นายเสรี สุวรรณภานนท์
อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร
อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550
และสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539
ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะมีการร่างใหม่เกิดขึ้นนั้น มีประเด็นว่า สมควรให้มีการส่งไปให้ประชาชนทำประชามติในช่วงสุดท้ายก่อนประกาศใช้หรือไม่
ก็คงต้องดูตามเหตุผลว่าสมควรให้มีการประชามติหรือไม่อย่างไร ?
ดูตัวอย่าง ตอนร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2549 บัญญัติว่า ต้องให้มีการทำประชามติ
ก่อนประกาศใช้
ซึ่งหลักจากจากได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญไปประชามติแล้ว มีประชาชนลงคะแนนส่วนใหญ่ของประทศว่าเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว 57.81% และมี
คนไม่ด้วย 42.19% เป็นอันว่าประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50
แต่หลังจากที่นำมาใช้แล้ว ปรากฏว่า ฝ่ายที่เสียอำนาจจากการรัฐประหาร และกลุ่ม นปช.ในขณะนั้น ออกมาต่อต้านไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญนูญ ปี
2550 อ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญไม่ประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญมาจากรัฐประหาร เป็นรัฐธรรมนูญที่บอกให้รับไปก่อนแล้วให้ไปแก้ภายหลัง (ต่อมามีความ
พยายามที่จะแก้ไขให้ประโยชน์ตัวเอง) และเหตุผลอื่นอีกสารพัด ที่จะไม่เอารัฐธรรมนูญ ปี 2550
พอ ปปช. จะวินิจฉัยคดีที่ทุจริตคอรัปชั่น ก็หยิบยกรัฐธรรมนูญ 50 ที่ไม่ยอมรับ มาอ้างเป็นข้อต่อต้าน ปปช.
พอศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตัดสินคดี ก็ไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ อ้างทั้งตัวบุคคลและอ้างทั้งตัวรัฐธรรมนูญที่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลว่ามาจากรัฐ
ธรรมนูญ ปี 2550
ทั้งที่ รัฐธรรมนูญ ปี 2550 เป็นรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการทำประชามติของประชาชนทั้งประเทศ เสียเงินไป 2,000 กว่าล้าน
สรุปแล้ว ก็จะไม่เอาซะอย่าง จะประชามติอย่างไร ก็ไม่ยอมรับ
จึงเป็นตัวอย่างให้เห็นได้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะเกิดขึ้นใหม่ นี้ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำไปประชามติ เพราะที่ผ่านมาทำให้เห็นได้ว่า แม้จะร่างให้
ดีสักเพียงใด คนที่มันจะหาเรื่องไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ มันก็จะหาเรื่องไม่เอาอยู่เช่นเดิม และในที่สุดก็พยายามสร้างประเด็น สร้างความขัดแย้งต่อไป
ว่า จะไม่เอารัฐธรรมนูญที่จะร่างขึ้นใหม่ดังกล่าว ซึ่งจะเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้ประชาชนคนไทยกลับมาทะเลาะแตกแยก
ยิ่งบรรยากาศในปัจจุบันที่มีความสงบเรียบร้อยดี หากมีการนำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไปทำประชามติต่อไป ก็จะเกิดสถานการณ์ของคนเห็นด้วยและไม่เห็น
ด้วย และก็จะออกมาใช้โอกาสของการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาเป็นต่อต้านการรัฐประหาร และออกมารวมกลุ่มเรียกร้อง รวมถึงการสร้างความปั่นป่วน
วุ่นวายแตกแยกของประชาชนในประเทศอีกรอบ
และจะเสียเงินอีก2,000 ล้านบาท มาทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนกลับมาแตกแยกเช่นเดิมซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้เอาไปใช้ประโยชน์ทางอื่นดีกว่า
เช่น เอาไปช่วยคนเฒ่าคนแก่หรือไปดูแลประชาชนทางด้านอื่น ดีกว่าเสียเงินแล้วทำให้ประชาชนคนไทยออกมาทะเลาะแตกแยกกันอีกดังกล่าว
และไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไรประเทศไทยก็ต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่อยู่แล้ว มาหาวิธีเขียนอย่างไรให้เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย
และประชาชนคนไทยน่าจะดีกว่า
ตอนนี้ชั่วโมงนี้ถ้าจะให้เลือก ขอเลือกให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขอเลือกให้ประชาชนไม่มีความขัดแย้งเลิกทะเลาะกัน
ขอเลือกให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีความเป็นอยู่ที่ดี
ขอเลือกแนวทางไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชั่น เพราะที่ผ่านมามันโกงกินกันมามากเกินไปแล้ว
แล้วอย่างอื่นค่อยๆ ตามมาทีหลังก็ได้ น่าจะดีที่สุดของคนไทยในยุคนี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404445718
---------------------------------------------------------------
โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าความเห็นนี้ เห็นแก่ตัวไปหน่อย
แทนที่จะเสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในธรรมนูญการปกครองตนเอง
แต่แสดงความเห็นให้ทำอย่างรวบรัดตัดตอน ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
มันก็ไม่ต่างจากการสนับสนุนให้มี "ธรรมนูญการปกครองฉบับเผด็จการ 2550 ภาคสอง" เท่านั้นเอง !!!
กรณีรัฐธรรมนูญ2550 มีหลายประเด็นหมดเม็ด ไม่เป็นธรรม
แต่ต้องรับไปก่อน เพราะ "รับไปก่อน แล้วค่อยแก้ทีหลัง"
แต่ผลที่ตามมา คือความวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ อย่างที่เห็นนี่เเหละ !!!
′เสรี สุวรรณภานนท์′ โพสต์ "ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ " ???
อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร
อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550
และสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539
ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะมีการร่างใหม่เกิดขึ้นนั้น มีประเด็นว่า สมควรให้มีการส่งไปให้ประชาชนทำประชามติในช่วงสุดท้ายก่อนประกาศใช้หรือไม่
ก็คงต้องดูตามเหตุผลว่าสมควรให้มีการประชามติหรือไม่อย่างไร ?
ดูตัวอย่าง ตอนร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2549 บัญญัติว่า ต้องให้มีการทำประชามติ
ก่อนประกาศใช้
ซึ่งหลักจากจากได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญไปประชามติแล้ว มีประชาชนลงคะแนนส่วนใหญ่ของประทศว่าเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว 57.81% และมี
คนไม่ด้วย 42.19% เป็นอันว่าประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50
แต่หลังจากที่นำมาใช้แล้ว ปรากฏว่า ฝ่ายที่เสียอำนาจจากการรัฐประหาร และกลุ่ม นปช.ในขณะนั้น ออกมาต่อต้านไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญนูญ ปี
2550 อ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญไม่ประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญมาจากรัฐประหาร เป็นรัฐธรรมนูญที่บอกให้รับไปก่อนแล้วให้ไปแก้ภายหลัง (ต่อมามีความ
พยายามที่จะแก้ไขให้ประโยชน์ตัวเอง) และเหตุผลอื่นอีกสารพัด ที่จะไม่เอารัฐธรรมนูญ ปี 2550
พอ ปปช. จะวินิจฉัยคดีที่ทุจริตคอรัปชั่น ก็หยิบยกรัฐธรรมนูญ 50 ที่ไม่ยอมรับ มาอ้างเป็นข้อต่อต้าน ปปช.
พอศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตัดสินคดี ก็ไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ อ้างทั้งตัวบุคคลและอ้างทั้งตัวรัฐธรรมนูญที่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลว่ามาจากรัฐ
ธรรมนูญ ปี 2550
ทั้งที่ รัฐธรรมนูญ ปี 2550 เป็นรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการทำประชามติของประชาชนทั้งประเทศ เสียเงินไป 2,000 กว่าล้าน
สรุปแล้ว ก็จะไม่เอาซะอย่าง จะประชามติอย่างไร ก็ไม่ยอมรับ
จึงเป็นตัวอย่างให้เห็นได้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะเกิดขึ้นใหม่ นี้ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำไปประชามติ เพราะที่ผ่านมาทำให้เห็นได้ว่า แม้จะร่างให้
ดีสักเพียงใด คนที่มันจะหาเรื่องไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ มันก็จะหาเรื่องไม่เอาอยู่เช่นเดิม และในที่สุดก็พยายามสร้างประเด็น สร้างความขัดแย้งต่อไป
ว่า จะไม่เอารัฐธรรมนูญที่จะร่างขึ้นใหม่ดังกล่าว ซึ่งจะเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้ประชาชนคนไทยกลับมาทะเลาะแตกแยก
ยิ่งบรรยากาศในปัจจุบันที่มีความสงบเรียบร้อยดี หากมีการนำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไปทำประชามติต่อไป ก็จะเกิดสถานการณ์ของคนเห็นด้วยและไม่เห็น
ด้วย และก็จะออกมาใช้โอกาสของการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาเป็นต่อต้านการรัฐประหาร และออกมารวมกลุ่มเรียกร้อง รวมถึงการสร้างความปั่นป่วน
วุ่นวายแตกแยกของประชาชนในประเทศอีกรอบ
และจะเสียเงินอีก2,000 ล้านบาท มาทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนกลับมาแตกแยกเช่นเดิมซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้เอาไปใช้ประโยชน์ทางอื่นดีกว่า
เช่น เอาไปช่วยคนเฒ่าคนแก่หรือไปดูแลประชาชนทางด้านอื่น ดีกว่าเสียเงินแล้วทำให้ประชาชนคนไทยออกมาทะเลาะแตกแยกกันอีกดังกล่าว
และไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไรประเทศไทยก็ต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่อยู่แล้ว มาหาวิธีเขียนอย่างไรให้เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย
และประชาชนคนไทยน่าจะดีกว่า
ตอนนี้ชั่วโมงนี้ถ้าจะให้เลือก ขอเลือกให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขอเลือกให้ประชาชนไม่มีความขัดแย้งเลิกทะเลาะกัน
ขอเลือกให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีความเป็นอยู่ที่ดี
ขอเลือกแนวทางไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชั่น เพราะที่ผ่านมามันโกงกินกันมามากเกินไปแล้ว
แล้วอย่างอื่นค่อยๆ ตามมาทีหลังก็ได้ น่าจะดีที่สุดของคนไทยในยุคนี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1404445718
---------------------------------------------------------------
โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าความเห็นนี้ เห็นแก่ตัวไปหน่อย
แทนที่จะเสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในธรรมนูญการปกครองตนเอง
แต่แสดงความเห็นให้ทำอย่างรวบรัดตัดตอน ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
มันก็ไม่ต่างจากการสนับสนุนให้มี "ธรรมนูญการปกครองฉบับเผด็จการ 2550 ภาคสอง" เท่านั้นเอง !!!
กรณีรัฐธรรมนูญ2550 มีหลายประเด็นหมดเม็ด ไม่เป็นธรรม
แต่ต้องรับไปก่อน เพราะ "รับไปก่อน แล้วค่อยแก้ทีหลัง"
แต่ผลที่ตามมา คือความวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ อย่างที่เห็นนี่เเหละ !!!