[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Maxim de Winter at Manderley บทที่ 1
https://ppantip.com/topic/37530955
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 2
https://ppantip.com/topic/37532252
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 3
https://ppantip.com/topic/37533240
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 4
https://ppantip.com/topic/37534191
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 5
https://ppantip.com/topic/37537614
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 6
https://ppantip.com/topic/37540586
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 7
https://ppantip.com/topic/37547736
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 8
https://ppantip.com/topic/37548356
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 9
https://ppantip.com/topic/37573389
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 10
https://ppantip.com/topic/37573581
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 11
หลังจากตื่นและทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว หล่อนกลับมานั่งที่เตียงเพื่อรอ นับว่าเป็นการรอที่ทรมานมาก หล่อนไม่แน่ใจว่าเช้านี้หล่อนจะเจอใคร มันเป็นการรอคอยที่ทรมานจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หล่อนเดินไปเปิดประตู หล่อนดีใจมากที่เห็นเขา
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
หล่อนรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงอบอุ่นแบบนี้อีกครั้ง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“เราไปกินข้าวเช้ากันก่อนดีกว่าครับ”
เขาพาหล่อนไปกินอาหารเช้าและแน่นอนว่าเขานั่งกินอาหารเช้ากับหล่อน นั่นทำให้หล่อนรู้สึกอุ่นใจมาก
“คุณแม็กน่ากลัวไหมคะ” หล่อนถามด้วยความสงสัย
เขามองหน้าหล่อนอย่างเห็นใจ “เดี๋ยวคุณก็รู้”
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาพาหล่อนขึ้นไปที่ชั้น 4 คุณแม็กรอหล่อนอยู่ที่นั่น พอมาถึงหน้าประตูห้อง หล่อนหันไปถามชายหนุ่ม
“คุณจะเข้าไปกับฉันไหม”
“อย่าเลยครับ คุณแม็กอยากจะสัมภาษณ์คุณสองต่อสอง” พูดจบ ชายหนุ่มเคาะประตูสามครั้ง
“เข้ามาได้” เสียงในห้องตอบออกมา
“คุณเข้าไปได้แล้วล่ะ” ชายหนุ่มเปิดประตูให้หล่อนเดินเข้าไป
พอหล่อนเดินเข้าไปในห้อง หล่อนตกใจมาก เพราะเบื้องหลังโต๊ะทำงานของชายหนุ่มมีวิญญาณผู้ชายร่วมร้อยคนยืนออกันเต็ม
พอเห็นหล่อนยืนเฉย คุณแม็กจึงกล่าวขึ้น
“เชิญมานั่งตรงนี้สิครับ”
ระหว่างหล่อนเดินไปตรงเก้าอี้ วิญญาณผู้ชายร่วมร้อยต่างก็แลบลิ้นปลิ้นตาจนบางคนตาถลนออกจากเบ้า ตัวสั่นและชัก หล่อนต้องกลั้นใจเดินและตรงไปนั่งที่เก้าอี้ หล่อนเห็นหน้าคุณแม็กชัดขึ้น เขาเป็นลูกครึ่งจีนกับฝรั่งที่หน้าตาดีมาก
ตอนนี้วิญญาณร่วมร้อยเข้ามาล้อมรอบตัวเขาและตัวหล่อน บางตัวพยายามเอาลิ้นมาเลียหน้าหล่อน หลายตัวเข้ามาคลอเคลียหล่อน กลิ่นเหม็นเหมือนซากศพอบอวลไปทั่ว
“อย่าตื่นเต้นไปครับ ผมอยากคุยกับคุณแค่นิดเดียวเท่านั้น ชานนท์เล่าให้ผมฟังหมดแล้วว่าคุณเป็นคนดีมาก”
หล่อนพยายามควบคุมสติจนถึงขีดสุดแล้ว แต่วิญญาณผู้ชายในห้องขณะนี้มีอยู่ร่วมห้าร้อย นอกจากมาล้อมรอบตัวหล่อนและคุณแม็กแล้ว อีกหลายร้อยยังห้อยหัวลงมาจากด้านบนราวกับหินงอกหินย้อยจากนรก
“โปรดเล่าประวัติคร่าว ๆ ให้ผมฟังหน่อย”
ระหว่างที่หล่อนเล่าประวัติให้เขาฟังนั้น พวกวิญญาณที่กำลังห้อยหัวก็ส่ายหัวไปมาร่วมร้อย แลบลิ้นปลิ้นตาจนทำให้การเล่าของหล่นหยุดเป็นพัก ๆ หล่อนเล่าให้เขาฟังทั้งหมดเว้นแต่อาการทางประสาทของหล่อน ระหว่างเล่าหล่อนพบว่ามีวิญญาณอีกหลายตนโผล่มาจากใต้โต๊ะ แล้วมาซบตรงตักของหล่อนพร้อมกับชักหงิก ๆ เลือดไหลท่วม
ขณะที่คุณแม็กกำลังเล่าเรื่องงานให้หล่อนฟัง หล่อนรู้สึกว่าในห้องขนาดใหญ่ห้องนี้มีวิญญาณอยู่นับพัน บางตนก็นอนชักดิ้นชักงอไปตามพื้น หล่อนต้องควบคุมสติเป็นอย่างมาก หล่อนไม่แน่ใจว่ามันคือภาพหลอนหรือว่าเป็นอะไรกันแน่
คุณแม็กยิ้มให้กับหล่อน “รู้สึกคุณจะประหม่ามากเลยนะครับเวลาที่คุยกับผม เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ระบบงานที่เหลือผมจะให้ชานนท์ถ่ายทอดให้คุณก็แล้วกันนะ เดี๋ยวผมขอออกไปตามชานนท์ก่อน”
คุณแม็กลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง ทิ้งให้หล่อนอยู่กับวิญญาณนับพัน ซึ่งตอนนี้ต่างสนใจในตัวหล่อนกันมากและต่างพากันมาล้อมตัวหล่อนมากขึ้นในทุกทิศทุกทาง
พวกมันเอาลิ้นมาเลียหน้าและเลียตามตัวหล่อน พวกที่อยู่ด้านล่างต่างเลียรองเท้าของหล่อน พวกที่อยู่ด้านบนยังคงห้อยหัวแล้วเอาลิ้นยาว ๆ มาไชที่หูของหล่อน ตอนนั้นหล่อนกลัวแทบขาดสติ แต่จำเป็นต้องมีสติอย่างถึงที่สุดเท่าที่หล่อนจะทำได้
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 11 และ บทที่ 12
หลังจากตื่นและทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว หล่อนกลับมานั่งที่เตียงเพื่อรอ นับว่าเป็นการรอที่ทรมานมาก หล่อนไม่แน่ใจว่าเช้านี้หล่อนจะเจอใคร มันเป็นการรอคอยที่ทรมานจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หล่อนเดินไปเปิดประตู หล่อนดีใจมากที่เห็นเขา
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
หล่อนรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงอบอุ่นแบบนี้อีกครั้ง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“เราไปกินข้าวเช้ากันก่อนดีกว่าครับ”
เขาพาหล่อนไปกินอาหารเช้าและแน่นอนว่าเขานั่งกินอาหารเช้ากับหล่อน นั่นทำให้หล่อนรู้สึกอุ่นใจมาก
“คุณแม็กน่ากลัวไหมคะ” หล่อนถามด้วยความสงสัย
เขามองหน้าหล่อนอย่างเห็นใจ “เดี๋ยวคุณก็รู้”
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาพาหล่อนขึ้นไปที่ชั้น 4 คุณแม็กรอหล่อนอยู่ที่นั่น พอมาถึงหน้าประตูห้อง หล่อนหันไปถามชายหนุ่ม
“คุณจะเข้าไปกับฉันไหม”
“อย่าเลยครับ คุณแม็กอยากจะสัมภาษณ์คุณสองต่อสอง” พูดจบ ชายหนุ่มเคาะประตูสามครั้ง
“เข้ามาได้” เสียงในห้องตอบออกมา
“คุณเข้าไปได้แล้วล่ะ” ชายหนุ่มเปิดประตูให้หล่อนเดินเข้าไป
พอหล่อนเดินเข้าไปในห้อง หล่อนตกใจมาก เพราะเบื้องหลังโต๊ะทำงานของชายหนุ่มมีวิญญาณผู้ชายร่วมร้อยคนยืนออกันเต็ม
พอเห็นหล่อนยืนเฉย คุณแม็กจึงกล่าวขึ้น
“เชิญมานั่งตรงนี้สิครับ”
ระหว่างหล่อนเดินไปตรงเก้าอี้ วิญญาณผู้ชายร่วมร้อยต่างก็แลบลิ้นปลิ้นตาจนบางคนตาถลนออกจากเบ้า ตัวสั่นและชัก หล่อนต้องกลั้นใจเดินและตรงไปนั่งที่เก้าอี้ หล่อนเห็นหน้าคุณแม็กชัดขึ้น เขาเป็นลูกครึ่งจีนกับฝรั่งที่หน้าตาดีมาก
ตอนนี้วิญญาณร่วมร้อยเข้ามาล้อมรอบตัวเขาและตัวหล่อน บางตัวพยายามเอาลิ้นมาเลียหน้าหล่อน หลายตัวเข้ามาคลอเคลียหล่อน กลิ่นเหม็นเหมือนซากศพอบอวลไปทั่ว
“อย่าตื่นเต้นไปครับ ผมอยากคุยกับคุณแค่นิดเดียวเท่านั้น ชานนท์เล่าให้ผมฟังหมดแล้วว่าคุณเป็นคนดีมาก”
หล่อนพยายามควบคุมสติจนถึงขีดสุดแล้ว แต่วิญญาณผู้ชายในห้องขณะนี้มีอยู่ร่วมห้าร้อย นอกจากมาล้อมรอบตัวหล่อนและคุณแม็กแล้ว อีกหลายร้อยยังห้อยหัวลงมาจากด้านบนราวกับหินงอกหินย้อยจากนรก
“โปรดเล่าประวัติคร่าว ๆ ให้ผมฟังหน่อย”
ระหว่างที่หล่อนเล่าประวัติให้เขาฟังนั้น พวกวิญญาณที่กำลังห้อยหัวก็ส่ายหัวไปมาร่วมร้อย แลบลิ้นปลิ้นตาจนทำให้การเล่าของหล่นหยุดเป็นพัก ๆ หล่อนเล่าให้เขาฟังทั้งหมดเว้นแต่อาการทางประสาทของหล่อน ระหว่างเล่าหล่อนพบว่ามีวิญญาณอีกหลายตนโผล่มาจากใต้โต๊ะ แล้วมาซบตรงตักของหล่อนพร้อมกับชักหงิก ๆ เลือดไหลท่วม
ขณะที่คุณแม็กกำลังเล่าเรื่องงานให้หล่อนฟัง หล่อนรู้สึกว่าในห้องขนาดใหญ่ห้องนี้มีวิญญาณอยู่นับพัน บางตนก็นอนชักดิ้นชักงอไปตามพื้น หล่อนต้องควบคุมสติเป็นอย่างมาก หล่อนไม่แน่ใจว่ามันคือภาพหลอนหรือว่าเป็นอะไรกันแน่
คุณแม็กยิ้มให้กับหล่อน “รู้สึกคุณจะประหม่ามากเลยนะครับเวลาที่คุยกับผม เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ระบบงานที่เหลือผมจะให้ชานนท์ถ่ายทอดให้คุณก็แล้วกันนะ เดี๋ยวผมขอออกไปตามชานนท์ก่อน”
คุณแม็กลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง ทิ้งให้หล่อนอยู่กับวิญญาณนับพัน ซึ่งตอนนี้ต่างสนใจในตัวหล่อนกันมากและต่างพากันมาล้อมตัวหล่อนมากขึ้นในทุกทิศทุกทาง
พวกมันเอาลิ้นมาเลียหน้าและเลียตามตัวหล่อน พวกที่อยู่ด้านล่างต่างเลียรองเท้าของหล่อน พวกที่อยู่ด้านบนยังคงห้อยหัวแล้วเอาลิ้นยาว ๆ มาไชที่หูของหล่อน ตอนนั้นหล่อนกลัวแทบขาดสติ แต่จำเป็นต้องมีสติอย่างถึงที่สุดเท่าที่หล่อนจะทำได้