ระบำเงา (บทที่ 12)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ พวงดารา, จารย์จี GTW, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณนะ Na(นะ), คุณซูซี่ Susisiri, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, น้องดาว Lady Star 919, คุณ สมาชิกหมายเลข 868629, น้องมัด มัศยวีร์
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ   https://ppantip.com/topic/36387078
บทที่ 1  https://ppantip.com/topic/36392612
บทที่ 2  https://ppantip.com/topic/36400065
บทที่ 3  https://ppantip.com/topic/36407292
บทที่ 4  https://ppantip.com/topic/36411315
บทที่ 5  https://ppantip.com/topic/36419344
บทที่ 6  https://ppantip.com/topic/36427179
บทที่ 7  https://ppantip.com/topic/36430854
บทที่ 8  https://ppantip.com/topic/36434883
บทที่ 9  https://ppantip.com/topic/36442539
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/36450392
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/36457566


    
บทที่ 12



    เสียงเคาะประตูเบาเสียจนพราวไหมคิดว่าฝันไปในทีแรก จนเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองตามมาด้วย นั่นแหละจึงรู้ว่าเป็นความจริง

    “พราว…โทรศัพท์” เสียงนุ่มๆ นั้นออกจะเร่งร้อน

    หญิงสาวควานมือเปะปะในความมืดจนพบโคมดวงเล็กบนโต๊ะหัวเตียง นาฬิกาปลุกข้างโคมไฟบอกเวลาอีกไม่กี่นาทีจะเที่ยงคืน ไม่อยากเดาเลยว่าใครโทรศัพท์มาดึกดื่นขนาดนี้นอกเสียจากคนที่พยายามเลี่ยงมาตลอดสามอาทิตย์ คราวนี้คงต้องยอมเจรจากับเขาอีกครั้ง ไม่มีทางอื่นอีกแล้วนี่ จะได้รู้เรื่องรู้ราวกันไปจริงๆ เสียที

     ผมเผ้าของคนซึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้องยุ่งเหยิง แสดงว่าเข้านอนไปแล้วเหมือนกัน

    “พี่ทัศหรือเปล่าคะแม่” เธองัวเงียถาม มองโทรศัพท์ไร้สายในมืออวบอย่างไม่ไว้ใจสักเท่าไรนัก กังวลอยู่ก็แค่นั้นเอง

    หากคำตอบทำเอาตาสว่างเลยทีเดียว

    “ไม่ใช่คุณทัศนัยหรอกพราว...ใครก็ไม่รู้...เสียงเหมือนเด็กผู้หญิง" ประโยคหลังเบาเหมือนกระซิบ ราวเกรงว่าคนซึ่งถือหูอยู่อีกด้านของสายจะได้ยิน

    “แม่ถามว่าชื่ออะไรก็ไม่ยอมบอก เอาแต่ร้องห่มร้องไห้แล้วบอกว่าขอพูดกับพี่พราว...ขอพูดกับพี่พราว พูดอยู่แค่นั้นเอง”

    พราวไหมรับโทรศัพท์เครื่องนั้นมาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะว่าโล่งอกก็ไม่ใช่ ใจหายก็ไม่เชิง โล่งอกเมื่อรู้ว่าไม่ใช่คนซึ่งไม่อยากจะพูดด้วย ใจหายเมื่อคิดว่าอาจเป็นปัญชิกาก็ได้ ถ้าลูกสาวคุณสืบพงษ์โทรศัพท์มาดึกดื่นขนาดนี้ แสดงว่าต้องมีเรื่องร้ายอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่นั่น นี่คงโทรไปที่เครื่องซึ่งอยู่ชั้นล่างแล้ว และคงไม่มีใครรับสาย จึงได้โทรมาเข้าเครื่องนี้ของแม่

    แต่เรื่องอะไรกันล่ะ คุณสืบเพิ่งมาส่งเธอที่บ้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง และลูกสาวเขาก็ติดรถมาด้วย ในเวลานั้นสาวน้อยยังเป็นปกติดีทุกอย่าง อะไรจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่สามชั่วโมง

    ...หรือจะเป็นคุณสืบพงษ์เอง หรือเขาเป็นอะไรไป เพียงแค่คิด ก็วูบในอกได้อย่างน่าประหลาด เสียงทักทายสะท้อนความรู้สึกนั้นเช่นกัน...ถ้าเพียงคนฟังมีสติพอจะสังเกตได้

    “ฮัลโหล…ฝ้ายใช่ไหมคะ”

    มีเสียงถอนสะอื้นนำมาก่อน ตามด้วยคำพูดซึ่งแทบจับใจความไม่ได้เลย

    “พี่...พราว...พี่...ชะ...ช่วย...ช่วย...ฝ้ายด้วย”

    พราวไหมเย็นวาบตลอดสันหลัง ละล่ำละลักถาม

    “มีเรื่องอะไรคะฝ้าย เกิดอะไรขึ้น”

    อีกด้านของสายพยายามเรียบเรียงคำพูดอีกครั้ง สุ้มเสียงแตกพร่า แหบโหย

    “ฝ้าย...ฝ้าย...กลัวค่ะพี่...กลัวจะ...กลัวจะ...มีเรื่อง”

    “ทำใจดีๆ ค่ะฝ้าย ทำใจดีๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ คุณพ่ออยู่แถวนั้นหรือเปล่า”

    พยายามปลอบเท่าที่จะทำได้ในเมื่อยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุใดๆ เด็กสาวกำลังขวัญเสียกับอะไรบางอย่าง เธอบอกได้เพียงเท่านั้น คิดว่าถ้าพูดกับพ่อของแก คงได้คำตอบที่ชัดเจนกว่า

    คราวนี้อาการสะอื้นเบาบางลง สาวน้อยเรียบเรียงเหตุการณ์ได้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นบ้าง ทว่าสิ่งที่พูดก็ยังเป็นปริศนาสำหรับคนฟังอยู่ดี

    “คุณพ่อไม่อยู่ค่ะพี่ คุณพ่อไปแล้ว ไปนานแล้ว นี่ก็ยังไม่กลับเลย คุณพ่อว่าคราวนี้จะเอาเรื่องถึงตำรวจ ฝ้ายกลัวค่ะพี่ ฝ้ายไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ฝ้ายอายค่ะพี่”

    พราวไหมนิ่งฟังอย่างอดทน พยายามทำความเข้าใจและไม่ขัดจังหวะ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งงง

    “เรื่องอะไรคะ คุณพ่อไปไหน”

    ฝ่ายนั้นไม่ตอบ กลับยืนกรานเหตุผลที่ได้โทรศัพท์มา

    “พี่มาที่นี่ได้ไหมคะ ฝ้ายกลัว”

    พราวไหมไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรอีก ได้ยินคำขอร้องนั้นก็ตัดสินใจทันที

    “ค่ะ ค่ะ พี่จะมาอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าคุณพ่อจะกลับนะคะ”

    เธอกดตัดสายโทรศัพท์เมื่อฝ่ายนั้นเริ่มสะอึกสะอื้นขึ้นมาอีก สบตาฉงนฉงายของมารดาเมื่อรับโทรศัพท์เครื่องนั้นกลับไป

    “เด็กที่ไหนน่ะพราว”

    “ลูกสาวคุณสืบพงษ์ค่ะแม่ มีเรื่องอะไรกันก็ไม่ทราบ ฟังดูเหมือนแกกำลังเสียขวัญ พูดไม่รู้เรื่องเลยค่ะ พราวคิดว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนแกสักพัก”

    “ดึกอย่างนี้น่ะรึ มันจะดีรึพราว แล้วพ่อเด็กล่ะ คุณสืบพงษ์นั่นน่ะ”

    ฝ่ายลูกสาวไม่ตอบในทันที ผละจากแม่ไปค้นเสื้อที่ในตู้  

    “คุณสืบไปไหนก็ไม่ทราบค่ะ พราวขอยืมรถแม่นะคะ” เธอหันมาถามเมื่อเลือกได้กางเกงลำลองขาสี่ส่วน เสื้อผ้าป่านบางเบาอีกตัว

    “เอาไปเถอะ ระวังตัวนะลูก แล้วมีอะไรก็โทรมาบอกแม่บ้าง”
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย นิยายออนไลน์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่