เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ระบบราง ปฏิรูปรถไฟ ตัวเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ที่ผ่านมาเราได้เห็นการพัฒนาระบบคมนาคมทางถนนและทางอากาศในประเทศมาหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยเห็นการพัฒนาระบบราง แต่วันนี้ดั่งปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาลลงนามก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง พร้อมประกาศต่อยอดการพัฒนาโครงข่ายระบบรางทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะระบบรางเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ  


ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์รถไฟไทย นับตั้งแต่ก่อตั้งการรถไฟแห่งประเทศไทยมา เพราะเป็นการพัฒนาระบบรางอย่างเป็นรูปธรรม และจะขับเคลื่อนการพัฒนาระบบรางต่อไปอีก โดยให้นโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำแผนพัฒนาเส้นทางสายหลักและสายรองให้เป็นโครงข่ายทั่วประเทศเชื่อมกันเป็นเส้นเลือดฝอยไปยังจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะระบบรางเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

โดยรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ที่ลงนามวันนี้ประกอบด้วย
•    โครงการรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 136 กม.
•    รถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 168 กม.
•    รถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม.
•    รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กม.
•    รถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.

รายละเอียดข่าว:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ไม่ใช่เพียงระบบรางภายใต้การดูแลของ รฟท. เท่านั้นที่กำลังมีการพัฒนา แต่ในส่วนปลีกย่อยระดับจังหวัดก็กำลังมีการพัฒนาระบบรางทางเลือก เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและการขยายตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน


เป็นต้นว่า จังหวัดในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี อย่างระยองก็กำลังดำเนิน “โครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนจังหวัดระยอง” ที่เน้นการเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนหลักอย่างรถไฟความเร็วสูง ให้สามารถเชื่อมโยงกับสนามบินอู่ตะเภาและแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัด โดยในเบื้องต้นจะใช้รถบัสไฟฟ้าให้บริการ และมีแผนสำหรับอนาคตในระยะ 10 – 20 ปีที่จะนำรถไฟฟ้ารางเบาให้บริการแทน

อ่านรายละเอียดที่:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


นอกจากนี้ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็กำลังเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลเฟสแรก คลองหวะ-ตลาดกิมหยง-หาดใหญ่ ระยะทาง 12.54 กม. ซึ่งผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA แล้ว โดยการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลนี้ จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของเมืองเศรษฐกิจในสงขลา และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมือง นอกจากนี้จะเป็นโครงการรถไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสายแรกของไทยร่วมกับโมโนเรลที่ภูเก็ต

อ่านรายละเอียดที่:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยกำลังพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างก้าวกระโดด โดยพยายามเชื่อมการคมนาคมทุกทางเข้าเป็นโครงข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่