ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณ พวงดารา, คุณนัน turtle_cheesecake, น้องมัด ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณซูซี่ Susisiri, จารย์จี GTW, คุณนะ เป่าชาง, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ
https://ppantip.com/topic/36387078
บทที่ 1
https://ppantip.com/topic/36392612
บทที่ 2
https://ppantip.com/topic/36400065
บทที่ 3
https://ppantip.com/topic/36407292
บทที่ 4
สถาปนิกหนุ่มลืมตาตื่นเอาแปดโมงเช้าเกือบเก้าโมง เหตุก็เพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็ล่วงเข้าตีสี่เกือบตีห้า แสงสลัวรางที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างผ้าเนื้อหนาทางฝั่งขวาของห้อง พอบอกให้รู้ว่าคงสายมากแล้ว
ก้มลงดูกลุ่มผมดำสนิทแนบอยู่กับแผ่นอก เรือนร่างเปลือยเปล่าที่เบียดชิดอยู่กับตัวนุ่มละมุน แขนเรียวขาวผ่องวางพาดอยู่บนหน้าท้องของเขา เสียงลมหายใจครืดคราดเบาๆ สม่ำเสมอ ทำให้แน่ใจว่ายังคงหลับสนิท
เมื่อคืนที่กลับมาถึงห้องพัก หญิงสาวซึ่งนอนร่วมเตียงชนิดอิงแอบแนบชิดอยู่ในขณะนี้เมาจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ไม่แน่ใจว่าเมาจริงหรือแกล้งเมากันแน่ เขาเองไม่เคยดูออก ในเมื่อเป็นคนไม่ชอบดื่มเหล้ามากขนาดนี้ และเมื่อหล่อนเองก็มักแสดงละครได้แนบเนียนอยู่เสมอ จริงๆ แล้วอยากพาไปส่งบ้านเสียตั้งแต่ออกมาจากผับแห่งนั้นเสียด้วยซ้ำ
‘กลับบ้านไปให้ป๋าเห็นแบบนี้ ป๋าต้องเทศน์ยาวเหยียดแน่ๆ เลยค่ะ ไปคอนโดของพี่เถอะนะคะ’ เสียงหวานๆ ยั่วยวนอยู่ข้างหู
ไม่พูดเปล่า ร่างอวบอัด มีส่วนเว้าส่วนโค้งครบครันเบียดอิงอยู่กับเขาแทบตลอดเวลา สองแขนโอบอยู่รอบลำคอ ทิ้งน้ำหนักทั้งตัวให้เขารับเอาไว้ แล้วหลับตาเหมือนกำลังจะหมดสติไปจริงๆ
ภาษิตอยากหัวเราะกับเหตุผลฟังไม่ขึ้นนั้นเสียนัก ไปบ้านไม่ได้เพราะกลัวพ่อจะว่าที่เมาขนาดนี้ แต่ไปนอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายกลับไม่เป็นไร
‘พรุ่งนี้เมย์ก็จะไม่เห็นพี่รองทั้งวัน นะคะ คืนนี้อย่าให้เมย์กลับบ้านเลย’ ไม่เพียงออดอ้อนด้วยน้ำเสียงอย่างเดียว นัยน์ตาหยาดเยิ้มแหงนเงยขึ้นมองอย่างเว้าวอน
เจ้าของผับสาวเห็นสภาพของเพื่อนก็ละจากแขกซึ่งกำลังคุยด้วย แล้วตรงรี่เข้ามาหา มองดูเรือนร่างอรชรที่อ่อนปวกเปียก แล้วก็ต้องส่ายหน้า
‘เมย์คงเมามาก จะทำยังไงดีคะ’
เมธาวีปรือตาขึ้นดูคนพูด
‘พี่รองกำลังจะพาเราไปบ้าน ไม่ใช่บ้านเรานะ เรากลับบ้านแบบนี้ไม่ได้หรอก’ ท่าทางเหมือนเมา แต่กลับพูดคุยได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
เฮเลนยิ้ม รู้นิสัยเพื่อนดี รู้ว่าพยายามมาหลายเดือนแล้วที่จะจับสถาปนิกหนุ่มหน้าตาหล่อคมคนนี้ให้อยู่ นี่ก็คอยแต่ว่าเมื่อไรจะทิ้งไพ่ตายเสียที ในเมื่อดูๆ ฝ่ายชายไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะสานความสัมพันธ์นี้ให้แนบแน่นเกินกว่าการเป็นคู่ควงกันสักเท่าไหร่เลย
สถาปนิกหนุ่มได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจ จำต้องยอมตามแต่โดยดี บอกลาเจ้าของสถานที่แล้วพยุงร่างซึ่งทรงตัวไม่อยู่แล้วนั้นออกมายังที่จอดรถ ดีหน่อยที่ดึกร่วมตีสามเข้าไปแล้ว ผู้คนจึงแทบไม่มีเหลือให้เห็น และผับก็กำลังจะปิด
กว่าจะมาถึงรถได้ก็เล่นเอาทุลักทุเลในเมื่อร่างยั่วยวนในอ้อมแขนเอาแต่กอดรัดเกี่ยวก่าย เหมือนไม่ยอมให้ออกห่าง ลมหายใจคละคลุ้งกลิ่นเหล้า จนบางครั้งเขาต้องเบือนหน้าหนี
‘ไปบ้านพี่นะคะพี่รอง’ คราวนี้เสียงพูดฟังดูอู้อี้เมื่อใบหน้าซุกไซ้อยู่กับแผ่นอกของเขา
ภาษิตเปิดประตูรถด้านผู้โดยสาร ประคองให้หล่อนขึ้นนั่ง ปิดประตูให้ แล้วอ้อมไปขึ้นประจำที่คนขับ กำลังจะเอี้ยวตัวไปมองหลังเพื่อถอยรถออกจากที่จอด สองแขนของคนข้างๆ ก็สอดเข้าโอบรอบเอวเขาไว้ แล้วเบียดเข้าแนบชิด ซบหน้าลงกับไหล่
ใจซึ่งมัวแต่ไปอยู่ที่อื่นเสียในช่วงสองวันที่ผ่านมาเร่งเร้าให้นอนเฉยอยู่อีกไม่ได้ จึงค่อยๆ โอบไหล่บางที่ทาบทับอยู่กับแผ่นอกให้พลิกหงายลงบนที่นอนอย่างเบามือ ประคับประคองศีรษะปกคลุมด้วยผมยาวสลวยให้หนุนหมอนใบข้างๆ แทน แล้วขยับตัวออกห่าง มองดูใบหน้าขาวผ่องเลอะเทอะเปรอะเปื้อนสารพัดสีที่แต้มแต่งไว้เมื่อวาน ให้สงสัยว่าครั้งหนึ่งเคยเห็นว่าสิ่งนี้คือความงามไปได้อย่างไร
เบี่ยงตัวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นปกปิดร่างเปลือยเปล่าที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติ แล้วเหลือบดูนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนก้าวยาวๆ ไปรูดม่านหน้าต่าง เผยให้เห็นกระจกด้านซึ่งหันเข้าหาแม่น้ำ ฝั่งนี้เป็นฝั่งตะวันออก แสงแดดสีส้มอ่อนจัดจึงส่องสว่างเข้ามาภายในอย่างเต็มที่
เหลียวมองเรือนร่างบนเตียงอีกครั้ง เห็นว่าขยับแล้วทำเสียงอึกอักเหมือนไม่พอใจ ใบหน้าซีดขาวเลอะเทอะหลากสีสันพลิกหลบไปอีกด้าน
ชายหนุ่มเจ้าของห้องชุดส่ายหน้าอย่างระอาใจก่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
แม้กลับออกมาอีกครั้งเพื่อแต่งตัว หญิงสาวก็ยังคงหลับสนิท ปลอกหมอนผ้าลินินเนื้อดีสีขาวสะอาดที่ศีรษะปกคลุมด้วยเส้นผมดำสนิทหนุนนอนเปรอะเปื้อนสีน้ำตาล สีแดง และสีออกชมพูของเครื่องสำอางที่หล่อนใช้ เสื้อสายเดี่ยวสีทอง กางเกงขายาวสีเดียวกัน ถอดกองเป็นวงอยู่กับพื้นห้อง
ภาษิตแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ก้มหยิบเสื้อผ้าเหล่านั้นขึ้นมาไว้ในมือ แตะที่ไหล่ของหญิงสาวแล้วเรียกเบาๆ
"เมย์...เมย์ ตื่นเถอะครับ สายมากแล้ว"
เสียงครางอย่างขัดใจดังมาให้ได้ยิน ร่างยั่วยวนพลิกกลับมาหา ตากลมโต มีสีน้ำตาลปนดำที่เปลือกตาทั้งสองข้างปรือขึ้นดู คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน สองมือยกขึ้นกุมศีรษะ
"ปวดหัวจังค่ะ"
"ก็เมื่อคืนเมามากนี่นา” เขาทำเสียงตำหนิ “พี่จะชงกาแฟให้ กาแฟแก่ๆ สักถ้วยคงช่วยให้ดีขึ้น"
"กี่โมงแล้วคะ" หล่อนถามแล้วปรือตาขึ้นดูนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง เห็นว่าเกือบสิบโมงแล้ว
"จะรีบไปไหนคะ พี่รอง เพิ่งเก้าโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง" แขนเรียวขาวจัดยื่นมาหาเขา พร้อมกับส่งสายตาหยาดเยิ้มตามมาด้วย
"บอกแล้วไงว่าพี่มีนัดกับรุ่นพี่ ถ้าเมย์ยังไม่ลุกขึ้นตอนนี้ก็ได้ แต่พี่ต้องไปก่อน เมย์จะออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ ปิดประตูไว้ตามเดิมก็แล้วกัน"
ไม่บอกเปล่า เขาขยับไปหยิบกุญแจรถซึ่งวางทิ้งอยู่บนเก้าอี้นวมข้างเตียง
คราวนี้ได้ผล เมธาวีผลุดลุกจากเตียงทันควัน รวบเอาผ้าคลุมตามขึ้นมาด้วย
"พี่รอง เมย์จะไปกับพี่ คอยด้วยค่ะ"
ภาษิตไม่หันกลับไปมองแม้แต่น้อยเพราะพอเดาได้ถึงสภาพของหญิงสาว ถึงจะใช้ผ้าคลุมเตียงปกปิดด้านหน้า แต่ก็คงไม่สนใจความเปลือยเปล่าทางด้านหลัง
เขาถือกุญแจติดมือ เดินเรื่อยจากห้องนอนไปทางบริเวณซึ่งกั้นเป็นครัว เทน้ำจากขวดลงในกาต้มน้ำใบเล็ก ยกขึ้นวางบนเตา หยิบถ้วยกาแฟลงมาจากตู้เหนือศีรษะสองใบ แล้วตักกาแฟผงสำเร็จรูปใส่ลงไป
ระบำเงา (บทที่ 4)
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณ พวงดารา, คุณนัน turtle_cheesecake, น้องมัด ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณซูซี่ Susisiri, จารย์จี GTW, คุณนะ เป่าชาง, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ https://ppantip.com/topic/36387078
บทที่ 1 https://ppantip.com/topic/36392612
บทที่ 2 https://ppantip.com/topic/36400065
บทที่ 3 https://ppantip.com/topic/36407292
สถาปนิกหนุ่มลืมตาตื่นเอาแปดโมงเช้าเกือบเก้าโมง เหตุก็เพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็ล่วงเข้าตีสี่เกือบตีห้า แสงสลัวรางที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างผ้าเนื้อหนาทางฝั่งขวาของห้อง พอบอกให้รู้ว่าคงสายมากแล้ว
ก้มลงดูกลุ่มผมดำสนิทแนบอยู่กับแผ่นอก เรือนร่างเปลือยเปล่าที่เบียดชิดอยู่กับตัวนุ่มละมุน แขนเรียวขาวผ่องวางพาดอยู่บนหน้าท้องของเขา เสียงลมหายใจครืดคราดเบาๆ สม่ำเสมอ ทำให้แน่ใจว่ายังคงหลับสนิท
เมื่อคืนที่กลับมาถึงห้องพัก หญิงสาวซึ่งนอนร่วมเตียงชนิดอิงแอบแนบชิดอยู่ในขณะนี้เมาจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ไม่แน่ใจว่าเมาจริงหรือแกล้งเมากันแน่ เขาเองไม่เคยดูออก ในเมื่อเป็นคนไม่ชอบดื่มเหล้ามากขนาดนี้ และเมื่อหล่อนเองก็มักแสดงละครได้แนบเนียนอยู่เสมอ จริงๆ แล้วอยากพาไปส่งบ้านเสียตั้งแต่ออกมาจากผับแห่งนั้นเสียด้วยซ้ำ
‘กลับบ้านไปให้ป๋าเห็นแบบนี้ ป๋าต้องเทศน์ยาวเหยียดแน่ๆ เลยค่ะ ไปคอนโดของพี่เถอะนะคะ’ เสียงหวานๆ ยั่วยวนอยู่ข้างหู
ไม่พูดเปล่า ร่างอวบอัด มีส่วนเว้าส่วนโค้งครบครันเบียดอิงอยู่กับเขาแทบตลอดเวลา สองแขนโอบอยู่รอบลำคอ ทิ้งน้ำหนักทั้งตัวให้เขารับเอาไว้ แล้วหลับตาเหมือนกำลังจะหมดสติไปจริงๆ
ภาษิตอยากหัวเราะกับเหตุผลฟังไม่ขึ้นนั้นเสียนัก ไปบ้านไม่ได้เพราะกลัวพ่อจะว่าที่เมาขนาดนี้ แต่ไปนอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายกลับไม่เป็นไร
‘พรุ่งนี้เมย์ก็จะไม่เห็นพี่รองทั้งวัน นะคะ คืนนี้อย่าให้เมย์กลับบ้านเลย’ ไม่เพียงออดอ้อนด้วยน้ำเสียงอย่างเดียว นัยน์ตาหยาดเยิ้มแหงนเงยขึ้นมองอย่างเว้าวอน
เจ้าของผับสาวเห็นสภาพของเพื่อนก็ละจากแขกซึ่งกำลังคุยด้วย แล้วตรงรี่เข้ามาหา มองดูเรือนร่างอรชรที่อ่อนปวกเปียก แล้วก็ต้องส่ายหน้า
‘เมย์คงเมามาก จะทำยังไงดีคะ’
เมธาวีปรือตาขึ้นดูคนพูด
‘พี่รองกำลังจะพาเราไปบ้าน ไม่ใช่บ้านเรานะ เรากลับบ้านแบบนี้ไม่ได้หรอก’ ท่าทางเหมือนเมา แต่กลับพูดคุยได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
เฮเลนยิ้ม รู้นิสัยเพื่อนดี รู้ว่าพยายามมาหลายเดือนแล้วที่จะจับสถาปนิกหนุ่มหน้าตาหล่อคมคนนี้ให้อยู่ นี่ก็คอยแต่ว่าเมื่อไรจะทิ้งไพ่ตายเสียที ในเมื่อดูๆ ฝ่ายชายไม่ค่อยกระตือรือร้นที่จะสานความสัมพันธ์นี้ให้แนบแน่นเกินกว่าการเป็นคู่ควงกันสักเท่าไหร่เลย
สถาปนิกหนุ่มได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจ จำต้องยอมตามแต่โดยดี บอกลาเจ้าของสถานที่แล้วพยุงร่างซึ่งทรงตัวไม่อยู่แล้วนั้นออกมายังที่จอดรถ ดีหน่อยที่ดึกร่วมตีสามเข้าไปแล้ว ผู้คนจึงแทบไม่มีเหลือให้เห็น และผับก็กำลังจะปิด
กว่าจะมาถึงรถได้ก็เล่นเอาทุลักทุเลในเมื่อร่างยั่วยวนในอ้อมแขนเอาแต่กอดรัดเกี่ยวก่าย เหมือนไม่ยอมให้ออกห่าง ลมหายใจคละคลุ้งกลิ่นเหล้า จนบางครั้งเขาต้องเบือนหน้าหนี
‘ไปบ้านพี่นะคะพี่รอง’ คราวนี้เสียงพูดฟังดูอู้อี้เมื่อใบหน้าซุกไซ้อยู่กับแผ่นอกของเขา
ภาษิตเปิดประตูรถด้านผู้โดยสาร ประคองให้หล่อนขึ้นนั่ง ปิดประตูให้ แล้วอ้อมไปขึ้นประจำที่คนขับ กำลังจะเอี้ยวตัวไปมองหลังเพื่อถอยรถออกจากที่จอด สองแขนของคนข้างๆ ก็สอดเข้าโอบรอบเอวเขาไว้ แล้วเบียดเข้าแนบชิด ซบหน้าลงกับไหล่
ใจซึ่งมัวแต่ไปอยู่ที่อื่นเสียในช่วงสองวันที่ผ่านมาเร่งเร้าให้นอนเฉยอยู่อีกไม่ได้ จึงค่อยๆ โอบไหล่บางที่ทาบทับอยู่กับแผ่นอกให้พลิกหงายลงบนที่นอนอย่างเบามือ ประคับประคองศีรษะปกคลุมด้วยผมยาวสลวยให้หนุนหมอนใบข้างๆ แทน แล้วขยับตัวออกห่าง มองดูใบหน้าขาวผ่องเลอะเทอะเปรอะเปื้อนสารพัดสีที่แต้มแต่งไว้เมื่อวาน ให้สงสัยว่าครั้งหนึ่งเคยเห็นว่าสิ่งนี้คือความงามไปได้อย่างไร
เบี่ยงตัวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นปกปิดร่างเปลือยเปล่าที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติ แล้วเหลือบดูนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนก้าวยาวๆ ไปรูดม่านหน้าต่าง เผยให้เห็นกระจกด้านซึ่งหันเข้าหาแม่น้ำ ฝั่งนี้เป็นฝั่งตะวันออก แสงแดดสีส้มอ่อนจัดจึงส่องสว่างเข้ามาภายในอย่างเต็มที่
เหลียวมองเรือนร่างบนเตียงอีกครั้ง เห็นว่าขยับแล้วทำเสียงอึกอักเหมือนไม่พอใจ ใบหน้าซีดขาวเลอะเทอะหลากสีสันพลิกหลบไปอีกด้าน
ชายหนุ่มเจ้าของห้องชุดส่ายหน้าอย่างระอาใจก่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
แม้กลับออกมาอีกครั้งเพื่อแต่งตัว หญิงสาวก็ยังคงหลับสนิท ปลอกหมอนผ้าลินินเนื้อดีสีขาวสะอาดที่ศีรษะปกคลุมด้วยเส้นผมดำสนิทหนุนนอนเปรอะเปื้อนสีน้ำตาล สีแดง และสีออกชมพูของเครื่องสำอางที่หล่อนใช้ เสื้อสายเดี่ยวสีทอง กางเกงขายาวสีเดียวกัน ถอดกองเป็นวงอยู่กับพื้นห้อง
ภาษิตแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ก้มหยิบเสื้อผ้าเหล่านั้นขึ้นมาไว้ในมือ แตะที่ไหล่ของหญิงสาวแล้วเรียกเบาๆ
"เมย์...เมย์ ตื่นเถอะครับ สายมากแล้ว"
เสียงครางอย่างขัดใจดังมาให้ได้ยิน ร่างยั่วยวนพลิกกลับมาหา ตากลมโต มีสีน้ำตาลปนดำที่เปลือกตาทั้งสองข้างปรือขึ้นดู คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน สองมือยกขึ้นกุมศีรษะ
"ปวดหัวจังค่ะ"
"ก็เมื่อคืนเมามากนี่นา” เขาทำเสียงตำหนิ “พี่จะชงกาแฟให้ กาแฟแก่ๆ สักถ้วยคงช่วยให้ดีขึ้น"
"กี่โมงแล้วคะ" หล่อนถามแล้วปรือตาขึ้นดูนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง เห็นว่าเกือบสิบโมงแล้ว
"จะรีบไปไหนคะ พี่รอง เพิ่งเก้าโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง" แขนเรียวขาวจัดยื่นมาหาเขา พร้อมกับส่งสายตาหยาดเยิ้มตามมาด้วย
"บอกแล้วไงว่าพี่มีนัดกับรุ่นพี่ ถ้าเมย์ยังไม่ลุกขึ้นตอนนี้ก็ได้ แต่พี่ต้องไปก่อน เมย์จะออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ ปิดประตูไว้ตามเดิมก็แล้วกัน"
ไม่บอกเปล่า เขาขยับไปหยิบกุญแจรถซึ่งวางทิ้งอยู่บนเก้าอี้นวมข้างเตียง
คราวนี้ได้ผล เมธาวีผลุดลุกจากเตียงทันควัน รวบเอาผ้าคลุมตามขึ้นมาด้วย
"พี่รอง เมย์จะไปกับพี่ คอยด้วยค่ะ"
ภาษิตไม่หันกลับไปมองแม้แต่น้อยเพราะพอเดาได้ถึงสภาพของหญิงสาว ถึงจะใช้ผ้าคลุมเตียงปกปิดด้านหน้า แต่ก็คงไม่สนใจความเปลือยเปล่าทางด้านหลัง
เขาถือกุญแจติดมือ เดินเรื่อยจากห้องนอนไปทางบริเวณซึ่งกั้นเป็นครัว เทน้ำจากขวดลงในกาต้มน้ำใบเล็ก ยกขึ้นวางบนเตา หยิบถ้วยกาแฟลงมาจากตู้เหนือศีรษะสองใบ แล้วตักกาแฟผงสำเร็จรูปใส่ลงไป