ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “หนีร้อนจากไทย ไปตากไอแดดที่ Ethiopia” ตอนที่ 11: ลาก่อน Ethiopia....Behina Huni (ตอนจบ)

ตอนที่ 0: สารบัญการเดินทาง
https://ppantip.com/topic/36464768
ตอนที่ 1: ซินเดอเรลล่าชะเง้อหาราชรถฟักทองท่อง Addis Ababa
https://ppantip.com/topic/36464848
ตอนที่ 2: Danakil เตาอบขนาดใหญ่ในเอธิโอเปีย
https://ppantip.com/topic/36464894
ตอนที่ 3: สีสันแห่งซัลเฟอร์ที่ Dallol
https://ppantip.com/topic/36465028
ตอนที่ 4: Erta Ale มนต์เสน่ห์ “ออนเซน” แอฟริกา
https://ppantip.com/topic/36471880
ตอนที่ 5: โบกมืออำลาแก๊งค์ช้าง ช้าง ช้าง...See you!
https://ppantip.com/topic/36482464
ตอนที่ 6: เกี่ยวแขนเพื่อนใหม่ไป Aksum
https://ppantip.com/topic/36482956
ตอนที่ 7: นั่งจนตูดบานกับระยะทางแค่ 216 กม.
https://ppantip.com/topic/36486591
ตอนที่ 8: Gonder เที่ยวเบลอๆ ไปตามเพื่อน
https://ppantip.com/topic/36490238
ตอนที่ 9: Smoke of Fire ที่ Blue Nile Falls
https://ppantip.com/topic/36498686
ตอนที่ 10: ลั่นล้าที่ Lalibela ก่อนอำลา Ethiopia
https://ppantip.com/topic/36502459


          ตีสองกว่าๆ ก็ตื่นมาเพื่อรอรถที่จะมารับ เพราะกลัวรถจะทิ้งเลยต้องไปรอข้างนอก แต่อากาศหนาวจับใจทำให้ต้องเดินไปเดินมา เสียงมันคงรบกวนเจ้าของโรงแรมจนเค้าต้องมาขอให้ไปรอในห้อง แล้วเค้าจะมาเรียเราเอง ตีสามกว่ารถก็มารับเรา รถคันนี้เหมือนเค้าเหมากันมาเพื่อตรงกลับ Addis Ababa แต่คนขับก็พ่วงเอาเราไปด้วย คนในรถคงไม่พอใจเท่าไหร่ แต่เราก็ไม่รู้หนิหน่า ตอนนี้คือขอนอนก่อน ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง
    
           รถแล่นผ่านเมืองหลายเมือง มีแวะให้ซื้อของกินบ้าง ซื้อน้ำบ้าง จนช่วงบ่ายเราง่วงมากหลับลึกสุดๆ ตื่นมาอีกทีไม่รู้หายไปไหนกันหมดทั้งรถ คนขับรถบอกว่าคนอื่นๆ ลงไปกินข้าวกัน เราไม่หิวเลยขอนอนต่อ ส่วนคนขับรถก็ลงรถไปเช่นกัน  สักพักมีผู้หญิงมาเคาะรถชวนไปกินข้าว เราก็งง แต่ก็ไม่ลง เพราะลงแล้วใครจะดูรถ มารู้ทีหลังว่าคนที่เหมารถมามีเพื่อนอยู่ในเมืองนี้เค้าเลยแวะกินข้าวกันที่บ้านเพื่อน แล้วเด็กสาวที่มาชวนก็เป็นสมาชิกในบ้านหลังนั้น ตอนนั้นรู้สึกผิดลึกๆ เหมือนเราเสียมารยาทที่มีคนมาชวนแล้วไม่ไป แต่จริงๆ คือคนที่มาชวนไปกินข้าวก็พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ ไม่ได้อธิบายอะไร เราก็กลัวคนมาหรอกอ่า

วิวระหว่างทาง

          ระหว่างทางคนขับรถแวะซื้อผงออริกาโน ขายห่อละแค่ 5 Birr เท่านั้น คนในรถซื้อกันคนละหลายห่อเลย แต่เราไม่กล้าซื้อเพราะไม่กินผักไม่กินพืชเลยแยกไม่ออกว่ามันเป็นผงออริกาโน หรือมีอะไรผสมหรือเปล่า กลัวจะต้องไปนอนคุกแทนที่จะได้กลับบ้าน



          รถแวะจอดที่จุดชมวิว บรรยากาศที่นี่มันต่างจากเมืองอื่นๆ ที่เราไปมา มันมีสีเขียวของต้นไม้ มันดูไม่แห้งแล้ง ไม่แปลกใจที่มีคนเคยพูดว่าถ้าคิดจะนั่งรถสักครั้งให้เลือกนั่งรถเส้นนี้ เพราะอย่างน้อยก็มีอะไรให้ดูบ้าง ตรงนี้เป็นเหวลึกที่สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านด้านล่างได้ทั้งหมด เป็นจุดที่ทหารเอธิโอเปียที่แพ้สงครามถูกจับมาโดยนลงไปก้นเหว สถานที่ที่มีความงามแต่ก็มีความน่ากลัวแฝงไว้เช่นกัน


          คนในรถวิ่งขึ้นเขาเพื่อไปถ่ายรูป แต่เราไม่ไหวจะปีนจริงๆ ถ่ายรูปจากด้านล่างก็พอ รถวิ่งตั้งแต่ตีสาม กว่าจะถึง Addis Ababa ก็หนึ่งทุ่มกว่าๆ เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุด แต่ยังไม่ทรมานที่สุด (เมื่อเทียบกับ Axum ไป Gonder)


          เราขอให้คนขับส่งเราที่ ETT เพราะเราต้องแวะจ่ายค่าตั๋ว (ประเด็นรอง) และต้องการอาหารดีๆ (ประเด็นหลัก) ครั้งก่อนที่มา ETT เราเห็นร้านอาหารเสฉวนอยู่ข้างๆ วันนี้ต้องไม่พลาด เราจะจัดชุดใหญ่ (เงินยังเหลือเยอะ)


          กินเสร็จก็ต่อด้วยการหาที่นอน บริเวณรอบๆ เป็น UN ดังนั้นค่าที่พักแถวนี้โหดๆ ทั้งนั้น ถ้าจะถูกๆ ก็ต้องนั่งตุ๊กๆ ออกไป แต่ตอนนี้คือดึกแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้ก็ต้องมาทำธุระแถวนี้อีก เลยตัดสินใจยอมนอนหรูๆ ซักวัน


          ด้วยความที่จ่ายแพงจึงต้องนอนให้คุ้ม ตักตวงความสุขสบายที่ขาดหายไปสิบกว่าวัน ตั้งใจจะนอนให้เต็มที่ แต่แล้วเจ็ดโมงเช้าก็มีเสียงตุ๊บๆ ตับๆ ดังมาจากชั้นบน ....ต้องตื่นแล้วสินะ!!! หลังจากตื่นนอน คนที่ไม่เคยสนใจอาหารเช้าอย่างเรา ก็กระตือรือร้นที่จะไปใช้บริการอาหารเช้าของโรงแรม มันเป็นอาหารเช้าที่ไม่คุ้มค่าราคาห้องเท่าไหร่ แต่ก็ต้องกิน (เสียดายเงินค่าห้อง) เสร็จเรียบร้อยเราก็ไปออฟฟิศของ Kenya Airways เพื่อจะเปลี่ยนตั๋วขากลับเป็นเย็นนี้

          มันดูเหมือนเราตัดสินใจกลับกระทันให้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่!! ระหว่างทริปเราศึกษาเรื่องที่เราจะไป Djibouti มาตลอด เราติดต่อบริษัททัวร์ แต่ราคาทัวร์ 2 วันแพงมาก อยู่ที่ USD650 ราคานี้นี่คือไปเที่ยวทริปสั้นๆ ได้อีกทริปนึงเลย นี่ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน 8,000 บาท วีซ่า USD40 กลับเข้าเอธิโอเปียก็ต้องเสียวีซ่าอีกรอบ USD50 เราเลยตัดใจคิดว่าไปเที่ยวธรรมดาไม่ต้องไปทัวร์ก็ได้ แต่.....ค่าโรงแรม มีแต่แบบไฮโซซึ่งเราจ่ายไม่ไหว เราเลยตัดใจไม่ไปดีกว่า เราวางแผนว่าจะไปที่อื่นแทน แต่หนังสือคู่มือเที่ยวเราดันหายก่อน มันเลยเหมือนไม่มีหลักยึดที่จะเที่ยวต่อไป เลยตัดสินใจกลับเลยแล้วกัน

          เสร็จแล้วว่าจะไปซื้อกาแฟยี่ห้อดังกลับเป็นของฝาก แต่ ETT โทรมาก่อน เลยแวะไปที่ออฟฟิศ เค้าเลยเสนอตัวไปส่งเราซื้อกาแฟที่ ToMoCa  เราก็ประหยัดค่ารถไปประมาณ 300 Birr เลยทีเดียว ประหยัดค่า Taxi ที่หมดไปกับค่าของฝากไม่น้อย กลับโรงแรมอาบน้ำอีกรอบ Check-out ตบท้ายด้วยอาหารจีนอีกสักมื้อ แล้วไปสนามบินเพื่อกลับสู่ประเทศไทยเสียที


          ปิดทริปที่วางแผนจะไป 16 วันแต่เอาจริงๆ 12 วันก็กลับแล้ว เพราะรู้สึกเหมือนขาดอาหาร บวกกับเหตุผลว่าไม่รู้จะไปไหน แล้วต้องเก็บวันหยุดไว้ใช้ตอนต้นเดือนพฤษภาคมอีก (เพราะรัฐบาลเปลี่ยนวันหยุดกระทันหัน) วันลามีน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด

ด้านล่างเป็นค่าใช้จ่ายตลอดทริปรวมตั๋วเครื่องบิน ขวามือแยกอาหารกับของฝากออกมา ถ้าทริปนี้ไม่นอนไฮโซคืนสุดท้าย ค่าใช้จ่ายน่าจะไม่ถึง 60,000 บาท

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่