มกราคมเป็นเดือนที่จขกท.แม่บ้านไทยเมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่นมีโมจิเหลือเฟือเต็มบ้าน เพราะโมจิที่ใช้ตั้งถวายเทพเจ้ากันในช่วงปีใหม่ (คะงะมิ-โมจิ) ได้ถูกเอาลงจากแท่นมาหั่นทานกัน อีกทั้งจขกท.ได้รับโมจิมาอีกมากมายจากคนเฒ่าคนแก่ที่ทานมากไม่ค่อยได้เพราะกลัวติดคอด้วยความเหนียวของมัน กระทู้ของเดือนนี้จึงขอแนะนำวิธีทำโมจิทานกันแบบง่ายๆ
โมจิไม่ใช่ทานกันเป็นขนมอย่างเดียว แต่ทานเป็นอาหารหลักได้ ตามที่แม่บ้านไทยเมืองเซนไดได้เล่าในกระทู้ก่อน เช่นในเช้าวันปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นจะทำ "โอะโซนิ" (お雑煮） หรือซุปใส่โมจิทานกัน เป็นซุปที่ไม่ต้องทานกับข้าวเพราะมีโมจิซึ่งเป็นก้อนข้าวเหนียวอยู่ในนั้นแล้ว
แต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นมีวิธีทำโอะโซนิต่างกันไป เมืองเซนไดที่จขกท.อยู่นั้นจะมีปลา "ฮะเซะ"วางอยู่ในซุปด้วย และอาจจะมีไข่ปลาแซลมอน ("อิคุระ") แถม
ด้วยความที่จขกท.ชอบทานโมจิ จึงทำ"โอะโซนิ"ทานทั้งปี ไม่เฉพาะแต่วันปีใหม่ แต่วันที่ไม่มีเวลาหุงข้าว ซุปนี้ทำได้เร็วมากและมีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะใส่ผักเยอะ อีกทั้งเต้าหู้ เห็ด และเนื้อ ในขณะที่ไม่ใช้น้ำมันเลย กระทู้นี้ขอแนะนำวิธีทำง่ายๆ เอาแบบที่สามารถงัดใช้เครื่องปรุง วัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในตู้เย็นมาใช้
ในภาพคือ โมจิ, หัวไชเท้า, แครอท, ต้นหอม(จะใช้หัวหอมก็ได้), เห็ดชิตะเกะ (หรือเห็ดอื่นก็ได้), เต้าหู้(ทอดหรือธรรมดาก็ได้), ผักเขียว (อะไรก็ได้ ในรูปคือผักชูนคิคุ), หัวโกโบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) และเนื้อไก่ (จะใช้เนื้อหมูก็ได้) ส่วนเครื่องปรุงรสก็มีแค่ผงดะชิ (ผงทำซุป จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)กับ น้ำซอสทซึยุ (つゆ）ซึ่งเป็นซอสสำหรับทำอาหารซุปต่างๆของญี่ปุ่น
วิธีทำแสนง่ายคือหั่นวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอเหมาะ จะหั่นทรงท่อน ทรงเสี้ยว หรือแฉลบๆยังไงก็ได้ ยกเว้นโกโบ ต้องแฉลบๆบางๆ แล้วแช่น้ำเย็นสักพักเอาความฝาดออกก่อน ยุ่งยากนักก็ซื้อแบบที่หั่นใส่ถุงมาแล้วก็ได้
ตวงน้ำสัก 1.5 ลิตรใส่หม้อตั้งไฟ ใส่ผักแข็งๆที่ต้องใช้เวลาต้มนานลงไปก่อน ในที่นี้คือ หัวไชเท้า แครอท โกโบ สัก 10-15 นาที ดูว่านิ่มแล้วใส่ผงดะชิ 1 ซอง (ราวๆ 6 กรัม)ลงไป
ใส่เนื้อไก่ (หรือหมู) เต้าหู้ทอดและเห็ด ต้มต่ออีก 10 นาที แล้วใส่ซอสทซึยุสัก 80 มล. ซอสจะใส่มากน้อยได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ เนื่องจากซอสแต่ละยี่ห้อมีความเข้มข้นต่างกัน ขอให้ผู้ทำชิมไปใส่ไปตามใจตัวเองค่ะ
เสร็จแล้วใส่โมจิลงไป ตามจำนวนผู้ทาน คนญี่ปุ่นจะทานกันคนละ 1-2 ก้อน
ต้มต่อสัก 1 นาทีเศษๆ พอโมจินิ่มก็ใส่ผักเขียวแล้วดับไฟได้เลย เป็นอันเสร็จ
พร้อมทานแล้วค่ะ
กระทู้ก่อนเกี่ยวกับการทำโมจิหรือดังโงะ อ่านได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34687916
http://ppantip.com/topic/34715065
อยากรู้เรื่องราวใดๆของเมืองเซนได หรือภูมิภาคโทโฮะกุ (อีสานญี่ปุ่น) เขียนมาถามได้เลยนะคะ จขกท.ปักหลักอยู่ที่นี่นานมากจนถูกเรียกว่า "แม่เฒ่าไทยในเซนได" ไปแล้ว
ทำโมจิทานกันเป็นอาหารคาว: แม่บ้านไทยในเซนไดเล่าวิธีทำอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ
โมจิไม่ใช่ทานกันเป็นขนมอย่างเดียว แต่ทานเป็นอาหารหลักได้ ตามที่แม่บ้านไทยเมืองเซนไดได้เล่าในกระทู้ก่อน เช่นในเช้าวันปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นจะทำ "โอะโซนิ" (お雑煮） หรือซุปใส่โมจิทานกัน เป็นซุปที่ไม่ต้องทานกับข้าวเพราะมีโมจิซึ่งเป็นก้อนข้าวเหนียวอยู่ในนั้นแล้ว
แต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นมีวิธีทำโอะโซนิต่างกันไป เมืองเซนไดที่จขกท.อยู่นั้นจะมีปลา "ฮะเซะ"วางอยู่ในซุปด้วย และอาจจะมีไข่ปลาแซลมอน ("อิคุระ") แถม
ด้วยความที่จขกท.ชอบทานโมจิ จึงทำ"โอะโซนิ"ทานทั้งปี ไม่เฉพาะแต่วันปีใหม่ แต่วันที่ไม่มีเวลาหุงข้าว ซุปนี้ทำได้เร็วมากและมีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะใส่ผักเยอะ อีกทั้งเต้าหู้ เห็ด และเนื้อ ในขณะที่ไม่ใช้น้ำมันเลย กระทู้นี้ขอแนะนำวิธีทำง่ายๆ เอาแบบที่สามารถงัดใช้เครื่องปรุง วัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในตู้เย็นมาใช้
ในภาพคือ โมจิ, หัวไชเท้า, แครอท, ต้นหอม(จะใช้หัวหอมก็ได้), เห็ดชิตะเกะ (หรือเห็ดอื่นก็ได้), เต้าหู้(ทอดหรือธรรมดาก็ได้), ผักเขียว (อะไรก็ได้ ในรูปคือผักชูนคิคุ), หัวโกโบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) และเนื้อไก่ (จะใช้เนื้อหมูก็ได้) ส่วนเครื่องปรุงรสก็มีแค่ผงดะชิ (ผงทำซุป จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)กับ น้ำซอสทซึยุ (つゆ）ซึ่งเป็นซอสสำหรับทำอาหารซุปต่างๆของญี่ปุ่น
วิธีทำแสนง่ายคือหั่นวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอเหมาะ จะหั่นทรงท่อน ทรงเสี้ยว หรือแฉลบๆยังไงก็ได้ ยกเว้นโกโบ ต้องแฉลบๆบางๆ แล้วแช่น้ำเย็นสักพักเอาความฝาดออกก่อน ยุ่งยากนักก็ซื้อแบบที่หั่นใส่ถุงมาแล้วก็ได้
ตวงน้ำสัก 1.5 ลิตรใส่หม้อตั้งไฟ ใส่ผักแข็งๆที่ต้องใช้เวลาต้มนานลงไปก่อน ในที่นี้คือ หัวไชเท้า แครอท โกโบ สัก 10-15 นาที ดูว่านิ่มแล้วใส่ผงดะชิ 1 ซอง (ราวๆ 6 กรัม)ลงไป
ใส่เนื้อไก่ (หรือหมู) เต้าหู้ทอดและเห็ด ต้มต่ออีก 10 นาที แล้วใส่ซอสทซึยุสัก 80 มล. ซอสจะใส่มากน้อยได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ เนื่องจากซอสแต่ละยี่ห้อมีความเข้มข้นต่างกัน ขอให้ผู้ทำชิมไปใส่ไปตามใจตัวเองค่ะ
เสร็จแล้วใส่โมจิลงไป ตามจำนวนผู้ทาน คนญี่ปุ่นจะทานกันคนละ 1-2 ก้อน
ต้มต่อสัก 1 นาทีเศษๆ พอโมจินิ่มก็ใส่ผักเขียวแล้วดับไฟได้เลย เป็นอันเสร็จ
พร้อมทานแล้วค่ะ
กระทู้ก่อนเกี่ยวกับการทำโมจิหรือดังโงะ อ่านได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34687916
http://ppantip.com/topic/34715065
อยากรู้เรื่องราวใดๆของเมืองเซนได หรือภูมิภาคโทโฮะกุ (อีสานญี่ปุ่น) เขียนมาถามได้เลยนะคะ จขกท.ปักหลักอยู่ที่นี่นานมากจนถูกเรียกว่า "แม่เฒ่าไทยในเซนได" ไปแล้ว