อ. สุจินต์ บอกว่า ความโกรธ เป็นธรรมะ เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา ความโกรธจะเกิด ก็เพราะปัจจัย เมื่อเกิดแล้ว ก็ดับลงทันทีอย่างรวดเร็ว แต่ที่เห็นว่าโกรธอยู่นาน ก็เพราะยังมีปัจจัยให้ความโกรธยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่เมื่อหมดปัจจัย ความโกรธก็หายไป
สิ่งที่อาจารย์สุจินต์พูด ก็ตรงกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา
แต่คนนอกศาสนาเข้าใจว่า ความโกรธ ควบคุมได้ จึงเกิดคอร์ส Anger Management
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “นาหํภิกฺขเว โลเกน วิวทามิ” แปลความว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราตถาคต ย่อมไม่ขัดแย้งกับชาวโลก แต่ชาวโลกย่อมขัดแย้งกับเรา"
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา
มีใครไม่เห็นด้วยกับพระพุทธเจ้าในพระพุทธพจน์ข้างต้น ต้องการโต้แย้งกับพระพุทธเจ้ามั้ยครับ
ถ้ามี รบกวนช่วยแสดงเหตุผลด้วยครับ
ความโกรธ สามารถควบคุมบังคับบัญชาได้หรือไม่
สิ่งที่อาจารย์สุจินต์พูด ก็ตรงกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา
แต่คนนอกศาสนาเข้าใจว่า ความโกรธ ควบคุมได้ จึงเกิดคอร์ส Anger Management
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “นาหํภิกฺขเว โลเกน วิวทามิ” แปลความว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราตถาคต ย่อมไม่ขัดแย้งกับชาวโลก แต่ชาวโลกย่อมขัดแย้งกับเรา"
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา
มีใครไม่เห็นด้วยกับพระพุทธเจ้าในพระพุทธพจน์ข้างต้น ต้องการโต้แย้งกับพระพุทธเจ้ามั้ยครับ
ถ้ามี รบกวนช่วยแสดงเหตุผลด้วยครับ