหน่อไม้ขึ้นทั้งเล็กทั้งใหญ่"
มหาเอกย่อกายลงนั่งยองๆ พิจารณาดูพืชพันธ์ที่ขึ้นอยู่ตรงนั้น
"หน่อไม้ดูแล้วก็เหมือนหน่อไม้ทั่วไปครับ แกะเปลือกข้างนอกออกสักสามสี่ชั้นก็ทานได้ ถ้ามีน้ำพริกมาด้วยละก็เยี่ยมเลยนะเนี่ย" พูดจบก็ลองใช้มือดึงหน่อหนึ่งขึ้นมา
(ต่อครับ)