ตอนที่ 1: เสียงครวญของน้ำใส
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ท่ามกลางป่าไม้และทุ่งนาที่ทอดยาว มีหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า แก้วคำ นางงามสะคราญวัย 20 ปี ผิวพรรณผ่องใสราวกับแสงจันทร์ยามค่ำ ตาคมดุจแมวน้ำ และเรือนผมดำยาวที่มักปล่อยสยายหรือมัดหลวม ๆ อย่างมีเสน่ห์
แก้วคำใช้ชีวิตอยู่กับ พ่อเดช ชายแก่ที่มีอายุเกินครึ่งศตวรรษ ผู้เป็นทั้งสามีและผู้ปกครองในชีวิตของนาง แม้พ่อเดชจะสูงวัย แต่เขายังแข็งแรงและเฉลียวฉลาด ทว่าเขากลับมีสิ่งหนึ่งที่เด่นชัดกว่าใครในหมู่บ้าน นั่นคือ ความหึงหวง
เช้าวันใหม่
แสงแดดอ่อน ๆ สาดลงบนเรือนไม้ยกพื้นสูงของแก้วคำ เธอถือถังน้ำเก่าคร่ำคร่าเดินลงบันไดมุ่งหน้าไปยังบ่อกลางหมู่บ้าน สวมเพียงผ้าซิ่นลายพื้นเมืองและเสื้อแขนกระบอกตัวบางที่เผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน
เมื่อแก้วคำก้มลงตักน้ำ เสียงหัวเราะคิกคักของหนุ่ม ๆ ดังแว่วมาจากพุ่มไม้
"นางงามจริง ๆ โว้ย! ผัวแก่แบบนั้นไม่น่าเหมาะเลย" เสียงชายคนหนึ่งพูดแผ่ว ๆ
"ใช่ นางเหมือนดอกบัวแรกแย้ม แต่พ่อเดชดูราวกับตอตะเคียนผุ" อีกคนเสริม
แก้วคำรับรู้ถึงสายตาที่จ้องมองอยู่ เธอไม่แสดงออกว่ารู้ตัว แต่ในใจกลับอึดอัด
กลับมาที่บ้าน
เมื่อแก้วคำก้าวขึ้นบันไดบ้าน พ่อเดชนั่งรออยู่ที่ระเบียง ดวงตาฝ้าฟางมองมาด้วยแววตาไม่พอใจ
"เมื่อกี้... ใครมันแอบมองเจ้าอีกล่ะ?" เขาถามด้วยเสียงห้วน ๆ
แก้วคำถอนหายใจพลางวางถังน้ำลง "ไม่มีใครหรอกพ่อเดช ข้าก็แค่ไปตักน้ำมาเหมือนทุกวัน"
พ่อเดชย่นคิ้ว "ข้าไม่ไว้ใจพวกหนุ่มนั่น มันเหมือนหมาที่เลียบคอก รอจะขโมยควายเจ้า!"
แก้วคำสบตาเขาอย่างเหนื่อยล้า "ข้าไม่ได้คิดอะไรกับพวกมันเลย ท่านก็รู้ว่าข้าซื่อสัตย์ต่อท่านแค่ไหน"
พ่อเดชยังไม่คลายความหึงหวง เขาลุกขึ้นยืนและประกาศกร้าว "วันพรุ่งนี้ข้าจะไปหาเฒ่าจันทราให้มาทำพิธีปัดเป่าพวกคนชั่ว จะได้เลิกมาแอบมองเจ้าเสียที!"
กลางดึก
เมื่อพ่อเดชหลับสนิท แก้วคำกลับรู้สึกไม่สบายใจ เธอมองออกไปนอกหน้าต่างที่แสงจันทร์ส่องกระทบแม่น้ำโขง หัวใจของนางเหมือนถูกบางสิ่งเรียกร้องลึก ๆ ราวกับมีเสียงแผ่วเบาที่ดังมาจากใต้สายน้ำ
เสียงนั้นกระซิบเบา ๆ แต่แฝงด้วยอำนาจลี้ลับ
"เจ้าเป็นของเรา... อย่าได้ลืม"
แก้วคำสะดุ้งและมองรอบ ๆ ห้อง แต่ทุกสิ่งกลับเงียบงัน ราวกับเสียงนั้นเป็นเพียงภาพลวงในจิตใจ
ติดตามตอนต่อไป
เมื่ออดีตที่แก้วคำไม่เคยรู้เริ่มเผยตัว และความลี้ลับในแม่น้ำโขงกลับกลายเป็นคำสาปที่ไม่อาจหลีกหนีได้ ความหึงหวงของพ่อเดชอาจไม่ใช่เพียงปัญหาเดียวของนาง...
นิทานเรื่อง นาคี ตำนานทายาทบาดาล
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ท่ามกลางป่าไม้และทุ่งนาที่ทอดยาว มีหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า แก้วคำ นางงามสะคราญวัย 20 ปี ผิวพรรณผ่องใสราวกับแสงจันทร์ยามค่ำ ตาคมดุจแมวน้ำ และเรือนผมดำยาวที่มักปล่อยสยายหรือมัดหลวม ๆ อย่างมีเสน่ห์
แก้วคำใช้ชีวิตอยู่กับ พ่อเดช ชายแก่ที่มีอายุเกินครึ่งศตวรรษ ผู้เป็นทั้งสามีและผู้ปกครองในชีวิตของนาง แม้พ่อเดชจะสูงวัย แต่เขายังแข็งแรงและเฉลียวฉลาด ทว่าเขากลับมีสิ่งหนึ่งที่เด่นชัดกว่าใครในหมู่บ้าน นั่นคือ ความหึงหวง
เช้าวันใหม่
แสงแดดอ่อน ๆ สาดลงบนเรือนไม้ยกพื้นสูงของแก้วคำ เธอถือถังน้ำเก่าคร่ำคร่าเดินลงบันไดมุ่งหน้าไปยังบ่อกลางหมู่บ้าน สวมเพียงผ้าซิ่นลายพื้นเมืองและเสื้อแขนกระบอกตัวบางที่เผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน
เมื่อแก้วคำก้มลงตักน้ำ เสียงหัวเราะคิกคักของหนุ่ม ๆ ดังแว่วมาจากพุ่มไม้
"นางงามจริง ๆ โว้ย! ผัวแก่แบบนั้นไม่น่าเหมาะเลย" เสียงชายคนหนึ่งพูดแผ่ว ๆ
"ใช่ นางเหมือนดอกบัวแรกแย้ม แต่พ่อเดชดูราวกับตอตะเคียนผุ" อีกคนเสริม
แก้วคำรับรู้ถึงสายตาที่จ้องมองอยู่ เธอไม่แสดงออกว่ารู้ตัว แต่ในใจกลับอึดอัด
กลับมาที่บ้าน
เมื่อแก้วคำก้าวขึ้นบันไดบ้าน พ่อเดชนั่งรออยู่ที่ระเบียง ดวงตาฝ้าฟางมองมาด้วยแววตาไม่พอใจ
"เมื่อกี้... ใครมันแอบมองเจ้าอีกล่ะ?" เขาถามด้วยเสียงห้วน ๆ
แก้วคำถอนหายใจพลางวางถังน้ำลง "ไม่มีใครหรอกพ่อเดช ข้าก็แค่ไปตักน้ำมาเหมือนทุกวัน"
พ่อเดชย่นคิ้ว "ข้าไม่ไว้ใจพวกหนุ่มนั่น มันเหมือนหมาที่เลียบคอก รอจะขโมยควายเจ้า!"
แก้วคำสบตาเขาอย่างเหนื่อยล้า "ข้าไม่ได้คิดอะไรกับพวกมันเลย ท่านก็รู้ว่าข้าซื่อสัตย์ต่อท่านแค่ไหน"
พ่อเดชยังไม่คลายความหึงหวง เขาลุกขึ้นยืนและประกาศกร้าว "วันพรุ่งนี้ข้าจะไปหาเฒ่าจันทราให้มาทำพิธีปัดเป่าพวกคนชั่ว จะได้เลิกมาแอบมองเจ้าเสียที!"
กลางดึก
เมื่อพ่อเดชหลับสนิท แก้วคำกลับรู้สึกไม่สบายใจ เธอมองออกไปนอกหน้าต่างที่แสงจันทร์ส่องกระทบแม่น้ำโขง หัวใจของนางเหมือนถูกบางสิ่งเรียกร้องลึก ๆ ราวกับมีเสียงแผ่วเบาที่ดังมาจากใต้สายน้ำ
เสียงนั้นกระซิบเบา ๆ แต่แฝงด้วยอำนาจลี้ลับ
"เจ้าเป็นของเรา... อย่าได้ลืม"
แก้วคำสะดุ้งและมองรอบ ๆ ห้อง แต่ทุกสิ่งกลับเงียบงัน ราวกับเสียงนั้นเป็นเพียงภาพลวงในจิตใจ
ติดตามตอนต่อไป
เมื่ออดีตที่แก้วคำไม่เคยรู้เริ่มเผยตัว และความลี้ลับในแม่น้ำโขงกลับกลายเป็นคำสาปที่ไม่อาจหลีกหนีได้ ความหึงหวงของพ่อเดชอาจไม่ใช่เพียงปัญหาเดียวของนาง...