ภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิดพร้อมกับมีสายฝนโปรยปรายที่เทกระหน่ำไม่ยั้งส่งผลให้ตรอกมืดๆในสลัมเเห่งหนึ่งนั้นชื้นแฉะเเละสกปรกมีเเมลงสาบบินวนไปมา ในซอกผนังกลิ่นเหม็นเน่ามีร่างเด็กหนุ่มผอมกระหร่องวัย 14 ปี กำลังนั่งกอดหัวเข่าด้วยอาการสั่นเทา สายตาบ่งบอกถึงความกลัวบางอย่างฉายเเววออกมาอย่างเห็นได้ชัดด้วยความหนาวเย็นที่บวกกับสภาพอากาศและเมืองทำให้ความหนาวยิ่งทวีคูณมากขึ้นทำให้ริมฝีปากของเขาสั่นอย่างยั้งไม่ได้และมีบางสิ่งที่ทำให้เขาสะดุ้งตัวสุดขีดกลัวอย่างลนลานเมื่อมีเสียงบางอย่างตกกระทบพื้นก่อให้เกิดก้อนหินก้อนอิฐแตกกระจาย ซึ่งเขารู้ดีว่ามันคืออะไร
โครม!!!! เสียงรื้อค้นสิ่งของดังอยู่รอบๆตัวเขา เขาเม้มปากเเน่น มือเกร็งเท้าเกร็งไปหมดพลางหลับตาปี๋
"ตามหามันให้เจอ ข้าว่ามันคงอยู่แถวนี้ ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก อาาาาาข้าได้กลิ่นมัน" เสียงทุ้มใหญ่แฝงไปด้วยความเเหบเเห้งเหมือนไม่เคยมีอะไรผ่านลำคอมานานนับสั่งให้ชายนิรนาม พวกมันพยักหน้าให้เเก่กันก่อนจะออกตัววิ่งปานสายลม
เด็กหนุ่มพยายามที่จะซ่อนตัว เเต่กลับมีมือบางอย่างมากระชากดึงเสื้ออันขาดวิ่นที่ท้ายทอยของเขาขึ้นมาจากซอกที่เขาหลบ
"ข้าเจอเเล้วนายท่าน" ชายดังกล่าวพูดพลางจับเขายกขึ้นอย่างกับปุยขนนุ่น พลางเดินมายังชายผู้มีเสียงทรงอำนาจที่มีรัศมีแผ่ขยายรังสีอำมหิตดังขึ้นในประโยคถัดมา
"ไง......หนุ่มน้อย ช่างโง่เขลานัก เเต่ยังไงเจ้าก็หนีข้าไม่พ้นดอก....จับมันมา" ชายผู้นั้นพูดก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถคันสีดำที่มีคนเปิดประตูคอยท่าไว้
"ปล่อย ปล่อยข้านะ!!!! เเอล เเอล" มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกจับมาเช่นกันพร้อมตะโกนเรียกเขาที่กำลังโดนหิ้วปีกอยู่
"เอ็ด เอ็ด ปล่อยข้านะ" เเอลเห็นเพื่อนรักถูกนำขึ้นรถไปโดยอยู่ในกิริยาที่ดิ้นรน เขาจึงตะโกนเรียกชื่อเพื่อนรักตอบ แต่ทว่า
น่ารำคาญจริง
ตุ๊บ เหมือนมีบางอย่างมากระเเทกที่ท้ายทอยของเขา ทำให้เขาล้มตัวลงพลางมีบางอย่างรับเขาไว้ก่อนจะเเบกเขาขึ้นรถ ภาพที่เขาเห็นนั้นลางเลือน เอ็ดพยายามดิ้นรนก่อนจะถูกฟาดที่ท้ายทอยพลางฟุบลงอย่างคนถูกปิดสวิตช์ เเอลมองเห็นได้เเค่นั้นก่อนเปลือกตาของเขาค่อยปิดลง
"ท่านคิดว่ามันดีแล้วหรือ เจ้าเด็กพวกนี่จะช่วยได้จริงหรือ กระผมว่าเด็กคนนี้จะเป็นคำสาป ในคำพยากรณ์บทใหญ่ที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เรา" กอร์ดอนพูดพลางมองร่างที่นอนสลบเหมือดของเเอล หากมีเสียงอันสั่นเทาที่แฝงไปด้วยความโกรธพูดชิงตัดประโยค
"เจ้าอย่ามาทำนายถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หากเจ้าไม่รู้อะไรอย่าพูดเลยจะดีกว่ามันจะบั่นทอนให้ข้าอยากตัดหัวเจ้าเสีย กอร์ดอน....." ชายนามว่ากอร์ดอนก้มหัวลง เเต่ชายผู้เป็นนายก็หลงคิดเองไม่ได้กับผู้เป็นสหายรัก
"ได้ข่าวลูน่ากับโลเเกนหรือเปล่า" ลูคัสถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำน่ากลัว
"ไม่เลยขอรับทั้งสองไม่ค่อยอยู่กับที่ พวกเราพยายามเเกะรอยเเต่เจอได้ไม่นานพวกเขาก็หายไป พวกเขาไหวตัวทันมากขอรับท่าน"กอร์ดอนกล่าวรายงานเสร็จเรียบร้อย พลางส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ก็คนที่ที่เจ้านายถามเป็นลูกของท่านลูคัสนะสิ ตามหามาเป็นปีๆ เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบที่ทำให้ลูกสาวและลูกชายหนีไป เมื่อผู้เป็นแม่ตายไปพวกเขาก็ได้หนีออกไปจากคฤหาสถ์ เมื่ออายุได้ 18 ปี ช่างน่าสงสารคนเป็นพ่อเสียจริง
"ท่านลูคัสขอรับ เด็กคนนี้จะช่วยท่านได้จริงๆหรือขอรับ"ชายหนุ่มถามด้วยความอยากรู้พลางมองกระจกหลังไปพลาง
"เดี๋ยวเจ้าก็รู้"
8 ปี ต่อมา..........
ภายใต้ลานฝึกซ้อมใหญ่มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่กำลังฝึกซ้อมฟันดาบกับชายหนุ่มอีก 10 คน ซึ่งทุกคนนั้นมีดีกรีความหล่อเหลาเป็นที่หนึ่ง ด้วยการวาดลวดลายวิชานี้ บ่งบอกได้เลยว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ดูเป็นเหมือนมืออาชีพได้อย่างสบาย เขาตวัดดาบของอีกฝ่ายให้หลุดมือ ก่อนมันจะจ่อที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างชำนาญการ
"เจ้าเเพ้ เอ็ด ..... ยอมรับความพ่ายเเพ้ซะดีๆ หึ" ชายหนุ่มเปล่งเสียงห้าวทุ้มออกมา เพื่อกดดันอีกฝ่าย พลางฉายรอยยิ้มเหี้ยมอย่างมีชัย
แต่อีกฝ่ายกับชักมีดพกสั้นขนาดพอมือ ออกมาปัดไปจากลำคอของตนอย่างว่องไว ก่อนจะรุกอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมเเพ้ทั้งตวัดและฟันฉวัดเฉวียนอย่างไม่รับรู้ถึงความเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะพุ่งตรงไปยังจุดสำคัญตรงตำเเหน่งหัวใจ แต่อีกฝ่ายก็ชำนาญเช่นกัน ทั้งสองตวัดดาบมายังคนละจุดเอ็ดจ่ออยู่ตำเเหน่งหัวใจเเต่กลับกลืนน้ำลายเมื่อปลายดาบจ่ออยู่ที่ลำคอเพียงครึ่งมิล เเอลยิ้มกริ่มอย่างแปล่งๆเอ็ดกัดฟันเมื่อเขาไม่สามารถที่จะชนะเเอลได้ตรงเลยซักครั้งทั้งสองลดดาบลงพร้อมๆกัน ก่อนจะมองสบสายตากันละกันอย่างดุเดือด
"เจ้ามันไม่รู้จักยอมเเพ้จริงๆ" เเอลพูดด้วยใบหน้าเกรงขึง
"เจ้ากับข้าก็เหมือนกันนั่นเเหละ ......เเอล" เอ็ดพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างกัน ทั้งสองต่างฝ่ายต่างเดินเข้าหากันเป็นวงกลม พร้อมกับกระชับอาวุธในมือเก็บดาบลงในฝัก
เเต่ทว่าใบหน้าของพวกเขาดันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มก่อนจะโผเข้าหากันทักทายอย่างสนิทสนม
"ฉันไม่อยากจะคิดเลยถ้าสองคนนั้นสู้กันขึ้นมาจริงๆ มันคงเป็นอะไรที่แปลกมาก" ชายหนุ่มที่เช็ดดาบได้อยู่ในเหตุการณ์พูดขึ้นกับเพื่อนๆอีก 8 คน ก่อนจะมองสองเพื่อนรักหยอกล้อกัน
"ใช่ มันคงจะเเปลกมากถ้าสองคนนี้ทำจริงๆ" ชายหนุ่มอีกคนพูดเเสดงความเห็นพลางมองสองเพื่อนรักเเกว่งดาบใส่กัน
"คุณแอลและคุณเอ็ดขอรับ นายท่านเรียกตัวด่วน" สองหนุ่มเพื่อนรักต่างหยุดชะงักก่อนจะพยักหน้าจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พลางเดินตามเข้าไป โดยมีกอร์ดอนเดินนำที่เป็นผู้ไม่มีใบหน้าเปลี่ยนแปลงอันใดเลย เป็นคนดูเเลท่านลูคัสมาโดยตลอดหากไม่มีใครมาแซงตำเเหน่งเลขาส่วนตัวอย่างเช่นคุณกอร์ดอนเลยสักคน เเอลคิดพลางเดินเลียบเคียงไปพร้อมกับเอ็ด
ชายหนุ่ม ณ ปัจจุบัน รวมทั้งหมดเป็น 11 คน ที่อยู่ในความดูเเลของลูคัส เเอลเป็นคนเเรกที่ลูคัสตั้งว่าเป็นอับดับหนึ่งก่อนจะเรียงตามลำดับคนที่ลูคัสนำเข้ามา เเละเอ็ดคือคนที่สองที่มาอยู่ด้วยกันจึงไม่เเปลกที่ทั้งคู่จะสนิทสนมกันทั้งที่ความจริงเเล้วทั้งสองรู้จักกันเป็นทุนเดิมอยู่เเล้วเลยกลายมาเป็นเพื่อนรักกันมา 8 ปี และคนอื่นก็มองพวกเขาอย่างนับถือ เนื่องด้วยทั้งสองมีความสามารถที่หลากหลายจึงเป็นที่น่าพอใจสำหรับลูคัส
"ทั้งสองมาแล้วขอรับนายท่าน" กอร์ดอนมายืนอยู่ข้างหลัง ก่อนจะดันหลังทั้งสองหนุ่มเบาๆ
แผ่นหลังกำยำ สีผมดำสนิท ที่กำลังนั่งจิบเลือดอย่างใจเย็น ค่อยๆหมุนเก้าอี้หันมาช้าๆ ดวงตาสีเเดงเพลิงฉายเเววอำนาจอย่างไร้เทียมทานก่อนมันจะอันตธานหายไปราวกับเวทย์มนต์เเละโครงหน้าอันคมสัน ผิวขาวเย็นซีค ทำให้แอลและเอ็ดอกสั่นขวัญเเขวนมิได้
"ไง เจ้าสองคน ถึงเวลาของเจ้าเเล้ว"กอร์ดอนกระซิบข้างหู หลังจากใช้เวทย์ล็อกกลอนประตู ทั้งสองมองหน้ากันยั่งเชิง ก่อนเเอลจะพูดออกมา
"เราสองคนพร้อมเเล้ว ท่านลูคัส" เขาพูดพลางก้มหัวทำความเคารพอย่างนอบน้อม
"หน้าที่ของพวกเจ้าคือ ตามหาลูกของข้า และมันเป็นรางวัลที่ข้ามอบชีวิตอิสระให้เเก่เจ้ากับโลกภายนอก เเต่จงระวังเเวมไพร์ตนอื่นไว้เพื่อชีวิตของเจ้า มันจะไม่ปราณีเจ้าเลยสักนิดดังนั้นข้าจะมอบพลังอมตะให้เเก่เจ้าเเต่ไม่ต้องกลัวไปเผ่าพันธุ์ข้าเเตกต่างจากเเวมไพร์จำพวกอื่นเจ้าจะใช้ได้ตามปกติเว้นเสียเเต่กายเจ้า หัวใจเจ้า วิญญาณเจ้า มันเปลี่ยนไปและไม่มีทางห้วนคืนมา "ระหว่างพูดนั้นสายตาอันเลื่อนลอย ฉายเเววอบอุ่นเมื่อพูดถึงลูกสาวและลูกชายเพียงชั่วขณะมันเปลี่ยนไปเมื่อกระพริบมัน
"ขอรับนายท่าน" ทั้งสองตอบพร้อมกัน พลางยืนเเย่งหายใจกันเพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกหรือเปล่า หรืออาจไม่ตลอดกาลเลยก็ได้
แอลกำฝ่ามือเเน่นเมื่อเขาจะต้องกลายเป็นเเวมไพร์ตามหน้าที่นับตั้งเเต่เขาย่างกรายเข้ามาในบ้านหลังนี้โดยที่เขายังไม่ได้ใชีวิตของมนุษย์อย่างเต็มอิ่ม ระยะเวลาที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้ถึงเเม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนอย่างหนักหนาสาหัสเเต่ส่วนลึกในจิตใจเขาก็ต้องการได้รับอิสรภาพเหมือนชายหนุ่มทั่วไปเขาฝันว่าจะมีชีวิตที่เพอร์เฟคเเต่เขาก็ทำได้เพียงเเค่คิดเท่านั้นเพราะนับจากนี้เขาจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แอลคลายฝ่ามือออกพลางหันไปทางเพื่อนรักที่อยู่ในอาการที่ไม่ต่างกัน
ลูคัสลุกขึ้นก่อนจะเดินมาหาเขาทั้งสอง เขาสัมผัสคอเเอลเป็นคนแรก เห็นเอ็ดได้เเต่หลับตาพ่นลมหายใจเข้าออกอย่างรุนเเรง ก่อนจะได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดอันเเสนทรมานเหมือนจะให้เขาตายไปเเล้วเกิดใหม่ เขาทรุดตัวลงกับพื้น กอร์ดอนตามมาพยุงให้นอนอยู่โซฟา เอ็ดเมื่อได้เห็นแอลสลบเหมือดลงไป เขาทำได้เพียงหลับตา เเละได้เปล่งเสียงออกมาอย่างทรมาน ล้มลงโดยมีกอร์ดอนรับร่างไว้ทัน ลูคัสดื่มเลือดชายหนุ่มทั้งสองเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายของเขาโงนเงนเมื่อได้มอบพลังให้เเก่ทั้งสองถึงแม้จะได้ดื่มเลือดก็ตาม
"นายท่าน กระผมจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้นะขอรับ"กอร์ดอนเมื่อเห็นอาการดังกล่าว จึงรีบไปเตรียมเครื่องดื่มให้นายของตนเมื่อลูคัสพยักหน้ายืนยัน
ลูคัส ทอดสายตามองลูกศิษย์เกิดใหม่ที่ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง เขาหวัง หวังว่าสิ่งที่เขามอบให้ไปจะไม่กลับมาทำลายเขา คำพยากรณ์เอ๋ย โปรดอย่าเป็นจริงเถิด ขอให้ข้าได้พบหน้าลูกของข้าเเล้วข้าพร้อมที่จะเจอบทลงโทษที่ท่านสั่ง พระเจ้า ข้าขอเพียงเท่านี้......ลูคัสก้มหน้ามองรูปหญิงสาวในลิ้นชักก่อนจะปิดมันลงเพื่อตัดความรู้สึกออกไปเพราะเขาไม่มีทางที่จะได้เธอกลับมา
The Vampire Powers. [บทที่1]
โครม!!!! เสียงรื้อค้นสิ่งของดังอยู่รอบๆตัวเขา เขาเม้มปากเเน่น มือเกร็งเท้าเกร็งไปหมดพลางหลับตาปี๋
"ตามหามันให้เจอ ข้าว่ามันคงอยู่แถวนี้ ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก อาาาาาข้าได้กลิ่นมัน" เสียงทุ้มใหญ่แฝงไปด้วยความเเหบเเห้งเหมือนไม่เคยมีอะไรผ่านลำคอมานานนับสั่งให้ชายนิรนาม พวกมันพยักหน้าให้เเก่กันก่อนจะออกตัววิ่งปานสายลม
เด็กหนุ่มพยายามที่จะซ่อนตัว เเต่กลับมีมือบางอย่างมากระชากดึงเสื้ออันขาดวิ่นที่ท้ายทอยของเขาขึ้นมาจากซอกที่เขาหลบ
"ข้าเจอเเล้วนายท่าน" ชายดังกล่าวพูดพลางจับเขายกขึ้นอย่างกับปุยขนนุ่น พลางเดินมายังชายผู้มีเสียงทรงอำนาจที่มีรัศมีแผ่ขยายรังสีอำมหิตดังขึ้นในประโยคถัดมา
"ไง......หนุ่มน้อย ช่างโง่เขลานัก เเต่ยังไงเจ้าก็หนีข้าไม่พ้นดอก....จับมันมา" ชายผู้นั้นพูดก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถคันสีดำที่มีคนเปิดประตูคอยท่าไว้
"ปล่อย ปล่อยข้านะ!!!! เเอล เเอล" มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกจับมาเช่นกันพร้อมตะโกนเรียกเขาที่กำลังโดนหิ้วปีกอยู่
"เอ็ด เอ็ด ปล่อยข้านะ" เเอลเห็นเพื่อนรักถูกนำขึ้นรถไปโดยอยู่ในกิริยาที่ดิ้นรน เขาจึงตะโกนเรียกชื่อเพื่อนรักตอบ แต่ทว่า
น่ารำคาญจริง
ตุ๊บ เหมือนมีบางอย่างมากระเเทกที่ท้ายทอยของเขา ทำให้เขาล้มตัวลงพลางมีบางอย่างรับเขาไว้ก่อนจะเเบกเขาขึ้นรถ ภาพที่เขาเห็นนั้นลางเลือน เอ็ดพยายามดิ้นรนก่อนจะถูกฟาดที่ท้ายทอยพลางฟุบลงอย่างคนถูกปิดสวิตช์ เเอลมองเห็นได้เเค่นั้นก่อนเปลือกตาของเขาค่อยปิดลง
"ท่านคิดว่ามันดีแล้วหรือ เจ้าเด็กพวกนี่จะช่วยได้จริงหรือ กระผมว่าเด็กคนนี้จะเป็นคำสาป ในคำพยากรณ์บทใหญ่ที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เรา" กอร์ดอนพูดพลางมองร่างที่นอนสลบเหมือดของเเอล หากมีเสียงอันสั่นเทาที่แฝงไปด้วยความโกรธพูดชิงตัดประโยค
"เจ้าอย่ามาทำนายถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น หากเจ้าไม่รู้อะไรอย่าพูดเลยจะดีกว่ามันจะบั่นทอนให้ข้าอยากตัดหัวเจ้าเสีย กอร์ดอน....." ชายนามว่ากอร์ดอนก้มหัวลง เเต่ชายผู้เป็นนายก็หลงคิดเองไม่ได้กับผู้เป็นสหายรัก
"ได้ข่าวลูน่ากับโลเเกนหรือเปล่า" ลูคัสถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำน่ากลัว
"ไม่เลยขอรับทั้งสองไม่ค่อยอยู่กับที่ พวกเราพยายามเเกะรอยเเต่เจอได้ไม่นานพวกเขาก็หายไป พวกเขาไหวตัวทันมากขอรับท่าน"กอร์ดอนกล่าวรายงานเสร็จเรียบร้อย พลางส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ก็คนที่ที่เจ้านายถามเป็นลูกของท่านลูคัสนะสิ ตามหามาเป็นปีๆ เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบที่ทำให้ลูกสาวและลูกชายหนีไป เมื่อผู้เป็นแม่ตายไปพวกเขาก็ได้หนีออกไปจากคฤหาสถ์ เมื่ออายุได้ 18 ปี ช่างน่าสงสารคนเป็นพ่อเสียจริง
"ท่านลูคัสขอรับ เด็กคนนี้จะช่วยท่านได้จริงๆหรือขอรับ"ชายหนุ่มถามด้วยความอยากรู้พลางมองกระจกหลังไปพลาง
"เดี๋ยวเจ้าก็รู้"
8 ปี ต่อมา..........
ภายใต้ลานฝึกซ้อมใหญ่มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่กำลังฝึกซ้อมฟันดาบกับชายหนุ่มอีก 10 คน ซึ่งทุกคนนั้นมีดีกรีความหล่อเหลาเป็นที่หนึ่ง ด้วยการวาดลวดลายวิชานี้ บ่งบอกได้เลยว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ดูเป็นเหมือนมืออาชีพได้อย่างสบาย เขาตวัดดาบของอีกฝ่ายให้หลุดมือ ก่อนมันจะจ่อที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างชำนาญการ
"เจ้าเเพ้ เอ็ด ..... ยอมรับความพ่ายเเพ้ซะดีๆ หึ" ชายหนุ่มเปล่งเสียงห้าวทุ้มออกมา เพื่อกดดันอีกฝ่าย พลางฉายรอยยิ้มเหี้ยมอย่างมีชัย
แต่อีกฝ่ายกับชักมีดพกสั้นขนาดพอมือ ออกมาปัดไปจากลำคอของตนอย่างว่องไว ก่อนจะรุกอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมเเพ้ทั้งตวัดและฟันฉวัดเฉวียนอย่างไม่รับรู้ถึงความเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะพุ่งตรงไปยังจุดสำคัญตรงตำเเหน่งหัวใจ แต่อีกฝ่ายก็ชำนาญเช่นกัน ทั้งสองตวัดดาบมายังคนละจุดเอ็ดจ่ออยู่ตำเเหน่งหัวใจเเต่กลับกลืนน้ำลายเมื่อปลายดาบจ่ออยู่ที่ลำคอเพียงครึ่งมิล เเอลยิ้มกริ่มอย่างแปล่งๆเอ็ดกัดฟันเมื่อเขาไม่สามารถที่จะชนะเเอลได้ตรงเลยซักครั้งทั้งสองลดดาบลงพร้อมๆกัน ก่อนจะมองสบสายตากันละกันอย่างดุเดือด
"เจ้ามันไม่รู้จักยอมเเพ้จริงๆ" เเอลพูดด้วยใบหน้าเกรงขึง
"เจ้ากับข้าก็เหมือนกันนั่นเเหละ ......เเอล" เอ็ดพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างกัน ทั้งสองต่างฝ่ายต่างเดินเข้าหากันเป็นวงกลม พร้อมกับกระชับอาวุธในมือเก็บดาบลงในฝัก
เเต่ทว่าใบหน้าของพวกเขาดันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มก่อนจะโผเข้าหากันทักทายอย่างสนิทสนม
"ฉันไม่อยากจะคิดเลยถ้าสองคนนั้นสู้กันขึ้นมาจริงๆ มันคงเป็นอะไรที่แปลกมาก" ชายหนุ่มที่เช็ดดาบได้อยู่ในเหตุการณ์พูดขึ้นกับเพื่อนๆอีก 8 คน ก่อนจะมองสองเพื่อนรักหยอกล้อกัน
"ใช่ มันคงจะเเปลกมากถ้าสองคนนี้ทำจริงๆ" ชายหนุ่มอีกคนพูดเเสดงความเห็นพลางมองสองเพื่อนรักเเกว่งดาบใส่กัน
"คุณแอลและคุณเอ็ดขอรับ นายท่านเรียกตัวด่วน" สองหนุ่มเพื่อนรักต่างหยุดชะงักก่อนจะพยักหน้าจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พลางเดินตามเข้าไป โดยมีกอร์ดอนเดินนำที่เป็นผู้ไม่มีใบหน้าเปลี่ยนแปลงอันใดเลย เป็นคนดูเเลท่านลูคัสมาโดยตลอดหากไม่มีใครมาแซงตำเเหน่งเลขาส่วนตัวอย่างเช่นคุณกอร์ดอนเลยสักคน เเอลคิดพลางเดินเลียบเคียงไปพร้อมกับเอ็ด
ชายหนุ่ม ณ ปัจจุบัน รวมทั้งหมดเป็น 11 คน ที่อยู่ในความดูเเลของลูคัส เเอลเป็นคนเเรกที่ลูคัสตั้งว่าเป็นอับดับหนึ่งก่อนจะเรียงตามลำดับคนที่ลูคัสนำเข้ามา เเละเอ็ดคือคนที่สองที่มาอยู่ด้วยกันจึงไม่เเปลกที่ทั้งคู่จะสนิทสนมกันทั้งที่ความจริงเเล้วทั้งสองรู้จักกันเป็นทุนเดิมอยู่เเล้วเลยกลายมาเป็นเพื่อนรักกันมา 8 ปี และคนอื่นก็มองพวกเขาอย่างนับถือ เนื่องด้วยทั้งสองมีความสามารถที่หลากหลายจึงเป็นที่น่าพอใจสำหรับลูคัส
"ทั้งสองมาแล้วขอรับนายท่าน" กอร์ดอนมายืนอยู่ข้างหลัง ก่อนจะดันหลังทั้งสองหนุ่มเบาๆ
แผ่นหลังกำยำ สีผมดำสนิท ที่กำลังนั่งจิบเลือดอย่างใจเย็น ค่อยๆหมุนเก้าอี้หันมาช้าๆ ดวงตาสีเเดงเพลิงฉายเเววอำนาจอย่างไร้เทียมทานก่อนมันจะอันตธานหายไปราวกับเวทย์มนต์เเละโครงหน้าอันคมสัน ผิวขาวเย็นซีค ทำให้แอลและเอ็ดอกสั่นขวัญเเขวนมิได้
"ไง เจ้าสองคน ถึงเวลาของเจ้าเเล้ว"กอร์ดอนกระซิบข้างหู หลังจากใช้เวทย์ล็อกกลอนประตู ทั้งสองมองหน้ากันยั่งเชิง ก่อนเเอลจะพูดออกมา
"เราสองคนพร้อมเเล้ว ท่านลูคัส" เขาพูดพลางก้มหัวทำความเคารพอย่างนอบน้อม
"หน้าที่ของพวกเจ้าคือ ตามหาลูกของข้า และมันเป็นรางวัลที่ข้ามอบชีวิตอิสระให้เเก่เจ้ากับโลกภายนอก เเต่จงระวังเเวมไพร์ตนอื่นไว้เพื่อชีวิตของเจ้า มันจะไม่ปราณีเจ้าเลยสักนิดดังนั้นข้าจะมอบพลังอมตะให้เเก่เจ้าเเต่ไม่ต้องกลัวไปเผ่าพันธุ์ข้าเเตกต่างจากเเวมไพร์จำพวกอื่นเจ้าจะใช้ได้ตามปกติเว้นเสียเเต่กายเจ้า หัวใจเจ้า วิญญาณเจ้า มันเปลี่ยนไปและไม่มีทางห้วนคืนมา "ระหว่างพูดนั้นสายตาอันเลื่อนลอย ฉายเเววอบอุ่นเมื่อพูดถึงลูกสาวและลูกชายเพียงชั่วขณะมันเปลี่ยนไปเมื่อกระพริบมัน
"ขอรับนายท่าน" ทั้งสองตอบพร้อมกัน พลางยืนเเย่งหายใจกันเพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกหรือเปล่า หรืออาจไม่ตลอดกาลเลยก็ได้
แอลกำฝ่ามือเเน่นเมื่อเขาจะต้องกลายเป็นเเวมไพร์ตามหน้าที่นับตั้งเเต่เขาย่างกรายเข้ามาในบ้านหลังนี้โดยที่เขายังไม่ได้ใชีวิตของมนุษย์อย่างเต็มอิ่ม ระยะเวลาที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้ถึงเเม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนอย่างหนักหนาสาหัสเเต่ส่วนลึกในจิตใจเขาก็ต้องการได้รับอิสรภาพเหมือนชายหนุ่มทั่วไปเขาฝันว่าจะมีชีวิตที่เพอร์เฟคเเต่เขาก็ทำได้เพียงเเค่คิดเท่านั้นเพราะนับจากนี้เขาจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แอลคลายฝ่ามือออกพลางหันไปทางเพื่อนรักที่อยู่ในอาการที่ไม่ต่างกัน
ลูคัสลุกขึ้นก่อนจะเดินมาหาเขาทั้งสอง เขาสัมผัสคอเเอลเป็นคนแรก เห็นเอ็ดได้เเต่หลับตาพ่นลมหายใจเข้าออกอย่างรุนเเรง ก่อนจะได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดอันเเสนทรมานเหมือนจะให้เขาตายไปเเล้วเกิดใหม่ เขาทรุดตัวลงกับพื้น กอร์ดอนตามมาพยุงให้นอนอยู่โซฟา เอ็ดเมื่อได้เห็นแอลสลบเหมือดลงไป เขาทำได้เพียงหลับตา เเละได้เปล่งเสียงออกมาอย่างทรมาน ล้มลงโดยมีกอร์ดอนรับร่างไว้ทัน ลูคัสดื่มเลือดชายหนุ่มทั้งสองเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายของเขาโงนเงนเมื่อได้มอบพลังให้เเก่ทั้งสองถึงแม้จะได้ดื่มเลือดก็ตาม
"นายท่าน กระผมจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้นะขอรับ"กอร์ดอนเมื่อเห็นอาการดังกล่าว จึงรีบไปเตรียมเครื่องดื่มให้นายของตนเมื่อลูคัสพยักหน้ายืนยัน
ลูคัส ทอดสายตามองลูกศิษย์เกิดใหม่ที่ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง เขาหวัง หวังว่าสิ่งที่เขามอบให้ไปจะไม่กลับมาทำลายเขา คำพยากรณ์เอ๋ย โปรดอย่าเป็นจริงเถิด ขอให้ข้าได้พบหน้าลูกของข้าเเล้วข้าพร้อมที่จะเจอบทลงโทษที่ท่านสั่ง พระเจ้า ข้าขอเพียงเท่านี้......ลูคัสก้มหน้ามองรูปหญิงสาวในลิ้นชักก่อนจะปิดมันลงเพื่อตัดความรู้สึกออกไปเพราะเขาไม่มีทางที่จะได้เธอกลับมา