กระทู้นี้ยาวนะคะ (ขออภัย)
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้ที่2เกี่ยวกับลดความอ้วนะคะ กระทู้ก่อนนี้พูดถึงการกินนับแคลลอรี่
ปัจจุบันนี้เราอายุ 19 สูง 160 น้ำหนักชั่งล่าสุด 65 แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเท่าไหร่แล้ว ไม่อยากชั่งค่ะ บั่นทอนจิตใจมาก TT
เมื่อหลายปีก่อนตัวเราเองเคยลองยามาหลายๆอย่าง หลายยี่ห้อ ทั้งยาลดน้ำหนักของคลินิคหรือตามร้านทั่วไป คือเราลองมาเยอะมากจนเราก็ดื้อยาสุดๆ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี ตอนกินยาลดน้ำหนักแรกๆ ก็ลดลงหลายกิโลเลย แต่พอหยุดกินก็กลับมาเพิ่มเกือบ 10 กิโล ในตอนนั้นน้ำหนักประมาน 54-55 คิดว่าตัวเองอ้วนมากแล้ว ก็เลยหันไปพึ่งยาของคลินิคชื่อดังแห่งนึง ตอนนี้ไปสองอาทิตย์ก็ลดประมาน 3 กิโลนิดๆ แต่พอหยุดก็ขึ้นมาเกือบสิบโล ตอนนั้นหนักประมาน 60กว่าๆเลยทีเดียว รู้สึกแย่มากๆ ตัวจะแตก เราก็พยายามไม่กินยาลดอีกสักระยะนึง ก็ลดลงเหลือ 57-58 กิโล ก็คิดว่าตัวเองอ้วนมากอ้วนกว่าเดิม ก็หันไปพึ่งยาอีก ไม่คิดจะออกกำลังกาย และจะผอมทางลัด กินไปกินมาจนถึงตอนนี้เราหนัก ประมาน 65 มันไม่ช่วยให้เราผอมเลย แต่มันทำให้เราโยโย่และหนักกว่าเดิมอีกมากมาย
เราเข็ดกับการลองยาลดน้ำหนักและผอมทางลัดแล้ว จากเด็กอ้วนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย ก็ปรับเปลี่ยนความคิด พยายามจะหาทางเผาผลาญแคลลอรี่ ตอนแรกเราเริ่มจากการนับแคลลอรี่ในการกินอาหารก่อน โดยมีคำพูดจากเพื่อนๆและคนใกล้ตัวว่าเรา ' ไม่เอ็นจอยในการกิน ทำแบบนี้ก็เครียดเปล่า ' แต่เราก็อดทนกับคำพูดพวกนั้น ทุกวันนี้ก็ยังนับแคลลอรี่ เกินบ้างลืมบ้าง ช่างมัน และเราก็ตระหนักได้อีกว่าเราควรจะออกกำลังกายด้วยนะ ทำแค่นี้ไม่ลดหรอก หลายๆกระทู้ที่ลดความอ้วนกันเขาก็ออกกำลังกายกันทั้งนั้น แล้วทำไมเราไม่ทำ ความอยากมากมายขึ้นมาให้หัวของเรา 'อยากผอม' 'อยากสวย' 'อยากหุ่นดี' 'อยากใส่เสื้อผ้าใซส์เล็กๆบ้าง' 'อยากดูดีขึ้น' 'อยากมีซิคแพค' สารพัดความอยากที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น
เรามีเพื่อนที่เล่นฟิตเนตและมีเทรนเนอร์เราก็สนใจ อยากเล่นบ้าง วิ่งบนลู่หรือเวท คาดิโอ อะไรประมานนั้น ด้วยความที่ตัวเองอยากมีกล้าม อยากมีซิคแพค แต่ราคามันก็แพงเหมือนกัน และเราก็กลัวตัวเองด้วยว่า ถ้าเราไม่ไปเล่นทุกวัน เราจะเสียโอกาส เขาจะได้เงินเราที่จ่ายรายเดือนๆไปฟรีๆ เราจะเสียผลประโยชน์ คือเรางกอ่ะ อยากเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นมากกว่า ก็เลยคิดไปถึงที่มหาลัย ที่มอเรามีฟิตเนต มีสนามแบต มีโรงยิม แต่มันอาจไม่กว้างมาก คนก็เยอะแย่งกันเล่น เราเลยเปลี่ยนความคิดใหม่ ในตอนนี้คิดออกคือ 'การเดินกลับจากมอไปหอทุกวันหลังเลิกเรียน' อาจดูบ้าบิ่นสำหรับคนรอบข้างของเราแต่เราก็ทำมันไปแล้ว เราเดินออกจากมอเดินไปหอของเรา ระยะทางประมาน 7 กิโลนิดๆ (ดูระยะทางจากเกิ้ลแมป) วันแรกๆที่เราเดินกลับ ไม่ถึงกับเหนื่อยมากแต่ขาเรา ก้นเรา คันมาก เหมือนเวลาวิ่งในชั่วโมงพละตอนมัธยมเลย เราคิดว่ามันอาจจะลดไม่เท่าการออกกำลังกายในฟิตเนต แต่อย่างน้อยมันก็ได้เผาพลาญไขมันในตัวเราไม่มากก็น้อย เราโทรหาแม่เราบอก 'แม่วันนี้หนูเดินกลับจากมอไปหอนะ หนูอยากผอม อยากสวย หนูไม่อยากไปฟิตเนตมันเสียดายเงินแม่' แม่เราก็บอกว่า 'น่าสงสารจังไอ้อ้วนเดินระวังนะลูก ดูแลตัวเองด้วย เหนื่อยก็พักนะ ' เรางี้น้ำตาคลอเลย มีแต่แม่ที่เข้าใจเราเสมอ
ทุกวันนี้เราก็เดินกลับจากมอไปหอเราและคำนวนแคลลอรี่การกินอยู่ อยากให้ทุกคนสู้ สู้เพื่อตัวเอง จะมีอะไรมาขัดขวางเรา มีคำพูดที่ดูถูกหรือบั่นทอนจิตใจเราก็ช่างมัน พวกนั้นเป็นเหมือนมารผจญให้เราทำไม่ได้ แต่ถ้าเราทำได้มันก็เหมือนแรงผลักดันที่ทำให้เราสู้และลบคำสอบประมาทพวกนั้น
ขอกำลังใจจากทุกคนในพันทิปด้วยค่ะ เด็กอ้วนคนนี้จะพยายามทำให้ได้ บอกกับตัวเองและทุกคนในพันทิปให้สู้ค่ะ จะไม่เป็นอีอ้วนที่ใส่เสื้อผ้าแล้วเหมือนตัวจะแตก หรือโดนคนล้ออีกต่อไป
เด็กอ้วนที่พยายามลดน้ำหนัก เปลี่ยนจากคำดูถูกให้เป็นแรงผลักดัน
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้ที่2เกี่ยวกับลดความอ้วนะคะ กระทู้ก่อนนี้พูดถึงการกินนับแคลลอรี่
ปัจจุบันนี้เราอายุ 19 สูง 160 น้ำหนักชั่งล่าสุด 65 แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเท่าไหร่แล้ว ไม่อยากชั่งค่ะ บั่นทอนจิตใจมาก TT
เมื่อหลายปีก่อนตัวเราเองเคยลองยามาหลายๆอย่าง หลายยี่ห้อ ทั้งยาลดน้ำหนักของคลินิคหรือตามร้านทั่วไป คือเราลองมาเยอะมากจนเราก็ดื้อยาสุดๆ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี ตอนกินยาลดน้ำหนักแรกๆ ก็ลดลงหลายกิโลเลย แต่พอหยุดกินก็กลับมาเพิ่มเกือบ 10 กิโล ในตอนนั้นน้ำหนักประมาน 54-55 คิดว่าตัวเองอ้วนมากแล้ว ก็เลยหันไปพึ่งยาของคลินิคชื่อดังแห่งนึง ตอนนี้ไปสองอาทิตย์ก็ลดประมาน 3 กิโลนิดๆ แต่พอหยุดก็ขึ้นมาเกือบสิบโล ตอนนั้นหนักประมาน 60กว่าๆเลยทีเดียว รู้สึกแย่มากๆ ตัวจะแตก เราก็พยายามไม่กินยาลดอีกสักระยะนึง ก็ลดลงเหลือ 57-58 กิโล ก็คิดว่าตัวเองอ้วนมากอ้วนกว่าเดิม ก็หันไปพึ่งยาอีก ไม่คิดจะออกกำลังกาย และจะผอมทางลัด กินไปกินมาจนถึงตอนนี้เราหนัก ประมาน 65 มันไม่ช่วยให้เราผอมเลย แต่มันทำให้เราโยโย่และหนักกว่าเดิมอีกมากมาย
เราเข็ดกับการลองยาลดน้ำหนักและผอมทางลัดแล้ว จากเด็กอ้วนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย ก็ปรับเปลี่ยนความคิด พยายามจะหาทางเผาผลาญแคลลอรี่ ตอนแรกเราเริ่มจากการนับแคลลอรี่ในการกินอาหารก่อน โดยมีคำพูดจากเพื่อนๆและคนใกล้ตัวว่าเรา ' ไม่เอ็นจอยในการกิน ทำแบบนี้ก็เครียดเปล่า ' แต่เราก็อดทนกับคำพูดพวกนั้น ทุกวันนี้ก็ยังนับแคลลอรี่ เกินบ้างลืมบ้าง ช่างมัน และเราก็ตระหนักได้อีกว่าเราควรจะออกกำลังกายด้วยนะ ทำแค่นี้ไม่ลดหรอก หลายๆกระทู้ที่ลดความอ้วนกันเขาก็ออกกำลังกายกันทั้งนั้น แล้วทำไมเราไม่ทำ ความอยากมากมายขึ้นมาให้หัวของเรา 'อยากผอม' 'อยากสวย' 'อยากหุ่นดี' 'อยากใส่เสื้อผ้าใซส์เล็กๆบ้าง' 'อยากดูดีขึ้น' 'อยากมีซิคแพค' สารพัดความอยากที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น
เรามีเพื่อนที่เล่นฟิตเนตและมีเทรนเนอร์เราก็สนใจ อยากเล่นบ้าง วิ่งบนลู่หรือเวท คาดิโอ อะไรประมานนั้น ด้วยความที่ตัวเองอยากมีกล้าม อยากมีซิคแพค แต่ราคามันก็แพงเหมือนกัน และเราก็กลัวตัวเองด้วยว่า ถ้าเราไม่ไปเล่นทุกวัน เราจะเสียโอกาส เขาจะได้เงินเราที่จ่ายรายเดือนๆไปฟรีๆ เราจะเสียผลประโยชน์ คือเรางกอ่ะ อยากเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นมากกว่า ก็เลยคิดไปถึงที่มหาลัย ที่มอเรามีฟิตเนต มีสนามแบต มีโรงยิม แต่มันอาจไม่กว้างมาก คนก็เยอะแย่งกันเล่น เราเลยเปลี่ยนความคิดใหม่ ในตอนนี้คิดออกคือ 'การเดินกลับจากมอไปหอทุกวันหลังเลิกเรียน' อาจดูบ้าบิ่นสำหรับคนรอบข้างของเราแต่เราก็ทำมันไปแล้ว เราเดินออกจากมอเดินไปหอของเรา ระยะทางประมาน 7 กิโลนิดๆ (ดูระยะทางจากเกิ้ลแมป) วันแรกๆที่เราเดินกลับ ไม่ถึงกับเหนื่อยมากแต่ขาเรา ก้นเรา คันมาก เหมือนเวลาวิ่งในชั่วโมงพละตอนมัธยมเลย เราคิดว่ามันอาจจะลดไม่เท่าการออกกำลังกายในฟิตเนต แต่อย่างน้อยมันก็ได้เผาพลาญไขมันในตัวเราไม่มากก็น้อย เราโทรหาแม่เราบอก 'แม่วันนี้หนูเดินกลับจากมอไปหอนะ หนูอยากผอม อยากสวย หนูไม่อยากไปฟิตเนตมันเสียดายเงินแม่' แม่เราก็บอกว่า 'น่าสงสารจังไอ้อ้วนเดินระวังนะลูก ดูแลตัวเองด้วย เหนื่อยก็พักนะ ' เรางี้น้ำตาคลอเลย มีแต่แม่ที่เข้าใจเราเสมอ
ทุกวันนี้เราก็เดินกลับจากมอไปหอเราและคำนวนแคลลอรี่การกินอยู่ อยากให้ทุกคนสู้ สู้เพื่อตัวเอง จะมีอะไรมาขัดขวางเรา มีคำพูดที่ดูถูกหรือบั่นทอนจิตใจเราก็ช่างมัน พวกนั้นเป็นเหมือนมารผจญให้เราทำไม่ได้ แต่ถ้าเราทำได้มันก็เหมือนแรงผลักดันที่ทำให้เราสู้และลบคำสอบประมาทพวกนั้น
ขอกำลังใจจากทุกคนในพันทิปด้วยค่ะ เด็กอ้วนคนนี้จะพยายามทำให้ได้ บอกกับตัวเองและทุกคนในพันทิปให้สู้ค่ะ จะไม่เป็นอีอ้วนที่ใส่เสื้อผ้าแล้วเหมือนตัวจะแตก หรือโดนคนล้ออีกต่อไป