ธีภพนั่งเหม่อ คอยบิวตี้อยู่ในสวนสวยของสปา
บิวตี้ย่องมาข้างหลัง “สวยมากเลยนะ”
ธีภพหันมาหา “ใช่ คนออกแบบจัดสวนเก่งมาก”
“ฉันหมายถึงผิวฉัน ทำสปาครบคอร์สแล้วสดชื่นมากเลย ดูสิ” หล่อนยื่นแขนให้เขาดู
ธีภพเผลอมองแขนนวลเนียน ไล่ไปถึงใบหน้า สบตากับบิวตี้ที่มองมา แต่พอรู้สึกตัว ก็รีบหลบตา แต่ดันหน้าแดง
“พี่ เอ่อ ผม ยังมึนหัวกับกลิ่นอะโรมา”
“แต่พี่ธีทำขัดหน้าแล้วดีออก ดูสิ ผิวใสหน้าแดงสวยเชียว วันหลังมาอีกสิ” บิวตี้ไม่รู้เรื่อง
“ไม่ ผมไม่ชอบให้ใครเอาน้ำมันเหม็นๆ มานวดตัว”
“อ๋อ ชอบแบบอาบอบนวด มากกว่าใช่มั้ย” บิวตี้แขวะ
ธีภพกลอกตา “ไร้สาระ”
“ถ้าไม่ชอบนวดน้ำมัน ลองนวดแผนไทยดูไหม คลายเส้นดีนะ”
“ผมไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น”
“ทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องดูแลร่างกายบ้าง ถ้าฉันได้เป็นผู้บริหารเมื่อไหร่จะให้มีหมอนวดประจำโรงงาน”
“พอดีไม่ต้องทำงานกัน”
“ไม่นะ คนงานที่ต้องหลังขดหลังแข็งก้มๆ เงยๆ ถ้าได้นวดคลายเส้นแก้เมื่อยจะทำงานต่อได้อีกเยอะ โดยเฉพาะพวกที่ทำควบสองกะ”
ธีภพมองบิวตี้อย่างทึ่งๆ ในอเดีย “พูดเหมือนตัวแทนสหภาพเลยนะ”
“ส่งฉันไปทุกข์ทรมานเป็นสาวโรงงานอยู่ตั้งนาน ทำไมฉันจะไม่รู้ซึ้งล่ะ”
ธีภพเผลอยิ้มให้บิวตี้อย่างเอ็นดู “เยี่ยม”
บิวตี้เผลอยิ้มตอบอย่างน่ารัก “แน่นอนอยู่แล้ว”
อรวิภา เจตน์ชาญและ เครือวรรณ แวะมาทานข้าว เดินเข้ามาในร้านหรู
“หม่าม๊าไปจอง ข้าวเหนียวมะม่วงให้ป่าป๊าแป๊บนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวหมด”
เจตน์ชาญโชว์แมน “ผมไปสั่งให้เองครับ”
“โอ๊ยไม่ต้องหรอก คุณเจตน์ทานเป็นเพื่อนน้องอรก่อน หม่าม๊าทานที่สนามไดร้ฟ์ตลอด ยังไม่หิวเลยจ้ะ เดี๋ยวหม่าม้ามานะคะลูก” เครือวรรณเปิดโอกาสให้เจตน์ชาญ
อรวิภาเรียกไว้ “เดี๋ยวค่ะหม่าม้า”
เครือวรรณไม่ฟังเสียงออกไปอย่างเร็วรี่ เจตน์ชาญกับอรวิภานั่งที่โต๊ะดูเมนู เตรียมสั่งอาหาร
“ทานอะไรดีครับ”
อรวิภาหน้าง้ำ “ไม่รู้ ไม่อยากกิน”
เจตน์ชาญยั่ว “เวลาไปกับคุณธีภพ ชอบสั่งอะไรล่ะครับ”
“พี่ธีเค้าเป็นสุภาพบุรุษ คอยสั่งให้ฉันตลอด”
“เห็นตัดสินใจไม่ได้ เค้าไม่อยากคอยเลยสั่งแทนให้มั้ง”
“นาย” อรวิภาโกรธ “แย่มาก ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย”
“นั่นไง สุภาพบุรุษของคุณมาแล้ว” เจตน์ชาญพยักเพยิดไปทางหน้าร้าน
อรวิภาหันไปดูเห็น ธีภพเดินเข้ามากับบิวตี้ ท่าทางสนิทสนม ยิ้มหัวเราะหัวใคร่ให้กัน อรวิภาเผลอจ้องมองธีภพกับบิวตี้ สีหน้าและแววตาบอกหมดว่ากำลังเสียใจ หึงหวง
บิวตี้กับธีภพ ไม่เห็นอรวิภา เดินไปนั่งอีกโซนหนึ่งของร้านที่แทบไม่เห็นกัน
บิวตี้กับธีภพนั่งอีกส่วนหนึ่งของร้านอาหาร
บิวตี้ดูเมนู คุยกับธีภพ “มีแกงเลียงกุ้งสดด้วย ยำส้มโอก็น่ากิน”
ธีภพแปลกใจ “กินอาหารไทยเป็นด้วยเหรอ”
“ชอบเลยละ อาหารไทยมีสมุนไพรเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ”
“งั้นผมสั่งขาหมูทอด ข้าวมันไก่เพิ่มหนัง แล้วก็ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์”
“ดี สั่งเลย กินอาหารขยะเข้าไปเยอะๆ เดี๋ยวโทร.จองวัดให้”
ธีภพหัวเราะขำ หันไปสั่งอาหาร “น้อง เอาแกงเลียงกุ้งสด ยำส้มโอ เห็ดย่าง แล้วก็ข้าวยำ”
“เปลี่ยนใจอยากอยู่ต่อแล้วใช่มะ”
“ใช่ นึกขึ้นได้ว่าถ้าตายเร็วใครบางคนจะฮุบบริษัทไว้คนเดียว”
บิวตี้ทำปากจิ๊กจั๊ก “รู้ทันอีก เดี๋ยวฮุบจริงๆ ซะเลย”
ธีภพหัวเราะอารมณ์ดี
เสียงอรวิภาดังจากด้านหลัง น้ำเสียงเครือ น้อยใจเป็นที่สุด “วันนี้ไม่มีประชุมหรือคะ พี่ธี”
ธีภพหันไปมอง เห็นอรวิภายืนอยู่กับเจตน์ชาญ อรวิภา พยายามกลั้นน้ำตา
บรรยากาศอึมครึมค่อนไปทางมาคุ ทุกคนนิ่งงันกันไป จ้องมองกันแบบประเมินทีท่า เจตน์ชาญมองบิวตี้อย่างสนใจ
“ครับ พี่มา...ธุระกับคุณลัลน์ลลิต”
อรวิภามองบิวตี้อย่างเย็นชา “สวัสดีค่ะพี่บิวตี้”
บิวตี้ไม่ใส่ใจ ไม่อยากรับรู้
“น้องอรกับคุณเจตน์ล่ะครับ ไปไหนมา”
อรวิภารีบอธิบาย “เปล่านะคะ ไม่ได้ไปไหน ปะป๊าให้คุณเจตน์สอนน้องอรเล่นกอล์ฟ”
เจตน์ชาญบอกกับอรวิภาเสียงอ่อนหวาน “อาหารมาแล้ว เรากลับไปโต๊ะกันเถอะครับ”
อรวิภามองหน้าธีภพน้ำตากบตา ปล่อยให้เจตน์ชาญประคองข้อศอกพาไปที่โต๊ะ ธีภพมองตามอย่างไม่พอใจ หน้าตาขุ่นมัว
“เฮ้อนึกว่าจะได้ดูมวย คู่ศึกชิงนางซะแล้ว”
ธีภพส่ายหน้า ระอาใจกับบิวตี้
อรวิภากระสับกระส่ายชะเง้อดูธีภพกับบิวตี้ เจตน์ชาญมองอรวิภา ยิ้มเยาะ
“พี่ธีต้องเข้าใจผิดแน่ๆ เลย”
เจตน์ชาญยั่ว “อืมม...เท่าที่ดู เขาก็เฉยๆ ไม่เห็นสนใจอะไรนี่”
อรวิภาสะอื้น เจตน์ชาญรู้สึกผิดนิดหน่อย ส่งกระดาษให้อรวิภาเช็ดน้ำตา
“ล้อเล่น ขี้แยจัง เช็ดน้ำตาซะ คุณแม่มาโน่นแล้ว”
เครือวรรณเดินกลับมา อรวิภารีบเช็ดน้ำตา
เรื่องเต็มเล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 9/2 วันจันทร์ที่ 05/05/2557
ธีภพนั่งเหม่อ คอยบิวตี้อยู่ในสวนสวยของสปา
บิวตี้ย่องมาข้างหลัง “สวยมากเลยนะ”
ธีภพหันมาหา “ใช่ คนออกแบบจัดสวนเก่งมาก”
“ฉันหมายถึงผิวฉัน ทำสปาครบคอร์สแล้วสดชื่นมากเลย ดูสิ” หล่อนยื่นแขนให้เขาดู
ธีภพเผลอมองแขนนวลเนียน ไล่ไปถึงใบหน้า สบตากับบิวตี้ที่มองมา แต่พอรู้สึกตัว ก็รีบหลบตา แต่ดันหน้าแดง
“พี่ เอ่อ ผม ยังมึนหัวกับกลิ่นอะโรมา”
“แต่พี่ธีทำขัดหน้าแล้วดีออก ดูสิ ผิวใสหน้าแดงสวยเชียว วันหลังมาอีกสิ” บิวตี้ไม่รู้เรื่อง
“ไม่ ผมไม่ชอบให้ใครเอาน้ำมันเหม็นๆ มานวดตัว”
“อ๋อ ชอบแบบอาบอบนวด มากกว่าใช่มั้ย” บิวตี้แขวะ
ธีภพกลอกตา “ไร้สาระ”
“ถ้าไม่ชอบนวดน้ำมัน ลองนวดแผนไทยดูไหม คลายเส้นดีนะ”
“ผมไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น”
“ทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องดูแลร่างกายบ้าง ถ้าฉันได้เป็นผู้บริหารเมื่อไหร่จะให้มีหมอนวดประจำโรงงาน”
“พอดีไม่ต้องทำงานกัน”
“ไม่นะ คนงานที่ต้องหลังขดหลังแข็งก้มๆ เงยๆ ถ้าได้นวดคลายเส้นแก้เมื่อยจะทำงานต่อได้อีกเยอะ โดยเฉพาะพวกที่ทำควบสองกะ”
ธีภพมองบิวตี้อย่างทึ่งๆ ในอเดีย “พูดเหมือนตัวแทนสหภาพเลยนะ”
“ส่งฉันไปทุกข์ทรมานเป็นสาวโรงงานอยู่ตั้งนาน ทำไมฉันจะไม่รู้ซึ้งล่ะ”
ธีภพเผลอยิ้มให้บิวตี้อย่างเอ็นดู “เยี่ยม”
บิวตี้เผลอยิ้มตอบอย่างน่ารัก “แน่นอนอยู่แล้ว”
อรวิภา เจตน์ชาญและ เครือวรรณ แวะมาทานข้าว เดินเข้ามาในร้านหรู
“หม่าม๊าไปจอง ข้าวเหนียวมะม่วงให้ป่าป๊าแป๊บนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวหมด”
เจตน์ชาญโชว์แมน “ผมไปสั่งให้เองครับ”
“โอ๊ยไม่ต้องหรอก คุณเจตน์ทานเป็นเพื่อนน้องอรก่อน หม่าม๊าทานที่สนามไดร้ฟ์ตลอด ยังไม่หิวเลยจ้ะ เดี๋ยวหม่าม้ามานะคะลูก” เครือวรรณเปิดโอกาสให้เจตน์ชาญ
อรวิภาเรียกไว้ “เดี๋ยวค่ะหม่าม้า”
เครือวรรณไม่ฟังเสียงออกไปอย่างเร็วรี่ เจตน์ชาญกับอรวิภานั่งที่โต๊ะดูเมนู เตรียมสั่งอาหาร
“ทานอะไรดีครับ”
อรวิภาหน้าง้ำ “ไม่รู้ ไม่อยากกิน”
เจตน์ชาญยั่ว “เวลาไปกับคุณธีภพ ชอบสั่งอะไรล่ะครับ”
“พี่ธีเค้าเป็นสุภาพบุรุษ คอยสั่งให้ฉันตลอด”
“เห็นตัดสินใจไม่ได้ เค้าไม่อยากคอยเลยสั่งแทนให้มั้ง”
“นาย” อรวิภาโกรธ “แย่มาก ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย”
“นั่นไง สุภาพบุรุษของคุณมาแล้ว” เจตน์ชาญพยักเพยิดไปทางหน้าร้าน
อรวิภาหันไปดูเห็น ธีภพเดินเข้ามากับบิวตี้ ท่าทางสนิทสนม ยิ้มหัวเราะหัวใคร่ให้กัน อรวิภาเผลอจ้องมองธีภพกับบิวตี้ สีหน้าและแววตาบอกหมดว่ากำลังเสียใจ หึงหวง
บิวตี้กับธีภพ ไม่เห็นอรวิภา เดินไปนั่งอีกโซนหนึ่งของร้านที่แทบไม่เห็นกัน
บิวตี้กับธีภพนั่งอีกส่วนหนึ่งของร้านอาหาร
บิวตี้ดูเมนู คุยกับธีภพ “มีแกงเลียงกุ้งสดด้วย ยำส้มโอก็น่ากิน”
ธีภพแปลกใจ “กินอาหารไทยเป็นด้วยเหรอ”
“ชอบเลยละ อาหารไทยมีสมุนไพรเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ”
“งั้นผมสั่งขาหมูทอด ข้าวมันไก่เพิ่มหนัง แล้วก็ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์”
“ดี สั่งเลย กินอาหารขยะเข้าไปเยอะๆ เดี๋ยวโทร.จองวัดให้”
ธีภพหัวเราะขำ หันไปสั่งอาหาร “น้อง เอาแกงเลียงกุ้งสด ยำส้มโอ เห็ดย่าง แล้วก็ข้าวยำ”
“เปลี่ยนใจอยากอยู่ต่อแล้วใช่มะ”
“ใช่ นึกขึ้นได้ว่าถ้าตายเร็วใครบางคนจะฮุบบริษัทไว้คนเดียว”
บิวตี้ทำปากจิ๊กจั๊ก “รู้ทันอีก เดี๋ยวฮุบจริงๆ ซะเลย”
ธีภพหัวเราะอารมณ์ดี
เสียงอรวิภาดังจากด้านหลัง น้ำเสียงเครือ น้อยใจเป็นที่สุด “วันนี้ไม่มีประชุมหรือคะ พี่ธี”
ธีภพหันไปมอง เห็นอรวิภายืนอยู่กับเจตน์ชาญ อรวิภา พยายามกลั้นน้ำตา
บรรยากาศอึมครึมค่อนไปทางมาคุ ทุกคนนิ่งงันกันไป จ้องมองกันแบบประเมินทีท่า เจตน์ชาญมองบิวตี้อย่างสนใจ
“ครับ พี่มา...ธุระกับคุณลัลน์ลลิต”
อรวิภามองบิวตี้อย่างเย็นชา “สวัสดีค่ะพี่บิวตี้”
บิวตี้ไม่ใส่ใจ ไม่อยากรับรู้
“น้องอรกับคุณเจตน์ล่ะครับ ไปไหนมา”
อรวิภารีบอธิบาย “เปล่านะคะ ไม่ได้ไปไหน ปะป๊าให้คุณเจตน์สอนน้องอรเล่นกอล์ฟ”
เจตน์ชาญบอกกับอรวิภาเสียงอ่อนหวาน “อาหารมาแล้ว เรากลับไปโต๊ะกันเถอะครับ”
อรวิภามองหน้าธีภพน้ำตากบตา ปล่อยให้เจตน์ชาญประคองข้อศอกพาไปที่โต๊ะ ธีภพมองตามอย่างไม่พอใจ หน้าตาขุ่นมัว
“เฮ้อนึกว่าจะได้ดูมวย คู่ศึกชิงนางซะแล้ว”
ธีภพส่ายหน้า ระอาใจกับบิวตี้
อรวิภากระสับกระส่ายชะเง้อดูธีภพกับบิวตี้ เจตน์ชาญมองอรวิภา ยิ้มเยาะ
“พี่ธีต้องเข้าใจผิดแน่ๆ เลย”
เจตน์ชาญยั่ว “อืมม...เท่าที่ดู เขาก็เฉยๆ ไม่เห็นสนใจอะไรนี่”
อรวิภาสะอื้น เจตน์ชาญรู้สึกผิดนิดหน่อย ส่งกระดาษให้อรวิภาเช็ดน้ำตา
“ล้อเล่น ขี้แยจัง เช็ดน้ำตาซะ คุณแม่มาโน่นแล้ว”
เครือวรรณเดินกลับมา อรวิภารีบเช็ดน้ำตา