อ่านทั้งหมด ไทยรัฐ ฮอนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/619258
เราเดินทางมายังโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ถนนพุทธมณฑลสาย 3 สถานที่ซึ่งเป็นทั้งคอร์ตฝึกซ้อมและบ้านพักของน้องเมย์กับคนในครอบครัว นักแบดมินตันคนดังออกมาพบเราในชุดกีฬาที่ดูทะมัดทะแมง ก่อนจะบอกว่าช่วงสายอย่างที่พวกเราเดินทางมาถึงนี่แหละ เหมาะกับการให้สัมภาษณ์เป็นที่สุด “ชีวิตประจำวันของเมย์ต้องฝึกซ้อมทุกวันค่ะ ช่วงเปิดเทอมโค้ชจะจัดตารางซ้อมไม่ให้ตรงกับเวลาเรียน แต่ถ้าเป็นวันที่ไม่มีเรียนหรือช่วงปิดเทอมจะตื่น 07.00 น. เริ่มซ้อม 08.00-10.00 น. ช่วงสายจึงมีเวลาพักทำกิจกรรมต่างๆ เช่นกินข้าว ออกไปซื้อของใช้ส่วนตัว หรือให้สัมภาษณ์อย่างวันนี้ ซึ่งทุกกิจกรรมที่ทำควรเสร็จภายในเที่ยงครึ่ง เพราะเมย์ต้องซ้อมต่อช่วง 15.00 – 17.00 น. และอีกรอบคือ 19.00 – 21.00 น. ซึ่งจริงๆ โค้ชก็ไม่ได้บังคับว่าเราต้องทำธุระเสร็จภายในกี่โมง แต่เราต้องรู้ตัวเองว่าควรทำทุกอย่างให้เสร็จเวลาใดเพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะการซ้อมต้องใช้พละกำลังเยอะ ถ้าไม่ได้พักมันก็หนักเกินไปสำหรับร่างกาย”
ดูแลตัวเองแบบนักแบดมินตันมืออาชีพ “นักกีฬาแบดมินตัน ไม่ได้มีข้อจำกัดในการควบคุมน้ำหนักมากนัก แต่โดยทั่วไปแล้วนักกีฬาทุกคนก็จะมีการตั้งเกณฑ์ของตัวเองไว้ อย่างตัวเมย์ก็จะควบคุมน้ำหนักไม่ให้ห่างจาก 60 กิโลกรัม มากนัก เพราะถ้าหนักไปก็อึดอัดเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ผอมไปก็กลัวว่าจะไม่มีแรง ส่วนเรื่องอาหารมีนักโภชนาการให้คำแนะนำหลายอย่าง หลักๆ คือเวลาซ้อมเสียเหงื่อเยอะ ควรจะมีเครื่องดื่มเกลือแร่ไว้ใกล้ตัวตลอด หากซ้อมแล้วหิวให้กินกล้วยหอมที่ย่อยง่าย และสามารถดึงพลังงานมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนะนำให้กินน้ำมะพร้าวสด น้ำส้มคั้นสด ที่ให้วิตามินและเกลือแร่เหมาะกับนักกีฬาอย่างเรา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ส่วนใหญ่คุณแม่จะช่วยเตรียมเอาไว้ให้”
คุณแม่นักปรุง (อาหารดีที่เหมาะกับลูก) เมื่อน้องเมย์บอกว่าคุณแม่ดูแลเรื่องอาหารให้กับเธอ เราจึงซักถามซึ่งคุณแม่ก็อธิบายให้ฟังว่า “นักโภชนาการบอกให้เน้นดื่มน้ำส้ม น้ำมะพร้าว แม่เลยเตรียมไว้ให้ตลอด ทั้งน้ำมะพร้าวสด จากลูก รวมถึงส้มที่ซื้อมาทีละหลายกิโลกรัม แล้วทยอยคั้นสดๆ ให้น้องดื่ม ส่วนอาหารการกินอื่นๆ ไม่มีอะไรมากนักเนื้อสัตว์ก็กินได้ทุกอย่างแต่จะเน้นให้กินปลามากหน่อย ต้องกินผักและผลไม้ทุกวันด้วย ซึ่งเมย์เขาเป็นคนชอบกินผักผลไม้อยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาอะไร และตั้งแต่เด็กน้องเป็นคนกินง่าย แม่ทำอะไรให้ก็กิน ดังนั้นถ้านักโภชนาการมองว่าช่วงไหนน้องควรกินอะไรเพิ่มเติม เขาจะมาบอกแม่ แม่ก็จะปรุงอาหารให้ตามนั้น”
กินง่ายอยู่ง่ายสไตล์น้องเมย์ “เมย์เป็นคนไม่ค่อยคิดถึงเรื่องอาหารการกินเท่าไร อย่างที่แม่บอกเลย ว่าทำอะไรให้กินก็กินตามนั้น เพราะบางทีซ้อมเหนื่อยแล้วไม่อยากออกไปไหน กินอาหารง่ายๆ ที่แม่ทำนี่แหละสะดวกดี แต่ก็มีเมนูโปรดที่เมย์ชอบขอให้แม่ทำอยู่เหมือนกันค่ะ พวกผัดกะหล่ำ หมูทอด ลาบหมู อันนี้ชอบเป็นพิเศษเลยมีรีเควสต์บ้าง ช่วงที่ต้องไปแข่งต่างประเทศอาจจะเลือกกินขึ้นมาหน่อย เพราะอาหารแถบยุโรปบางทีกินเยอะๆ แล้วรู้สึกว่าเลี่ยน เมย์เลยเตรียมพวกน้ำสลัด หรือน้ำจิ้มไก่ไปด้วย ใส่เพิ่มเข้าไปหน่อยแล้วอาหารมันถูกปากเรามากขึ้น”
ถึงซ้อมหนัก แต่ไม่เคยต้องห่างครอบครัว ฟังน้องเมย์เล่าแล้วหลายคนอาจยังสงสัย ว่าเพราะเหตุใดคุณแม่คำผันจึงดูแลลูกสาวได้อย่างใกล้ชิดชนิดติดขอบคอร์ตแบดมินตันเช่นนี้ คุณแม่เฉลยให้ฟังว่า “แม่ทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ในโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดอยู่แล้ว ดังนั้นถึงน้องเมย์จะซ้อมหนักแต่เราก็ได้เจอกันอยู่ตลอด บางทีซ้อมแล้วเหนื่อยน้องก็เดินมาคุยกับแม่ หรืออยู่ๆ อยากกินอะไรก็เดินมาหาในครัวให้แม่ทำให้กิน ส่วนคุณพ่อน้องเมย์ (วินัสชัย อินทนนท์) และน้องชาย (ด.ช.รัชพล อินทนนท์) ก็พักอยู่ที่นี่เหมือนกัน บ้านเราเลยได้อยู่พร้อมหน้ากันเสมอ ซึ่งนับเป็นโชคดีเพราะอย่างที่รู้กันว่า นักกีฬาหลายคนเวลาซ้อมหรือเก็บตัวก่อนแข่งต้องห่างบ้าน แต่สำหรับน้องเมย์เขาได้อยู่กับครอบครัวตลอด”
เพราะได้อยู่กับครอบครัวอย่างใกล้ชิดเช่นนี้หรือเปล่า เลยกำลังใจดี? เรากระเซ้าถามน้องเมย์ เธอพยักหน้ายิ้มรับแทนคำตอบ ก่อนจะควงคุณแม่เข้าครัวปรุงจานโปรดที่เธอมักอ้อนให้คุณแม่ทำบ่อยๆ อย่าง ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย ให้ทีมงานได้ชมและชิม ซึ่งเราก็ได้นำสูตรดังกล่าวมาฝากคุณผู้อ่านในโอกาสนี้แล้ว
ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 15 นาที ปรุง 30 นาที
หมูสันใน หั่นเป็นชิ้นบาง 2 ขีด
ไข่ไก่ 1 ฟอง
นมข้นจืด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับทอด ½ ถ้วย
ส่วนผสมกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย
กะหล่ำปลี หั่นชิ้นพอคำ 3 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
อาหารแชมป์โลก "ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย" ของ เมย์ รัชนก
เราเดินทางมายังโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ถนนพุทธมณฑลสาย 3 สถานที่ซึ่งเป็นทั้งคอร์ตฝึกซ้อมและบ้านพักของน้องเมย์กับคนในครอบครัว นักแบดมินตันคนดังออกมาพบเราในชุดกีฬาที่ดูทะมัดทะแมง ก่อนจะบอกว่าช่วงสายอย่างที่พวกเราเดินทางมาถึงนี่แหละ เหมาะกับการให้สัมภาษณ์เป็นที่สุด “ชีวิตประจำวันของเมย์ต้องฝึกซ้อมทุกวันค่ะ ช่วงเปิดเทอมโค้ชจะจัดตารางซ้อมไม่ให้ตรงกับเวลาเรียน แต่ถ้าเป็นวันที่ไม่มีเรียนหรือช่วงปิดเทอมจะตื่น 07.00 น. เริ่มซ้อม 08.00-10.00 น. ช่วงสายจึงมีเวลาพักทำกิจกรรมต่างๆ เช่นกินข้าว ออกไปซื้อของใช้ส่วนตัว หรือให้สัมภาษณ์อย่างวันนี้ ซึ่งทุกกิจกรรมที่ทำควรเสร็จภายในเที่ยงครึ่ง เพราะเมย์ต้องซ้อมต่อช่วง 15.00 – 17.00 น. และอีกรอบคือ 19.00 – 21.00 น. ซึ่งจริงๆ โค้ชก็ไม่ได้บังคับว่าเราต้องทำธุระเสร็จภายในกี่โมง แต่เราต้องรู้ตัวเองว่าควรทำทุกอย่างให้เสร็จเวลาใดเพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะการซ้อมต้องใช้พละกำลังเยอะ ถ้าไม่ได้พักมันก็หนักเกินไปสำหรับร่างกาย”
ดูแลตัวเองแบบนักแบดมินตันมืออาชีพ “นักกีฬาแบดมินตัน ไม่ได้มีข้อจำกัดในการควบคุมน้ำหนักมากนัก แต่โดยทั่วไปแล้วนักกีฬาทุกคนก็จะมีการตั้งเกณฑ์ของตัวเองไว้ อย่างตัวเมย์ก็จะควบคุมน้ำหนักไม่ให้ห่างจาก 60 กิโลกรัม มากนัก เพราะถ้าหนักไปก็อึดอัดเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ผอมไปก็กลัวว่าจะไม่มีแรง ส่วนเรื่องอาหารมีนักโภชนาการให้คำแนะนำหลายอย่าง หลักๆ คือเวลาซ้อมเสียเหงื่อเยอะ ควรจะมีเครื่องดื่มเกลือแร่ไว้ใกล้ตัวตลอด หากซ้อมแล้วหิวให้กินกล้วยหอมที่ย่อยง่าย และสามารถดึงพลังงานมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนะนำให้กินน้ำมะพร้าวสด น้ำส้มคั้นสด ที่ให้วิตามินและเกลือแร่เหมาะกับนักกีฬาอย่างเรา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ส่วนใหญ่คุณแม่จะช่วยเตรียมเอาไว้ให้”
คุณแม่นักปรุง (อาหารดีที่เหมาะกับลูก) เมื่อน้องเมย์บอกว่าคุณแม่ดูแลเรื่องอาหารให้กับเธอ เราจึงซักถามซึ่งคุณแม่ก็อธิบายให้ฟังว่า “นักโภชนาการบอกให้เน้นดื่มน้ำส้ม น้ำมะพร้าว แม่เลยเตรียมไว้ให้ตลอด ทั้งน้ำมะพร้าวสด จากลูก รวมถึงส้มที่ซื้อมาทีละหลายกิโลกรัม แล้วทยอยคั้นสดๆ ให้น้องดื่ม ส่วนอาหารการกินอื่นๆ ไม่มีอะไรมากนักเนื้อสัตว์ก็กินได้ทุกอย่างแต่จะเน้นให้กินปลามากหน่อย ต้องกินผักและผลไม้ทุกวันด้วย ซึ่งเมย์เขาเป็นคนชอบกินผักผลไม้อยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาอะไร และตั้งแต่เด็กน้องเป็นคนกินง่าย แม่ทำอะไรให้ก็กิน ดังนั้นถ้านักโภชนาการมองว่าช่วงไหนน้องควรกินอะไรเพิ่มเติม เขาจะมาบอกแม่ แม่ก็จะปรุงอาหารให้ตามนั้น”
กินง่ายอยู่ง่ายสไตล์น้องเมย์ “เมย์เป็นคนไม่ค่อยคิดถึงเรื่องอาหารการกินเท่าไร อย่างที่แม่บอกเลย ว่าทำอะไรให้กินก็กินตามนั้น เพราะบางทีซ้อมเหนื่อยแล้วไม่อยากออกไปไหน กินอาหารง่ายๆ ที่แม่ทำนี่แหละสะดวกดี แต่ก็มีเมนูโปรดที่เมย์ชอบขอให้แม่ทำอยู่เหมือนกันค่ะ พวกผัดกะหล่ำ หมูทอด ลาบหมู อันนี้ชอบเป็นพิเศษเลยมีรีเควสต์บ้าง ช่วงที่ต้องไปแข่งต่างประเทศอาจจะเลือกกินขึ้นมาหน่อย เพราะอาหารแถบยุโรปบางทีกินเยอะๆ แล้วรู้สึกว่าเลี่ยน เมย์เลยเตรียมพวกน้ำสลัด หรือน้ำจิ้มไก่ไปด้วย ใส่เพิ่มเข้าไปหน่อยแล้วอาหารมันถูกปากเรามากขึ้น”
ถึงซ้อมหนัก แต่ไม่เคยต้องห่างครอบครัว ฟังน้องเมย์เล่าแล้วหลายคนอาจยังสงสัย ว่าเพราะเหตุใดคุณแม่คำผันจึงดูแลลูกสาวได้อย่างใกล้ชิดชนิดติดขอบคอร์ตแบดมินตันเช่นนี้ คุณแม่เฉลยให้ฟังว่า “แม่ทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ในโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดอยู่แล้ว ดังนั้นถึงน้องเมย์จะซ้อมหนักแต่เราก็ได้เจอกันอยู่ตลอด บางทีซ้อมแล้วเหนื่อยน้องก็เดินมาคุยกับแม่ หรืออยู่ๆ อยากกินอะไรก็เดินมาหาในครัวให้แม่ทำให้กิน ส่วนคุณพ่อน้องเมย์ (วินัสชัย อินทนนท์) และน้องชาย (ด.ช.รัชพล อินทนนท์) ก็พักอยู่ที่นี่เหมือนกัน บ้านเราเลยได้อยู่พร้อมหน้ากันเสมอ ซึ่งนับเป็นโชคดีเพราะอย่างที่รู้กันว่า นักกีฬาหลายคนเวลาซ้อมหรือเก็บตัวก่อนแข่งต้องห่างบ้าน แต่สำหรับน้องเมย์เขาได้อยู่กับครอบครัวตลอด”
เพราะได้อยู่กับครอบครัวอย่างใกล้ชิดเช่นนี้หรือเปล่า เลยกำลังใจดี? เรากระเซ้าถามน้องเมย์ เธอพยักหน้ายิ้มรับแทนคำตอบ ก่อนจะควงคุณแม่เข้าครัวปรุงจานโปรดที่เธอมักอ้อนให้คุณแม่ทำบ่อยๆ อย่าง ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย ให้ทีมงานได้ชมและชิม ซึ่งเราก็ได้นำสูตรดังกล่าวมาฝากคุณผู้อ่านในโอกาสนี้แล้ว
ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 15 นาที ปรุง 30 นาที
หมูสันใน หั่นเป็นชิ้นบาง 2 ขีด
ไข่ไก่ 1 ฟอง
นมข้นจืด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับทอด ½ ถ้วย
ส่วนผสมกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย
กะหล่ำปลี หั่นชิ้นพอคำ 3 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา