[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เครดิต FB หยุดดัดจริตประเทศไทย
คสช. เตรียมผุดโครงการ "รถไฟความเร็วสูงมินิ" ย้ำอีกครั้งว่ามินิ ซึ่งตอนแรกก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ทำรถไฟความเร็วสูง จะทำรถไฟรางคู่
ก็ไม่รู้จะเอายังไง ล่าสุดเห็นสำนักข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ไปเอาข้อมูลมาว่าเตรียมทำรถไฟความเร็วสูงมินิ คือกึ่งๆระหว่างรางคู่กับความเร็วสูง
ความเร็ว 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ของพรรคเพื่อไทย 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง) แล้วพูดให้เหมือนว่าดูดีนะว่าใช้งบลดไป 20-30%
ก็มันตัดสาย "กรุงเทพฯ-เชียงใหม่" ทิ้ง ทำเฉพาะ กรุงเทพฯ-หนองคาย กับ กรุงเทพฯ - ปาดังเบซาร์ ใช้งบเท่าเดิมก็แปลกละ
แต่เฟสเริ่มต้น นำร่อง "กรุงเทพฯ - ระยอง" โดยจะขยายสถานีไปถึงสนามบินอู่ตะเภา แล้วลงทุนประหลาด
คือระบบเดียวกัน แต่ทำกันคนละบริษัท แบ่งเค้กกันดังนี้
สายกรุงเทพฯ - หนองคาย ทะลุไปจีน ให้ประเทศ "จีน" ศึกษาลงทุน
กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ให้ "ญี่ปุ่น" ศึกษาลงทุน เฟสแรกเริ่มอนุมัติกลางปี 2558
รัฐบาลประยุทธ์เดินหน้าโครงการมินิไฮสปีดเทรนความเร็ว 180 กม./ชม. เชื่อมการค้าจีนตอนใต้จาก "หนองคาย" ทะลุ "ปาดังเบซาร์" ระยะทาง 1,837 กม. นำร่อง 2 สาย "กทม.-โคราช และ กทม.-ระยอง" ปลุกเศรษฐกิจและท่องเที่ยวภาคอีสาน-ตะวันออก กลางปีหน้าศึกษาเสร็จ คาดเงินลงทุนถูกกว่าไฮสปีดเทรนเพื่อไทย 20-30% จับตา "จีน-ญี่ปุ่น" แบ่งเค้ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ได้พูดถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคม จะมียุทธศาสตร์การพัฒนาระยะสั้นและระยะยาว
ว่าจะไปในทิศทางไหน เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนและพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป ทั้งด้านเศรษฐกิจในประเทศ ต่างประเทศ อาเซียน
และเขตเศรษฐกิจพิเศษ สั่งสร้างทางคู่เชื่อมชายแดน
"ต้องวางแผนเส้นทางคมนาคมให้สอดคล้องกัน จะเชื่อมโยงอย่างไรในประเทศและไปพื้นที่ชายแดน ไปอาเซียน อย่างวันนี้จะสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มในปี"57-58 เส้นทางที่จำเป็นหลัก ๆ จะไปด่านชายแดน เป็นการขนส่งสินค้า และเตรียมเชื่อมต่อกับประชาคมโลกต่อไปที่ไกลออกไปจากรอบบ้านเรา
ต้องเตรียมแผนอนาคตไว้" พลเอกประยุทธ์กล่าวและว่า
ขณะเดียวกันในประเทศต้องเพิ่มเส้นทางการขนส่งสินค้า ต่อไปต้องแยกสินค้ากับขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งรถโดยสารจะต้องวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า
อาจจะใช้รางแบบ 1.435 เมตร และใช้รถรุ่นใหม่มาวิ่งบริการ ซึ่งแนวทางการพัฒนาในอนาคตจะต้องเดินไปตามนี้ ต้องมีการวางแผนว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปีไหนและแหล่งเงินที่จะมาลงทุนก่อสร้าง ทางฝ่ายเศรษฐกิจจะต้องไปหาวิธีการ เช่น เพิ่มเศรษฐกิจการค้าขาย
เฟสแรกได้ข้อสรุปกลางปีหน้า
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลางปีหน้าผลการศึกษาโครงการการพัฒนารถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เชื่อมการค้าประเทศจีนตอนใต้จะแล้วเสร็จในเส้นทางระยะเร่งด่วน สายหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง-มาบตาพุด และแก่งคอย-บ้านภาชี-ชุมทางบางซื่อ ระยะทาง 867 กม. โดยจะนำร่องระยะแรก ได้แก่ ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-ระยอง รูปแบบโครงการจะสร้างบนทางใหม่คู่ขนานไปกับแนวรถไฟปัจจุบัน และขบวนรถจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าความเร็ว 180 กม./ชม.
"นโยบายของรัฐบาลจะเร่งพัฒนารถไฟทางคู่ระยะแรก 6 สาย ให้เสร็จใน 4-5 ปีข้างหน้า และจะพัฒนารถไฟทางคู่วิ่งด้วยความเร็วสูงควบคู่ไปด้วย
แต่จะปรับให้สอดรับกับความต้องการในการเดินทางและการท่องเที่ยว ปีหน้าจะชัดเจนว่ารูปแบบเหมาะสมจะขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสาร รวมถึงเม็ดเงินลงทุนด้วย"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1414061587
คมนาคมยอมรับใช้เงินลงทุน 3 ล้านล้านบาท เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ 8 ปี
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกระทรวงคมนาคมในยุทธศาสตร์ 8 ปีว่า จะใช้เงินลงทุนมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งมีแผนดำเนินการเร่งรัดการลงทุนทุกระบบขนส่ง เช่น โครงการรถไฟทางคู่ทั้งโครงการราง 1 เมตร และ 1.435 เมตร ภายในปี 2559 ระบบรถไฟทางคู่จะมีเพิ่มขึ้นอีก 900 กม. ทำให้สัดส่วนรถไฟทางคู่ของไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับสัดส่วนระบบรางทั้งหมด นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดทั้งโครงการรถไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาภายในเมือง การพัฒนาทางหลวง และมอเตอร์เวย์ การพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 และท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในยุทธศาสตร์ 8 ปีที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทย ซึ่งจากแผนงานที่กระทรวงคมนาคมเตรียมไว้นั้น มั่นใจว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปี 2558 จะมากกว่าปี 2557 แน่นอน ประมาณร้อยละ 5-10 หรือ มีงบประมาณลงทุนจากหน่วยงานราชการ และ รัฐวิสาหกิจ ไตรมาสละ 3 แสนล้านบาท รวมเป็น 1.2ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ โดยขณะนี้รัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจนว่าสำหรับโครงการที่เคยล่าช้าในอดีตและรอการเซ็นสัญญาเพื่อเริ่มก่อสร้าง ก็จะมีการลงนามสัญญาทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม 2557 และสามารถเริ่มก่อสร้างไตรมาส 1 ปี 2558 ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแผนเศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 3.5-4.5 ตามที่ สศช.ประมาณการไว้
"ล่าสุดทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกเติบโตร้อยละ 3.3 เป็นร้อยละ 3.8 เช่นเดียวกับธนาคารโลกที่ปรับประมาณเศรษฐกิจโลกปี 2558 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.6 เป็นร้อยละ 3.2 ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากการส่งออกไทยปีหน้ามีการเติบโตมากกว่าร้อยละ 5 จะผลักดันให้ เศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 3.5-4.5 ตามที่ สศช.ประมาณการไว้" นายอาคมกล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1414148997
สรุปทั่นๆ ทั้งหลายจะอยู่กี่ปีครับ ??? ไหนบอกว่ามาปฏิรูปประเทศ
แก้ไข ลืมใส่ลิ้งครับ
รัฐบาลประยุทธ์ผุดมินิไฮสปีดเทรน นำร่อง2สายไป "โคราช-ระยอง" 180กม./ชม.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รัฐบาลประยุทธ์เดินหน้าโครงการมินิไฮสปีดเทรนความเร็ว 180 กม./ชม. เชื่อมการค้าจีนตอนใต้จาก "หนองคาย" ทะลุ "ปาดังเบซาร์" ระยะทาง 1,837 กม. นำร่อง 2 สาย "กทม.-โคราช และ กทม.-ระยอง" ปลุกเศรษฐกิจและท่องเที่ยวภาคอีสาน-ตะวันออก กลางปีหน้าศึกษาเสร็จ คาดเงินลงทุนถูกกว่าไฮสปีดเทรนเพื่อไทย 20-30% จับตา "จีน-ญี่ปุ่น" แบ่งเค้ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ได้พูดถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคม จะมียุทธศาสตร์การพัฒนาระยะสั้นและระยะยาว
ว่าจะไปในทิศทางไหน เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนและพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป ทั้งด้านเศรษฐกิจในประเทศ ต่างประเทศ อาเซียน
และเขตเศรษฐกิจพิเศษ สั่งสร้างทางคู่เชื่อมชายแดน
"ต้องวางแผนเส้นทางคมนาคมให้สอดคล้องกัน จะเชื่อมโยงอย่างไรในประเทศและไปพื้นที่ชายแดน ไปอาเซียน อย่างวันนี้จะสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มในปี"57-58 เส้นทางที่จำเป็นหลัก ๆ จะไปด่านชายแดน เป็นการขนส่งสินค้า และเตรียมเชื่อมต่อกับประชาคมโลกต่อไปที่ไกลออกไปจากรอบบ้านเรา
ต้องเตรียมแผนอนาคตไว้" พลเอกประยุทธ์กล่าวและว่า
ขณะเดียวกันในประเทศต้องเพิ่มเส้นทางการขนส่งสินค้า ต่อไปต้องแยกสินค้ากับขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งรถโดยสารจะต้องวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า
อาจจะใช้รางแบบ 1.435 เมตร และใช้รถรุ่นใหม่มาวิ่งบริการ ซึ่งแนวทางการพัฒนาในอนาคตจะต้องเดินไปตามนี้ ต้องมีการวางแผนว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปีไหนและแหล่งเงินที่จะมาลงทุนก่อสร้าง ทางฝ่ายเศรษฐกิจจะต้องไปหาวิธีการ เช่น เพิ่มเศรษฐกิจการค้าขาย
เฟสแรกได้ข้อสรุปกลางปีหน้า
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลางปีหน้าผลการศึกษาโครงการการพัฒนารถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เชื่อมการค้าประเทศจีนตอนใต้จะแล้วเสร็จในเส้นทางระยะเร่งด่วน สายหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง-มาบตาพุด และแก่งคอย-บ้านภาชี-ชุมทางบางซื่อ ระยะทาง 867 กม. โดยจะนำร่องระยะแรก ได้แก่ ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-ระยอง รูปแบบโครงการจะสร้างบนทางใหม่คู่ขนานไปกับแนวรถไฟปัจจุบัน และขบวนรถจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าความเร็ว 180 กม./ชม.
"นโยบายของรัฐบาลจะเร่งพัฒนารถไฟทางคู่ระยะแรก 6 สาย ให้เสร็จใน 4-5 ปีข้างหน้า และจะพัฒนารถไฟทางคู่วิ่งด้วยความเร็วสูงควบคู่ไปด้วย
แต่จะปรับให้สอดรับกับความต้องการในการเดินทางและการท่องเที่ยว ปีหน้าจะชัดเจนว่ารูปแบบเหมาะสมจะขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสาร รวมถึงเม็ดเงินลงทุนด้วย"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1414061587
คมนาคมยอมรับใช้เงินลงทุน 3 ล้านล้านบาท เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ 8 ปี
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกระทรวงคมนาคมในยุทธศาสตร์ 8 ปีว่า จะใช้เงินลงทุนมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งมีแผนดำเนินการเร่งรัดการลงทุนทุกระบบขนส่ง เช่น โครงการรถไฟทางคู่ทั้งโครงการราง 1 เมตร และ 1.435 เมตร ภายในปี 2559 ระบบรถไฟทางคู่จะมีเพิ่มขึ้นอีก 900 กม. ทำให้สัดส่วนรถไฟทางคู่ของไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับสัดส่วนระบบรางทั้งหมด นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดทั้งโครงการรถไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาภายในเมือง การพัฒนาทางหลวง และมอเตอร์เวย์ การพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 และท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในยุทธศาสตร์ 8 ปีที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทย ซึ่งจากแผนงานที่กระทรวงคมนาคมเตรียมไว้นั้น มั่นใจว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปี 2558 จะมากกว่าปี 2557 แน่นอน ประมาณร้อยละ 5-10 หรือ มีงบประมาณลงทุนจากหน่วยงานราชการ และ รัฐวิสาหกิจ ไตรมาสละ 3 แสนล้านบาท รวมเป็น 1.2ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ โดยขณะนี้รัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจนว่าสำหรับโครงการที่เคยล่าช้าในอดีตและรอการเซ็นสัญญาเพื่อเริ่มก่อสร้าง ก็จะมีการลงนามสัญญาทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม 2557 และสามารถเริ่มก่อสร้างไตรมาส 1 ปี 2558 ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแผนเศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 3.5-4.5 ตามที่ สศช.ประมาณการไว้
"ล่าสุดทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกเติบโตร้อยละ 3.3 เป็นร้อยละ 3.8 เช่นเดียวกับธนาคารโลกที่ปรับประมาณเศรษฐกิจโลกปี 2558 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.6 เป็นร้อยละ 3.2 ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากการส่งออกไทยปีหน้ามีการเติบโตมากกว่าร้อยละ 5 จะผลักดันให้ เศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 3.5-4.5 ตามที่ สศช.ประมาณการไว้" นายอาคมกล่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1414148997
สรุปทั่นๆ ทั้งหลายจะอยู่กี่ปีครับ ??? ไหนบอกว่ามาปฏิรูปประเทศ
แก้ไข ลืมใส่ลิ้งครับ