สวัสดีค่ะ
ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้ามะม่วงแล้วก็จะเจอมะม่วงวางขายตามตลาดกันเต็มไปหมดเลยอยากจะชวนมาลองทำพายมะม่วงกินกันที่บ้านค่ะ สูตรนี้บอกเลยว่าไม่ต้องง้อเตาอบก็อร่อยได้โดยวันนี้จะมี ๓วิธีหลักตามจำนวนชั้นของขนมซึ่งก็คือ ตัวฐาน ส่วนครีมชีส และหน้าพายนั่นเอง ว่าแล้วเราก็มาลงมือกันเลยค่ะ
ส่วนผสมฐานพาย
-โฮมมีแครกเกอร์รสที่ชอบ ๑๘๐กรัม(๑ ห่อครึ่ง)
-เนยเค็มละลาย ๘๐กรัม
วิธีทำ
๑.นำแครกเกอร์มาบดให้เนื้อละเอียดดีแล้วเทเนยละลายลงไปคลุกให้เข้ากัน
๒.กรุใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ให้แน่นแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ ๒ชั่วโมง
(รูปนี้คือตอนที่เทแครกเกอร์บดลงไปนะคะ หลังจากนี้เราก็เริ่มกรุได้เลย)
ส่วนผสมครีมชีส
-ครีมชีส ๑ก้อน(๒๒๕กรัม)
-น้ำตาลไอซิ่ง ๘๐กรัม
-โยเกิตรสธรรมชาติหรือรสมะม่วง ๑๒๕กรัม
-นมสดรสจืด ๑๒๕มิลลิลิตร
-เนื้อมะม่วงหั่นชิ้น ๑๕๐กรัม
วิธีทำ
๑.ตีครีมชีสที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากันดีแล้วใส่โยเกิตกับนมตามลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน
๒.ผสมเนื้อมะม่วงลงไป คนให้เข้ากันแล้วเทใส่พิมพ์ที่เรากรุฐานพายเอาไว้ นำเข้าแช่ตู้เย็นต่อให้เซ็ตตัว
ส่วนผสมหน้าพาย
-มะม่วงน้ำดอกไม้ปั่นหรือหั่นเป็นชิ้น ๓๐๐ กรัม
-น้ำตาลทราย ๒๕กรัม
-น้ำเปล่า ๕๐มลลิลิตร
-น้ำมะนาว ๑ช้อนชา
-เจลาตินแผ่น ๑ ๑/๒แผ่น
-น้ำเย็น(สำหรับแช่เจลาติน)
วิธีทำ
๑.แช่เจลาตินแผ่นในน้ำเย็น ขั้นตอนนี้เราเอาไปใส่ในตู้เย็นทิ้งไว้อย่างน้อย ๑๕นาทีให้เจลาตินดูซับน้ำ
เจลาตินแผ่นที่ซับน้ำแล้วมันจะพองตัวหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
๒.นำมะม่วง น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าใส่ในหม้อขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนรอให้ส่วนผสมสุกละลายเข้ากันดีแล้วจึงเอาลงจากเตา ถ้าใครไม่ปั่นเนื้อมะม่วงก่อนเหมือนเราก็อาจจะต้องรอนานขึ้นหน่อย เสร็จแล้วจึงเอาเจลาตินที่แช่น้ำไว้มาบีบเอาน้ำออกแล้วใส่ลงไปในส่วนผสมมะม่วงของเรา คนจนเข้ากันแล้วใส่น้ำมะนาวลงไป
ชั้นนี้คือตอนที่ใส่เจลาตินลงไป ถ้าสักเกงตดีๆจะเห็นเป็นเนื้อใสๆอยู่เราก็คนให้เข้ากันไปเลยค่ะ
๓.รอให้เนื้อมะม่วงเย็นลงแล้วจึงราดลงไปบนหน้าชีสเค้กที่เซ็ทตัวแล้ว ปิดหน้าด้วยแผ่นพลาสติกแรพ เอาแช่ตู้เย็นข้ามคืนให้เจลาตินทำงานเต็มที่ หน้าพายของเราก็จะเซ็ทตัวดี พร้อมเสิร์ฟในวันถัดไปค่ะ
เสร็จแล้วก็ตัดเสิร์ฟสวยๆกันไปเลยค่ะ ต้องบอกเลยว่าพายมะม่วงสูตรนี้หวานกำลังดีและตัวฐานพายก็อร่อยปลื้มใจมากๆ
สำหรับใครที่ชอบหวานน้อยหน่อยก็สามารถปรับลดน้ำตาลลงได้หรือใครอยากให้หวานกว่านี้ก็ค่อยๆเพิ่มปริมาณแล้วชิมจนได้รสที่ชอบ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ
[SR] Mango Cheese Pie ชวนมาทำพายมะม่วงฉ่ำๆชื่นใจรับหน้าร้อนกันค่ะ
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้ามะม่วงแล้วก็จะเจอมะม่วงวางขายตามตลาดกันเต็มไปหมดเลยอยากจะชวนมาลองทำพายมะม่วงกินกันที่บ้านค่ะ สูตรนี้บอกเลยว่าไม่ต้องง้อเตาอบก็อร่อยได้โดยวันนี้จะมี ๓วิธีหลักตามจำนวนชั้นของขนมซึ่งก็คือ ตัวฐาน ส่วนครีมชีส และหน้าพายนั่นเอง ว่าแล้วเราก็มาลงมือกันเลยค่ะ
ส่วนผสมฐานพาย
-โฮมมีแครกเกอร์รสที่ชอบ ๑๘๐กรัม(๑ ห่อครึ่ง)
-เนยเค็มละลาย ๘๐กรัม
วิธีทำ
๑.นำแครกเกอร์มาบดให้เนื้อละเอียดดีแล้วเทเนยละลายลงไปคลุกให้เข้ากัน
๒.กรุใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ให้แน่นแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ ๒ชั่วโมง
(รูปนี้คือตอนที่เทแครกเกอร์บดลงไปนะคะ หลังจากนี้เราก็เริ่มกรุได้เลย)
ส่วนผสมครีมชีส
-ครีมชีส ๑ก้อน(๒๒๕กรัม)
-น้ำตาลไอซิ่ง ๘๐กรัม
-โยเกิตรสธรรมชาติหรือรสมะม่วง ๑๒๕กรัม
-นมสดรสจืด ๑๒๕มิลลิลิตร
-เนื้อมะม่วงหั่นชิ้น ๑๕๐กรัม
วิธีทำ
๑.ตีครีมชีสที่อุณหภูมิห้องกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากันดีแล้วใส่โยเกิตกับนมตามลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน
๒.ผสมเนื้อมะม่วงลงไป คนให้เข้ากันแล้วเทใส่พิมพ์ที่เรากรุฐานพายเอาไว้ นำเข้าแช่ตู้เย็นต่อให้เซ็ตตัว
ส่วนผสมหน้าพาย
-มะม่วงน้ำดอกไม้ปั่นหรือหั่นเป็นชิ้น ๓๐๐ กรัม
-น้ำตาลทราย ๒๕กรัม
-น้ำเปล่า ๕๐มลลิลิตร
-น้ำมะนาว ๑ช้อนชา
-เจลาตินแผ่น ๑ ๑/๒แผ่น
-น้ำเย็น(สำหรับแช่เจลาติน)
วิธีทำ
๑.แช่เจลาตินแผ่นในน้ำเย็น ขั้นตอนนี้เราเอาไปใส่ในตู้เย็นทิ้งไว้อย่างน้อย ๑๕นาทีให้เจลาตินดูซับน้ำ
เจลาตินแผ่นที่ซับน้ำแล้วมันจะพองตัวหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
๒.นำมะม่วง น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าใส่ในหม้อขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนรอให้ส่วนผสมสุกละลายเข้ากันดีแล้วจึงเอาลงจากเตา ถ้าใครไม่ปั่นเนื้อมะม่วงก่อนเหมือนเราก็อาจจะต้องรอนานขึ้นหน่อย เสร็จแล้วจึงเอาเจลาตินที่แช่น้ำไว้มาบีบเอาน้ำออกแล้วใส่ลงไปในส่วนผสมมะม่วงของเรา คนจนเข้ากันแล้วใส่น้ำมะนาวลงไป
ชั้นนี้คือตอนที่ใส่เจลาตินลงไป ถ้าสักเกงตดีๆจะเห็นเป็นเนื้อใสๆอยู่เราก็คนให้เข้ากันไปเลยค่ะ
๓.รอให้เนื้อมะม่วงเย็นลงแล้วจึงราดลงไปบนหน้าชีสเค้กที่เซ็ทตัวแล้ว ปิดหน้าด้วยแผ่นพลาสติกแรพ เอาแช่ตู้เย็นข้ามคืนให้เจลาตินทำงานเต็มที่ หน้าพายของเราก็จะเซ็ทตัวดี พร้อมเสิร์ฟในวันถัดไปค่ะ
เสร็จแล้วก็ตัดเสิร์ฟสวยๆกันไปเลยค่ะ ต้องบอกเลยว่าพายมะม่วงสูตรนี้หวานกำลังดีและตัวฐานพายก็อร่อยปลื้มใจมากๆ สำหรับใครที่ชอบหวานน้อยหน่อยก็สามารถปรับลดน้ำตาลลงได้หรือใครอยากให้หวานกว่านี้ก็ค่อยๆเพิ่มปริมาณแล้วชิมจนได้รสที่ชอบ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ