⚡️💦⚡️ หลงกาล Episode-33 ท่องไอยคุปต์ ภาค 2/8 (ปฐมกาลไอยคุปต์ ตอนที่ 8 "STARWAR") ⚡️💦⚡️

กระทู้คำถาม


ขณะที่กัปตันวันชนะกำลังอ้ำอึ้งกับคำถามของลูกสาวตัวน้อย เอ็มม่าก็ช่วยตอบให้แทน "คุณพ่อคงจะต้องลำบากจ้ะถ้าไปกับเรา อาหารของพวกเราก็แตกต่างจากอาหารของมนุษย์โลก คุณพ่อจะไม่ได้กินอะไรที่เคยกินบนโลกนี้อีก แล้วยังมีเรื่องที่ต้องจากครอบครัว เพื่อนๆอีก คงไปกับเราไม่ได้หรอกลูก"

แอนนาทำท่าเอียงคอ แล้วบอกกับผู้เป็นพ่อ "งั้นหนูจะอยู่กับคุณพ่อให้นานๆ ถ้าต้องกลับไปกับคุณแม่ ก็จะกลับมาหาคุณพ่อบ่อยๆค่ะ!"

กัปตันวันชนะยิ้มให้กับความใสซื่อของลูกสาว ก่อนจะหันมาพูดกับผู้เป็นแม่

"ในเมื่อมีช่องทางมิติทะลุหากันได้เหมือนอย่างที่คุณพับแผนที่แล้วเอาปากกาแทงทะลุได้เลยแบบนั้น ก็คงไม่ยากสำหรับคุณและลูก"

"ค่ะ...และฉันยังคงมีภารกิจส่วนตัวกับคุณอีกนะ"

"อะไรอีกครับ ?"

"ถ้าเรา...อ่า...ร่วมมือกัน สร้างสรรค์ชีวิตใหม่ให้ได้อีกสักคน ฉันคาดว่า เราจะได้ลูกชาย! แอนนาก็จะมีพี่ชายค่ะ!"

"ว้าวว!!" กัปตันฉีกยิ้มทำตาหวาน "อย่างนั้นก็ต้อง เตรียมตัว เน้นๆ ในคราวต่อไป!"

เอ็มม่ายิ้ม และยิ้มมากขึ้นไปอีกเมื่อลูกสาวถาม "คุณพ่อจะเตรียมตัว เน้นๆ อะไรหรือคะ ?!"

กัปตันหัวเราะก๊าก ปล่อยให้แม่คุยกับลูกสาว

"เตรียมน้องชายให้หนูน่ะจ้ะ!"

"เอาละ!" กัปตันกล่าวกับทั้งแม่ทั้งลูก "พ่อจะทำงานต่อละนะ อยู่กับแม่ไปก่อนนะลูก" เอื้อมมือบิดแก้มสาวน้อยเล่นทีหนึ่งก่อนลุกไปนั่งคู่กับแอนดี้ ณ ที่นั่งนักบิน

"ว่าไง แอนดี้ พวกมันเหลือเท่าไรตอนนี้ ?"

"โดนยิงร่วงไปหลายลำครับเจ้านาย แต่มันก็มีลำใหม่มาเรื่อยๆ!"

"มันมาจากไหนกัน ?"

"มันต้องมียานแม่!" เอ็มม่าส่งเสียงบอกมาจากข้างหลัง "วันชนะ คุณคอยดูบนท้องฟ้าให้ดี เมื่อไรท้องฟ้าเปิดช่องแบบแปลกๆ เมื่อนั้นแหละคุณจะได้เห็น 'ช่องทาง' ของพวกมัน! พวกเราก็กำลังรอพวกมันอยู่เหมือนกัน!"

"พวกคุณมียานแม่เหมือนกันหรือครับ ?" กัปตันเหลียวมาถามแล้วมองที่จอมอนิเตอร์สลับกับช่องหน้าต่างยาน

"มีค่ะ อยู่ในอวกาศ ยังไม่ได้เข้ามาเหมือนกับพวกมัน"

"หมายความว่า ถ้าพวกมันผ่านช่องมิติเข้ามา พวกคุณก็จะรู้ทันทีหรือ ถึงได้รออยู่ ?"

"ใช่ค่ะ! การเปิดช่องมิติ จะทำให้เกิดร่องรอยซึ่งตรวจจับได้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน เราจะยิงสลายอนุภาคขององค์ประกอบต่างๆซึ่งทำให้มิติเปิด ณ จุดนั้น! และหากทำเช่นนั้นเราก็จะสามารถผลักดันพวกมันออกไปได้และปิดช่องมิติตรงนั้นไป"

"แสดงว่า ช่องมิติ เราสามารถกำหนดเปิดและปิดเองได้หรือครับ ?"

"ได้ค่ะ ถ้าวิทยาการของพวกคุณก้าวหน้าเพียงพอ! แต่เท่าที่ฉันเห็น ในโลกอนาคตเกือบห้าพันปีข้างหน้า ชาวโลกยังพัฒนาไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ใกล้เคียงแล้ว เพราะคุณสามารถย้อนกาลเวลาได้แล้ว!"

กัปตันมองหน้าภรรยาต่างดาวด้วยความทึ่ง แล้วหันไปจดจ่อกับหน้าจอมอนิเตอร์ต่อไป

ข้างนอกยาน The Fugitive สงครามกลางเวหาระหว่างยานของพวกเร็พไทเลี่ยนและพวกของเอ็มม่ายังคงไล่ล่ากันต่อไป โดยช่วงท้ายกลายเป็นฝ่ายของเอ็มม่าที่สามารถสอยยานพวกเร็พไทเลี่ยนร่วงนับไม่ถ้วน จนยานของพวกมันมีจำนวนร่อยหรอน้อยลงมากอย่างเห็นได้ชัด ส่วนยานของพวกเอ็มม่าบินว่อนเกลื่อนเต็มน่านฟ้าแดนไอยคุปต์ไปหมด ประชาชนข้างล่างส่งเสียงเชียร์กันไปทั่วแผ่นดิน

นี่คือเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และจะถูกจดจำ เล่าขานไปอีกนานแสนนาน!

สถานการณ์ของฝ่ายต่างดาวพิทักษ์ฟาโรห์เป็นต่ออย่างชัดเจน ด้วยจำนวนยานบินมากมายเกลื่อนฟ้า ตรงกันข้ามกับฝ่ายเร็พไทเลี่ยนซึ่งเหลือบินว่อนอยู่สิบกว่าลำเท่านั้น แต่แล้ว....

ณ จุดหนึ่งกลางอากาศเหนือยานทุกลำของทั้งสองฝ่าย ปรากฏเหมือนภาพวังน้ำวน แต่สิ่งที่วนหมุนเป็นเกลียวให้เห็นนั้นเป็นเมฆไม่ใช่น้ำ มีสายฟ้าแลบแปลบปลาบในระหว่างเมฆวน ครู่หนึ่งใจกลางแห่งเมฆวนนั้นก็มียานขนาดมหึมา โผล่ส่วนหน้าของยานทะลุออกมาช้าๆ!

เพียงส่วนหัวของยานยักษ์ลำนั้นส่วนเดียว ก็ใหญ่โตกว่าขนาดของยาน The Fugitive เป็นสิบๆเท่าแล้ว!!


"นั่นไงคะ วันชนะ ยานแม่ของพวกมันโผล่มาแล้ว" เอ็มม่าบอกแก่กัปตัน

"พระเจ้า! ใหญ่ขนาดนั้น...มันไล่ยิงพวกเราได้หมดเลยนะ" เขากล่าวและเบิกตากว้างจ้องมองดูยานแม่ของพวกเร็พไทเลอร์

"ไม่ต้องกลัวค่ะ! เดี๋ยวพวกฉันก็จะออกมาเหมือนกัน นั่นไง!"

สาวผู้มาจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะแห่งหนึ่งในกลุ่มดาวนายพรานชี้ให้ดูอีกฟากหนึ่งบนฟ้าทางขวา

มีการเปลี่ยนแปลงของก้อนเมฆบนอากาศ ณ จุดนั้นแบบเดียวกันและรวดเร็วมาก ไม่กี่วินาที ก็มียานขนาดใหญ่โตมโหฬาร รูปร่างเป็นจานเหมือนกับยานบินลำเล็กซึ่งบินว่อนกระจายไปทั่วฟ้าอยู่ในขณะนี้

และขณะที่ยานแม่รูปร่างเทอะทะของพวกเร็พไทเลี่ยนกำลังโผล่ออกมาได้ครึ่งลำ ยานแม่จากกลุ่มดาวนายพรรานก็โผล่พ้นช่องมิติอวกาศออกมาหมดทั้งลำแล้ว และยิงลำแสงอย่างหนึ่งเข้าไปในวงแหวนของยานแม่รูปร่างน่าเกลียดของพวกเร็พไทเลอร์ทันที ไม่ยอมให้ยานนั้นโผล่ออกมามากกว่านั้น!

"วาบบบบ..........."

ทันทีที่ลำแสงจากจานบินยักษ์ยิงเข้าไปในวงแหวน สภาวะอากาศบริเวณรอบยานของเร็พไทเลี่ยนก็แปรปรวน ทุกคนที่กำลังมองดูอยู่ เห็นสายฟ้าแลบเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนรอบยานนั้นซึ่งถูกสะกัดการเคลื่อนยานหยุดชะงัก และยานลูกของมันทุกลำกำลังบินเข้าไปหามันอยู่

ยานแม่นั้นรับยานลูกของมันเข้าไปจนหมดทุกลำ แต่ไม่อาจเข้าสู่น่านฟ้าเหนือแดนไอยคุปต์ได้หมดทั้งลำ คงค้างเติ่งครึ่งลำอยู่อย่างนั้น และเมื่อเวลาผ่านไปสองสามนาที มันก็ค่อยๆเคลื่อนถอยหลังหายเข้าไปในวงเวียนเมฆซึ่งหมุนติ้วๆและบีบวงเล็กลงๆทีละน้อย

ในที่สุด ยานขนาดมหึมาเทอะทะน่าเกลียดนั้นก็ถอยจนหายไปทั้งลำพร้อมกับวงแหวนเมฆซึ่งบีบวงเล็กลงๆจนเป็นจุดๆเดียวแล้วหายไป เมฆทั้งหลายบริเวณนั้นก็กระจัดกระจายกันไปในอากาศรอบๆ สายฟ้าซึ่งแลบแปลบปลาบเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ก็พลอยสลายตัวไปด้วย

ท้องฟ้าเหนือไอยคุปต์ กลับคืนสู่สภาวะปกติ!

"สำเร็จแล้วค่ะ!" เอ็มม่าบอกกัปตัน "พวกมันถูกขับไล่ออกไปแล้ว และช่องมิติของพวกมันก็ถูกพวกเราปิดกั้นไปแล้วด้วย พวกมันคงไม่กล้ากลับมาอีกนาน หลังจากเห็นว่าสู้พวกเราไม่ได้"

"ไอ้พวกนี้ร้ายมากนะครับ เอ็มม่า เราจะไว้ใจพวกมันได้อย่างไร ? พวกมันอาจจะกลับมาอีกเมื่อไรก็ได้ อาจจะไม่ใช่ในช่วงเวลานี้ แต่อาจจะเป็นในอนาคตกาลข้างหน้า"

"มันมีหลักฐานการพบเห็นพวกเร็พไทเลียนมากมายนะคะ ในอนาคตที่พวกเราจากมา" สาวเล็กบอกกับเอ็มม่า "เล็กเคยเห็นคนหลายคนซึ่งมีร่างของเร็พไทเลียนแฝงอยู่ บางคนเป็นผู้นำของประเทศใหญ่ๆด้วย ประธานาธิบดีของสหรัฐบางคนยังเป็นหนึ่งในพวกมันแฝงตัว!"

"ถ้าอย่างนั้น ต้องตามไปจัดการกับพวกมันขั้นเด็ดขาด!" เอ็มม่าคำราม ตาลุกวาว แล้วบอกกัปตัน "วันชนะ คุณส่งสัญญาณคลื่นวิทยุกระจายไปให้ยานของพวกฉันได้รับกันหน่อย ฉันจะพูดกับพวกนั้น"

"ได้ครับ" กัปตันพยักหน้าแล้วจัดการตามที่หล่อนบอก แล้วถอดเฮดโฟนส่งให้

"คุณสวมนี่ไว้ แล้วพูดกับพวกคุณได้เลย ยานซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจะได้ยิน ยานแม่ของพวกคุณก็น่าจะได้ยินด้วยแหละครับ"

"อ๋อแน่นอนค่ะ! ยานแม่นั่น จับสัญญาณต่างๆได้รอบโลกนี้เลยด้วยซ้ำ!" เอ็มม่ายิ้ม รับเฮดโฟนจากกัปตันมาสวมแล้ววิทยุไปยังยานแม่

"ยานเสริมของชาวโลก เรียกยานแม่ นี่ดิฉัน ผู้การหญิงเอ็มม่าพูด"

"ว่ามาเลย ผู้การ!" เสียงตอบจากยานแม่ตอบกลับมาทันท่ี

"ขออนุญาตให้ยานเล็กทุกลำกลับเข้ายานแม่ค่ะ แล้วหลังจากนั้น ขอตามล่ายานของพวกชาวไซเมนนัส!"

"แล้ว ยานเสริมของชาวโลกที่คุณกำลังอยู่ด้วยในขณะนี้ล่ะ ?"

"ขอถามเขาดูก่อนค่ะ ว่าเขายินดีจะตามพวกเราไปด้วยไหม รวมทั้งสมรรถนะยานของพวกเขาด้วยว่าจะออกสู่อวกาศได้หนือเปล่า ช่วงนี้ให้ยานเล็กทุกลำกลับเข้าสู่ยานแม่ก่อนเถอะค่ะ"

"ตกลง! บอกให้พวกเขากลับเข้ามาได้!"

"ค่ะ! ท่านนายพล!" เอ็มม่ารับคำสั่งจากยายแม่แล้วสั่งการยานเล็กทุกลำทันที

"ยานบินทุกลำ โปรดทราบ นี่ฉัน ผู้การเอ็มม่าพูด ท่านนายพลในยานแม่มีคำสั่งให้ทุกท่านบินกลับสู่ยานแม่ เดี๋ยวนี้!"

ยานบินทุกลำตอบรับด้วยภาษาของตน จากนั้นทุกลำจึงบินมุ่งตรงเข้าไปยังใต้ท้องของยานแม่ซึ่งลอยลำรอรับอยู่

"วันชนะ" เอ็มม่าหันมาถามกัปตัน "ยานของพวกคุณลำนี้ บินออกไปในอวกาศได้ไหม ?"

กัปตันหันไปถามแอนดี้อีกทอดหนึ่ง เพราะเป็นยานซึ่งเขานำมา

"แอนดี้"

"ครับ เจ้านาย ?"

"นายหญิงเค้าถามว่า ยานของเราลำนี้ บินออกไปในอวกาศได้ไหม ?"

"ได้ครับผม แต่อ็อกซิเจนสำหรับเจ้านายทั้งหลายจะมีจำกัดนะครับ"

"โอเค ถ้าเรามีกันครบ ฉัน แซม เอก จอย เล็ก แล้วก็นายหญิงกับลูกสาวอีกสอง เป็น 7 คน ถ้าบินออกไปในอวกาศ จะมีอากาศหายใจกันได้นานเท่าไร ?"

แอนดี้คำนวนอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบ "ประมาณ 6 ชั่วโมงครับผม"

"โอเค...." เขาหันมาบอกภรรยาต่างดาว "บินไปในอวกาศได้ครับเอ็มม่า แต่จะอยู่ได้ประมาณ 6 ชั่วโมง"

"6 ชั่วโมงเหรอคะ ? อืม..." หล่อนทำท่าครุ่นคิดแล้วถามต่อ "แล้ว...พวกคุณ อยากตามพวกเราออกไปล่าพวกนั้นด้วยกันไหมล่ะคะ ?"

"ผมอยากนะ!" กัปตันตอบทันทีอย่างมันเขี้ยว "แต่ผมต้องถามลูกน้องของผมทุกคนก่อนครับ ตอนนี้ ยังมีอีกสองคนอยู่ข้างล่างคือแซมกับจอย ผมจะรับพวกเขากลับขึ้นมาบนยานก่อนนะครับ"

"ได้ค่ะ งั้นหลังจากสองคนนั้นกลับขึ้นมาบนยานแล้ว คุณก็ถามพวกเขาทุกคนดูก่อนแล้วค่อยบอกฉัน"

"โอเคครับ!" กัปตันพยักหน้าให้ภรรยา แล้วบอกกับแอนดี้

"แอนดี้ นำยานร่อนต่ำลงไป รับแซมกับจอยกลับขึ้นมาบนยาน"

"ครับผม เจ้านาย"

ขณะแอนดี้กำลังนำยานร่อนต่ำลงไปบริเวณหน้าพระราชวัง กัปตันวันชนะก็วิทยุบอกหนุ่มสาวทั้งสองให้เตรียมตัวออกมารอขึ้นยาน

สาวจอยบอกกับออเรร่าและองค์ฟาโรห์คูฟูว่า ตอนนี้จำเป็นต้องกลับขึ้นยานไปทำงานกับเจ้านายก่อน เสร็จงานแล้วจะกลับมา

"พวกเจ้าต้องกลับมาจริงๆนะ อย่าเพิ่งไปจากข้า" ฟาโรห์ทรงกำชับ

"เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันกับแซม และทุกคนที่มาด้วยจะกลับมาหาพระองค์แน่นอน ทรงวางพระทัยเถิดเพคะ"

"เจ้าต้องบอกท่านวันชนะ ผู้นำของพวกเจ้าด้วย ถึงเรื่องที่ข้าเคยพูดว่าจะทำ"

"เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันจะบอกเขาว่า พระองค์จะทรงกระทำสิ่งที่พระองค์เคยตรัสไว้" หล่อนทูลตอบรับพระดำรัสอย่างงงๆว่าองค์ฟาโรห์จะทรงกระทำอะไรถ้ากัปตันวันชนะพาทุกคนกลับมาหาอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ

"ดูท่าทาง เจ้าคงลืมไปแล้วกระมัง ว่าข้าเคยบอกไว้ว่าอย่างไร ?" ฟาโรห์ตรัสถามยิ้มๆ

"เอ้อ...เพคะ ฝ่าบาท" หล่อนพยักหน้ายอมรับ "ขอพระราชทานอภัยโทษด้วยเถิดเพคะ หม่อมฉันนึกไม่ออกจริงๆ"

"อืม...พวกเจ้ามีภารกิจมากมายนี่นะ เจ้าก็เลยไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องที่ข้าเคยกล่าว เป็นอย่างนั้นใช่ไหม อามุนต้า ?"

"คงเป็นเช่นนั้นแหละเพคะ ฝ่าบาท"

"อืม...เอาละ ถ้าอย่างนั้น ข้าขอบอกเจ้าอีกครั้ง และคราวนี้ห้ามลืมเป็นอันขาดนะ อามุนต้า!"

"เพคะ ฝ่าบาท" หล่อนรับพระดำรัสอย่างหนักแน่น

"พวกเจ้าต้องกลับมา เพื่อให้ข้า จัดงานวิวาห์ให้เจ้ากับแซม นี่คือความตั้งใจของข้า! อย่าให้ข้าผิดหวัง!!"

สาวจอยน้ำตาคลอเบ้า หันไปบอกแซมถึงพระดำรัสนั้น แล้วกระตุกแขนเขาให้ทรุดกายคุกเข่าลง จากนั้นจึงทูลต่อฟาโรห์

"หม่อมฉันกับแซม ขอขอบพระทัยฝ่าบาทเป็นล้นพ้นเพคะ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเราสองคนอย่างหาที่สุดมิได้"

ฟาโรห์รีบประคองทั้งสองคนให้ลุกขึ้น "ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย...ลุกขึ้นมาเถิด"

"ขอบพระทัยเพคะ"

จอยพยักหน้าบอกแซม แล้วทั้งสองก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นจอยจึงทูลลาเป็นการชั่วคราวเมื่อเห็นว่ายาน The Fugitive มาลอยอยู่เหนือศีรษะคอยท่าอยู่

"หม่อมฉันกับแซมต้องขอทูลลาไปทำงานก่อนแล้วนะเพคะ"

"ไปเถิด เสร็จงานแล้วรีบกลับมานะ ทุกคนเลย"

"เพคะ ฝ่าบาท" หล่อนพยักหน้ารับพระดำรัส แล้วหันมาพูดกับออเรร่าซึ่งยืนอยู่ข้างองค์ฟาโรห์

"ออเรร่า เจ้าคอยอยู่ใกล้ๆองค์ฟาโรห์ ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ให้ดี พี่สาวจะไปทำงานก่อน เสร็จงานแล้วจึงจะกลับมาอีกครั้ง"

"เจ้าค่ะ พี่สาวไม่ต้องห่วง ออเรร่าจะปรนนิบัติรับใช้องค์ฟาโรห์ให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ"

จอยพยักหน้ายิ้มให้สาวน้อยผู้ผ่านเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตจนได้มาพบและรู้จักกัน ดึงตัวเธอเข้ามากอดครู่หนึ่งแล้วจึงปล่อย

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่