มีกระทู้ที่เคยตั้งไปก่อนหน้านี้ครับ
https://ppantip.com/topic/36071514
วันนี้ผ่านมันมาแล้ว ดีใจจัง

ปกติก็วิ่งแต่รายการมินิฯ ซึ่งผ่านมาแล้ว 7-8 งาน
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ลงฮาล์ฟฯ แรกของชีวิต กับ Buriram Marathon

ซ้อมระยะเดียวกับที่เคยซ้อมวิ่งมินิฯ นั่นก็คือ 5 km.
จะมีนานๆ ครั้งที่ขึ้นไปถึง 7.5 km. (3 รอบสวนรถไฟ)

ซ้อมระยะน้อย แต่เปลี่ยน Pace ในแต่ละวัน
เช่น วันนี้ 5 km. ที่ Pace 5:10
พรุ่งนี้ก็วิ่งระยะเดิม 5 km. แต่เปลี่ยน Pace เป็น 6:00 หรือ 6:30
สลับไปสลับมาในแต่ละวัน
โดยวิ่งสัปดาห์ละ 4 วัน
2 สัปดาห์ ทดสอบความฟิตด้วย Cooper Test ซักครั้ง (วิ่ง 12 นาที ไปให้ไกลที่สุด)

แต่ก็ค่อนข้างกังวลเหมือนกันเมื่อวันงานมาถึง เพราะไม่เคยวิ่งเกินระยะ 10 km. มาก่อน
ซึ่งผู้สันทัดและผู้มีประสบการณ์ต่างก็บอกว่า "เฮ้ย มันต้องซ้อมให้ถึง หรืออย่างน้อยก็ซัก 15 km."
ยิ่งทำให้เป็นกังวลขึ้นมาอีก แล้วเราจะไหวมั๊ยวะนี่ 555+

แต่การฝึกรักษา Pace ให้ได้คงที่ตลอดเส้นทาง และฝึกเกลี่ยแรงให้ได้ตลอดระยะ
เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คลายความกังวลลงมาบ้าง เพราะคิดว่าตัวเองทำได้ดีตรงจุดนี้

และก็ตั้งใจพยายามจะรักษา Pace 6:30 ให้ได้ตลอดเส้นทางฮาล์ฟฯ
ซึ่งสุดท้ายก็จบได้ที่เวลา 2:21:03 hr ด้วย Pace เฉลี่ย 6:42 (Error ตอนหยุดกินน้ำและเข้าห้องน้ำมั้ง?)
ดีใจกับฮาล์ฟแรกของตัวเอง ที่ผ่านไปได้ด้วยดี

ไม่เกิน 30 นาทีต่อวัน สำหรับสูตรของผม
ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่อยากใช้เวลานานๆ ในการฝึกซ้อม
หรือคนที่เบื่อกับการวิ่งหลายๆ รอบบนพื้นที่ระยะทางจำกัด
เช่นพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่ต้องวิ่งวนแล้ววนเล่า หลายๆ รอบ ในสวนสาธารณะ มันน่าเบื่อเนอะ

ปล. หลังจากเข้าเส้นชัย เท้าระบมมากๆ เดินลำบาก นั่นคงเพราะกำลังขาและเท้ายังไม่เคยเจอกับระยะ 21 km.
ผ่านมา 2 วัน ตอนนี้สภาพเข้าที่เข้าทางแล้ว

มีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ อีกอย่างคือ
ถ้าคุณคิดจะวิ่งฮาล์ฟฯ 21 km.
ให้คุณคิดซะว่า >> คุณมางานวิ่ง 18 km. ก็พอ
ตัวเลขระยะทางมันจะได้ดูน้อยๆ

จากนั้นอีก 3 km. ที่เหลือ มันก็จิ๊บๆ สำหรับคุณไปแล้วล่ะ
เพราะคุณผ่านมาตั้ง 18 km. แล้ว