นิสัยปกติของคนไทย: ชอบเอาของเก่ามาแทนของใหม่
ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ยูเครน ไครเมีย หรือในซีเรียที่รุนแรงอย่างมาก ก็ยังไม่มีเหตุการณ์ไหนที่น่าเศร้าเท่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้เลย เพราะว่าโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้นั้นมันไม่ควรที่จะเกิดขึ้นเลย ไม่ควรเลย
มีผู้คนจำนวนมากมายที่ต้องอยู่ภายใต้เงาการปกครองของรัฐบาลที่ตนเองไม่ชอบ และก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ตนเองไม่ได้เลือก และถึงขั้นรังเกียจเหยียดหยามเลยด้วยซ้ำ แต่ในโลกนี้(หรืออาจจะในโลกหน้าด้วย) น้อยคนนักที่จะได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการทุกอย่างในทางการเมือง
ทว่าในประเทศไทย กลุ่มคนบางกลุ่ม จำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ที่ต้องการทุกๆอย่าง และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ พวกเขาก็พร้อมที่จะปฎิเสธทุกอย่างๆที่ทุกๆคนเรียกร้อง
และมันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมากต่อประชาชนในประเทศไทยที่ได้ทำการโหวตให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯคนที่ 28 ของไทยจากการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2011 และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย) และต้องพบว่าเธอ ซึ่งเป็นผู้เป็นสตรีที่แสนดีและทำงานหนักต้องถูกขับออกจากตำแหน่ง
เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่ามีกลุ่มจำนวนเล็กๆจำนวนหนึ่งไม่ชอบการเมืองแบบคนส่วนใหญ่น่ะสิ
สิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดคือเรื่องการเลือกสุภาพสตรีคนนี้มาเป็นดั่งกระสอบทรายให้กับชนชั้นนำกรุงเทพฯ เห็นได้จากการกระทำที่หลายคนเรียกว่า “การรัฐประหารโดยศาล” เนื่องด้วยว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการเลือกตั้งได้แบบตัวต่อตัว เหล่าชนชั้นนำได้รวมตัวเข้าพวกกันโดยใช้ชื่อว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” (ประกอบไปด้วยเหล่าชนชั้นนำที่เป็นปฎิปักษ์ต่อรัฐบาลทั้งหลาย) ตัดสินให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเกือบทั้งหมดต้องพ้นจากตำแหน่งไป
ด้วยคำวินิจฉัยที่ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายอย่างกระทันหันโดยรัฐบาลนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและจำต้องส่งผลให้รัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง เป็นสไตล์การให้เหตุผลของศาลจากโรงเรียนกฎหมายแห่งความเพ้อฝัน
คำวินิจฉัยนี้เป็นการสร้างแบบแผนที่ผิดมหันต์ และเลวร้ายที่สุดมันจะเป็นการปูทางไปสู่สงครามกลางเมือง เหมือนดังที่นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ ได้กล่าวไว้ว่า ระบบยุติธรรมนั้นได้ทำการสั่นคลอนพลังทางการเมือง เพื่อที่จะทำลายพรรคการเมืองต่างๆที่เป็นพรรคพวกของทักษิณ
“คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงเดือนที่ผ่านมานั้นได้ทำลายความน่าเชื่อถือของพวกเขาเอง” บัณฑิตกล่าว “ถ้าหากกฎหมายไม่สามารถสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียมในการบังคับใช้กับทุกคนได้ ความรุนแรงในอนาคตนั้นก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้เลย”
http://www.ispacethailand.com/political-en/3250.html
Tom Plate วิเคราะห์การเมืองไทย: สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
นิสัยปกติของคนไทย: ชอบเอาของเก่ามาแทนของใหม่
ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ยูเครน ไครเมีย หรือในซีเรียที่รุนแรงอย่างมาก ก็ยังไม่มีเหตุการณ์ไหนที่น่าเศร้าเท่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้เลย เพราะว่าโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้นั้นมันไม่ควรที่จะเกิดขึ้นเลย ไม่ควรเลย
มีผู้คนจำนวนมากมายที่ต้องอยู่ภายใต้เงาการปกครองของรัฐบาลที่ตนเองไม่ชอบ และก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ตนเองไม่ได้เลือก และถึงขั้นรังเกียจเหยียดหยามเลยด้วยซ้ำ แต่ในโลกนี้(หรืออาจจะในโลกหน้าด้วย) น้อยคนนักที่จะได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการทุกอย่างในทางการเมือง
ทว่าในประเทศไทย กลุ่มคนบางกลุ่ม จำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ที่ต้องการทุกๆอย่าง และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ พวกเขาก็พร้อมที่จะปฎิเสธทุกอย่างๆที่ทุกๆคนเรียกร้อง
และมันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมากต่อประชาชนในประเทศไทยที่ได้ทำการโหวตให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯคนที่ 28 ของไทยจากการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2011 และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย) และต้องพบว่าเธอ ซึ่งเป็นผู้เป็นสตรีที่แสนดีและทำงานหนักต้องถูกขับออกจากตำแหน่ง
เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่ามีกลุ่มจำนวนเล็กๆจำนวนหนึ่งไม่ชอบการเมืองแบบคนส่วนใหญ่น่ะสิ
สิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดคือเรื่องการเลือกสุภาพสตรีคนนี้มาเป็นดั่งกระสอบทรายให้กับชนชั้นนำกรุงเทพฯ เห็นได้จากการกระทำที่หลายคนเรียกว่า “การรัฐประหารโดยศาล” เนื่องด้วยว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการเลือกตั้งได้แบบตัวต่อตัว เหล่าชนชั้นนำได้รวมตัวเข้าพวกกันโดยใช้ชื่อว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” (ประกอบไปด้วยเหล่าชนชั้นนำที่เป็นปฎิปักษ์ต่อรัฐบาลทั้งหลาย) ตัดสินให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเกือบทั้งหมดต้องพ้นจากตำแหน่งไป
ด้วยคำวินิจฉัยที่ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายอย่างกระทันหันโดยรัฐบาลนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและจำต้องส่งผลให้รัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง เป็นสไตล์การให้เหตุผลของศาลจากโรงเรียนกฎหมายแห่งความเพ้อฝัน
คำวินิจฉัยนี้เป็นการสร้างแบบแผนที่ผิดมหันต์ และเลวร้ายที่สุดมันจะเป็นการปูทางไปสู่สงครามกลางเมือง เหมือนดังที่นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ ได้กล่าวไว้ว่า ระบบยุติธรรมนั้นได้ทำการสั่นคลอนพลังทางการเมือง เพื่อที่จะทำลายพรรคการเมืองต่างๆที่เป็นพรรคพวกของทักษิณ
“คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงเดือนที่ผ่านมานั้นได้ทำลายความน่าเชื่อถือของพวกเขาเอง” บัณฑิตกล่าว “ถ้าหากกฎหมายไม่สามารถสร้างบรรทัดฐานความเท่าเทียมในการบังคับใช้กับทุกคนได้ ความรุนแรงในอนาคตนั้นก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้เลย”
http://www.ispacethailand.com/political-en/3250.html