ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทางเวปไซต์พันทิปที่จัดโครงการดีๆ อย่าง Pantip Review สมาชิกนักรีวิว #1 ให้ลูกเจี้ยบอย่างเราได้ลองรีวิวร้านอาหารฝรั่ง ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ร้านอาหารที่เราจะไปรีวิลกับพันทิปครั้งแรก เป็นร้านอาหารย่านสาทร ที่เพิ่งเปิดชื่อ INFUSION EATERY & BAR โดยชื่อ ร้าน INFUSION มาจากการใช้เทคนิคการดึงรสชาติอาหารแต่ละอย่างมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
ร้าน INFUSION EATERY & BAR บริหารงานโดยเชฟหนุ่มไฟแรง. คุณต้น และเชฟอีกสองคนที่รำเรียนจาก Cordon Bleu Dusit ที่มีประสบการณ์ Fine Dining อย่างโชกโชน ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าอาหารที่นี่อร่อยแน่ชัวร์
ภายในร้านเป็นบรรยากาศเท่ๆ ทันสมัย มีเค้าเตอร์บาร์ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางร้านช่างเหมาะแก่การนัดเพื่อนๆ มาสังสรรค์มากค่ะ
มุมโปรดของลูกเจี๊ยบคือด้านที่ติดกระจกริมถนนค่ะ ไม่รู้เพราะฝนตกรึเปล่า บรรยากาศดี๊ดี เหมาะแก่การพาผู้มาที่สุด โรแมนติกมากกก
ทางร้านยังมีโซนเอ้าท์ดอร ไว้ให้นั่งรับลมรับบรรยากาศภายนอกด้วย แต่วันที่ไปดันฝนตก เลยไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ ต่อมาห้องน้ำของร้าน เค้าจะแยกชายหญิงชัดเจน การตกแต่งห้องน้ำชายจะใช้โทนสีดำ ส่วนผู้หญิงจะใช้สีขาว ดูเก๋มากค่ะ ชอบๆ
[img][img]
[img]
และแล้วก็มาถึงช่วงที่ลูกเจี๊ยบรอคอย ชิมอาหารจ้าาา เริ่มด้วยจานแรก เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เมนูแรก Deep Fried Calamari With Caper Remoulade ราคา 210 บาท
เนื้อปลามึกที่สดมากกกก ย้ำว่าสดมาก คือเด้งสู้ฟันสุดๆ ยิ่งทานคู่กันกับซอสสูตรพิเศษของร้านยิ่งเข้ากั้นเข้ากัน แต่เมนูนี้ก็ยังถือว่ารสกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก เหมาะกับทานเล่นเพลินๆ ก่อนอาหารจานหลัก
เมนูต่อไป ยกมาเป็นเขียงกันมาเลยจ้าาา เมนู Infusion Buger ,Dry - Aged Beef ,Onion Jam ,Crispy Bacon ,HomeMade Bun ราคา 425 บาท
ก่อนอื่นขอชิมเฟรนฟรายก่อนน้าาา โหววว เนื้อเฟรนฟรายด้านในหนึบๆ เหนียวๆ ด้านนอกกรอบๆ โรยหน้าด้วยชีส รสเค็มกำลังดี คือลืมซอสมะเขือไปเลยจ้า ไม่ต้องจิ้มซอสมะเขือที่ให้มาเลย อร่อยยยยย
ต่อมาเหลือไปเห็นสลัดข้างๆ ไม่รอช้าสัดเข้าโลด กินไปคำแรกถึงกับอุทานว่าตายแล้วววว อร่อยมากกกก ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าน้ำซอสดำๆ หรือน้ำสลัดบัลซามิค ที่ราดบนสลัดจะอร่อยได้ถึงเพียงนี้ โดยปรกติเจ้าน้ำสลัดบัลซามิคของที่เคยกินมันจะออกรสเปรี้ยวโดด แต่กับที่ร้านนี้จะออกรสหวานๆ กลมกล่อมมาก
จะขาดไปไม่ได้เลยตัวนี้พระเอกของจานที่มีปักมีดเด่คาตัวเบอร์เกอร์ สับตัดแล้วก็กัดไปคำแรกขนมปังเบอร์เกอร์โฮมเมด กับเนื้อเบอร์เกอร์ที่รสสัมผัสที่หยาบๆ ผสานกับเบค่อนกรอบๆ และหัวหอมผัดซอสหวาน ทำให้เกิดรสชาติเข้มข้น ยิ่งทานควบคู่กับพริกดองทำเองยิ่งทำให้รสชาติเบอร์เกอร์โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอี๊กกกก อร่อยมากกก ห้าดาวไปเลยจ้า
ตัวหอมใหญ่ผัดซอสหวานทางเชฟได้บอกว่าน้ำตาลที่ใช้ไปเสาะหามาจากเมืองจันทบุรี ส่วนขนมปังก็นำเชื้อยีสต์มาจากซานฟรานซิสโก ตอนนี้ก็เอามาเลี้ยงเชื้อได้ปีนึงแล้ว โหววว พรีเมี่ยมสุดๆ 🤤
จานที่สามที่ยกทะเลมาไว้บนจานกันเลยทีเดียว กับเมนู Seafood Tom-Yum Risotto ราคา 550 บาท
ก่อนอื่นขอชิมตัวข้าวก่อนตัวข้าวได้รสถึงเครื่องต้มยำน้ำข้น แต่รสชาติก็ไม่ค่อยจัดจ้านมากทำให้ทานได้เรื่อยๆ ไม่แสบปากทรมาน ต่อมาขอทานพระเอกของจานต่อน้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตัวเป้งมากกก และสดมากกกกก อร่อยยยยยย ไม่เคยทานหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน ประทับใจความสด เคยไปกินที่ซิดนีย์ทาวน์เวอร์ ยังไม่อร่อยเท่าร้านนี้เลยจ้าาาาาา นอนนั้นที่เหลือก็สดไม่แพ้กัน
โดยรวมอร่อยและสดมากกก
พอถามเชฟว่าทำไมหอยถึงอร่อยจัง เชฟก็บอกว่าตัวหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ได้นำเข้าแบบเป็นๆ ชนิดที่เปิดถุงมาฝายังหุบๆ เปิดๆ อยู่เลยจ้า
จานที่ห้า มาเป็นก้อนๆ เลย กับเมนู 120 Day Grain-Fed Australian Striploin Steak (250g.) Mashed Potato ,Mixed Salad ,Grilled Vegeyable ราคา 780 บาท
ขอสารภาพว่าลูกเจี๊ยบไม่ชอบทานเนื้อเพราะกลิ่นมันแรงจนทำให้ทานไม่ได้ แต่พอได้มาทานเจ้า 1824 AUS ปรากฎว่าไม่มีกลิ่นสาปอะไรทั้งสิ้น แถมเนื้อนุ่ม เคี้ยวเพลินจนไม่อยากกลืนอีกต่างหาก พอเอามาทานคู่กับเห็ดแชมปิญอง ก็เข้ากันดี แต่กลิ่นเห็ดแรงไปนีสสส ถ้าทานเพียวๆ ไม่ค่อยโดนอะ
ตัวผักบล็อกคอรี่ย์ กับแครอทหอมเนยสุดๆ ต่อมามันฝรั่งบดที่มีเห็ดทรัฟเฟิล ไสล์บางๆ แปะอยู่ ช่างยั่วยวนจิตเราจริงๆ ม๊วฟ อร่อยยยย หอมกลิ่นเห็ดนำมาก่อนเลยต่อด้วยกลิ่นเนยแล้วก็มันฝรั่ง สรุปอร่อยโดนใจจริงๆ
ชอบที่สุดในจานนี้ก็เป็นตัวเนื้อ 1824 AUS ที่ผ่านการ 120 Day Grain-fed ทำให้เนื้อนุ่มมาก แต่ไม่ยุ่ย ทำให้เคี้ยวเพลินจริงๆ
จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับการปิดท้ายการทานอาหารในครั้งนี้ คือขนมหวานจ้าาา ขนมหวานมีมาเสริฟถึงสองจาน เริ่มด้วยจานแรก Passion Fruit Panna Cotta With Lemongrass Aroma (1 ชิ้น ราคา 120 บาท)
ยกมาเสริฟทั้งกล่องแต่เอ๊ะน้องที่มาเสริฟถือไนโตรเจนเหลวมาด้วยอะ พร้อมเทลงในกล่องไม้ควันโพยพุ่งออกมาเรื่อยๆ พร้อมกลิ่นตะไคร้หอม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
อ่าาา เพลินตาเพลินใจจริงๆ พอควันเริ่มจางลง ก็เอา พานาค็อทต้าเสาวรสมาชิม คือตัวเนื้อพานาค็อตต้าเนื้อมันๆ นุ่มเนียน ผสานกับซอสเสาวรสเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากันดี โดยรวมโอเคค่ะ โดยเฉพาะตอนเทควันนี่เต็มสิบไปเลยค่ะ
จานสุดถ้าย ยกเสริฟกันมาบนแผ่นหินกันเลย กับเมนู Mango Choux (เมนูใหม่) ราคา 145 บาท
หน้าตาดูดีมาก ไหนลองชิมหน่อยสิ หูววเนื้อข้าวเหนียวหนึบดีมาก พอทานคู่กันกับเนื้อมูสมะม่วงคือเค้ากันมาก ซอสก็เปรี้ยวหวานกำลังดี แต่ขอติตัวเนื้อแป้งซู นิ่มเหนียวไปหน่อย แต่พอทานคู่กันทั้งหมดก็กลบความด้อยตรงนี้ลงไป โดยรวมเลยโอเคค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบเนื้อข้าวเหนียวมากที่สุดเพราะข้าวเหนียวหายากนะที่จะเจออร่อยถูกปากแบบนี้
สรุปในการชิมอาหารครั้งนี้ ชอบบรรยากาศ กับอาหารที่มาเสริฟทุกครั้งก็จะสนุกตื่นเต้นได้ทุกครั้ง 10 10 10 ไปเลยจ่ะ
ร้านอาหารประเภท : ไทย, สเต็ก, อเมริกา, อาหารทะเล, ฝรั่งเศส, ฟิวชั่น, อินเตอร
รายการอาหาร : A La Carte Menu
เวลาเปิดปิดร้าน : จ.-อา.: 17.00-01.00น.
ราคาอาหารราคาโดยรวม : 500 บาท
ที่อยู่ : 15/1 ถนนเย็นอากาศ ช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
[SR] INFUSION EATERY & BAR จุดนัดสังสรรค์ย่านสาทร ที่มีดีด้านอาหารและบรรยากาศ
ร้านอาหารที่เราจะไปรีวิลกับพันทิปครั้งแรก เป็นร้านอาหารย่านสาทร ที่เพิ่งเปิดชื่อ INFUSION EATERY & BAR โดยชื่อ ร้าน INFUSION มาจากการใช้เทคนิคการดึงรสชาติอาหารแต่ละอย่างมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
ร้าน INFUSION EATERY & BAR บริหารงานโดยเชฟหนุ่มไฟแรง. คุณต้น และเชฟอีกสองคนที่รำเรียนจาก Cordon Bleu Dusit ที่มีประสบการณ์ Fine Dining อย่างโชกโชน ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าอาหารที่นี่อร่อยแน่ชัวร์
ภายในร้านเป็นบรรยากาศเท่ๆ ทันสมัย มีเค้าเตอร์บาร์ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางร้านช่างเหมาะแก่การนัดเพื่อนๆ มาสังสรรค์มากค่ะ
มุมโปรดของลูกเจี๊ยบคือด้านที่ติดกระจกริมถนนค่ะ ไม่รู้เพราะฝนตกรึเปล่า บรรยากาศดี๊ดี เหมาะแก่การพาผู้มาที่สุด โรแมนติกมากกก
ทางร้านยังมีโซนเอ้าท์ดอร ไว้ให้นั่งรับลมรับบรรยากาศภายนอกด้วย แต่วันที่ไปดันฝนตก เลยไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ ต่อมาห้องน้ำของร้าน เค้าจะแยกชายหญิงชัดเจน การตกแต่งห้องน้ำชายจะใช้โทนสีดำ ส่วนผู้หญิงจะใช้สีขาว ดูเก๋มากค่ะ ชอบๆ
[img][img][img]
และแล้วก็มาถึงช่วงที่ลูกเจี๊ยบรอคอย ชิมอาหารจ้าาา เริ่มด้วยจานแรก เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เมนูแรก Deep Fried Calamari With Caper Remoulade ราคา 210 บาท
เนื้อปลามึกที่สดมากกกก ย้ำว่าสดมาก คือเด้งสู้ฟันสุดๆ ยิ่งทานคู่กันกับซอสสูตรพิเศษของร้านยิ่งเข้ากั้นเข้ากัน แต่เมนูนี้ก็ยังถือว่ารสกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก เหมาะกับทานเล่นเพลินๆ ก่อนอาหารจานหลัก
เมนูต่อไป ยกมาเป็นเขียงกันมาเลยจ้าาา เมนู Infusion Buger ,Dry - Aged Beef ,Onion Jam ,Crispy Bacon ,HomeMade Bun ราคา 425 บาท
ก่อนอื่นขอชิมเฟรนฟรายก่อนน้าาา โหววว เนื้อเฟรนฟรายด้านในหนึบๆ เหนียวๆ ด้านนอกกรอบๆ โรยหน้าด้วยชีส รสเค็มกำลังดี คือลืมซอสมะเขือไปเลยจ้า ไม่ต้องจิ้มซอสมะเขือที่ให้มาเลย อร่อยยยยย
ต่อมาเหลือไปเห็นสลัดข้างๆ ไม่รอช้าสัดเข้าโลด กินไปคำแรกถึงกับอุทานว่าตายแล้วววว อร่อยมากกกก ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าน้ำซอสดำๆ หรือน้ำสลัดบัลซามิค ที่ราดบนสลัดจะอร่อยได้ถึงเพียงนี้ โดยปรกติเจ้าน้ำสลัดบัลซามิคของที่เคยกินมันจะออกรสเปรี้ยวโดด แต่กับที่ร้านนี้จะออกรสหวานๆ กลมกล่อมมาก
จะขาดไปไม่ได้เลยตัวนี้พระเอกของจานที่มีปักมีดเด่คาตัวเบอร์เกอร์ สับตัดแล้วก็กัดไปคำแรกขนมปังเบอร์เกอร์โฮมเมด กับเนื้อเบอร์เกอร์ที่รสสัมผัสที่หยาบๆ ผสานกับเบค่อนกรอบๆ และหัวหอมผัดซอสหวาน ทำให้เกิดรสชาติเข้มข้น ยิ่งทานควบคู่กับพริกดองทำเองยิ่งทำให้รสชาติเบอร์เกอร์โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอี๊กกกก อร่อยมากกก ห้าดาวไปเลยจ้า
ตัวหอมใหญ่ผัดซอสหวานทางเชฟได้บอกว่าน้ำตาลที่ใช้ไปเสาะหามาจากเมืองจันทบุรี ส่วนขนมปังก็นำเชื้อยีสต์มาจากซานฟรานซิสโก ตอนนี้ก็เอามาเลี้ยงเชื้อได้ปีนึงแล้ว โหววว พรีเมี่ยมสุดๆ 🤤
จานที่สามที่ยกทะเลมาไว้บนจานกันเลยทีเดียว กับเมนู Seafood Tom-Yum Risotto ราคา 550 บาท
ก่อนอื่นขอชิมตัวข้าวก่อนตัวข้าวได้รสถึงเครื่องต้มยำน้ำข้น แต่รสชาติก็ไม่ค่อยจัดจ้านมากทำให้ทานได้เรื่อยๆ ไม่แสบปากทรมาน ต่อมาขอทานพระเอกของจานต่อน้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตัวเป้งมากกก และสดมากกกกก อร่อยยยยยย ไม่เคยทานหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน ประทับใจความสด เคยไปกินที่ซิดนีย์ทาวน์เวอร์ ยังไม่อร่อยเท่าร้านนี้เลยจ้าาาาาา นอนนั้นที่เหลือก็สดไม่แพ้กัน
โดยรวมอร่อยและสดมากกก
พอถามเชฟว่าทำไมหอยถึงอร่อยจัง เชฟก็บอกว่าตัวหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ได้นำเข้าแบบเป็นๆ ชนิดที่เปิดถุงมาฝายังหุบๆ เปิดๆ อยู่เลยจ้า
จานที่ห้า มาเป็นก้อนๆ เลย กับเมนู 120 Day Grain-Fed Australian Striploin Steak (250g.) Mashed Potato ,Mixed Salad ,Grilled Vegeyable ราคา 780 บาท
ขอสารภาพว่าลูกเจี๊ยบไม่ชอบทานเนื้อเพราะกลิ่นมันแรงจนทำให้ทานไม่ได้ แต่พอได้มาทานเจ้า 1824 AUS ปรากฎว่าไม่มีกลิ่นสาปอะไรทั้งสิ้น แถมเนื้อนุ่ม เคี้ยวเพลินจนไม่อยากกลืนอีกต่างหาก พอเอามาทานคู่กับเห็ดแชมปิญอง ก็เข้ากันดี แต่กลิ่นเห็ดแรงไปนีสสส ถ้าทานเพียวๆ ไม่ค่อยโดนอะ
ตัวผักบล็อกคอรี่ย์ กับแครอทหอมเนยสุดๆ ต่อมามันฝรั่งบดที่มีเห็ดทรัฟเฟิล ไสล์บางๆ แปะอยู่ ช่างยั่วยวนจิตเราจริงๆ ม๊วฟ อร่อยยยย หอมกลิ่นเห็ดนำมาก่อนเลยต่อด้วยกลิ่นเนยแล้วก็มันฝรั่ง สรุปอร่อยโดนใจจริงๆ
ชอบที่สุดในจานนี้ก็เป็นตัวเนื้อ 1824 AUS ที่ผ่านการ 120 Day Grain-fed ทำให้เนื้อนุ่มมาก แต่ไม่ยุ่ย ทำให้เคี้ยวเพลินจริงๆ
จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับการปิดท้ายการทานอาหารในครั้งนี้ คือขนมหวานจ้าาา ขนมหวานมีมาเสริฟถึงสองจาน เริ่มด้วยจานแรก Passion Fruit Panna Cotta With Lemongrass Aroma (1 ชิ้น ราคา 120 บาท)
ยกมาเสริฟทั้งกล่องแต่เอ๊ะน้องที่มาเสริฟถือไนโตรเจนเหลวมาด้วยอะ พร้อมเทลงในกล่องไม้ควันโพยพุ่งออกมาเรื่อยๆ พร้อมกลิ่นตะไคร้หอม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
อ่าาา เพลินตาเพลินใจจริงๆ พอควันเริ่มจางลง ก็เอา พานาค็อทต้าเสาวรสมาชิม คือตัวเนื้อพานาค็อตต้าเนื้อมันๆ นุ่มเนียน ผสานกับซอสเสาวรสเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากันดี โดยรวมโอเคค่ะ โดยเฉพาะตอนเทควันนี่เต็มสิบไปเลยค่ะ
จานสุดถ้าย ยกเสริฟกันมาบนแผ่นหินกันเลย กับเมนู Mango Choux (เมนูใหม่) ราคา 145 บาท
หน้าตาดูดีมาก ไหนลองชิมหน่อยสิ หูววเนื้อข้าวเหนียวหนึบดีมาก พอทานคู่กันกับเนื้อมูสมะม่วงคือเค้ากันมาก ซอสก็เปรี้ยวหวานกำลังดี แต่ขอติตัวเนื้อแป้งซู นิ่มเหนียวไปหน่อย แต่พอทานคู่กันทั้งหมดก็กลบความด้อยตรงนี้ลงไป โดยรวมเลยโอเคค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบเนื้อข้าวเหนียวมากที่สุดเพราะข้าวเหนียวหายากนะที่จะเจออร่อยถูกปากแบบนี้
สรุปในการชิมอาหารครั้งนี้ ชอบบรรยากาศ กับอาหารที่มาเสริฟทุกครั้งก็จะสนุกตื่นเต้นได้ทุกครั้ง 10 10 10 ไปเลยจ่ะ
ร้านอาหารประเภท : ไทย, สเต็ก, อเมริกา, อาหารทะเล, ฝรั่งเศส, ฟิวชั่น, อินเตอร
รายการอาหาร : A La Carte Menu
เวลาเปิดปิดร้าน : จ.-อา.: 17.00-01.00น.
ราคาอาหารราคาโดยรวม : 500 บาท
ที่อยู่ : 15/1 ถนนเย็นอากาศ ช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร