⚡️💦⚡️ หลงกาล Episode-29 ท่องไอยคุปต์ ภาค 2/3 (ปฐมกาลไอยคุปต์ ตอนที่ 4) ⚡️💦⚡️

กระทู้คำถาม


"เป็นอันว่า กัปตันของพวกเรา ได้ผสมสายพันธ์ข้ามจักรวาลแล้วเรียบร้อย หุหุ" สาวจอยกล่าวสรุป

"ใช่ครับคุณจอย" เอกกล่าวเสริม "แถมตอนนี้ กัปตันของเรา ก็เป็นว่าที่คุณพ่อแล้วด้วยนา"

"ว้าว!" หล่อนอ้าปากหวอ "รวดเร็วเกินคาด คุณเอก รู้ได้ไงคะ ?"

"ผมสื่อสารกับเค้าทางจิตน่ะครับ ก็เลยรู้ และบอกกัปตันให้รู้ด้วย"

"วาวว....ยังงั้น อีก 8-9 เดือนข้างหน้า พวกเราก็จะได้มีหลานต่างดาวแล้วสิเนี่ย"

"ไม่ต้องรอนานถึงขนาดนั้นครับ เค้าบอกว่า อีกแค่สามเดือนข้างหน้า ก็คลอดแล้ว"

"เฮ้ยย!!" สองสาวอุทานพร้อมกัน แล้วจอยก็ถามต่อ "ทำไมไวขนาดนั้นอะ ?"

"ไม่รู้สิครับ เค้าบอกผมมายังงั้น"

"ผมว่า ระบบชีววิทยาในตัวพวกเขา คงต่างกับพวกเราครับ" กัปตันสันนิษฐาน "พวกเขาคงจะคลอดลูกไว ใช้เวลาตั้งท้องไม่นาน"

"แล้วก็แปลกเนาะ เลือกกัปตันคนเดียว ไม่เลือกคุณเอก หรือแซม" จอยสงสัย

"ผมสองคน คงจะ อันควอลิฟายด์ สำหรับเค้ามั้ง" แซมกล่าวปนหัวเราะ

"อาจเป็นเพราะ เจ้านาย มีไอคิวสูงกว่าทุกคนก็ได้นะครับ" แอนดี้สันนิษฐานออกมาตรงๆ

"อืม...เป็นไปได้ๆ" เล็กพยักหน้าเห็นด้วยกับแอนดรอยด์คนโปรด

"โธ่...ไอคิวสูงอะไรกันเล้า..." กัปตันวันชนะกล่าวเขินๆ "คงเป็นเพราะผมมีความรู้ทางวิศวกรรม ซึ่งอาจจะถูกใจเค้า ผมว่างั้นมากกว่านะ แล้วก็ อีกอย่าง" เขาตั้งใจพูดทิ้งท้ายไว้ให้ใครสักคนต่อ หรือไม่ก็ถาม

"อีกอย่าง อะไรคะ ?" จอยถามทันที

"ผม คงจะ หล่อกว่าเพื่อน ในสายตาของเค้าน่ะครับ!" กัปตันพูดแล้วอมยิ้ม

"อ๊ายยย........" สองสาวกรี๊ดทันทีที่ได้ฟังคำตอบ

กัปตัน และอีกสองหนุ่มหัวเราะ แล้วผู้เป็นเจ้านายก็พูดแก้เขิน "ผมพูดเล่นน่า..."

"เรื่องนี้ ผมยอมเลยครับ" เอกกล่าว และตามมาด้วยแซม "ผมก็เหมือนกัน"

"แซมก็หล่อสำหรับคุณจอยไง" กัปตันหันมาแซว "แต่ก็ไม่แน่นา เพราะเค้าไม่ได้เจอแซม ถ้าเค้าเจอแซมก่อนผม อาจจะปิ๊งแซมแทนผมก็ได้"

"ลองดูสิคะ!" จอยทำเสียงเขียว "แม่จะยิงเลเซอร์เฉาะกะโหลกให้!!"

ทุกคนหัวเราะครืน

"เอาละครับ" กัปตันตัดบท "ไปกันได้แล้วครับ คุณเล็ก นำทางไปห้องที่คุณพบหีบที่สงสัยว่าเป็นที่บรรจุศพของฟาโรห์เลยครับ"

"โอเคค่ะ กัปตัน"

สาวเล็กออกเดินนำหน้า กลับไปทางเดิมที่เธอเดินมาจนพบกับแซมและจอย

ทุกคนเดินตามหล่อนไป ใช้เวลาประมาณสิบห้านาที ก็มาถึงหน้าประตูลับซึ่งมีอักขระอียิปต์โบราณแกะสลักบนบานประตู และเหนืออักขระเหล่านั้นมีรูปแกะสลักศีรษะของเทพอนูบิส ดวงตาซึ่งทำด้วยอัญมณีสีแดงสะท้อนแสงจากไฟฉายวูบวาบดูน่ากลัว เหมือนกับกำลังจ้องเขม็งมายังทุกคนที่มองดูมันอยู่

พื้นหินบริเวณหน้าประตู มีกรอบสี่เหลี่ยมแกะสลักขีดไว้อย่างชัดเจน เล็กร้องเตือนทุกคนทันทีเมื่อเห็นแต่ละคนทำท่าจะก้าวเดินเข้าไป

"อย่าเพิ่งก้าวเข้าไปในกรอบสี่เหลี่ยมบนพื้นนี่นะคะ ทุกคน รอก่อนค่ะ เดี๋ยวเล็กจะจัดการอะไรบางอย่างก่อน"

ทุกคนชะงักเท้า แล้วถอยกลับออกมานิดหนึ่ง

"มีอะไรเหรอตัว ?" สาวจอยอดถามไม่ได้

"รอดูก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวก็จะได้เห็นเอง เค้าเจอมาก่อนแล้วเลยต้องบอกก่อน อันตราย!"

"เชื่อคุณเล็กเถอะครับคุณจอย เรารอดูกันก่อนดีกว่า" กัปตันบอกสำทับมาอีกคน

"โอเคค่ะ" หล่อนตอบรับคำสั่ง แล้วหันไปพูดกับเพื่อน "งั้นตัวเข้าไปจัดการเหอะ อยากเห็นจริงๆ มีอะไรน้อ"

"เห็นแล้วอย่ากรี๊ดละกันนะตัว" เล็กบอกเตือนเพื่อน

"จ้า....ไปเหอะๆ"

เล็กยิ้มให้เพื่อนและทุกคน ก่อนจะก้าวเท้าซ้ายย่างเข้าไปในพื้นที่กรอบสี่เหลี่ยมบนพื้นนั้น ลองเหยียบดูเบาๆ หยุดอยู่นิดหนึ่ง ถอนหายใจเฮือก สูดลมหายใจเข้าปอดลึก แล้วก้าวเท้าขวาเข้าไป ทันทีที่เหยียบเต็มสองเท้าแล้วรีบทรุดตัวลงนั่งพับเพียบลงก้มกราบ

บัดดลนั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงแผ่นหินเคลื่อนที่ ดังออกมาจากด้านหลังประตู

"ครืดดดดดดดดดด...."

แล้วทุกคนก็ถึงกับผงะ สาวจอยเกือบจะกรี๊ด ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง! เมื่อเห็นประตูหินเลื่อนเปิด หลบเข้าไปด้านข้าง เปิดช่องสีดำมืด ทันใดนั้น เทวรูปหัวสุนัขไนอนูบิสก็พุ่งออกมาจากข้างในอย่างรวดเร็ว โดยถือหอกแหลมทิ่มมาตรงๆในระดับกลางลำตัว แล้วหยุดอยู่ด้านหน้าเส้นขีดบนพื้นนั้นพอดิบพอดี!!

ถ้ามีใครเข้าไปยืนอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม ก็จะโดนแทงด้วยหอกเสียบทะลุหลังแน่นอน !!

"อื้อ...หืมม.....กลไกสุดยอด!" กัปตันกล่าวชมผู้สร้าง "ไม่น่าเชื่อว่านี่คือ ฝีมือคนอียิปต์ยุคราว 4 พันปีก่อนสมัยพวกเรา"

"ผมเคยเห็นแต่ในหนังครับ กัปตัน เรื่องอาถรรพณ์มัมมี่หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ" แซมกล่าว "ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาเจอของจริงแบบนี้ น่าหวาดเสียวกว่าในหนังเป็นสิบเท่า!"

"นี่ถ้าคุณเล็กไม่บอกเตือนก่อน พวกเราใครคนใดคนหนึ่งเข้าไปยืน โดนหอกเสียบตายแน่" เอกกล่าวและทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวสยอง

"ทุกคน เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ ตามเล็กมาทางนี้"

สาวเล็กร้องเรียกทุกคน แล้วตนเองก็เดินอ้อมเทวรูปไปทางขวามือ เข้าไปภายในห้อง

"แล้ว เทวรูปนี่ จะไม่ถอยกลับเข้าไปข้างใน ประตูจะไม่ปิดหรือครับ ?" แซมตะโกนถามไล่หลัง

"ไม่อะค่ะ มันจะเป็นอย่างนั้น ก็ต่อเมื่อเราออกไปจากห้องแล้ว" เล็กเหลียวหลังมาตอบ จากนั้นหล่อนก็ก้าวเข้าไปยืนอยู่หน้าหีบศิลาข้างในห้องเป็นคนแรก

หลังจากที่คนอื่นๆ ตามเข้ามากันหมดแล้ว ทุกคนได้ยืนรายล้อมหีบศิลาใบนั้น มองดูด้วยความทึ่ง

"หีบใบใหญ่ ลักษณะคล้ายๆกับของตุตันคาเมน ที่ด็อกเตอร์โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ เคยค้นพบ" กัปตันกล่าว "น่าแปลกที่ไม่มีใครมาพบเจอตรงนี้"

"หลังจากพวกเราจากไปแล้ว มันอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้นะคะ" เล็กคาดเดาเหตุการณ์

"หรือไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีใครพบจริงๆ เพราะฝังอยู่ใต้ดินลึกมาก ไม่ได้อยู่ข้างบนภายในปิรามิด" เอกกล่าวขณะที่มองสำรวจตรวจตรา

"มีแผ่นหินเหมือนฝาโลง ปิดอยู่ข้างบน หนาเตอะเลย" จอยแหงนดูแล้วกล่าว

"พวกเรา ต้องช่วยกันเลื่อนแผ่นหินข้างบนนั่นออกละครับ ลงมือกันเลย!"

กัปตันกล่าวชักชวนลูกน้องทุกคน แล้วก้าวเข้าไปชิดหีบศิลา เอื้อมมือขึ้นไปแตะขอบแผ่นหิน มันสูงจนท่วมหัว มือแทบเอื้อมไม่ถึง!

"โอ๋ยโย๋....จอยกับเล็ก เอื้อมไม่ถึงแน่ค่ะ กัปตัน" สาวจอยร้องคราง

"ใช่...สูงมากเลย" เล็กแหงนคอตั้งบ่า ลองกระโดดเอามือแตะ ก็แตะขอบได้นิดเดียว

"โอย...จะเปิดได้ไงเนี่ย ?"

"ลองให้ผม แซม เอก และแอนดี้ช่วยกันดูก่อนครับ" กัปตันกล่าวแล้วพยักหน้าให้กับสองหนุ่มและแอนดรอยด์อัจฉริยะ "มาลองดูกัน แซม เอก แอนดี้!"

"ครับผม"

ทั้งสามตอบพร้อมกัน แล้วยืนเข้าแถวหน้ากระดาน เขย่งเท้าขึ้น เอื้อมมือขึ้นไป ซึ่งก็แตะขอบฝาได้ แต่เอื้อมไม่ถึงข้างบน

"ลองดันดูนะทุกคน" กัปตันร้องบอก "ผมนับสามนะแล้วดันไปข้างหน้าพร้อมกัน หนึ่ง...สอง...สาม! บ..."

ชายสามคนและหนึ่งแอนดรอยด์ ช่วยกันดันขอบฝาหินทั้งแผ่นนั้นไปข้างหน้า

"ครืดดดดด........"

มีเสียงแผ่นหินเคลื่อน...แต่ ไม่ใช่แผ่นหินข้างบนซึ่งทั้ง 4 คนกำลังพยายามดัน แต่เป็นเบื้องล่าง !!

"ว้ายยย !!!" สองสาวกรี๊ดออกมาพร้อมกัน...

พื้นหินที่ทุกคนเหยียบอยู่ เลื่อนเปิดออก มองเห็นช่องดำมืดเบื้องล่าง

และทุกคน ต่างร่วงลงไปสู่ความมึดมิดเบื้องล่างกันหมด แล้วแผ่นหินที่เพิ่งเปิดก็เลื่อนปิดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว!!

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ท่ามกลางความมืดมิด ดำสนิท...

กัปตันวันชนะ พยุงตัวขึ้นนั่งกับพื้น แล้วส่งเสียงเรียกลูกน้องทีละคน

"พวกเรา เป็นไงกันบ้าง ? แซม เอก คุณจอย คุณเล็ก แอนดี้ !!"

มีเสียงตอบมา ไม่ห่างไกลกันนัก

"จอยอยู่ค่ะ"

"เล็กไม่เป็นไรค่ะ"

สองสาวส่งเสียงมาจากด้านหน้า

"ผมโอเคครับ" เสียงจากแซม ดังมาจากข้างซ้าย

"ผมก็โอเคครับ" เอกตอบมาจากทางขวา

"แอนดี้ ?" กัปตันตะโกนเรียกอีกครั้ง

"ผมอยู่ข้างหลังเจ้านายครับ"

"แอนดี้ เปิดไฟจากหน้าผากนายซิ"

"ครับผม"

สิ้นคำตอบ ทุกคนก็เห็นแสงไฟสีขาวนวลส่องเป็นลำออกมาจากกลางหน้าผากของแอนดี้ซึ่งเปิดเป็นช่อง 4 เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆ เขาขยายวงรัศมีแสงไฟให้กว้างออก สร้างความสว่างไปทั่วบริเวณนั้น

"เราลงมาใต้ดินลึกมากกว่าเดิมอีก" กัปตันกล่าว แล้วหันไปมองสำรวจดูรอบๆ

"กัปตันคะ" สาวเล็กร้องเรียก

"มีอะไรครับคุณเล็ก ?" เขาหันไปยังหล่อน

"มาตรงนี้สิคะ มาดูอะไรนี่!! ทุกคนเลยค่ะ!"

ทุกคนลุกขึ้นยืน แล้วเดินก้าวไปรวมกัน ณ จุดที่เล็กนั่งอยู่กับจอย

เล็กชี้มือไปข้างหน้าตัวเองและเพื่อน ทุกคนมองตาม แล้วก็ตกตะลึง!

โลงแก้วใบหนึ่ง ตั้งอยู่บนแท่นโลหะ มีไฟกะพริบบางจุดรอบๆ ทั้ง 4 ด้าน ! ผู้ที่อยู่ข้างใน อยู่ในชุดของฟาโรห์ เต็มยศ นอนเอามือไขว้กันบนหน้าอก ทั้งสองมือถือคทาสั้นรูปตะขอ และคทาเครื่องปัด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฟาโรห์ แต่ยังไม่ถูกสวมหน้ากากทองคำ จึงเผยให้เห็นใบหน้าจริงอย่างชัดเจน !!

แล้วทุกคน ก็ได้พบกับความผิดปกติ เกิดขึ้นกับสาวจอย ซึ่งเป็นสิ่งที่เล็กเคยเห็นมาก่อนแล้ว!

หล่อนนั่งมองร่างในโลงแก้วอย่างเหม่อลอย จมเข้าสู่ภวังค์แห่งอดีตกาลอีกครั้ง!!

"จอย! จอย!!" เล็กเขย่าตัวเธอ แต่ไม่เป็นผล ร่างของเธอนิ่งราวกับหุ่นปั้น

"แย่แล้วค่ะกัปตัน เค้าเคยเป็นแบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ทำไงดี เรียกก็ไม่ยอมตื่น" เล็กระล่ำระลักบอกกับเจ้านาย

กัปตันมองดูลูกน้องสาวอย่างฉงน และครุ่นคิด ก่อนจะถาม

"คุณเล็ก คุณเคยบอกว่า คุณสองคนไปเจอภาพวาดที่ฝาผนังห้องหนึ่ง มีรูปหญิงนางสนมคนหนึ่งของฟาโรห์ หน้าตาเหมือนเค้าไม่มีผิด ใช่ไหม ?"

"ใช่ค่ะ กัปตัน แล้วเค้าพูดภาษาอะไรไม่รู้ออกมาด้วย เข้าใจว่าคงเป็นภาษาอียิปต์โบราณน่ะค่ะ"

"คุณบันทึกเสียงไว้ด้วยไม่ใช่เหรอ ?"

"จริงด้วย!" หล่อนนึกขึ้นได้

"ไหนลองเอามาเปิดฟังดูซิ แอนดี้มาใกล้ๆ ลองฟังดูว่าจะแปลได้ไหม"

"ครับ เจ้านาย"

แอนดี้ขยับเข้ามาใกล้เล็ก ขณะที่หล่อนล้วงเครื่องบันทึกเสียงขนาดจิ๋วออกมา แล้วเปิดฟังย้อนหลังอีกครั้ง

แอนดี้ฟังด้วยความตั้งใจ ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วบอกกับเจ้านาย

"พอแปลได้บ้างครับผม อาจจะไม่ทุกคำ"

"ไม่เป็นไรแอนดี้ เอาซัก 50-60 เปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว ได้ไหม ?"

"ถ้าแค่นั้น ได้อยู่ครับ อาจจะได้ถึง 70 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องลองแปลดูก่อนครับ"

"ตกลง งั้นแปลมา เท่าที่นายแปลได้"

แอนดรอยด์อัจฉริยะ เริ่มประมวลผลจากถ้อยคำที่เพิ่งฟังจากเครื่องบันทึกเสียงของเล็กและบันทึกต่อไว้แล้วในตัวเอง จากนั้นไม่กี่วินาทีก็เริ่มแปล

"ท่านหัวหน้านักบวช.......เขากลับมาแล้ว ใช่ไหมเพคะ ฝ่าบาท.........หม่อมฉันขออภัย ฝ่าบาท เพราะหม่อมฉันรักเขายิ่งนัก แม้แต่ชีวิต หม่อมฉันก็สละให้เขาได้ เพื่อให้เขารอดปลอดภัย..........ถึงกระนั้น  หม่อมฉันก็พึงพอใจ ที่มีโอกาสสละชีพเพื่อความรัก...........พระองค์มิได้ด้อยกว่าเขาเลยเพคะ ฝ่าบาท พระองค์ทรงเหนือกว่าเขาทุกประการ ยกเว้น..........เพคะ ฝ่าบาท........."

"จบแล้วครับ เจ้านาย"

"เฮ้ยย....." กัปตันอุทานออกมาเบาๆ แล้วหันไปมองลูกน้องสาวผู้กำลังตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง

"มันเป็นไปได้ไง ?" เขาหันมามองหน้าลูกน้องทีละคนๆ

"ผมอธิบายได้ครับ" เอกกล่าว

"ยังไงครับเอก ?"

"การที่เธอตกลงไปในภวังค์นั้น ดึงเธอย้อนสู่อดีตกาล และสะกิดความทรงจำในอดีตขึ้นมาครับ"

"หมายความว่า เธอ ระลึกชาติได้ งั้นเหรอ ?"

"เฉพาะตอนตกอยู่ในภวังค์เท่านั้นครับ เวลาเธอรู้สึกตัว กลับคืนสู่ปัจจุบันของเธอ เธอก็จะจำอะไรไม่ได้"

"ถ้างั้น ก็ สรุปได้ว่า จอยเคยเกิดเป็นคนอียิปต์ในสมัยนี้ เคยเป็นนางสนม หรือไม่ก็อาจถึงขั้นมเหสีของฟาโรห์เลย จากภาพที่เล็กกับเค้าเคยดู" สาวเล็กสรุป

"เรามาเจอเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งแล้วถ้างั้น" แซมเอ่ยขึ้น พลางมองสาวคนรักด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม

"เมื่อกี้นี้ จากที่แอนดี้แปล ผมจับใจความตอนหนึ่งได้ว่า จอยเค้าเคยสละชีวิตเพื่ิอคนรัก และเขาคนนั้น เป็นหัวหน้านักบวชด้วย!"

"ใช่ครับ เจ้านายแซม" แอนดี้พยักหน้า

"หัวหน้านักบวช มีคนรักได้ด้วยเหรอ ?" แซมกล่าวอย่างงงๆ และข้องใจ

"คุณแซม...ความรักมัน ไม่เข้าใครออกใครหรอกค่ะ!" เล็กไขข้อข้องใจ "แล้วเราก็ไม่รู้ธรรมเนียมหรือกฏข้อบังคับ หรือศีลอะไรของศาสนาคนอียิปต์โบราณ"

(ต่อครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่