เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 1/3
บิวตี้อยู่ในห้องแต่งตัว นึกถึงเรื่องนี้หล่อนถึงกับตัวสั่น น้ำตานองหน้า
“ไม่...ชั้นไม่มีวันเดินแบบที่มีนกเด็ดขาด”
ตุ้ยนุ้ยกับเพิร์ลเดินเข้ามาหน้าจ๋อยๆ ทีมงานคนอื่นๆ ยืนมองห่างๆ
“ต้องขอโทษจริงๆค่ะ เราไม่รู้ว่าจริงๆ คุณบิวตี้ไม่ชอบนก”
“นกมันน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง แค่มองยังไม่อยากจะมอง ถ้าจะให้ชั้นถือกรงนกด้วย ชั้นจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้” บิวตี้ประกาศกร้าว
ทุกคนตกใจร้องห้ามระงม “อย่าค่ะ” / “เดี๋ยวค่ะ” / “ไม่ได้นะคะ”
คนคุมเวทีวิ่งเข้ามา
“ได้เวลาแล้วนะพี่เพิร์ล ต้องไปแสตนด์บายเดี๋ยวนี้แล้ว”
ทุกคนอึกอัก ไม่รู้จะทำยังไงดี
เสียงอรวิภาดังขึ้น “อรถือกรงนกให้คุณบิวตี้เองก็ได้ค่ะ”
ทุกคนเหลียวขวับไปมองอรวิภาราวกับเป็นฮีโร่หญิง
“ถือทีเดียว 2 กรงเลย น่ารักอ่ะ” หล่อนชูสองนิ้วทำท่าน่ารัก
ทุกคนถอนใจยาว โล่งอก บรรยากาศผ่อนคลาย
“เป็นอันว่าตกลงตามนั้นนะคะคุณบิวตี้” เพิร์ลสรุป
บิวตี้มองอรวิภาอย่างประเมินสถานการณ์ “แล้วเธอแน่ใจนะว่าจะไม่ถือมาใกล้ๆ ชั้น”
“อรสัญญาค่ะ ด้วยเกียรติของเนตรนารี” อรวิภาชูสามนิ้ว ด้วยท่าทางน่ารักอีก “อะไรที่คุณบิวตี้ไม่ชอบ อรจะไม่ทำหรอกค่ะ”
ฝ่ายเวทีร้องเตือนน้ำเสียงเร่งร้อน “ต้องไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ คุณอร คุณบิวตี้”
“นะคะคุณบิวตี้” เพิร์ลออกโรงไหว้ “ขอร้องละค่ะ”
บิวตี้คาดโทษ “ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันฟ้องบริษัทคุณเจ๊งแน่”
จากนั้นบิวตี้เดินสะบัดไปทางที่จัดงาน ทุกคนถอนใจโล่งอก กรูกันตามบิวตี้ไป สวนกับคนงานคนหนึ่งที่รีบร้องเข้ามา
เลขาสาวร้องขึ้น “คุณบิวตี้คะ เดี๋ยวค่ะ...บนเวที”
คนงานเรียกผู้กำกับเวที “คุณครับ..คุณ”
แต่ไม่ทันแล้ว ทุกคนเดินหายไปหมด ตุ้ยนุ้ยถอนใจยาว คนงานก็เกาหัวยิกๆ
“ถ้ารู้ว่าบนเวทีมีกรงนกอยู่ ชั้นจะทำยังไงนะ”
คนงานดูแลนกพึมพำ “ก็นั่นสิครับ แล้วผมก็ดันทำล็อกกรงนกของคุณอรวิภาหักด้วย จะมาเตือนให้ถือระวังๆก็ไม่ทัน”
ตุ้ยนุ้ยได้ยินตกใจถึงกับลืมตัว ขยุ้มอกเสื้อคนดูแลนกร้องวี๊ด “ว่าไงนะ”
คนดูแลนกทำหน้าตกใจแทบตาย เลขาสาวได้สติปล่อยมือ โลดละลิ่วตามบิวตี้ไปอย่างว่องไว
“คุณบิวตี้คะ คุณบิวตี้”
ที่ด้านหลังเวที อรวิภารับกรงนกมาแล้วเดินออกไปอีกด้านหนึ่ง หันมาชูกรงนกให้บิวตี้ดูเป็นเชิงอวดๆ และปลอบใจ
เลขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณบิวตี้คะ”
ทุคนหันไปจุ๊ปากให้เงียบ ตุ้ยนุ้ยหุบปากแล้วรีบวิ่งมาหาบิวตี้
ผู้กำกับเวทีบอก “คิวค่ะ คุณบิวตี้ คุณอร”
เลขาวิ่งมาถึงตัว “คุณบิวตี้ กรงนก...”
ช้าไปแล้ว บิวตี้กับอรวิภาเดินออกไปหน้าเวทีตามคิว เลขาอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่านรกรอเธออยู่เบื้องหน้า!
บนเวทียามนั้นอรวิภากับบิวตี้เดินออกมาคนละด้าน แล้วหยุดยืนโพสท่าสวยงาม อรวิภาโพสท่าน่ารักถือกรงนก 2 มือ ส่วนบิวตี้ยืนพ้อยต์เท้าวาดท่าสวยสง่า น่าทึ่ง ผู้คนตบมือ เจตน์ชาญถึงกับเอามือถือออกมาถ่ายรูป อรวิภาออกเดินนำก่อน ยิ้มแย้มเกินความจำเป็น
ส่วนด้านล่าง แพ็ตมองอรวิภาอย่างไม่พอใจ ที่เห็นอรวิภาเดินส่งยิ้มให้ธีภพ
พักตร์พิมลเอนตัวมาพูดใกล้ธีภพ “เนี่ยเหรอคะ ยายอร อิ๋งอ๋อย หนูน้อยแสนดีของพี่ธี”
ธีภพไม่พอใจนัก “พูดถึงคนอื่นเค้าดีๆ หน่อย แพ็ต”
“ทำไม โกรธแทนแฟนหรือไง”
“เค้าไม่ใช่แฟนพี่”
“แต่ก็ยอมให้คลุมถุงชน โบราณชะมัดเลย”
ธีภพ ขยับตัวหนี ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง พักตร์พิมลมองตาขวาง
บิวตี้ออกเดินมาบนเวที บังเอิญเห็นอะไรบางอย่าง บิวตี้ชะงักหันไปมองให้แน่ใจ แล้วตกตะลึง เมื่อเห็นกรงนกกรงใหญ่อยู่ข้างหลัง หล่อนถึงกับลืมตัว ถอยกรูด แล้วยืนตัวแข็ง ขาล็อค ทำอะไรไม่ถูก แข็งเป็นหิน ตาเบิกโพลง
ทุกคนตกใจในท่าทีของบิวตี้
ส่วนที่ด้านหลังเวทีที่เพิร์ลและเลขา และคนอื่นๆ ดูมอนิเตอร์ตกใจ
ดีไซเนอร์งงหนัก “เกิดอะไรขึ้นกับบิวตี้ ทำไมไม่เดิน”
เพิร์ลแปลกใจ “หรือว่านางลืมแพทเทิร์น..ไม่น่า เป็นไปไม่ได้”
เลขาบอก “ก็เพราะกรงนกนั้นไงล่ะคะ ไม่มีใครบอกเธอว่ามีกรงนกวางอยู่บนเวที เดี๋ยวคอยดูเถอะ ถ้าเธอกลับเข้ามา ต้องมีคนถูกฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ แน่ๆ”
ทุกคนอึ้ง ดูมอนิเตอร์ต่อ
บิวตี้ยังคงตะลึงยืนนิ่งอยู่บนเวที อรวิภายืนเลิกลักรอที่ปลายรันเวย์ เริ่มเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูก
พักตร์พิมลมอง บ่นพึมพำ “ยายสมองกลวงนั่นเค้าเป็นอะไรของเค้านะ ตลกจริงๆเลย”
ธีภพมองบิวตี้อย่างสงสัย
“บิวตี้กลัวนกมากถึงขนาดโฟเบีย.. ผมจะไปช่วยหลาน”
ขาดคำ กรเทพลุกออกจากที่นั่งพุ่งออกไป
“คุณพ่อ” พักตร์พิมลหงุดหงิด
กรเทพเดินไปข้างเวที ใกล้ๆ บิวตี้ที่ยืนตะลึงอยู่
“บิวตี้หลานรัก..อาอยู่นี่”
บิวตี้ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ กระแสเสียงแห่งความเป็นห่วง ทำให้บิวตี้หันมามองช้าๆ พบว่ากรเทพยิ้มให้อย่างอบอุ่น ปลอบโยน
“อาอยู่ตรงนี้...ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”
เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ เคยเกิดขึ้นในห้องที่หอพักประเทศอังกฤษ
ขณะที่บิวตี้ร้องกรี๊ดๆๆ มีนกบินกระพือปีกบินพับๆ รอบตัว กรเทพเข้าไปกอดไว้อย่างอบอุ่น
“อย่างร้องไห้หลานรัก อายังอยู่ อาจะดูแลบิวตี้แทนพ่อเอง...เชื่อใจอาเถอะนะ”
บิวตี้กอดกรเทพแน่น ร้องไห้จนตัวสั่น สุดท้ายนกบินจากไป
บิวตี้ค่อยๆ ได้สติ ค่อยๆ คลายความกลัว หายตัวแข็ง มองกรเทพอีกที กรเทพยิ้มอย่างอบอุ่น ปลอบโยน บิวตี้หายจากอาการหวาดกลัว มองไปรอบตัวแล้วได้สติ ค่อยๆออกเดิน
ทุกคนโล่งอก เจตน์ชาญที่ลุ้นสุดขีด ถอนหายใจโล่งอก กรเทพเดินกลับไปนั่งที่
ที่หลังเวที ดีไซเนอร์และทุกๆคน โล่งอก ถอนหายใจ คนดูหน้าเวทีประทับใจปรบมือชื่นชม
กรเทพดีใจที่บิวตี้หายกลัวปรบมือเชียร์ออกนอกหน้า
พักตร์พิมลเคืองพ่อ เบะปากใส่บิวตี้
ทุกการเคลื่อนไหว ไม่มีรอดสายตาเจตน์ชาญ ที่แอบจับจ้อง และแอบถ่ายรูปเก็บทุกเหตุการณ์ โดยไม่มีใครรู้ตัว
บิวตี้เดินอย่างคล่องแคล่ว อรวิภาโล่งอก เดินกับบิวตี้อีกคนละรอบอย่างร่าเริง ก่อนที่จะไปหยุดโพสตรงหน้ากรงนกใหญ่รอบิวตี้
ที่กลุ่มคนดู ธีภพยิ้มให้กำลังใจอรวิภา ยกกล้องขึ้นถ่ายรูป อรวิภาเห็นธีภพยิ้มหวาน ให้ยิ่งร่าเริงแจ่มใส
พักตร์พิมลเห็นอรวิภาส่งสายตากับธีภพแล้วหมั่นไส้ ขยับตัวเข้าใกล้ธีภพ อย่าจงใจ
“แอร์แรง หนาวจัง” พักตร์พิมลเบียดซุกไหล่ธีภพ
อรวิภาเห็นภาพคล้ายพักตร์พิมลกอดซุกธีภพ ใจกระตุกวูบ หน้าเสีย
บิวตี้เดินกลับมาโพสข้างๆ อรวิภาลืมตัวมือที่คอยชูกรงนกอยู่ห่างๆ บิวตี้ กลับค่อยๆ ลดลง บิวตี้ตกใจ คนดูตบมือ
นางแบบคนอื่นและดีไซเนอร์ออกมาร่วมเวที คนดู ทั้งหมดลุกขึ้น ปรบมือโห่ร้อง อย่างประทับใจ
นกในกรง ในมืออรวิภาตกใจกระพือปีกพึ่บพับเต็มแรง
อรวิภาตกใจ “ว้าย” ผงะ ถอยหนีนก เซมาทางบิวตี้
ทำให้นกในกรงอีกมือของอรวิภาอยู่ใกล้หน้าบิวตี้นิดเดียวเท่านั้น บิวตี้ตะลึงตกใจสุดขีด
“อย่าเข้ามาใกล้นะ”
บิวตี้ผลักอรวิภาเต็มแรงด้วยความตกใจ อรวิภาไม่ทันระวังตัวกระเด็นไปด้านหลัง ปะทะกับกรงยักษ์เต็มแรง นกในกรงเล็กหล่นลงพื้น ประตูกรงเปิดออก นกบินออกมาโผเข้าหาบิวตี้
บิวตี้กรีดร้องปัดนกไม่ให้โดนตัว ถดตัวถอยหลบไปเรื่อยๆ “อ๊าย ไปให้พ้น ไป๊”
คนดูและนางแบบบนเวทีตะลึง ในขณะเดียวกัน อรวิภาก็เซไปปะทะกรงใหญ่อีกกรง ทำให้ประตูกรงเปิดออก นกในกรงบินออกมาว่อน ทุกคนตะลึง
บิวตี้ปัดป้องนกตัวที่บินมาใกล้อยู่ก็ตะลึง เมื่อเห็นฝูงนกทุกตัวบินว่อนออกมา ตาเหลือกกรี๊ดเต็มเสียง
“แอร๊ยยย”
บิวตี้ถอยกรูด ปัดป้องโดยไม่มองอะไรแล้ว ตกลงไปข้างเวที อรวิภาร้องกรี๊ดแล้ววิ่งตามออกไป
“คุณบิวตี้”
ทุกคนตะลึง มีพักตร์พิมลหัวเราะชอบใจคนเดียว
บิวตี้นอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นหน้าเวที มือยังปิดหน้าอยู่ ตกใจสุดขีด ท่ามกลางวงล้อมของช่างภาพและไทยมุง ช่างภาพ ไทยกระหน่ำถ่ายรูป โดยไม่มีใครคิดจะเข้ามาช่วย
อรวิภาถลาถึงตัวบิวตี้ ไหว้ขอโทษ “พี่บิวตี้ขาเป็นยังไงบ้างคะ” พลางเข้าประคอง
ถูกบิวตี้ผลักออกเต็มแรง “ออกไป๊”
อรวิภาจะร้องไห้ “น้องอรขอโทษ... น้องอรไม่ได้ตั้งใจ”
บิวตี้ตวาด “ไปให้พ้น”
ธีภพเดินเข้ามา อรวิภาค่อยๆ ลุกขึ้น น้ำตาเต็มหน้า
ธีภพมองบิวตี้อย่างชั่งใจ แล้วค่อยๆ เอื้อมมือออกไป แต่ก่อนที่มือธีภพจะถึง มีอีกมือหนึ่งดึงบิวตี้ขึ้นมาก่อน
“มันไปหมดแล้วล่ะครับ คุณปลอดภัยแล้ว”
บิวตี้ค่อยๆ ลืมตา เห็นเป็นเจตน์ชาญยืนอยู่ใกล้ๆ มีอรวิภายืนร้องไห้อยู่ข้างๆ ธีภพ รอบๆ ตัววุ่นวาย มีผู้คนไล่จับนกอยู่ตามที่ต่างๆ นักข่าวถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
เลขาและบริวารของบิวตี้วิ่งมาหา
“คุณบิวตี้คะ คุณบิวตี้ เป็นยังไงบ้างคะ”
บิวตี้ได้สติ มองอรวิภาอย่างโกรธเกรี้ยว
“ไหนว่าดูแลนกได้ไง เธอนี่ช่างปัญญาอ่อนที่สุด ตัวซวยชัดๆ ชั้นไม่ควรต้องมาเดินแบบกับเธอเลยจริงๆ”
บิวตี้สะบัดหน้าเดินออกไป อับอายสุดขีด บริวารเดินตามเป็นแผง บอดี้การ์ดช่วยกันตัวบิวตี้จากวงล้อม แล้วรีบพาไปด้านหลัง
อรวิภาน้ำตาแตก ร้องไห้ฮือๆ ธีภพโอบไหล่ปลอบ
เลขา และบอดี้การ์ด พาบิวตี้ เดินมาตามทางเดิน ผู้คนวิ่งกันสับสนวุ่นวาย ดีไซเนอร์พยายามเดินตามมาขอโทษ แต่ถูกบอดี้การ์ดกันเอาไว้
บิวตี้เข้าห้องมากับเลขา ปิดประตูปัง บิวตี้ปิดหน้า กรีดร้องยาวโหยหวน ด้วยความอับอาย ทุกคนอุดหู
ประตูเปิดออก อรวิภาตามเข้ามาพร้อมกับธีภพ และเพิร์ล
“พี่บิวตี้ขา น้องอรขอโทษ”
“ฉันไม่ต้องการฟังคำชี้แจงอะไรทั้งนั้น ออกไป”
“น้องอรเสียใจ”
บิวตี้หวีดร้อง เริ่มอาละวาด ขว้างของใส่ “ออกไป บอกให้ออกไป ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น”
ทุกคนตะลึง
ธีภพเอาตัวกันอรวิภาไว้ “นี่ คนเขาอุตส่าห์มาขอโทษ ยังจะอาละวาดอีก นิสัยแย่เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน”
บิวตี้เงื้อมือค้าง มองธีภพอย่างสงสัย “นายเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย”
ธีภพไม่ตอบ “ไปกันเถอะครับน้องอร คนแบบนี้พูดไปก็ไม่มีประโยชน์” ชายหนุ่มกันอรวิภา พาออกไป
เครือวรรณเข้ามาหาลูกพอดี
“มะม๊ะขา ทำยังไงดี พี่บิวตี้โกรธน้องอรอ่ะค่ะ”
เครือวรรณรีบประคองลูกออกไป
“ไม่เป็นไรค่ะลูก ออกไปหาปะป๊าก่อนนะคะ”
บิวตี้หายตะลึง แต่ยังโกรธไม่หาย ขว้างของไล่หลัง “ไป๊”
เลขามองเพิร์ลที่ยืนอึดอัดอยู่
“คุณบิวตี้ขา...เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
พูดยังไม่ทันจบ บิวตี้เอาของอีกชิ้นขว้างเข้าหน้า เลขาหลบทัน
“หุบปาก ไสหัวไป๊ ไปให้หมด”
“คุณบิวตี้ เราเป็นห่วง”
“บอกให้ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ ยัยหมูตอน”
เลขาจับหัวใจ “โอ๊ย เจ็บๆๆๆ”
บิวตี้กระหน่ำขว้าง คำรามด้วยความเคียดแค้น หัวหูยุ่งดูไม่ได้ ทุกคนถอยทัพออกจากห้องไป
อยู่ๆ ทุกคนก็หยุดเคลื่อนไหว ข้าวของที่บิวตี้ขว้าง ลอย หยุดนิ่งกลางอากาศ เหมือนเวลาหยุดลงกะทันหัน
ขอขอบคุณ เว็บผู้จัดการออนไลน์ : )
เรื่องเต็ม เล่ห์นางฟ้าตอนที่ 1/3
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 1/3
บิวตี้อยู่ในห้องแต่งตัว นึกถึงเรื่องนี้หล่อนถึงกับตัวสั่น น้ำตานองหน้า
“ไม่...ชั้นไม่มีวันเดินแบบที่มีนกเด็ดขาด”
ตุ้ยนุ้ยกับเพิร์ลเดินเข้ามาหน้าจ๋อยๆ ทีมงานคนอื่นๆ ยืนมองห่างๆ
“ต้องขอโทษจริงๆค่ะ เราไม่รู้ว่าจริงๆ คุณบิวตี้ไม่ชอบนก”
“นกมันน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง แค่มองยังไม่อยากจะมอง ถ้าจะให้ชั้นถือกรงนกด้วย ชั้นจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้” บิวตี้ประกาศกร้าว
ทุกคนตกใจร้องห้ามระงม “อย่าค่ะ” / “เดี๋ยวค่ะ” / “ไม่ได้นะคะ”
คนคุมเวทีวิ่งเข้ามา
“ได้เวลาแล้วนะพี่เพิร์ล ต้องไปแสตนด์บายเดี๋ยวนี้แล้ว”
ทุกคนอึกอัก ไม่รู้จะทำยังไงดี
เสียงอรวิภาดังขึ้น “อรถือกรงนกให้คุณบิวตี้เองก็ได้ค่ะ”
ทุกคนเหลียวขวับไปมองอรวิภาราวกับเป็นฮีโร่หญิง
“ถือทีเดียว 2 กรงเลย น่ารักอ่ะ” หล่อนชูสองนิ้วทำท่าน่ารัก
ทุกคนถอนใจยาว โล่งอก บรรยากาศผ่อนคลาย
“เป็นอันว่าตกลงตามนั้นนะคะคุณบิวตี้” เพิร์ลสรุป
บิวตี้มองอรวิภาอย่างประเมินสถานการณ์ “แล้วเธอแน่ใจนะว่าจะไม่ถือมาใกล้ๆ ชั้น”
“อรสัญญาค่ะ ด้วยเกียรติของเนตรนารี” อรวิภาชูสามนิ้ว ด้วยท่าทางน่ารักอีก “อะไรที่คุณบิวตี้ไม่ชอบ อรจะไม่ทำหรอกค่ะ”
ฝ่ายเวทีร้องเตือนน้ำเสียงเร่งร้อน “ต้องไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ คุณอร คุณบิวตี้”
“นะคะคุณบิวตี้” เพิร์ลออกโรงไหว้ “ขอร้องละค่ะ”
บิวตี้คาดโทษ “ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันฟ้องบริษัทคุณเจ๊งแน่”
จากนั้นบิวตี้เดินสะบัดไปทางที่จัดงาน ทุกคนถอนใจโล่งอก กรูกันตามบิวตี้ไป สวนกับคนงานคนหนึ่งที่รีบร้องเข้ามา
เลขาสาวร้องขึ้น “คุณบิวตี้คะ เดี๋ยวค่ะ...บนเวที”
คนงานเรียกผู้กำกับเวที “คุณครับ..คุณ”
แต่ไม่ทันแล้ว ทุกคนเดินหายไปหมด ตุ้ยนุ้ยถอนใจยาว คนงานก็เกาหัวยิกๆ
“ถ้ารู้ว่าบนเวทีมีกรงนกอยู่ ชั้นจะทำยังไงนะ”
คนงานดูแลนกพึมพำ “ก็นั่นสิครับ แล้วผมก็ดันทำล็อกกรงนกของคุณอรวิภาหักด้วย จะมาเตือนให้ถือระวังๆก็ไม่ทัน”
ตุ้ยนุ้ยได้ยินตกใจถึงกับลืมตัว ขยุ้มอกเสื้อคนดูแลนกร้องวี๊ด “ว่าไงนะ”
คนดูแลนกทำหน้าตกใจแทบตาย เลขาสาวได้สติปล่อยมือ โลดละลิ่วตามบิวตี้ไปอย่างว่องไว
“คุณบิวตี้คะ คุณบิวตี้”
ที่ด้านหลังเวที อรวิภารับกรงนกมาแล้วเดินออกไปอีกด้านหนึ่ง หันมาชูกรงนกให้บิวตี้ดูเป็นเชิงอวดๆ และปลอบใจ
เลขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณบิวตี้คะ”
ทุคนหันไปจุ๊ปากให้เงียบ ตุ้ยนุ้ยหุบปากแล้วรีบวิ่งมาหาบิวตี้
ผู้กำกับเวทีบอก “คิวค่ะ คุณบิวตี้ คุณอร”
เลขาวิ่งมาถึงตัว “คุณบิวตี้ กรงนก...”
ช้าไปแล้ว บิวตี้กับอรวิภาเดินออกไปหน้าเวทีตามคิว เลขาอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่านรกรอเธออยู่เบื้องหน้า!
บนเวทียามนั้นอรวิภากับบิวตี้เดินออกมาคนละด้าน แล้วหยุดยืนโพสท่าสวยงาม อรวิภาโพสท่าน่ารักถือกรงนก 2 มือ ส่วนบิวตี้ยืนพ้อยต์เท้าวาดท่าสวยสง่า น่าทึ่ง ผู้คนตบมือ เจตน์ชาญถึงกับเอามือถือออกมาถ่ายรูป อรวิภาออกเดินนำก่อน ยิ้มแย้มเกินความจำเป็น
ส่วนด้านล่าง แพ็ตมองอรวิภาอย่างไม่พอใจ ที่เห็นอรวิภาเดินส่งยิ้มให้ธีภพ
พักตร์พิมลเอนตัวมาพูดใกล้ธีภพ “เนี่ยเหรอคะ ยายอร อิ๋งอ๋อย หนูน้อยแสนดีของพี่ธี”
ธีภพไม่พอใจนัก “พูดถึงคนอื่นเค้าดีๆ หน่อย แพ็ต”
“ทำไม โกรธแทนแฟนหรือไง”
“เค้าไม่ใช่แฟนพี่”
“แต่ก็ยอมให้คลุมถุงชน โบราณชะมัดเลย”
ธีภพ ขยับตัวหนี ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง พักตร์พิมลมองตาขวาง
บิวตี้ออกเดินมาบนเวที บังเอิญเห็นอะไรบางอย่าง บิวตี้ชะงักหันไปมองให้แน่ใจ แล้วตกตะลึง เมื่อเห็นกรงนกกรงใหญ่อยู่ข้างหลัง หล่อนถึงกับลืมตัว ถอยกรูด แล้วยืนตัวแข็ง ขาล็อค ทำอะไรไม่ถูก แข็งเป็นหิน ตาเบิกโพลง
ทุกคนตกใจในท่าทีของบิวตี้
ส่วนที่ด้านหลังเวทีที่เพิร์ลและเลขา และคนอื่นๆ ดูมอนิเตอร์ตกใจ
ดีไซเนอร์งงหนัก “เกิดอะไรขึ้นกับบิวตี้ ทำไมไม่เดิน”
เพิร์ลแปลกใจ “หรือว่านางลืมแพทเทิร์น..ไม่น่า เป็นไปไม่ได้”
เลขาบอก “ก็เพราะกรงนกนั้นไงล่ะคะ ไม่มีใครบอกเธอว่ามีกรงนกวางอยู่บนเวที เดี๋ยวคอยดูเถอะ ถ้าเธอกลับเข้ามา ต้องมีคนถูกฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ แน่ๆ”
ทุกคนอึ้ง ดูมอนิเตอร์ต่อ
บิวตี้ยังคงตะลึงยืนนิ่งอยู่บนเวที อรวิภายืนเลิกลักรอที่ปลายรันเวย์ เริ่มเงอะงะ ทำอะไรไม่ถูก
พักตร์พิมลมอง บ่นพึมพำ “ยายสมองกลวงนั่นเค้าเป็นอะไรของเค้านะ ตลกจริงๆเลย”
ธีภพมองบิวตี้อย่างสงสัย
“บิวตี้กลัวนกมากถึงขนาดโฟเบีย.. ผมจะไปช่วยหลาน”
ขาดคำ กรเทพลุกออกจากที่นั่งพุ่งออกไป
“คุณพ่อ” พักตร์พิมลหงุดหงิด
กรเทพเดินไปข้างเวที ใกล้ๆ บิวตี้ที่ยืนตะลึงอยู่
“บิวตี้หลานรัก..อาอยู่นี่”
บิวตี้ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ กระแสเสียงแห่งความเป็นห่วง ทำให้บิวตี้หันมามองช้าๆ พบว่ากรเทพยิ้มให้อย่างอบอุ่น ปลอบโยน
“อาอยู่ตรงนี้...ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”
เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ เคยเกิดขึ้นในห้องที่หอพักประเทศอังกฤษ
ขณะที่บิวตี้ร้องกรี๊ดๆๆ มีนกบินกระพือปีกบินพับๆ รอบตัว กรเทพเข้าไปกอดไว้อย่างอบอุ่น
“อย่างร้องไห้หลานรัก อายังอยู่ อาจะดูแลบิวตี้แทนพ่อเอง...เชื่อใจอาเถอะนะ”
บิวตี้กอดกรเทพแน่น ร้องไห้จนตัวสั่น สุดท้ายนกบินจากไป
บิวตี้ค่อยๆ ได้สติ ค่อยๆ คลายความกลัว หายตัวแข็ง มองกรเทพอีกที กรเทพยิ้มอย่างอบอุ่น ปลอบโยน บิวตี้หายจากอาการหวาดกลัว มองไปรอบตัวแล้วได้สติ ค่อยๆออกเดิน
ทุกคนโล่งอก เจตน์ชาญที่ลุ้นสุดขีด ถอนหายใจโล่งอก กรเทพเดินกลับไปนั่งที่
ที่หลังเวที ดีไซเนอร์และทุกๆคน โล่งอก ถอนหายใจ คนดูหน้าเวทีประทับใจปรบมือชื่นชม
กรเทพดีใจที่บิวตี้หายกลัวปรบมือเชียร์ออกนอกหน้า
พักตร์พิมลเคืองพ่อ เบะปากใส่บิวตี้
ทุกการเคลื่อนไหว ไม่มีรอดสายตาเจตน์ชาญ ที่แอบจับจ้อง และแอบถ่ายรูปเก็บทุกเหตุการณ์ โดยไม่มีใครรู้ตัว
บิวตี้เดินอย่างคล่องแคล่ว อรวิภาโล่งอก เดินกับบิวตี้อีกคนละรอบอย่างร่าเริง ก่อนที่จะไปหยุดโพสตรงหน้ากรงนกใหญ่รอบิวตี้
ที่กลุ่มคนดู ธีภพยิ้มให้กำลังใจอรวิภา ยกกล้องขึ้นถ่ายรูป อรวิภาเห็นธีภพยิ้มหวาน ให้ยิ่งร่าเริงแจ่มใส
พักตร์พิมลเห็นอรวิภาส่งสายตากับธีภพแล้วหมั่นไส้ ขยับตัวเข้าใกล้ธีภพ อย่าจงใจ
“แอร์แรง หนาวจัง” พักตร์พิมลเบียดซุกไหล่ธีภพ
อรวิภาเห็นภาพคล้ายพักตร์พิมลกอดซุกธีภพ ใจกระตุกวูบ หน้าเสีย
บิวตี้เดินกลับมาโพสข้างๆ อรวิภาลืมตัวมือที่คอยชูกรงนกอยู่ห่างๆ บิวตี้ กลับค่อยๆ ลดลง บิวตี้ตกใจ คนดูตบมือ
นางแบบคนอื่นและดีไซเนอร์ออกมาร่วมเวที คนดู ทั้งหมดลุกขึ้น ปรบมือโห่ร้อง อย่างประทับใจ
นกในกรง ในมืออรวิภาตกใจกระพือปีกพึ่บพับเต็มแรง
อรวิภาตกใจ “ว้าย” ผงะ ถอยหนีนก เซมาทางบิวตี้
ทำให้นกในกรงอีกมือของอรวิภาอยู่ใกล้หน้าบิวตี้นิดเดียวเท่านั้น บิวตี้ตะลึงตกใจสุดขีด
“อย่าเข้ามาใกล้นะ”
บิวตี้ผลักอรวิภาเต็มแรงด้วยความตกใจ อรวิภาไม่ทันระวังตัวกระเด็นไปด้านหลัง ปะทะกับกรงยักษ์เต็มแรง นกในกรงเล็กหล่นลงพื้น ประตูกรงเปิดออก นกบินออกมาโผเข้าหาบิวตี้
บิวตี้กรีดร้องปัดนกไม่ให้โดนตัว ถดตัวถอยหลบไปเรื่อยๆ “อ๊าย ไปให้พ้น ไป๊”
คนดูและนางแบบบนเวทีตะลึง ในขณะเดียวกัน อรวิภาก็เซไปปะทะกรงใหญ่อีกกรง ทำให้ประตูกรงเปิดออก นกในกรงบินออกมาว่อน ทุกคนตะลึง
บิวตี้ปัดป้องนกตัวที่บินมาใกล้อยู่ก็ตะลึง เมื่อเห็นฝูงนกทุกตัวบินว่อนออกมา ตาเหลือกกรี๊ดเต็มเสียง
“แอร๊ยยย”
บิวตี้ถอยกรูด ปัดป้องโดยไม่มองอะไรแล้ว ตกลงไปข้างเวที อรวิภาร้องกรี๊ดแล้ววิ่งตามออกไป
“คุณบิวตี้”
ทุกคนตะลึง มีพักตร์พิมลหัวเราะชอบใจคนเดียว
บิวตี้นอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นหน้าเวที มือยังปิดหน้าอยู่ ตกใจสุดขีด ท่ามกลางวงล้อมของช่างภาพและไทยมุง ช่างภาพ ไทยกระหน่ำถ่ายรูป โดยไม่มีใครคิดจะเข้ามาช่วย
อรวิภาถลาถึงตัวบิวตี้ ไหว้ขอโทษ “พี่บิวตี้ขาเป็นยังไงบ้างคะ” พลางเข้าประคอง
ถูกบิวตี้ผลักออกเต็มแรง “ออกไป๊”
อรวิภาจะร้องไห้ “น้องอรขอโทษ... น้องอรไม่ได้ตั้งใจ”
บิวตี้ตวาด “ไปให้พ้น”
ธีภพเดินเข้ามา อรวิภาค่อยๆ ลุกขึ้น น้ำตาเต็มหน้า
ธีภพมองบิวตี้อย่างชั่งใจ แล้วค่อยๆ เอื้อมมือออกไป แต่ก่อนที่มือธีภพจะถึง มีอีกมือหนึ่งดึงบิวตี้ขึ้นมาก่อน
“มันไปหมดแล้วล่ะครับ คุณปลอดภัยแล้ว”
บิวตี้ค่อยๆ ลืมตา เห็นเป็นเจตน์ชาญยืนอยู่ใกล้ๆ มีอรวิภายืนร้องไห้อยู่ข้างๆ ธีภพ รอบๆ ตัววุ่นวาย มีผู้คนไล่จับนกอยู่ตามที่ต่างๆ นักข่าวถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
เลขาและบริวารของบิวตี้วิ่งมาหา
“คุณบิวตี้คะ คุณบิวตี้ เป็นยังไงบ้างคะ”
บิวตี้ได้สติ มองอรวิภาอย่างโกรธเกรี้ยว
“ไหนว่าดูแลนกได้ไง เธอนี่ช่างปัญญาอ่อนที่สุด ตัวซวยชัดๆ ชั้นไม่ควรต้องมาเดินแบบกับเธอเลยจริงๆ”
บิวตี้สะบัดหน้าเดินออกไป อับอายสุดขีด บริวารเดินตามเป็นแผง บอดี้การ์ดช่วยกันตัวบิวตี้จากวงล้อม แล้วรีบพาไปด้านหลัง
อรวิภาน้ำตาแตก ร้องไห้ฮือๆ ธีภพโอบไหล่ปลอบ
เลขา และบอดี้การ์ด พาบิวตี้ เดินมาตามทางเดิน ผู้คนวิ่งกันสับสนวุ่นวาย ดีไซเนอร์พยายามเดินตามมาขอโทษ แต่ถูกบอดี้การ์ดกันเอาไว้
บิวตี้เข้าห้องมากับเลขา ปิดประตูปัง บิวตี้ปิดหน้า กรีดร้องยาวโหยหวน ด้วยความอับอาย ทุกคนอุดหู
ประตูเปิดออก อรวิภาตามเข้ามาพร้อมกับธีภพ และเพิร์ล
“พี่บิวตี้ขา น้องอรขอโทษ”
“ฉันไม่ต้องการฟังคำชี้แจงอะไรทั้งนั้น ออกไป”
“น้องอรเสียใจ”
บิวตี้หวีดร้อง เริ่มอาละวาด ขว้างของใส่ “ออกไป บอกให้ออกไป ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น”
ทุกคนตะลึง
ธีภพเอาตัวกันอรวิภาไว้ “นี่ คนเขาอุตส่าห์มาขอโทษ ยังจะอาละวาดอีก นิสัยแย่เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน”
บิวตี้เงื้อมือค้าง มองธีภพอย่างสงสัย “นายเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย”
ธีภพไม่ตอบ “ไปกันเถอะครับน้องอร คนแบบนี้พูดไปก็ไม่มีประโยชน์” ชายหนุ่มกันอรวิภา พาออกไป
เครือวรรณเข้ามาหาลูกพอดี
“มะม๊ะขา ทำยังไงดี พี่บิวตี้โกรธน้องอรอ่ะค่ะ”
เครือวรรณรีบประคองลูกออกไป
“ไม่เป็นไรค่ะลูก ออกไปหาปะป๊าก่อนนะคะ”
บิวตี้หายตะลึง แต่ยังโกรธไม่หาย ขว้างของไล่หลัง “ไป๊”
เลขามองเพิร์ลที่ยืนอึดอัดอยู่
“คุณบิวตี้ขา...เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
พูดยังไม่ทันจบ บิวตี้เอาของอีกชิ้นขว้างเข้าหน้า เลขาหลบทัน
“หุบปาก ไสหัวไป๊ ไปให้หมด”
“คุณบิวตี้ เราเป็นห่วง”
“บอกให้ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ ยัยหมูตอน”
เลขาจับหัวใจ “โอ๊ย เจ็บๆๆๆ”
บิวตี้กระหน่ำขว้าง คำรามด้วยความเคียดแค้น หัวหูยุ่งดูไม่ได้ ทุกคนถอยทัพออกจากห้องไป
อยู่ๆ ทุกคนก็หยุดเคลื่อนไหว ข้าวของที่บิวตี้ขว้าง ลอย หยุดนิ่งกลางอากาศ เหมือนเวลาหยุดลงกะทันหัน
ขอขอบคุณ เว็บผู้จัดการออนไลน์ : )