ตอนที่ 0: สารบัญการเดินทาง
https://ppantip.com/topic/36464768
ตอนที่ 1: ซินเดอเรลล่าชะเง้อหาราชรถฟักทองท่อง Addis Ababa
https://ppantip.com/topic/36464848
ตอนที่ 2: Danakil เตาอบขนาดใหญ่ในเอธิโอเปีย
https://ppantip.com/topic/36464894
ตอนที่ 3: สีสันแห่งซัลเฟอร์ที่ Dallol
https://ppantip.com/topic/36465028
ตอนที่ 4: Erta Ale มนต์เสน่ห์ “ออนเซน” แอฟริกา
https://ppantip.com/topic/36471880
ตอนที่ 5: โบกมืออำลาแก๊งค์ช้าง ช้าง ช้าง...See you!
https://ppantip.com/topic/36482464
ตอนที่ 6: เกี่ยวแขนเพื่อนใหม่ไป Aksum
https://ppantip.com/topic/36482956
ตอนที่ 7: นั่งจนตูดบานกับระยะทางแค่ 216 กม.
https://ppantip.com/topic/36486591
“วันนี้จะนอนให้เต็มอิ่มเลย” นี่คือความคิดสุดท้ายก่อนหัวจะถึงหมอนเมื่อคืน แต่ความจริงคือตีห้าก็มีเสียงสวรรค์ดังกังวาลปลุกคนทั่วเมือง......มันคือเสียงสวดมนต์นั่นเอง!!! แต่ด้วยความเพลีย (มากๆ ) จากเมื่อวานมันจึงไม่ยากที่เราจะข่มตาหลับอีกครั้ง
ไม่มีหนังสือก็เหมือนเที่ยวแบบคนตาบอด แต่เราจะตาบอดเดินทั่ว Gonder ก็ไม่ได้เพราะไม่ชินทาง เราต้องหาไม้เท้านำทางดีๆ ซึ่งก็คือ เพื่อนชาวเยอรมันของเรานั่นเอง เพราะกลัวโดนทิ้งแล้วไม่มีที่เกาะ (เนื่องจากหนังสือหายไปแล้ว) เลยรีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง แล้วรีบส่งข้อความไปบอกว่า “ชั้นยังรอเธออยู่ที่ห้องนะ พร้อมแล้วเรียกได้เลย”
วิวจากบนห้องนอนราคา 350 บาท
พอแปดโมงนิดๆ เราก็มาเริ่มวางแผนและออกเดินทาง เพราะวันนี้ที่ที่จะไปบางแห่งปิดตอนเที่ยง ดังนั้นเราต้องคิดดีๆ ว่าจะไปไหนก่อนหลัง ซึ่งแผนคร่าวๆ (อีกแล้ว) ก็ได้ว่าเราจะไป Dabre Birhan แล้วตามด้วย Fasildas’ Palace (The must ของที่นี่เลย) แล้วปิดท้ายด้วย Fasiladas Bath Timket พร้อมแล้วเราก็เริ่มลุยกันได้เลย
แน่นอนว่าเมื่อคนถึก กับคนแกร่งมาเจอกัน ตุ๊กๆ หน้าไหนก็ไม่ได้กินเงินเราสองคน เราเดินจากโรงแรมไป Dabre Birhan ที่ห่างออกไปประมาณกิโลกว่าๆ แต่ไปถึงแล้วหาทางเข้าไม่เจอ วนถามคนแถวนั้นก็เหมือนคุยกันไม่รู้เรื่อง สรุปสุดท้ายมีผู้ชายคนหนึ่งมีชี้ทางสว่างให้ว่า “วันนี้ปิดจ้า”
แค่ที่แรกก็แป้กซะแล้ว เราเลยไม่รอช้าเดินไปที่ Fasildas’ Palace กันต่อเลย เราจ่ายค่าตั๋วสำหรับที่นี่ที่เดียว แล้วใช้ตั๋วนี้ไปเข้าที่ Fasiladas Bath Timket ได้ด้วย ที่นี่เราใช้เวลาเที่ยวกันนานมาก นั่นเป็นเพราะความใจดีของเพื่อนชาวเยอรมันของเรา ที่แปลคู่มือเที่ยวจากภาษาเยอรมันเป็นอังกฤษให้เราเราฟังอย่างละเอียดยิบ แต่ถามว่าเราจำได้แค่ไหน....ไม่น่าจะถึง 20% จากที่เล่ามาทั้งหมด ดังนั้นเอาแค่ภาพไปดูเพลินๆ กันดีกว่าเน๊อะ
พอจ่ายเงินค่าตั๋วเสร็จแล้วกลับหลังหันไปจะเห็นเสาทางเข้าสองต้นนี้ก่อนเลย
จากนั้นก็มาถ่ายรูปสวยๆ ตรงประตูทางเข้าที่มีกอหญ้าเป็นองค์ประกอบสองข้างทาง
ส่วนอันนี้เป็นวังใหญ่
ถ่ายจากบนวังออกมาด้านนอก
ซากปรักหักพังนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวังของราขโอรส
รูปนี้จำได้ว่าเป็นห้องสมุด
ระหว่างเดินทางกรงสิงโต ก็กลับไปเจอสะพานเชื่อมออกไปด้านนอกวังแทน
ส่วนรูปหลังจากนนี้ไปก็จำอะไรไม่ได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “หนีร้อนจากไทย ไปตากไอแดดที่ Ethiopia” ตอนที่ 8: Gonder เที่ยวเบลอๆ ไปตามเพื่อน
ตอนที่ 0: สารบัญการเดินทาง
https://ppantip.com/topic/36464768
ตอนที่ 1: ซินเดอเรลล่าชะเง้อหาราชรถฟักทองท่อง Addis Ababa
https://ppantip.com/topic/36464848
ตอนที่ 2: Danakil เตาอบขนาดใหญ่ในเอธิโอเปีย
https://ppantip.com/topic/36464894
ตอนที่ 3: สีสันแห่งซัลเฟอร์ที่ Dallol
https://ppantip.com/topic/36465028
ตอนที่ 4: Erta Ale มนต์เสน่ห์ “ออนเซน” แอฟริกา
https://ppantip.com/topic/36471880
ตอนที่ 5: โบกมืออำลาแก๊งค์ช้าง ช้าง ช้าง...See you!
https://ppantip.com/topic/36482464
ตอนที่ 6: เกี่ยวแขนเพื่อนใหม่ไป Aksum
https://ppantip.com/topic/36482956
ตอนที่ 7: นั่งจนตูดบานกับระยะทางแค่ 216 กม.
https://ppantip.com/topic/36486591
“วันนี้จะนอนให้เต็มอิ่มเลย” นี่คือความคิดสุดท้ายก่อนหัวจะถึงหมอนเมื่อคืน แต่ความจริงคือตีห้าก็มีเสียงสวรรค์ดังกังวาลปลุกคนทั่วเมือง......มันคือเสียงสวดมนต์นั่นเอง!!! แต่ด้วยความเพลีย (มากๆ ) จากเมื่อวานมันจึงไม่ยากที่เราจะข่มตาหลับอีกครั้ง
ไม่มีหนังสือก็เหมือนเที่ยวแบบคนตาบอด แต่เราจะตาบอดเดินทั่ว Gonder ก็ไม่ได้เพราะไม่ชินทาง เราต้องหาไม้เท้านำทางดีๆ ซึ่งก็คือ เพื่อนชาวเยอรมันของเรานั่นเอง เพราะกลัวโดนทิ้งแล้วไม่มีที่เกาะ (เนื่องจากหนังสือหายไปแล้ว) เลยรีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง แล้วรีบส่งข้อความไปบอกว่า “ชั้นยังรอเธออยู่ที่ห้องนะ พร้อมแล้วเรียกได้เลย”
วิวจากบนห้องนอนราคา 350 บาท
พอแปดโมงนิดๆ เราก็มาเริ่มวางแผนและออกเดินทาง เพราะวันนี้ที่ที่จะไปบางแห่งปิดตอนเที่ยง ดังนั้นเราต้องคิดดีๆ ว่าจะไปไหนก่อนหลัง ซึ่งแผนคร่าวๆ (อีกแล้ว) ก็ได้ว่าเราจะไป Dabre Birhan แล้วตามด้วย Fasildas’ Palace (The must ของที่นี่เลย) แล้วปิดท้ายด้วย Fasiladas Bath Timket พร้อมแล้วเราก็เริ่มลุยกันได้เลย
แน่นอนว่าเมื่อคนถึก กับคนแกร่งมาเจอกัน ตุ๊กๆ หน้าไหนก็ไม่ได้กินเงินเราสองคน เราเดินจากโรงแรมไป Dabre Birhan ที่ห่างออกไปประมาณกิโลกว่าๆ แต่ไปถึงแล้วหาทางเข้าไม่เจอ วนถามคนแถวนั้นก็เหมือนคุยกันไม่รู้เรื่อง สรุปสุดท้ายมีผู้ชายคนหนึ่งมีชี้ทางสว่างให้ว่า “วันนี้ปิดจ้า”
แค่ที่แรกก็แป้กซะแล้ว เราเลยไม่รอช้าเดินไปที่ Fasildas’ Palace กันต่อเลย เราจ่ายค่าตั๋วสำหรับที่นี่ที่เดียว แล้วใช้ตั๋วนี้ไปเข้าที่ Fasiladas Bath Timket ได้ด้วย ที่นี่เราใช้เวลาเที่ยวกันนานมาก นั่นเป็นเพราะความใจดีของเพื่อนชาวเยอรมันของเรา ที่แปลคู่มือเที่ยวจากภาษาเยอรมันเป็นอังกฤษให้เราเราฟังอย่างละเอียดยิบ แต่ถามว่าเราจำได้แค่ไหน....ไม่น่าจะถึง 20% จากที่เล่ามาทั้งหมด ดังนั้นเอาแค่ภาพไปดูเพลินๆ กันดีกว่าเน๊อะ
พอจ่ายเงินค่าตั๋วเสร็จแล้วกลับหลังหันไปจะเห็นเสาทางเข้าสองต้นนี้ก่อนเลย
จากนั้นก็มาถ่ายรูปสวยๆ ตรงประตูทางเข้าที่มีกอหญ้าเป็นองค์ประกอบสองข้างทาง
ส่วนอันนี้เป็นวังใหญ่
ถ่ายจากบนวังออกมาด้านนอก
ซากปรักหักพังนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวังของราขโอรส
รูปนี้จำได้ว่าเป็นห้องสมุด
ระหว่างเดินทางกรงสิงโต ก็กลับไปเจอสะพานเชื่อมออกไปด้านนอกวังแทน
ส่วนรูปหลังจากนนี้ไปก็จำอะไรไม่ได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร