เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 2/3
เช้าวันต่อมา บริวารทั้ง 4 คน รวมตัวกันอยู่ที่ห้องทำงานบิวตี้ในคฤหาสน์ ต่างคนต่างสีหน้าตกใจสุดขีด ทุกคนมีซองขาวในมือแล้ว
“คุณบิวตี้ ไม่เปลี่ยนใจจริงๆ เหรอคะ” เลขาถามย้ำ
“ไม่มีวัน ฉันเกลียด คนไม่จริงใจที่สุด” ช่างผมอุทรณ์ “แต่เราทำงานแก้ตัวให้แล้วนี่คะ เมื่อวานหนูทำผมให้คุณบิวตี้อย่างสุดฝีมือเลยนะคะ”
“จบแล้ว ไปได้แล้ว” ช่างหน้ากรี๊ด “แอร๊ย…ไม่ได้นะคะ ลูกหนูจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยง” “ฉันจ่ายล่วงหน้าพวกเธอสามเดือนเต็ม เชิญไปหางานกันเอง” บิวตี้ไม่แยแส
เลขา ช่างทุกคน ร้องกระจองอแง “ไม่นะคะคุณบิวตี้” / “เราอยากทำงานกับคุณ” / “อย่าไล่เราออกเลย” / “เราจริงใจนะคะ” บิวตี้เสียงแข็ง “ออกไป ถ้าไม่ออกฉันจะตามรปภ.มาลากตัวพวกเธอ”
ธีภพขับรถมาส่งอรวิภาที่ถือกระเช้าดอกไม้ จะเอามาขอโทษบิวตี้ มองจากประตูบ้านโปร่งๆ เข้าไป เห็นบิวตี้เดินหน้าถทึงมาอย่างขุ่นเคืองสุดขีด ตรงมาสั่งการ์ดที่หน้าประตู เลขา ช่างหน้า ช่างผม ช่างภาพ เดินร้องไห้ตามตื๊อบิวตี้เป็นพรวน
บิวตี้สั่งการ์ด “ไล่คนพวกนี้ออกไป”
บริวารทั้ง 4 ร้องไห้ระงม “คุณบิวตี้ขาเราผิดไปแล้ว” / “ขอโทษเถอะนะคะ” / “ตกงานแล้วจะเอาอะไรกิน” / “ผมพูดนิดเดียว”
“ออกไป” บิวตี้สั่งการ์ด “แล้วอย่าให้เข้ามาอีก”
การ์ดเปิดประตูดันตัวลูกน้องบิวตี้ออกจากบ้าน
ธีภพบอก “เรากลับกันก่อนเถอะครับ” แต่พอหันมา ไม่เห็นอรวิภาที่ข้างๆ แล้ว
ด้วยเวลานี้อรวิภาสวนทางทุกคนวิ่งตามบิวตี้ที่หันหลังจะเดินกลับไปที่ตึกใหญ่ ธีภพตกใจเดินตามอรวิภามาด้วยความเป็นห่วง
“พี่บิวตี้ขา เดี๋ยวค่ะ”
บิวตี้หันกลับมา ไม่พอใจ “กลับไปซะ ฉันไม่อยากพบใครทั้งนั้น”
“พี่บิวตี้อย่าโกรธน้องอรเลยนะคะ น้องอรเสียใจมาก” อรวิภาจะร้องไห้
บิวตี้ยืนนิ่งสะกดอารมณ์อยากระเบิดเต็มที
“น้องอรตั้งใจจัดกระเช้ามา แทนคำว่าขอโทษ” อรวิภายัดเยียดดอกไม้ใส่มือ “พี่บิวตี้รับไว้นะคะ”
บิวตี้ทุ่มกระเช้าทิ้ง ปรี๊ดแตก “บอกว่าไม่เอา ไม่อยากพูด ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น”
อรวิภาตกใจ ร้องไห้โฮ “พี่บิวตี้”
ธีภพเหลืออด “คนเขามาขอโทษดีๆ หัดมีมรรยาทบ้างสิ”
บิวตี้เผลอจ้องมองธีภพอีกนิดหนึ่ง โกรธขึ้นมาจนพาล “นี่มันบ้านของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ จะพา
แฟนคุณออกไปดีๆ หรือจะให้คนของฉันมาลากตัวออกไป”
ธีภพจ้องบิวตี้สายตาตำหนิแล้วประคองอรวิภาออกไป
ขณะเดียวกัน จี้มาตรวัดผลสัมฤทธิ์ตรงซอกตู้ มีประกายวิ้ง สีดำเพิ่มขึ้นมาเป็น ครึ่งหนึ่ง
นางฟ้าลลิตากับปรมะเทวี ดูภาพฉายติดตามบิวตี้ อยู่ในแดนสรวง
นางฟ้าลลิตาหวาดหวั่น และกังวลหนัก “ข้าพเจ้าผิดเอง เป็นความผิดของข้าพเจ้า”
“อย่ามัวโทษตนเองอยู่เลย บุตรีของท่านกำลังจะได้รับบทเรียนสำคัญ ในไม่ช้า”
“ข้าพเจ้าอยากเจ็บปวดแทนลูกได้เหลือเกิน”
“ขอได้โปรดตั้งมั่นในอุเบกขา อย่ากระทำผิดกฏ มิฉะนั้น...”
นางฟ้าลลิตาหวาดหวั่น “ลัลน์ลลิตจักต้องเป็นนกตลอดไป”
“ถูกแล้ว ขออย่ากังวล เมื่อได้เวลาอันสมควร ข้าพเจ้าจะนำทางบุตรีของเจ้าไปสู่บทเรียนนั้นเอง”
บิวตี้เรียกคนใช้มารวมกันที่โถงกลางบ้าน ทุกคนรอท่าทีสยอง คนใช้ 1เปิดฉากบ่นกับพวก
“จะไล่ใครออกอีกล่ะเนี่ย ฉันไม่อยากตกงานนะ”
คนใช้ 2 ว่า “ไม่มั้ง เราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” คนใช้ 3 บอก “ก็ที่ไล่ๆออกไปเนี่ย เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ คนอะไร ใจร้าย ไม่มีเหตุผล” คนใช้ 4 หันมาทางป้าจัน “ป้าๆ ฉันจะโดนไล่ออกมั้ยอ่ะ ฉันเอาใจคุณหนูสุดๆแล้วนะ” “ถ้านินทาลับหลังกันแบบนี้ ป้าว่าก็ไม่แน่นะ” คนใช้ครวญ “โธ่ ป้าอ่ะ”
บิวตี้เดินนวยนาดลงมา
”ที่ฉันเรียกทุกคนมานี่ ก็เพื่อจะแจ้งกฎใหม่ของฉัน ข้อ 1. การไล่นกต้องได้รับคำสั่งจากฉันเท่านั้นข้อ 2. ห้ามรบกวนฉันหลังพระอาทิตย์ตกดิน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ใครฝ่าฝืน จะโดนเหมือนแก๊งสอพลอเมื่อเช้า”
บิวตี้เดินออกไป แล้วหันมาทางพรกับป้าจัน
“ป้าจันกับเธอ ตามฉันขึ้นไปบนห้อง”
คล้อยหลัง 3 คน คนใช้ 1 โล่งอก “ตกใจหมดเลย นึกว่าจะโดนซะแล้ว” “แปลกดีเนอะ แต่ก่อนเกลียดนก เดี๋ยวนี้ไม่ให้ไล่นก” การ์ดงง
สองคนตามบิวตี้เข้ามาในห้องนอน ป้าจันกับพรยืนงงๆ กับคำสั่ง
“ไปซื้ออาหารนกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้” บิวตี้หยิบเงินส่งให้ “แล้วก็ห้ามปิดหน้าต่างห้องนอนฉัน ฉันต้องการให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เปิดไฟทุกดวงในห้องฉันตอน 5 โมงเย็นของทุกวัน เข้าใจมั้ย แล้วก็...ห้ามเปิดเข้ามาในห้องฉันก่อนได้รับอนุญาต”
บิวตี้แกะอาหารนกใส่ถ้วย และ เทน้ำ วางไว้ในมุมหนึ่งของห้องนอน “เหม็นอ่ะ นกกินเข้าไปได้ไงเนี่ย แต่ก็คงดีกว่าหิวแล้วไม่มีอะไรกิน”
เย็นวันเดียวกันกรเทพ เดินผ่านห้องโถงจะออกไปข้างนอก
“พ่อเพิ่งกลับมา จะไปไหนคะ”
“ไปช่วยเคลียร์ปัญหาที่บ้านบิวตี้หน่อย” ”เรื่องอะไรฉาวโฉ่อีกละคะ” ”บิวตี้เขาไล่ลูกน้องออกหมด”
”ไล่ออกตั้งแต่เมื่อวานแล้วนิคะ ยังจะไปเคลียร์อะไรอีก ยัยบิวตี้ไล่คนออก ธรรมดาจะตาย บอกพวกเขาสิคะว่า ออกน่ะดีแล้ว อย่าไปทนอยู่กับคนอย่างนั้นเลย” กรเทพไม่พอใจ “ไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็อย่าพูดมาก”
“แพ็ตพูดจริงนิคะ ใครจะไปทนอยู่กับคนเจ้าอารมณ์ หลงตัวเอง ไม่เคยคิดถึงใจคนอื่นอย่างยัยบิวตี้ได้”
กรเทพขึ้นเสียงใส่ “นี่ พ่อยังไม่เคยได้ยินบิวตี้เขาว่าแพ็ต อย่างที่แพ็ตว่าเขาเลยนะ”
“ใช่สิแพ็ตมันไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ถูก ไม่เหมือนคุณหลานคนโปรด”
พักตร์พิมลเดินปึงปังขึ้นห้องไป
“แพ็ต” กรเทพจะตาม แต่ลังเล สุดท้ายถอนใจ มองรูปแม่พักตร์พิมลวัยยี่สิบปลายๆ สวยเศร้า ที่ตั้งอยู่ พลางส่ายหน้ากับรูปเหมือนเคือง
“คุณทิ้งอะไรไว้ให้ผมเนี่ย”
กรเทพออกไป สีหน้าละเหี่ยใจเหลือกำลัง
พักตร์พิมลกลับเข้าห้องก็อาละวาด ฟาดหมอน ขว้างข้าวของระบายความแค้น
“ไม่เห็นจะน่าเป็นห่วงตรงไหน” ฟาดหมอนตุ๊บ “ทำไมต้องสนใจมันยิ่งกว่าลูกของตัวเอง” คราวนี้ต่อยหมอนแทนหน้าบิวตี้
ความรักความแค้นเมื่อ 20 ปีผุดขึ้นมาในห้วงคิดพักตร์พิมล
เด็กสามคนเล่นด้วยกันที่บ้านกรเทพ บิวตี้รวบอำนาจเป็นคนบงการ ธีภพกับแพ็ตลากเก้าอี้มาต่อกันสองตัวตามคำสั่งบิวตี้
“นี่คือรถฟักทองของซินเดอเรลล่า ธี ไปนั่งหน้าเป็นสารถี”
“เราอิ๊บเป็นเจ้าหญิง”
“ไม่ได้ เธออ้วนเกินไปเป็นเจ้าหญิงไม่ได้ ต้องไปยืนหน้ารถ เป็นม้า”
“ไม่ เราไม่เป็นม้า วันนี้วันเกิดเรา เราต้องเป็นเจ้าหญิง”
“นี่ไม่ใช่เรื่องเจ้าหญิงอึ่งอ่างนะ” บิวตี้หยัน
พักตร์พิมลโมโห ผลักบิวตี้จนเซ บิวตี้ร้องลั่นเรียกความสนใจ
กรเทพ อายุราว 36 ปี เข้ามา “อะไรกัน” เห็นเหตุการณ์รีบเข้าไปปลอบอ่อนโยน “หลานบิวตี้ ร้องไห้ทำไมคะ”
บิวตี้ร้องไปฟ้องไป “แพ็ต เค้ามาผลักบิวตี้”
“แพ็ต ทำไมไปรังแกบิวตี้อย่างงั้น”
“บิวตี้เค้าว่าแพ็ตเป็นเจ้าหญิงอึ่งอ่างก่อนครับ” ธีภพชี้แจง
“บิวตี้เขาแค่ล้อเล่น แพ็ตไปผลักเขาไม่ถูกนะ แบบนี้ต่อไปจะไม่มีคนเล่นด้วย” กรเทพเข้าข้างบิวตี้
“ไม่กัว แพ็ตก็ไม่อยากเล่นกับยัยบิวตี้ ขี้ฟ้อง” พักตร์พิมลแลบลิ้นใส่ “แบร่”
บิวตี้ เพิ่มดีกรี ร้องไห้เสียงดังขึ้น
กรเทพปลอบบิวตี้ “โอ๋ ไม่ต้องร้องลูก” แล้วหันมาดุลูก “เรามันนิสัยไม่ดี เข้าไปอยู่ในห้อง อย่า
ออกอีกมาจนกว่าพ่อจะอนุญาต”
จากนั้นกรเทพก็อุ้มบิวตี้อย่างทะนุถนอม รักใคร่ ดึงมือพักตร์พิมลไปที่ห้อง บิวตี้แอบยิ้มเยาะ แลบลิ้นใส่
กลายเป็นเหตุผลที่พักตร์พิมลไม่กินเส้นบิวตี้ มาจนโต
พักตร์พิมลดึงความตัวเองกลับมาสีหน้าเคืองแค้น
“ฉันไม่ยอมรับคนอย่างเธอเป็นพี่น้องหรอก ยัยบิวตี้”
กรเทพมาถึงก็เปิดฉากอบรมบิวตี้ แต่บิวตี้ มองมาตรวัดความสัมฤทธิ์ที่ดำไปครึ่งหนึ่ง มัวแต่ครุ่นคิดหาทางล้างคำสาปโดยเร็ว เลยไม่ได้ใส่ใจฟัง “บิวตี้จะไล่คนออกโดยสาเหตุแค่คิดว่าเขาไม่จริงใจไม่ได้หรอกนะ” บิวตี้เหม่อลอย ออกเสียงเถียงในความคิด “ไล่คนเลวออก มันผิดตรงไหนคะ”
“ทุกครั้งที่ให้คนออกโดยไม่มีเหตุผล มันเหมือนเป็นการสร้างศัตรู” บิวตี้คิดในใจ “เล่าเรื่องคำสาปให้อาฟัง อาจะเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เรื่องที่หนูอรเขามาขอโทษก็เหมือนกัน เขามาดีบิวตี้ก็น่าจะพูดกับเขาดีๆ บริษัทเรากับห้างฟอลคอนเป็นพันธมิตรกันมาตลอด บิวตี้ฟังอาพูดหรือเปล่า”
บิวตี้มองกรเทพ งงๆ “คะ คุณอามาเพราะเรื่องยัยคุณหนูฟอลคอนเหรอคะ คุยเรื่องอื่นเถอะค่ะ”
เรื่องเต็ม เล่ห์นางฟ้าตอนที่ 2/3
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 2/3
เช้าวันต่อมา บริวารทั้ง 4 คน รวมตัวกันอยู่ที่ห้องทำงานบิวตี้ในคฤหาสน์ ต่างคนต่างสีหน้าตกใจสุดขีด ทุกคนมีซองขาวในมือแล้ว
“คุณบิวตี้ ไม่เปลี่ยนใจจริงๆ เหรอคะ” เลขาถามย้ำ
“ไม่มีวัน ฉันเกลียด คนไม่จริงใจที่สุด” ช่างผมอุทรณ์ “แต่เราทำงานแก้ตัวให้แล้วนี่คะ เมื่อวานหนูทำผมให้คุณบิวตี้อย่างสุดฝีมือเลยนะคะ”
“จบแล้ว ไปได้แล้ว” ช่างหน้ากรี๊ด “แอร๊ย…ไม่ได้นะคะ ลูกหนูจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยง” “ฉันจ่ายล่วงหน้าพวกเธอสามเดือนเต็ม เชิญไปหางานกันเอง” บิวตี้ไม่แยแส
เลขา ช่างทุกคน ร้องกระจองอแง “ไม่นะคะคุณบิวตี้” / “เราอยากทำงานกับคุณ” / “อย่าไล่เราออกเลย” / “เราจริงใจนะคะ” บิวตี้เสียงแข็ง “ออกไป ถ้าไม่ออกฉันจะตามรปภ.มาลากตัวพวกเธอ”
ธีภพขับรถมาส่งอรวิภาที่ถือกระเช้าดอกไม้ จะเอามาขอโทษบิวตี้ มองจากประตูบ้านโปร่งๆ เข้าไป เห็นบิวตี้เดินหน้าถทึงมาอย่างขุ่นเคืองสุดขีด ตรงมาสั่งการ์ดที่หน้าประตู เลขา ช่างหน้า ช่างผม ช่างภาพ เดินร้องไห้ตามตื๊อบิวตี้เป็นพรวน
บิวตี้สั่งการ์ด “ไล่คนพวกนี้ออกไป”
บริวารทั้ง 4 ร้องไห้ระงม “คุณบิวตี้ขาเราผิดไปแล้ว” / “ขอโทษเถอะนะคะ” / “ตกงานแล้วจะเอาอะไรกิน” / “ผมพูดนิดเดียว”
“ออกไป” บิวตี้สั่งการ์ด “แล้วอย่าให้เข้ามาอีก”
การ์ดเปิดประตูดันตัวลูกน้องบิวตี้ออกจากบ้าน
ธีภพบอก “เรากลับกันก่อนเถอะครับ” แต่พอหันมา ไม่เห็นอรวิภาที่ข้างๆ แล้ว
ด้วยเวลานี้อรวิภาสวนทางทุกคนวิ่งตามบิวตี้ที่หันหลังจะเดินกลับไปที่ตึกใหญ่ ธีภพตกใจเดินตามอรวิภามาด้วยความเป็นห่วง
“พี่บิวตี้ขา เดี๋ยวค่ะ”
บิวตี้หันกลับมา ไม่พอใจ “กลับไปซะ ฉันไม่อยากพบใครทั้งนั้น”
“พี่บิวตี้อย่าโกรธน้องอรเลยนะคะ น้องอรเสียใจมาก” อรวิภาจะร้องไห้
บิวตี้ยืนนิ่งสะกดอารมณ์อยากระเบิดเต็มที
“น้องอรตั้งใจจัดกระเช้ามา แทนคำว่าขอโทษ” อรวิภายัดเยียดดอกไม้ใส่มือ “พี่บิวตี้รับไว้นะคะ”
บิวตี้ทุ่มกระเช้าทิ้ง ปรี๊ดแตก “บอกว่าไม่เอา ไม่อยากพูด ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น”
อรวิภาตกใจ ร้องไห้โฮ “พี่บิวตี้”
ธีภพเหลืออด “คนเขามาขอโทษดีๆ หัดมีมรรยาทบ้างสิ”
บิวตี้เผลอจ้องมองธีภพอีกนิดหนึ่ง โกรธขึ้นมาจนพาล “นี่มันบ้านของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ จะพา
แฟนคุณออกไปดีๆ หรือจะให้คนของฉันมาลากตัวออกไป”
ธีภพจ้องบิวตี้สายตาตำหนิแล้วประคองอรวิภาออกไป
ขณะเดียวกัน จี้มาตรวัดผลสัมฤทธิ์ตรงซอกตู้ มีประกายวิ้ง สีดำเพิ่มขึ้นมาเป็น ครึ่งหนึ่ง
นางฟ้าลลิตากับปรมะเทวี ดูภาพฉายติดตามบิวตี้ อยู่ในแดนสรวง
นางฟ้าลลิตาหวาดหวั่น และกังวลหนัก “ข้าพเจ้าผิดเอง เป็นความผิดของข้าพเจ้า”
“อย่ามัวโทษตนเองอยู่เลย บุตรีของท่านกำลังจะได้รับบทเรียนสำคัญ ในไม่ช้า”
“ข้าพเจ้าอยากเจ็บปวดแทนลูกได้เหลือเกิน”
“ขอได้โปรดตั้งมั่นในอุเบกขา อย่ากระทำผิดกฏ มิฉะนั้น...”
นางฟ้าลลิตาหวาดหวั่น “ลัลน์ลลิตจักต้องเป็นนกตลอดไป”
“ถูกแล้ว ขออย่ากังวล เมื่อได้เวลาอันสมควร ข้าพเจ้าจะนำทางบุตรีของเจ้าไปสู่บทเรียนนั้นเอง”
บิวตี้เรียกคนใช้มารวมกันที่โถงกลางบ้าน ทุกคนรอท่าทีสยอง คนใช้ 1เปิดฉากบ่นกับพวก
“จะไล่ใครออกอีกล่ะเนี่ย ฉันไม่อยากตกงานนะ”
คนใช้ 2 ว่า “ไม่มั้ง เราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” คนใช้ 3 บอก “ก็ที่ไล่ๆออกไปเนี่ย เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ คนอะไร ใจร้าย ไม่มีเหตุผล” คนใช้ 4 หันมาทางป้าจัน “ป้าๆ ฉันจะโดนไล่ออกมั้ยอ่ะ ฉันเอาใจคุณหนูสุดๆแล้วนะ” “ถ้านินทาลับหลังกันแบบนี้ ป้าว่าก็ไม่แน่นะ” คนใช้ครวญ “โธ่ ป้าอ่ะ”
บิวตี้เดินนวยนาดลงมา
”ที่ฉันเรียกทุกคนมานี่ ก็เพื่อจะแจ้งกฎใหม่ของฉัน ข้อ 1. การไล่นกต้องได้รับคำสั่งจากฉันเท่านั้นข้อ 2. ห้ามรบกวนฉันหลังพระอาทิตย์ตกดิน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ใครฝ่าฝืน จะโดนเหมือนแก๊งสอพลอเมื่อเช้า”
บิวตี้เดินออกไป แล้วหันมาทางพรกับป้าจัน
“ป้าจันกับเธอ ตามฉันขึ้นไปบนห้อง”
คล้อยหลัง 3 คน คนใช้ 1 โล่งอก “ตกใจหมดเลย นึกว่าจะโดนซะแล้ว” “แปลกดีเนอะ แต่ก่อนเกลียดนก เดี๋ยวนี้ไม่ให้ไล่นก” การ์ดงง
สองคนตามบิวตี้เข้ามาในห้องนอน ป้าจันกับพรยืนงงๆ กับคำสั่ง
“ไปซื้ออาหารนกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้” บิวตี้หยิบเงินส่งให้ “แล้วก็ห้ามปิดหน้าต่างห้องนอนฉัน ฉันต้องการให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เปิดไฟทุกดวงในห้องฉันตอน 5 โมงเย็นของทุกวัน เข้าใจมั้ย แล้วก็...ห้ามเปิดเข้ามาในห้องฉันก่อนได้รับอนุญาต”
บิวตี้แกะอาหารนกใส่ถ้วย และ เทน้ำ วางไว้ในมุมหนึ่งของห้องนอน “เหม็นอ่ะ นกกินเข้าไปได้ไงเนี่ย แต่ก็คงดีกว่าหิวแล้วไม่มีอะไรกิน”
เย็นวันเดียวกันกรเทพ เดินผ่านห้องโถงจะออกไปข้างนอก
“พ่อเพิ่งกลับมา จะไปไหนคะ”
“ไปช่วยเคลียร์ปัญหาที่บ้านบิวตี้หน่อย” ”เรื่องอะไรฉาวโฉ่อีกละคะ” ”บิวตี้เขาไล่ลูกน้องออกหมด”
”ไล่ออกตั้งแต่เมื่อวานแล้วนิคะ ยังจะไปเคลียร์อะไรอีก ยัยบิวตี้ไล่คนออก ธรรมดาจะตาย บอกพวกเขาสิคะว่า ออกน่ะดีแล้ว อย่าไปทนอยู่กับคนอย่างนั้นเลย” กรเทพไม่พอใจ “ไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็อย่าพูดมาก”
“แพ็ตพูดจริงนิคะ ใครจะไปทนอยู่กับคนเจ้าอารมณ์ หลงตัวเอง ไม่เคยคิดถึงใจคนอื่นอย่างยัยบิวตี้ได้”
กรเทพขึ้นเสียงใส่ “นี่ พ่อยังไม่เคยได้ยินบิวตี้เขาว่าแพ็ต อย่างที่แพ็ตว่าเขาเลยนะ”
“ใช่สิแพ็ตมันไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ถูก ไม่เหมือนคุณหลานคนโปรด”
พักตร์พิมลเดินปึงปังขึ้นห้องไป
“แพ็ต” กรเทพจะตาม แต่ลังเล สุดท้ายถอนใจ มองรูปแม่พักตร์พิมลวัยยี่สิบปลายๆ สวยเศร้า ที่ตั้งอยู่ พลางส่ายหน้ากับรูปเหมือนเคือง
“คุณทิ้งอะไรไว้ให้ผมเนี่ย”
กรเทพออกไป สีหน้าละเหี่ยใจเหลือกำลัง
พักตร์พิมลกลับเข้าห้องก็อาละวาด ฟาดหมอน ขว้างข้าวของระบายความแค้น
“ไม่เห็นจะน่าเป็นห่วงตรงไหน” ฟาดหมอนตุ๊บ “ทำไมต้องสนใจมันยิ่งกว่าลูกของตัวเอง” คราวนี้ต่อยหมอนแทนหน้าบิวตี้
ความรักความแค้นเมื่อ 20 ปีผุดขึ้นมาในห้วงคิดพักตร์พิมล
เด็กสามคนเล่นด้วยกันที่บ้านกรเทพ บิวตี้รวบอำนาจเป็นคนบงการ ธีภพกับแพ็ตลากเก้าอี้มาต่อกันสองตัวตามคำสั่งบิวตี้
“นี่คือรถฟักทองของซินเดอเรลล่า ธี ไปนั่งหน้าเป็นสารถี”
“เราอิ๊บเป็นเจ้าหญิง”
“ไม่ได้ เธออ้วนเกินไปเป็นเจ้าหญิงไม่ได้ ต้องไปยืนหน้ารถ เป็นม้า”
“ไม่ เราไม่เป็นม้า วันนี้วันเกิดเรา เราต้องเป็นเจ้าหญิง”
“นี่ไม่ใช่เรื่องเจ้าหญิงอึ่งอ่างนะ” บิวตี้หยัน
พักตร์พิมลโมโห ผลักบิวตี้จนเซ บิวตี้ร้องลั่นเรียกความสนใจ
กรเทพ อายุราว 36 ปี เข้ามา “อะไรกัน” เห็นเหตุการณ์รีบเข้าไปปลอบอ่อนโยน “หลานบิวตี้ ร้องไห้ทำไมคะ”
บิวตี้ร้องไปฟ้องไป “แพ็ต เค้ามาผลักบิวตี้”
“แพ็ต ทำไมไปรังแกบิวตี้อย่างงั้น”
“บิวตี้เค้าว่าแพ็ตเป็นเจ้าหญิงอึ่งอ่างก่อนครับ” ธีภพชี้แจง
“บิวตี้เขาแค่ล้อเล่น แพ็ตไปผลักเขาไม่ถูกนะ แบบนี้ต่อไปจะไม่มีคนเล่นด้วย” กรเทพเข้าข้างบิวตี้
“ไม่กัว แพ็ตก็ไม่อยากเล่นกับยัยบิวตี้ ขี้ฟ้อง” พักตร์พิมลแลบลิ้นใส่ “แบร่”
บิวตี้ เพิ่มดีกรี ร้องไห้เสียงดังขึ้น
กรเทพปลอบบิวตี้ “โอ๋ ไม่ต้องร้องลูก” แล้วหันมาดุลูก “เรามันนิสัยไม่ดี เข้าไปอยู่ในห้อง อย่า
ออกอีกมาจนกว่าพ่อจะอนุญาต”
จากนั้นกรเทพก็อุ้มบิวตี้อย่างทะนุถนอม รักใคร่ ดึงมือพักตร์พิมลไปที่ห้อง บิวตี้แอบยิ้มเยาะ แลบลิ้นใส่
กลายเป็นเหตุผลที่พักตร์พิมลไม่กินเส้นบิวตี้ มาจนโต
พักตร์พิมลดึงความตัวเองกลับมาสีหน้าเคืองแค้น
“ฉันไม่ยอมรับคนอย่างเธอเป็นพี่น้องหรอก ยัยบิวตี้”
กรเทพมาถึงก็เปิดฉากอบรมบิวตี้ แต่บิวตี้ มองมาตรวัดความสัมฤทธิ์ที่ดำไปครึ่งหนึ่ง มัวแต่ครุ่นคิดหาทางล้างคำสาปโดยเร็ว เลยไม่ได้ใส่ใจฟัง “บิวตี้จะไล่คนออกโดยสาเหตุแค่คิดว่าเขาไม่จริงใจไม่ได้หรอกนะ” บิวตี้เหม่อลอย ออกเสียงเถียงในความคิด “ไล่คนเลวออก มันผิดตรงไหนคะ”
“ทุกครั้งที่ให้คนออกโดยไม่มีเหตุผล มันเหมือนเป็นการสร้างศัตรู” บิวตี้คิดในใจ “เล่าเรื่องคำสาปให้อาฟัง อาจะเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เรื่องที่หนูอรเขามาขอโทษก็เหมือนกัน เขามาดีบิวตี้ก็น่าจะพูดกับเขาดีๆ บริษัทเรากับห้างฟอลคอนเป็นพันธมิตรกันมาตลอด บิวตี้ฟังอาพูดหรือเปล่า”
บิวตี้มองกรเทพ งงๆ “คะ คุณอามาเพราะเรื่องยัยคุณหนูฟอลคอนเหรอคะ คุยเรื่องอื่นเถอะค่ะ”