ประสบการณ์การวิ่งและ Trip ไปหัวหินพัก ibis 2 วัน 1 คืน

ก่อนอื่นเราก็จองโรงแรมโดยใช้บริการ Ctrip เป็นครั้งแรก สะดวกเรียบร้อยดี
ที่จอดรถ-มีจำนวนจำกัด ต้องข้ามไปจอดฝั่งตรงข้าม พนักงานบริการดี
อาหาร-โอเค มีความหลากหลาย
บริการ-ควรปรับปรุง เรื่องการให้ข้อมูล เรื่องข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ การให้ข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรดีกว่าคำพูดเสมอเพราะพนักงานแต่ละคนพูดไม่เหมือนกันทำให้สับสน เราชอบที่โรงแรมมีบริการ shuttle bus แต่พนักงานไม่ได้ประชาสัมพันธ์ทำให้ไม่ทราบข้อมูล

สรุปค่าใช้จ่าย
1.ค่าโรงแรม ibis 1,228 บาท(รวมอาหารเช้า)
2.ค่าน้ำมัน+ทางด่วน 1,000 บาท
3.ค่าวิ่งประมาณ 900 บาท(รวมอาหารเย็นวันก่อนแข่งขัน+อาหารเช้าวันแข่งขัน+เสื้อ+เหรียญ)
3.ค่าอาหาร+shopping

เดินทางจากกรุงเทพ-หัวหินใช้เวลาประมาณ 3.30-4 ชั่วโมง
แวะ Portochino
check-in ที่โรงแรม พนักงานถามว่านำสัตว์เลี้ยงมาด้วยหรือเปล่า รอบนี้ไม่ต้องมัดจำ เราชอบบริการแบบนี้ เป็นบริการที่ทุกธุรกิจควรจะทำ จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบเดิม นึกถึงเวลาคุณไปร้านอาหาร คุณมักจะมีร้านที่คุณไปประจำ คุณสามารถยกมือเป็นสัญญาณแล้วพนักงานที่ร้านก็จะรู้ทันทีว่าคุณจะสั่งเมนูอะไร เพราะคุณจะสั่งเมนูนั้นทุกครั้ง ดังนั้นถ้าทุกธุรกิจมีบริการแบบนี้จะเป็นบริการที่ลูกค้าชอบมาก ในภาวะที่ธุรกิจแข่งขันกันอย่างรุนแรง สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย แต่บริการที่คุณทำให้ลูกค้าประทับใจ มันมีความแตกต่างกันเสมอ เหมือนกับเวลาที่คุณจ้างพนักงานทุกคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน

เดินทางไปฟังการแบ่งปันของนักกีฬา เรื่องอาหารและประสบการณ์ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับเราซึ่งเป็นนักวิ่งมือใหม่ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ซึ่งวิ่งประจำอาจไม่สนใจ เนื่องจากเราเริ่มวิ่งครั้งแรกที่ 10 กม. ปรากฎว่าตะคริวกิน ปวดข้อเท้า ปกติแต่ละวันเดินน้อยมาก แต่คิดว่า 10 กม. แค่ 2 ชั่วโมงคงไม่เป็นไร ปรากฎว่าเจอทางชันขึ้นสะพาน จึงรู้สึกว่าหนักเกินไปสำหรับครั้งแรก แต่เนื่องจากเป็นคนที่ออกกำลังกายมาหลากหลาย ทั้งว่ายน้ำ ไทเก๊ก บาสเก็ตบอล ปิงปอง แบตมินตัน โยคะ แอโรบิค เต้นรำ ฟิตเนส เดิน ฯลฯ คิดว่ากล้ามเนื้อขาคงแข็งแรง ไม่มีปัญหาเรื่องแคลเซียม แต่ขาดวิตามินดีเพราะไม่ค่อยเจอแดด ปกติแคลเซียมกินจากผักจะดีกว่ากินแคลเซียมเม็ด วกกลับมาเรื่องอาหารควรกินอาหารก่อนเตรียมวิ่งประมาณ 3 วัน อาหารที่ต้องกินได้แค่คาร์โบไฮเดรต บางคนกินเจลด้วย เราก็ไม่รู้จักว่าเจลคืออะไร ? แต่เพื่อนที่วิ่งประจำบอกมีเยอะเลย ฝ่ายโภชนาการแนะนำนมช็อคโกแลต เกลือแร่ (ไม่ใช่สำหรับท้องเสีย) สิ่งที่คาดหวังอยากให้คนวิ่งจัดคือการวอร์มอัพ บางคนที่วิ่งประจำหรือเป็นนักกีฬาคงจะวอร์มกันอยู่แล้วแต่สำหรับมือใหม่ การวอร์มอัพก่อนและหลังออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการซ้อมการวิ่ง วางแผนซ้อมประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องซ้อมทุกวัน การวิ่งที่ไม่ได้ซ้อมอาจทำให้บาดเจ็บ โดยประสบการณ์ที่ได้ฟังคือเดินไม่ได้ 1 ปี ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก การออกกำลังกายอาจบาดเจ็บได้เสมอ บางคนวิ่งจนต้องผ่าตัดก็มี
ครั้งแรกที่เราวิ่งทำให้เรารู้สึกอยากวิ่งมาราธอนแต่คิดว่ามันยาก พอมาฟังนักวิ่งพูดถึงการวิ่ง 100 กม. ก็คิดว่ามาราธอนก็ไม่มากเท่าไหร่ การวิ่งควรจะวิ่งแข่งกับตัวเอง สำหรับเราซึ่งไม่ได้หวังว่าจะวิ่งเร็วแต่อยากเน้นการวิ่งให้มีสุขภาพดี เพราะการออกกำลังกายเป็นยาวิเศษ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่