วันนี้มารีวิวห้องอาหาร Mistral ที่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ จี บนถนนสีลม ซึ่งช่วงนี้ทางห้องอาหารเค้าจัดเทศกาลอาหารเอเชีย จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งแต่ละเดือนก็จะหมุนเวียนอาหารสัญชาติต่าง ๆ ทั่วเอเชียมาเป็นธีมหลักในแต่ละเดือน ทั้ง อาหารไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ซึ่งเดือนกรกฎาคมที่ผมมารีวิวนี้ จะเป็นธีมอาหารเกาหลี และเดือนหน้าสิงหาคมจะเป็นธีมอาหารเวียดนาม

Mistral จะอยู่ชั้น 2 ของโรงแรมฯ บรรยากาศเป็นห้องโถงไล่ระดับ ไลน์อาหารจอยู่ตรงส่วนที่ยกสูง และส่วนที่เหลือก็จะเป็นโต๊ะนั่ง และไลน์ขนม

ตกแต่งในรูปแบบของ Casual Contemporary ให้ความรู้สึกกันเอง ๆ มีผนังด้านนึงเป็นหน้าต่างเห็นวิวถนนสีลม ได้ชัดเจน

และยังมีห้องสำหรับให้เด็ก ๆ น้อง ๆ ได้เข้าไปเล่นแถมมีพี่โบโซ่ คอยเอ็นเตอร์เทนน้อง ๆ ให้อีกด้วย ใครที่ไปเป็นครอบครัวนี่สบายใจได้เลยครับ

Sunday Brunch ให้บริการทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12:00 – 15:00 น. มีราคาสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ดังนี้
     • ผู้ใหญ่ ราคา 899 บาท(net)/ท่าน รวมชา กาแฟ และน้ำผลไม้ แต่ไม่รวมน้ำดื่ม
     • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลด 50% และ เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ทานฟรี
     • บวกอีก 650 บาท(net)/ท่าน ก็จะได้ Beer. Wine. Sparkling wine แบบ Free Flow เลย

เมนูของ Sunday brunch ที่ Mistral ก็มีหลายมุมทั้งสลัดบาร์ / ซุ้มพาสต้า / ซุ้มก๋วยเดี๋ยว / ซุ้มบาร์บีคิว / ซุ้มซูชิ / ซุ้ม cold cut และซุ้มขนมหวาน โดยผมขอไล่เรียงไปเลยแล้วกันครับ เริ่มจากซุ้มบาร์บีคิว เลยแล้วกันครับ เพราะค่อนข้างโดดเด่นที่สุด

บาร์บีคิว
มีให้เลือกทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อปลา เราก็ตักใส่จานแล้วหนีบเลขโต๊ะไว้ พนักงานก็จะไปเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ รสชาติใช้ได้กินกับเกลือพริกไทย ก็ใช้ได้แล้ว แต่น้ำจิ้มของทางโรงแรมก็อร่อยใช้ได้เลย บาร์บิคิวออกเค็ม ๆ กินกับน้ำจิ้มรสออกหวานหอมกินแล้วเข้ากันดีมากครับ อร่อย

ข้าง ๆ กันก็จะมีสะโพกไก่ย่างแบบเกาหลี กินกับงา และเครื่องเครียงที่เป็นผักดอง และ สะโพกไก่ย่างที่ใช้กรรมวิธีการปรุงคล้ายเคบาบเลย แต่อร่อยและนุ่มมาก เมนูทั้งหมดในมุมนี้ก็เป็นไฮไลท์ของเดือนกรกฎาคมนี้ และก็เป็นตัวแทนของอาหารเกาหลีนั่นเองครับ


Cheese & Cold cut
ซุ้มนี้ก็เป็นซุ้มที่รสชาติอาหารและคุณภาพใช้ได้เลยครับ สังเกตดูจะมีชีสและ cold cut ที่ค่อนข้างหลากหลาย และพอลองกินก็รู้สึกดีเลยครับ นุ่ม หอม เค็มกำลังดี ใครที่ชอบก็แนะนำเลยครับ


สลัดบาร์
สำหรับผมไม่ค่อยตื่นเด้นเท่าไหร่กับมุมนี้ มีทั้งผักสด และสลัดยำที่ปรุงไว้ให้แล้ว ลองชิมดูนิด ๆ หน่อย ๆ รสชาติก็กลาง ๆ ครับ


อาหารทะเล
มุมนี้ผมว่าดีเลยนะ เรื่องความสดใช้ได้ เรื่องรสชาติใช้ได้ แต่เรื่องขนาดและความหลากหลายถ้าใหญ่และหลากหลายกว่านี้จะเป็นอะไรที่เวิร์คมากครับ และนอกเหนือจากอาหารทะเล ก็จะมีแซลมอนรมควันด้วย เมนูอร่อยครับ

แต่ซุ้มนี้จะมีเมนูแซลมอนรมควันและ แซลมอนทาร์ทาร์ด้วย ซึ่งผมว่ามันอร่อยดีนะ หอม ๆ มัน ๆ นุ่ม ๆ อาจเป็นเพราะส่วนผสม และการหั่นแซลมอนที่ขนาดไม่เล็กเกินไป ยังคงได้เนื้อสัมผัสที่ดีของแซลมอนอยู่


ซูชิ & ซาชิมิ
ซุ้มนี้ก็เป็นตัวแทนของอาหารญี่ปุ่น แต่ที่ผมว่าโอเคที่สุดก็คือแซลมอนซาชิมิครับ เพราะเนื้อปลาแน่น เนียน นุ่ม ใช้ได้เลย แต่อย่างอื่นในมุมนี้ผมไม่ค่อยแนะนำครับ


พาสต้า
ซุ้มนี้สร้างบรรยากาศให้กับห้องอาหารได้ชัดเจนที่สุดเพราะอยู่หน้าสุด และเวลาปรุงกลิ่นจะค่อนข้างคละคลุ้งไปทั้งบริเวณ ทำให้เกิดแรงยั่วยวนให้เราต้องไปสั่งบ้าง แต่เมนูไหนที่วัตถุดิบเผ็ดร้อน ก็มีฉุนมีจามกันเล็กน้อย แล้วกลิ่นของซุ้มนี้มันก็ทำให้ผมต้องเดินไปสั่ง มีหลากหลายเมนูมากครับเลือกได้ทั้งเส้นและน้ำซอส วันนี้ผมเลือกไป 3 แบบครับ

สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้ง แฮม
สีสันสวยงามใช้ได้ เส้นสปาเก็ตตี้ที่นี่เพอร์เฟคมากครับ นุ่ม แต่ไม่นิ่มจนเกินไป นำไปผัดแล้วได้เส้นที่กำลังดีมาก ๆ แต่รสชาติยังอ่อนอยู่ ถ้าปรุงให้รสจัดกว่านี้จะทำให้ทุกอย่างเพอร์เฟคมากครับในความคิดผม


สปาเก็ตตี้ผัดซอสเพรสโต้
ผมว่าเพรสโต้เค้าหอมดี ไม่ฉุนเกินไป แต่เวลาผัดออกมาแล้วมันจะค่อนข้างมันไปหน่อย หรืออาจเป็นเพราะว่าผมสั่งเค้าว่าของเพรสโต้เยอะ ๆ ก็ไม่รู้ แต่ก็เหมือนจานแรกครับ รสอ่อนไปผมต้องใส่ชีส และเกลือเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ รสชาติถึงจะโอเคครับ


เพนเน่ซอสเนื้อ
จานนี้อร่อยสุดใน 3 จาน ของสปาเก็ตตี้เพราะมีรสชาติที่เข้มข้นที่สุด แล้วซอสเนื้อที่เวลาผัดกับเส้นเพนเน่แล้วมันจะเข้าไปอยู่ในรูนั้นก็ทำให้แต่ละคำที่เรากินได้รสชาติของซอสเนื้อได้อย่างเต็มที่เลย อร่อยครับ เมนูนี้แนะนำครับ


เนื้อย่าง
เนื้อข้างนอกย่างมาสุกกำลังดี ด้านในก็ออกชมพู ๆ สีสวยมาก กินกับซอส หรือเกลือพริกไทยก็อร่อยเลยครับ


ก๋วยเตี๋ยว
เป็นอีกเมนูที่ปรุงกันใหม่ ๆ เรื่องรสชาติ ไม่ค่อยพิเศษ ตัวลูกชิ้นผมว่าก็ยังธรรมดา แต่ที่พิเศษผมว่าเป็นเรื่องคุณภาพของเกี๊ยว เพราะกลิ่นหอม เนื้อกุ้งแน่นเด้งเลยครับ ฉะนั้นใครที่สั่งเกี๊ยวมากินก็ปรุงอีกสักนิดหน่อยก็น่าจะได้เกี๊ยวที่อร่อยแล้วครับ


ซุ้มเครื่องดื่ม
ในมื้อ Sunday brunch นี้จะไม่มีน้ำเปล่าบริการ ต้องสั่งเพิ่ม ก็เห็นจะมีซุ้มนี้ที่จะทำให้เราไม่กระหายครับ แต่ถ้าใครที่ไม่ดื่มน้ำผลไม้ก็ลำบากหน่อยครับ ต้องสั่งน้ำเปล่ากิน ก็ตกขวดละประมาณ 70 บาท ครับ ฉะนั้นสำหรับผม ผมก็จะมาแวะเวียนที่ซุ้มนี้บ่อย ๆ ครับ


ซุ้มผลไม้
ก็มีผมไม้สดให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่ผมชอบคือ ส้มเช้งที่เค้าปอกเปลือกมาให้อย่างดี แต่เสียดายที่มันเปรี้ยวไปหน่อย และก็ฟรุ๊ตสลัด ก็อร่อยครับ ส่วนไอศกรีมรสจะอ่อนไปหน่อย และละลายเร็วเพราะเป็นไอศกรีมโอมเมทครับ


ซุ้มของหวาน
เท่าที่ผมชิมเมนูอาหารคาวเกือบทุกเมนูของที่นี่ ผมว่าก็มีบางเมนูอร่อย บางเมนูต้องปรุงเพิ่มนิดหน่อย ถึงจะอร่อย แต่สำหรับซุ้มของหวานนี้ผมว่าทาง Mistral ทำออกมาได้ดีมาก ขนมหวานอร่อยทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแล็ตฟองดอง, เค้กทีรามิสุ, โอเปร่า, เค้กแอปเปิ้ล ฯลฯ แล้วทางห้องอาหารก็ยังเตรียมเครื่องสำสายไหม และเครื่องทำป๊อปคอร์นมาไว้ให้เราได้สนุกกันด้วยครับ

สรุป ห้องอาหาร Mistral ที่โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G บนถนนสีลมนี้ทำ Sunday Brunch ออกมาได้ดีในเรื่องของความหลากหลาย แต่ผมว่ายังสะท้อนธีมอาหารเอเชียได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ถือเป็น Sunday Branch ที่ราคาน่ารักดี ไม่ถึงพันบาท ตกอยู่ที่ท่านละ 899 บาท(net)เอง ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับภาพรวม แม้จะไม่ได้มีวัตถุดิบหรูหราไฮโซมาก แต่ก็ทำให้ชีวิตยามบ่ายวันอาทิตย์ดีขึ้นมาได้ครับ คุณภาพในหลาย ๆ เมนูทำได้ดี อย่างเช่น เนื้อย่าง, ปลาแซลมอน, อาหารทะเล และที่ผมว่าเด่นมากอีกอย่างคือขนมหวานครับ แต่ก็มีข้อควรระวังนิดหน่อยคือ บุฟเฟต์ราคานี้ไม่รวมน้ำเปล่านะครับ จะมีแค่น้ำผลไม้ ชา กาแฟ เท่านั้นครับ ผมว่า Mistral เหมาะกับการไปเป็นครอบครัวครับเพราะมีห้องเด็กเล่นให้ด้วย และตอนนี้รู้สึกทางห้องอาหารจะมีโปรไปกินแล้วได้ร่วมลุ้นไปเวียดนามฟรี 2 คืนด้วยครับ ยังไงลองสอบถามทางห้องอาหารดูนะครับ โทร. 0 2238 1991 หรืออีเมล h3616@accor.com

รีวิวและรูปภาพเพิ่มเติม : http://www.bumres.com/th/restaurant/Mistral-Pullman-Bangkok-Hotel-G/review/6143