สวัสดีครับ เพื่อนชาวพันทิพทุกๆท่าน กระทู้นี้ไม่ได้รีวิวอะไรนะครับ เพียงแต่มาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักด้วยการเต้นแอโรบิค พร้อมคุมอาหาร (คุมแบบไม่ต้องซีเรียสน่ะครับ)
ผมหนัก 105 kg. ครับ ตอนนี้เหลือ 96 ทางออกที่ดีที่สุด คือการคุมอาหารออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนว่าใครๆก็รู้เรื่องนี้ดี คนอ้วนอย่างผมก็พยายามแล้วก็ท้อใจ
เจ้บข้อเท้า มีคนให้วิ่งเหยาะๆ ก็เจ็บขา ขี้เกียจทำ แต่ก็ไม่ท้อครับ หาวิธีออกกำลังไม่ได้เจ็บขา จนพบคำตอบ คือการเต้นแอโรบิค แต่ต้องเลือกที่ถูกกับ
สริระคนอ้วนด้วยนะครับ ไม่ใช่ทุกอย่างจะได้เหมือนกันหมด
และนี่คือแอโรบิคที่ผมเริ่มต้นครับ
ท่าง่ายๆ ไม่มีอะไรมากมาย แต่อย่าดูถูกเลยนะครับ มันรีดเหงื่อได้ดีมาทีเดียว แค่ 15 นาทีเป็นต้นไป ก็รู้เรื่อง อันนี้ 45 นาที เต้นไปอย่าหยุด และทำทุกวันจนชิน
ผมลองแล้ว ไม่ทรมาณสังขารเลยครับ
เมื่อเริ่มชำนาญกับท่าเต้นแล้ว มาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย อันนี้ท่าเดิม เพิ่มเติมคือจังหวะมันส์ และออกแรงมากขึ้น สั้นๆเพียง 15 นาทีอาจทำสลับกับคลิปแรก วันนี้คลิปนี้ พรุ่งนี้ก็กลับไปแบบเดิม
ฝึกไปเรื่อยๆนะครับ จนกล้ามเนื้อทั้วร่างกายเริ่มชินแล้ว และลองดูคลิปนี้ครับ ท่าเริ่มยาก และออกแรงมากขึ้น ถ้ามั่นใจแล้วว่าทำได้แน่ ก็เอาเลยครับ แต่ช่วงแรกให้ทำสัปดาละครั้งก็พอ ให้ร่างกายค่อยปรับตัวจนเคยชิน
***สิ่งที่ควรเตรียม คือรองเท้ากีฬาอย่างดี ลงทุนแค่นั้นครับ เอาที่มั่นใจว่าใส่แล้วไม่ปวดขาแน่ๆ ซื้อไว้เต้นในบ้าน มันช่วยได้เยอะ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผมเต้นได้ โดยไม่บาดเจ็บ (ถ้าวิ่งคงไม่ไหว เต้นๆๆๆ) บาง Shop จะมีให้ทดลองใส่วิ่งครับและวัดออกมา ว่าเราเหมาะกับรองเท้าแบบไหน
ในส่วนของการคุมอาหารมีดังนี้
1. หลีกเลี่ยงอาหารทอดน้ำมัน หรือมีไขมันอิ่มตัวมากๆ
2. ทานข้าวไรซเบอร์รี่ หรือข้าวกล้อง แทนข้าวขาว
3. งดการดื่มน้ำหวาน แต่แนะนำให้ทานวิตามินเม็ดฟู่ พวกบีร้อคค่า เหมือนทานน้ำผลไม้ในมื้อเช้าครับ
4. มื้อเช้าสำคัญมาก ผมเลือกซีเรียลชนิดไม่มีน้ำตาล โซเดียมต่ำ แนะนำ Wee-tbix ทานกับนมจืด จะเป็นรสหวานบ้างก็ได้ครับ พร้อมใส่กล้วยหอม
ลูกเกด ราดน้ำผึ้ง ปกติทาน 2 ก้อน หิวมากก็ 3 ก้อน
5. ระหว่างวันดื่มน้ำ ค่อยๆจิบนะครับ
6. ของทานเล่นเป็นถั่ว หรือผลไม้ก็ได้ อยากทานขนม ทานได้ แต่ต้องมีสติด้วย ผมทานแค่เอาให้รู้ว่าได้กิน ก็พอแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นกินพิซซ่า เค้กหรืออะไรแบบนั้นนะครับ อันนั้นก็เกินไป
7. มื้อเย็นทานข้าวตามปกติก็ได้ หรือจะทานซีเรียลเหมือนตอนเช้าก็ได้ แต่จะลดสัดส่วนลงครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องไปหาอะให้ยุ่งยาก
8. หากมีเวลาทำอาหารเองได้ ควรทำข้าวกล่องมื้อเที่ยงไปกินเอง ผมใช้อกไก่ครับ อบหรือต้มก็ได้ แล้วฉีกใส่กล่อง ทานกับซีอิ้ว อาจจะมีน้ำพริกและผักสด ควรมีผักด้วยครับ และผลไม้1 อย่าง ผมทานเป็นแอปเปิ้ล หรือกล้วย สลับกัน และถ้าปรุงอาหารโดยไม่มีน้ำมันเลยได้จะดีที่สุดครับ ระวังเรื่องความเค็มนะครับ เค็มมากไปจะทำให้อยากกินอาหารมากขึ้น
9. นอนให้ตรงเวลา ผมนอนช่วง 4-5 ทุ่มครับ นอนดึกทำให้หิว
วิธีของผมนั้นไม่ได้เคร่งครัดมากครับ ก็ตามนั้นเลย แต่ห้ามหยุดเรื่องการออกกำลังกายนะครับ ถ้าเหนื่อยมากก็อาจจะเว้น 1 วัน ต่อสัปดาห์ แต่แนะนำว่า
วันไหนเหนื่อย ก็เอาคลิป 15 นาทีไปเต้นแทน คือมันต้องมีการออกกำลังกายทุกวัน นี่คือสิ่งที่ต้องใจไว้
แรงบันดาลใจ และสิ่งที่ได้รับของผม
1. ได้ใส่เสื้อผ้าดีๆ เท่ๆ ผมแล้วเสื้อผ้าก็หาซื้อง่าย
2. การออกกำลังกายช่วยให้ไม่แก่ก่อนวัย ตอนนี้มีคนทักว่าหน้าตาสดใส ไม่อมโรค มีคนทักว่าผอมลง
3. การไม่มีโรค คือสิ่งที่น่ายินดี อย่าลืมว่าร่างกายเราเสื่อมลงทุกวัน ค่ารักษาก็แพง ทำประกัน บริษัทประกันก็ไม่เคลมให้นะครับ เพราะเป็นโรคที่มีความเสี่ยงเยอะ ถ้าจะเอาให้ครอบคลุมก็แพงมากๆ
4. ความเสื่อมในร่างกายลดลง สิ่งที่ผมสังเกตได้คือ ผมบางๆ ตอนนี้หนาขึ้น ผมยาวเร็วขึ้น ความอยากน้ำตาลน้อยลง อาการน้ำตาลตกอ่อนเพลียน้อยกว่าเมื่อก่อนมา เพราะผมมีความเสี่ยงโรคต่าง หลายโรค
5. ความดันเป็นปกติแล้ว หมอบอกว่าตรวจร่างกายรอบหน้าถ้าดีขึ้นให้หยุดยาครับ
เพียงแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ขอแค่ลงมือทำ อย่าท้อครับ ถึงผมจะลดได้แค่ 9 กิโล แต่รู้มั้ย สำหรับผมมันเยอะมาก คนที่ลดเก่ง ลดที 20-30 โลผมก็ยินดีด้วยครับ ผมไม่ใช่นักโภชนาการ ผิดพลาดประการไดก็ให้ความรู้ผมด้วยครับ ผมเชื่อว่าทุกคนลงมือทำแล้วก็จะต้องปรับตัวเพื่อตัวเอง
สุดท้ายนี้ เรามาผอมไปด้วยกันนะครับ มาสู้ด้วยกัน เดี๋ยวมีไรเปลี่ยนแปลงจะมาอัพเดทให้ทราบกันครับ
แอโรบิค เลือกให้ดีๆ มีทางออก คนอ้วนทดลองแล้วน้ำหนักลดจริง!!!!! ไม่ต้องกลัวเจ็บขาอีกต่อไป
ผมหนัก 105 kg. ครับ ตอนนี้เหลือ 96 ทางออกที่ดีที่สุด คือการคุมอาหารออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนว่าใครๆก็รู้เรื่องนี้ดี คนอ้วนอย่างผมก็พยายามแล้วก็ท้อใจ
เจ้บข้อเท้า มีคนให้วิ่งเหยาะๆ ก็เจ็บขา ขี้เกียจทำ แต่ก็ไม่ท้อครับ หาวิธีออกกำลังไม่ได้เจ็บขา จนพบคำตอบ คือการเต้นแอโรบิค แต่ต้องเลือกที่ถูกกับ
สริระคนอ้วนด้วยนะครับ ไม่ใช่ทุกอย่างจะได้เหมือนกันหมด
และนี่คือแอโรบิคที่ผมเริ่มต้นครับ
ท่าง่ายๆ ไม่มีอะไรมากมาย แต่อย่าดูถูกเลยนะครับ มันรีดเหงื่อได้ดีมาทีเดียว แค่ 15 นาทีเป็นต้นไป ก็รู้เรื่อง อันนี้ 45 นาที เต้นไปอย่าหยุด และทำทุกวันจนชิน
ผมลองแล้ว ไม่ทรมาณสังขารเลยครับ
เมื่อเริ่มชำนาญกับท่าเต้นแล้ว มาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย อันนี้ท่าเดิม เพิ่มเติมคือจังหวะมันส์ และออกแรงมากขึ้น สั้นๆเพียง 15 นาทีอาจทำสลับกับคลิปแรก วันนี้คลิปนี้ พรุ่งนี้ก็กลับไปแบบเดิม
ฝึกไปเรื่อยๆนะครับ จนกล้ามเนื้อทั้วร่างกายเริ่มชินแล้ว และลองดูคลิปนี้ครับ ท่าเริ่มยาก และออกแรงมากขึ้น ถ้ามั่นใจแล้วว่าทำได้แน่ ก็เอาเลยครับ แต่ช่วงแรกให้ทำสัปดาละครั้งก็พอ ให้ร่างกายค่อยปรับตัวจนเคยชิน
***สิ่งที่ควรเตรียม คือรองเท้ากีฬาอย่างดี ลงทุนแค่นั้นครับ เอาที่มั่นใจว่าใส่แล้วไม่ปวดขาแน่ๆ ซื้อไว้เต้นในบ้าน มันช่วยได้เยอะ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผมเต้นได้ โดยไม่บาดเจ็บ (ถ้าวิ่งคงไม่ไหว เต้นๆๆๆ) บาง Shop จะมีให้ทดลองใส่วิ่งครับและวัดออกมา ว่าเราเหมาะกับรองเท้าแบบไหน
ในส่วนของการคุมอาหารมีดังนี้
1. หลีกเลี่ยงอาหารทอดน้ำมัน หรือมีไขมันอิ่มตัวมากๆ
2. ทานข้าวไรซเบอร์รี่ หรือข้าวกล้อง แทนข้าวขาว
3. งดการดื่มน้ำหวาน แต่แนะนำให้ทานวิตามินเม็ดฟู่ พวกบีร้อคค่า เหมือนทานน้ำผลไม้ในมื้อเช้าครับ
4. มื้อเช้าสำคัญมาก ผมเลือกซีเรียลชนิดไม่มีน้ำตาล โซเดียมต่ำ แนะนำ Wee-tbix ทานกับนมจืด จะเป็นรสหวานบ้างก็ได้ครับ พร้อมใส่กล้วยหอม
ลูกเกด ราดน้ำผึ้ง ปกติทาน 2 ก้อน หิวมากก็ 3 ก้อน
5. ระหว่างวันดื่มน้ำ ค่อยๆจิบนะครับ
6. ของทานเล่นเป็นถั่ว หรือผลไม้ก็ได้ อยากทานขนม ทานได้ แต่ต้องมีสติด้วย ผมทานแค่เอาให้รู้ว่าได้กิน ก็พอแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นกินพิซซ่า เค้กหรืออะไรแบบนั้นนะครับ อันนั้นก็เกินไป
7. มื้อเย็นทานข้าวตามปกติก็ได้ หรือจะทานซีเรียลเหมือนตอนเช้าก็ได้ แต่จะลดสัดส่วนลงครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องไปหาอะให้ยุ่งยาก
8. หากมีเวลาทำอาหารเองได้ ควรทำข้าวกล่องมื้อเที่ยงไปกินเอง ผมใช้อกไก่ครับ อบหรือต้มก็ได้ แล้วฉีกใส่กล่อง ทานกับซีอิ้ว อาจจะมีน้ำพริกและผักสด ควรมีผักด้วยครับ และผลไม้1 อย่าง ผมทานเป็นแอปเปิ้ล หรือกล้วย สลับกัน และถ้าปรุงอาหารโดยไม่มีน้ำมันเลยได้จะดีที่สุดครับ ระวังเรื่องความเค็มนะครับ เค็มมากไปจะทำให้อยากกินอาหารมากขึ้น
9. นอนให้ตรงเวลา ผมนอนช่วง 4-5 ทุ่มครับ นอนดึกทำให้หิว
วิธีของผมนั้นไม่ได้เคร่งครัดมากครับ ก็ตามนั้นเลย แต่ห้ามหยุดเรื่องการออกกำลังกายนะครับ ถ้าเหนื่อยมากก็อาจจะเว้น 1 วัน ต่อสัปดาห์ แต่แนะนำว่า
วันไหนเหนื่อย ก็เอาคลิป 15 นาทีไปเต้นแทน คือมันต้องมีการออกกำลังกายทุกวัน นี่คือสิ่งที่ต้องใจไว้
แรงบันดาลใจ และสิ่งที่ได้รับของผม
1. ได้ใส่เสื้อผ้าดีๆ เท่ๆ ผมแล้วเสื้อผ้าก็หาซื้อง่าย
2. การออกกำลังกายช่วยให้ไม่แก่ก่อนวัย ตอนนี้มีคนทักว่าหน้าตาสดใส ไม่อมโรค มีคนทักว่าผอมลง
3. การไม่มีโรค คือสิ่งที่น่ายินดี อย่าลืมว่าร่างกายเราเสื่อมลงทุกวัน ค่ารักษาก็แพง ทำประกัน บริษัทประกันก็ไม่เคลมให้นะครับ เพราะเป็นโรคที่มีความเสี่ยงเยอะ ถ้าจะเอาให้ครอบคลุมก็แพงมากๆ
4. ความเสื่อมในร่างกายลดลง สิ่งที่ผมสังเกตได้คือ ผมบางๆ ตอนนี้หนาขึ้น ผมยาวเร็วขึ้น ความอยากน้ำตาลน้อยลง อาการน้ำตาลตกอ่อนเพลียน้อยกว่าเมื่อก่อนมา เพราะผมมีความเสี่ยงโรคต่าง หลายโรค
5. ความดันเป็นปกติแล้ว หมอบอกว่าตรวจร่างกายรอบหน้าถ้าดีขึ้นให้หยุดยาครับ
เพียงแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ขอแค่ลงมือทำ อย่าท้อครับ ถึงผมจะลดได้แค่ 9 กิโล แต่รู้มั้ย สำหรับผมมันเยอะมาก คนที่ลดเก่ง ลดที 20-30 โลผมก็ยินดีด้วยครับ ผมไม่ใช่นักโภชนาการ ผิดพลาดประการไดก็ให้ความรู้ผมด้วยครับ ผมเชื่อว่าทุกคนลงมือทำแล้วก็จะต้องปรับตัวเพื่อตัวเอง
สุดท้ายนี้ เรามาผอมไปด้วยกันนะครับ มาสู้ด้วยกัน เดี๋ยวมีไรเปลี่ยนแปลงจะมาอัพเดทให้ทราบกันครับ