[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Maxim de Winter at Manderley บทที่ 1
https://ppantip.com/topic/37530955
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 2
https://ppantip.com/topic/37532252
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 3
ยิหวารอวิษณุจนรอแทบไม่ไหว หล่อนนึกไม่ออกว่าทำไมวิษณุถึงมาช้าขนาดนี้ หรือจะมีอุบัติเหตุ ระหว่างรอ หล่อนก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หล่อนไม่เคยคิดที่จะรับงานแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่ร้อนเงินจริง ๆ ก็คงไม่รับ แต่ตอนนี้มันเลือกไม่ได้ หล่อนร้อนเงินมาก จนต้องบากหน้ารับงานที่เพื่อนเก่าของหล่อนติดต่อมา หล่อนรู้รายละเอียดก็แค่เพียงในส่วนของหล่อน หล่อนไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านั้น ไม่รู้แม้กระทั่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้ว่าจ้างว่าเขาต้องการอะไร ถามว่ามันเป็นงานขาวดำหรือสีเทา หล่อนก็ไม่สามารถที่จะตัดสินได้ หล่อนคิดในหัววนไปวนมาหลายเรื่อง แล้ววิษณุก็โผล่มา
“ทำไมถึงมาช้านักนะ”
หล่อนต่อว่าวิษณุ เพื่อนร่วมรุ่นที่ถังแตกพอ ๆ กัน
“ก็ต่อรองราคากับแท็กซี่อยู่น่ะสิ เมื่อไหร่บ้านเราจะมีแท็กซี่มิเตอร์ก็ไม่รู้”
หล่อนทำท่าไม่ค่อยพอใจ
“อย่าพูดนอกเรื่องหน่อยเลย นั่งลงและฟังสิ่งที่ฉันอยากจะให้แกทำ”
วิษณุนั่งลงแล้วยิ้ม “อ่ะ มีอะไรว่ามาเลย”
“นายจะต้องเอาประกาศรับสมัครงานนี้ไปลงในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้”
วิษณุรับกระดาษที่เขียนรายละเอียดต่าง ๆ มาอ่านอย่างสนใจ
“ทำไมถึงจะเอาลงในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวล่ะ”
“ก็เขาสืบมาแล้วว่าเป้าหมายอ่านแต่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เท่านั้น”
วิษณุอ่านวนไปมา แล้วเขาก็สงสัยบางอย่าง
“ทำไมผู้ลงประกาศจึงใช้ชื่อว่า Maxim de Winter at Manderley เขียนเป็นภาษาอังกฤษซะด้วย หนังสือพิมพ์เขาจะยอมให้ลงเหรอ”
ยิหวามีสีหน้าหงุดหงิด “เขาก็เช็คความน่าเชื่อถือแค่สองสามอย่าง แต่เขาไม่สนใจหรอกว่าผู้ประกาศจะใช้ชื่อว่าอะไร เขาเองก็อยากได้เงินเหมือนกันนั่นแหละ”
วิษณุอ่านรายละเอียดต่าง ๆ อีกรอบ
“แล้วอย่าลืมนะว่าให้ใช้เบอร์โทรศัพท์สำนักงานของแก พอเป้าหมายโทรมา ถึงบอกรายละเอียดและนัดหมาย ด้านล่างนั้นคือชื่อเป้าหมายนะ งั้นเวลามีคนโทรมา แกต้องหลอกให้เขาบอกชื่อตัวเองมาให้ได้ จะหลอกล่อยังไงก็ได้ อย่าให้ผิดตัวล่ะ ถ้าเกิดผิดตัวขึ้นมา หายนะจะเกิดกับเราสองคนนะ เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับคนสวย”
วิษณุตอบยิหวากลับไป เขาสงสัยบางอย่าง จึงถามต่อว่า
“ตกลงงานชิ้นนี้มันทุจริตหรือสุจริตกันแน่”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เรามันร้อนเงินไม่ใช่เหรอ ก็ทำ ๆ ไปเถอะ ถ้ามีใครเป็นอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอก แค่ล่อให้เป้าหมายไปจนถึงจุดนัดพบให้ได้ก็พอแล้ว เอา นี่เงินมัดจำของแก งานเสร็จแกจะได้อีกก้อนนึง”
“โห ไมเขาให้เงินดีขนาดนี้”
ยิหวายิ้มปากกว้าง “นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการไม่ใช่เหรอ”
วิษณุก็ยิ้มปากกว้างเช่นกัน
“จุดนัดพบคือที่ไหนนะ”
“อืม ... นี่ไง ที่ร้านเช่ารถอะไรสักอย่าง”
วิษณุดูรายละเอียดแล้วก็อดสงสัยไม่ได้
“ทำไมถึงนัดหล่อนมาที่ร้านเช่ารถล่ะ หรือจะให้หล่อนเช่ารถแล้วขับไปเอง”
โปรดติดตามตอนต่อไป
Maxim de Winter at Manderley บทที่ 3
ยิหวารอวิษณุจนรอแทบไม่ไหว หล่อนนึกไม่ออกว่าทำไมวิษณุถึงมาช้าขนาดนี้ หรือจะมีอุบัติเหตุ ระหว่างรอ หล่อนก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หล่อนไม่เคยคิดที่จะรับงานแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่ร้อนเงินจริง ๆ ก็คงไม่รับ แต่ตอนนี้มันเลือกไม่ได้ หล่อนร้อนเงินมาก จนต้องบากหน้ารับงานที่เพื่อนเก่าของหล่อนติดต่อมา หล่อนรู้รายละเอียดก็แค่เพียงในส่วนของหล่อน หล่อนไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านั้น ไม่รู้แม้กระทั่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้ว่าจ้างว่าเขาต้องการอะไร ถามว่ามันเป็นงานขาวดำหรือสีเทา หล่อนก็ไม่สามารถที่จะตัดสินได้ หล่อนคิดในหัววนไปวนมาหลายเรื่อง แล้ววิษณุก็โผล่มา
“ทำไมถึงมาช้านักนะ”
หล่อนต่อว่าวิษณุ เพื่อนร่วมรุ่นที่ถังแตกพอ ๆ กัน
“ก็ต่อรองราคากับแท็กซี่อยู่น่ะสิ เมื่อไหร่บ้านเราจะมีแท็กซี่มิเตอร์ก็ไม่รู้”
หล่อนทำท่าไม่ค่อยพอใจ
“อย่าพูดนอกเรื่องหน่อยเลย นั่งลงและฟังสิ่งที่ฉันอยากจะให้แกทำ”
วิษณุนั่งลงแล้วยิ้ม “อ่ะ มีอะไรว่ามาเลย”
“นายจะต้องเอาประกาศรับสมัครงานนี้ไปลงในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้”
วิษณุรับกระดาษที่เขียนรายละเอียดต่าง ๆ มาอ่านอย่างสนใจ
“ทำไมถึงจะเอาลงในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวล่ะ”
“ก็เขาสืบมาแล้วว่าเป้าหมายอ่านแต่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เท่านั้น”
วิษณุอ่านวนไปมา แล้วเขาก็สงสัยบางอย่าง
“ทำไมผู้ลงประกาศจึงใช้ชื่อว่า Maxim de Winter at Manderley เขียนเป็นภาษาอังกฤษซะด้วย หนังสือพิมพ์เขาจะยอมให้ลงเหรอ”
ยิหวามีสีหน้าหงุดหงิด “เขาก็เช็คความน่าเชื่อถือแค่สองสามอย่าง แต่เขาไม่สนใจหรอกว่าผู้ประกาศจะใช้ชื่อว่าอะไร เขาเองก็อยากได้เงินเหมือนกันนั่นแหละ”
วิษณุอ่านรายละเอียดต่าง ๆ อีกรอบ
“แล้วอย่าลืมนะว่าให้ใช้เบอร์โทรศัพท์สำนักงานของแก พอเป้าหมายโทรมา ถึงบอกรายละเอียดและนัดหมาย ด้านล่างนั้นคือชื่อเป้าหมายนะ งั้นเวลามีคนโทรมา แกต้องหลอกให้เขาบอกชื่อตัวเองมาให้ได้ จะหลอกล่อยังไงก็ได้ อย่าให้ผิดตัวล่ะ ถ้าเกิดผิดตัวขึ้นมา หายนะจะเกิดกับเราสองคนนะ เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับคนสวย”
วิษณุตอบยิหวากลับไป เขาสงสัยบางอย่าง จึงถามต่อว่า
“ตกลงงานชิ้นนี้มันทุจริตหรือสุจริตกันแน่”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เรามันร้อนเงินไม่ใช่เหรอ ก็ทำ ๆ ไปเถอะ ถ้ามีใครเป็นอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอก แค่ล่อให้เป้าหมายไปจนถึงจุดนัดพบให้ได้ก็พอแล้ว เอา นี่เงินมัดจำของแก งานเสร็จแกจะได้อีกก้อนนึง”
“โห ไมเขาให้เงินดีขนาดนี้”
ยิหวายิ้มปากกว้าง “นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการไม่ใช่เหรอ”
วิษณุก็ยิ้มปากกว้างเช่นกัน
“จุดนัดพบคือที่ไหนนะ”
“อืม ... นี่ไง ที่ร้านเช่ารถอะไรสักอย่าง”
วิษณุดูรายละเอียดแล้วก็อดสงสัยไม่ได้
“ทำไมถึงนัดหล่อนมาที่ร้านเช่ารถล่ะ หรือจะให้หล่อนเช่ารถแล้วขับไปเอง”
โปรดติดตามตอนต่อไป