ทุกวันนี้ ยุคมันเปลี่ยนไป สัมคมเราเปลี่ยนไป
เว้นแต่ครอบครัวนั้น มีบุญจริงๆถึงเข้าใจกันและกัน
พ่อ แม่ ต่างก็ทำงาน ต่างคนก็ต่างดิ้นรนวิถีชีวิตในแบบของตัวเอง จนมองไม่เห็นบางสิ่งบางอย่างทางจิตใจนั้น เลยทำให้เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจแก่ตนเองและผู้อื่น ครอบครัวจะผาสุขได้ ไม่ใช่ไปบอกลูกหรือบอกพ่อแม่ อย่างนั้นอย่างนี้
เพียงแต่เราต้องเข้าใจถึงจิต ถึงใจตัวเองให้ดีพอ จนเรามีปัญญาที่อยู่กับครอบครัวอย่างผาสุข
คือ เรียนรู้จักตัวเองเสียก่อน
พระสัทธรรม สัมมาสัมพุทธ จริงแท้แน่นอน คำสอนไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันก็เป็นอยู่อย่างนั้น
หนทางการปฏิบัติ
รู้ทัน ความรู้สึกตัวเอง
เช่น. เราดูหนังอยู่ เราเล่นเกมอยู่ หรือ ทำอะไรที่มีความสุข.
เกิด มีคนมาขัดจังหวะ. แล้วรู้สึกไม่พอใจ หงุดงิด หรือน้อยใจ เสียใจ. อยู่ในตระกูลเดียวกับ โทสะ
มีสติระลึกรู้เลย จุดนี้สำคัญมาก ใช้ชีวิตประจำวัน
ที่ครอบครัวทะเลาเพราะ จุดนี้แหละ มันสะสมได้จนเป็นเรื่องเป็นราว ต่างๆทางความคิด
มันอยู่ในกฏไตรลักษณ์ เพราะ ไม่ยอมรับสภาวะนั้น
เลยอยากให้ความสุขอยู่นานๆ เลย หงุดงิด ลำคาญใจ แค่รู้สึก
จุดนี้ จุดสำคัญจุดสุดยอดของการปฏิบัติ
รู้ทันความรู้สึกตัวเองบ่อย เวลาจิตใจเปลี่ยนแปลง
สัมคมเปลี่ยนไป
ลูกมีมือถือ เที่ยว
พ่อ แม่ ทำงานดิ้นรน
ตัวเดียวกัน คือ. ความสุข
พออยากให้ความสุขอยู่นานๆ ก็เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจตัวเอง และเกิดการสะสม
เพราะไม่รู้สึกตัวนั้นเอง ไม่รู้ทันจิตใจ หลงไปในโลกความคิด หรือ ไปสนใจคนที่ทำให้เราหงุดงิด
เลยทำให้ อยากเข้าวัด ไปปฏิบัติธรรม ไปนั่งสมาธิให้หายโกรธ แท้ที่จริงแล้ว เรากำลังหนีทุกข์
หนีมาทั้งชีวิต จนมันสุดโต่งทั้งภายในจิตใจและความคิด
จนไม่อาจเห็นความจริง ที่ธรรมดามากๆ ของง่ายๆ
แต่ละเลยที่จะรู้
( ขัดแย้ง หมายถึง คลื่นภายในจิตใจกระซับกระส่าย เปลี่ยนไป เลยเกิดสภาวะอารมณ์ต่างๆ )
ความโกรธเป็น อนัตตา
มันโกรธเอง
แม้แต่ความพอใจ. ความชอบใย
หรือ ความไม่พอใจ
มันเป็นเอง
ต่อให้เราคิด
แต่ความรู้สึกมันก็แสดงอยู่
ประมาณว่า คนในครอบครัว โกรธกัน แต่ไม่รู้สึกตัว
แค่จะไปรู้สึกตัว ตอนที่ระเบิด เกิดเรื่องราวใหญ่แล้ว
กระทู้นี้ไม่เกี่ยวกับ พระสงฆ์ นะครับ
พระสัทธรรม หมายความว่าที่ผมแปลคือ
ผมรู้ธรรมของสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นความจริงอัน ประเสริฐ สามารถปฏิบัติได้ อยู่กับครอบครัวได้อย่าง ผาสุขคือ รู้ทันความรู้สึกตัวเอง จนเห็นสภาวะธรรมทั้งหลาย คือ. อนัตตา
ไม่ใช่ดับกิเลส
รู้ทันจิตโทสะ ส่งเสริมให้ครอบครัวเป็นสุข
เว้นแต่ครอบครัวนั้น มีบุญจริงๆถึงเข้าใจกันและกัน
พ่อ แม่ ต่างก็ทำงาน ต่างคนก็ต่างดิ้นรนวิถีชีวิตในแบบของตัวเอง จนมองไม่เห็นบางสิ่งบางอย่างทางจิตใจนั้น เลยทำให้เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจแก่ตนเองและผู้อื่น ครอบครัวจะผาสุขได้ ไม่ใช่ไปบอกลูกหรือบอกพ่อแม่ อย่างนั้นอย่างนี้
เพียงแต่เราต้องเข้าใจถึงจิต ถึงใจตัวเองให้ดีพอ จนเรามีปัญญาที่อยู่กับครอบครัวอย่างผาสุข
คือ เรียนรู้จักตัวเองเสียก่อน
พระสัทธรรม สัมมาสัมพุทธ จริงแท้แน่นอน คำสอนไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันก็เป็นอยู่อย่างนั้น
หนทางการปฏิบัติ
รู้ทัน ความรู้สึกตัวเอง
เช่น. เราดูหนังอยู่ เราเล่นเกมอยู่ หรือ ทำอะไรที่มีความสุข.
เกิด มีคนมาขัดจังหวะ. แล้วรู้สึกไม่พอใจ หงุดงิด หรือน้อยใจ เสียใจ. อยู่ในตระกูลเดียวกับ โทสะ
มีสติระลึกรู้เลย จุดนี้สำคัญมาก ใช้ชีวิตประจำวัน
ที่ครอบครัวทะเลาเพราะ จุดนี้แหละ มันสะสมได้จนเป็นเรื่องเป็นราว ต่างๆทางความคิด
มันอยู่ในกฏไตรลักษณ์ เพราะ ไม่ยอมรับสภาวะนั้น
เลยอยากให้ความสุขอยู่นานๆ เลย หงุดงิด ลำคาญใจ แค่รู้สึก
จุดนี้ จุดสำคัญจุดสุดยอดของการปฏิบัติ
รู้ทันความรู้สึกตัวเองบ่อย เวลาจิตใจเปลี่ยนแปลง
สัมคมเปลี่ยนไป
ลูกมีมือถือ เที่ยว
พ่อ แม่ ทำงานดิ้นรน
ตัวเดียวกัน คือ. ความสุข
พออยากให้ความสุขอยู่นานๆ ก็เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจตัวเอง และเกิดการสะสม
เพราะไม่รู้สึกตัวนั้นเอง ไม่รู้ทันจิตใจ หลงไปในโลกความคิด หรือ ไปสนใจคนที่ทำให้เราหงุดงิด
เลยทำให้ อยากเข้าวัด ไปปฏิบัติธรรม ไปนั่งสมาธิให้หายโกรธ แท้ที่จริงแล้ว เรากำลังหนีทุกข์
หนีมาทั้งชีวิต จนมันสุดโต่งทั้งภายในจิตใจและความคิด
จนไม่อาจเห็นความจริง ที่ธรรมดามากๆ ของง่ายๆ
แต่ละเลยที่จะรู้
( ขัดแย้ง หมายถึง คลื่นภายในจิตใจกระซับกระส่าย เปลี่ยนไป เลยเกิดสภาวะอารมณ์ต่างๆ )
ความโกรธเป็น อนัตตา
มันโกรธเอง
แม้แต่ความพอใจ. ความชอบใย
หรือ ความไม่พอใจ
มันเป็นเอง
ต่อให้เราคิด
แต่ความรู้สึกมันก็แสดงอยู่
ประมาณว่า คนในครอบครัว โกรธกัน แต่ไม่รู้สึกตัว
แค่จะไปรู้สึกตัว ตอนที่ระเบิด เกิดเรื่องราวใหญ่แล้ว
กระทู้นี้ไม่เกี่ยวกับ พระสงฆ์ นะครับ
พระสัทธรรม หมายความว่าที่ผมแปลคือ
ผมรู้ธรรมของสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นความจริงอัน ประเสริฐ สามารถปฏิบัติได้ อยู่กับครอบครัวได้อย่าง ผาสุขคือ รู้ทันความรู้สึกตัวเอง จนเห็นสภาวะธรรมทั้งหลาย คือ. อนัตตา
ไม่ใช่ดับกิเลส