เจ้าน้ำดำที่ครองใจตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่เป็นที่นิยมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดอันยาวนานในแบรนด์ "โคคา โคล่า" นั้น รสชาติที่สร้างความ "ติดใจ" นี้ถูกรักษาไว้เป็น "สูตรลับ" มานานตั้งแต่ปี 1925 หรือ พ.ศ.2468 โดยโค้กถูกคิดค้นโดย "จอห์น เพมเบอร์ตัน" ทหารในกองทัพสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19

ส่วนผสมของโค้กถือเป็นความลับของบริษัทเช่นเดียวกับสูตรผสมของ เป๊ปซี่ เคเอฟซี และ แม็คโดนัลด์ ส่วนผสมของโค้กนั้น มีพนักงานในบริษัทโคคาโคล่าเพียงไม่กี่คนที่รู้และได้มีส่วนร่วมในขั้นตอน การผสม โดยทางบริษัทใช้ชื่อส่วนผสมว่า "7X" โดยไม่ได้มีการกล่าวถึงว่า X หมายถึงอะไร และพนักงานบริษัทจะทำการผสมสูตรต่างๆ ตามหมายเลขของส่วนผสมแทนที่ชื่อของส่วนผสมเพื่อป้องกันสูตรรั่วไหล

แต่ล่าสุด มีการเปิดให้เห็น "อุโมงค์ยักษ์ตู้เซฟ" สถานที่เก็บสูตรลับที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์โคคา-โคล่า โดยเซฟที่สร้างได้สุดจะบิ๊กเบิ้มรัดกุมแบบ "อุโมงค์" รักษา สูตรผลิตโค้กได้ถูกย้ายมาจัดแสดงในนิทรรศการงาน โคคา-โคล่าโลก ที่เมืองแอตแลนต้า (World Coca-Cola)
สิ่งที่ได้เห็นคือห้องเซฟขนาดใหญ่จนดูน่าเกรงขามที่เก็บความลับสูตรผลิตโค้กใน ธนาคาร ซัน ทรัสต์ (Sun Trust) ตั้งแต่ พ.ศ.2468 ซึ่งถูกย้ายมาจัดแสดงในนิทรรศการที่เมืองแอตแลนต้า สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่โคคา-โคล่า ซึ่งการเคลื่อนย้ายนี้ส่วนหนึ่งมาจากผู้บริหารโคคา-โคล่า เตรียมการจะปรับรายละเอียดความปลอดภัยให้สูงขึ้นอีก

หากย้อนไปในปี 2549 เคยเกิดเรื่องอื้อฉาวเมื่อพนักงานบริษัทโค้ก 2 คนและเพื่อนอีก 2 คน ถูกจับกุมข้อหาพยายามขโมยสูตรส่วนผสมโค้กและขายให้แก่คู่แข่งในราคา 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม การเปิดโชว์นิทรรศการโค้กและเผยให้เห็น อุโมงค์เซฟนี้ โฆษกของทางโคคาโคล่า เล่าว่า "นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่อุโมงค์ตู้เซฟที่เก็บสูตรโคคาโคล่าได้ถูกเผยโฉมให้เห็นในที่สาธารณะ"

สำหรับสาวกน้ำดำแบรนด์นี้ไม่รู้สูตรเห็นแค่อุโมงค์ก็ยังดี...


ปล. สำหรับผมเอง หลายปีที่ผ่านมา ถ้าผมซื้อหุ้นแล้วยัดใส่เซพไว้ ไม่ซื้อๆขายๆ จะมีกำไรมากกว่าที่เป็นอยู่มากมายมหาศาล  ดังนั้นตั้งแต่วันนี้ผมจะโยนหุ้นที่ซื้อไว้ใส่ลงในเซพ จะไม่ซื้อๆขายๆอีกแล้ว รอกำไรร้อยล้านแล้วค่อยเปิด  ท่องไว้ๆๆๆๆๆๆ