เรื่องเต็ม เล่ห์นางฟ้าตอนที่ 1/2

เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 1/2
       
       ขณะที่บิวตี้กำลังแต่งหน้าทำผม อยู่ในห้องแต่งตัวที่ทีมงานจัดห้องให้ส่วนตัว มีเสียงเคาะประตูเบาๆ แล้วเพิร์ลเดินเข้ามาพร้อมอรวิภาที่มีท่าทางเขินๆ อายๆ แต่งหน้า แต่งผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
       
       บิวตี้ปรายตามองนิดเดียวแล้วหลับตาแต่งหน้าต่อ พูดลอยๆ
       “ไหนคุณว่าจัดห้องนี้ให้เป็นห้องแต่งตัวส่วนตัวของชั้นไม่ใช่หรือคะ”
       เพิร์ลหน้าเสีย “ใช่ค่ะ...แต่เพิร์ลอยากพาคุณอรวิภามาทำความรู้จักกับคุณบิวตี้น่ะค่ะ...พอดีตอนซ้อมเดินก็มัวแต่รีบไม่ทันได้แนะนำ”
       อรวิภาระรื่น “อรชอบคุณบิวตี้มานานแล้วค่ะ คุณสวยจังเลย อรชอบตามดูคุณบิวตี้ในหนังสือต่างๆ ดีใจจังเลยค่ะ ที่ได้เจอตัวจริงวันนี้”
       เพิร์ลรีบพูดแนะนำ “คุณอรวิภาเป็นลูกสาวของคุณอดิศักดิ์เจ้าของห้างฟอลคอนและโรงแรมที่เรามาจัดงานวันนี้ และอีกหลายๆ ที่ค่ะ”
       “มิน่า...ถึงได้เดินฟินาเล่คู่กับชั้นในวันนี้” บิวตี้ยิ้มให้ไม่เห็นความจริงใจตามที่พูดสักนิด “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
       อรวิภายิ้มแฉ่ง “อรดีใจ ดีใจ มีอะไรช่วยสอนอรด้วยนะคะ อรเดินแฟชั่นไม่เป็นหรอกค่ะ นี่เป็นหนแรก”
       บิวตี้ฝืนยิ้มอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ “ค่ะ ยินดี แต่ตอนนี้ขออนุญาตแต่งหน้าทำผมก่อนดีมั้ยคะ แล้วค่อยเจอกันหลังเวที...สวัสดีค่ะ”
       บิวตี้หลับตาทันที เพิร์ลหน้าเจื่อน แต่อรวิภาไม่รู้สึกอะไร ยิ้มหวาน โลกสวยสุดๆ
       “ค่ะ...เดี๋ยวเจอกันค่ะ คุณบิวตี้น่ารักจริงๆ สู้ๆ นะคะ เราทั้งคู่เลย...ไฟติ้งค่ะ”
       อรวิภาทำท่าดูน่ารัก แล้วเดินออกไป เพิร์ลวิ่งตามไปด้วย
       บิวตี้ลืมตา ถอยใจยาว บอกเสียงเข้ม
       “ไปล็อคประตู!!”
       เลขาลนลาน บิวตี้หน้าหงิก...
       
       งาน Prima Paradiso เปิดตัวด้วยแฟชั่นโชว์เซ็ตแรก
       เพลงจังหวะเร้าใจกระหึ่มขึ้น ขณะไฟเริ่มหรี่แสงลง ฟอลโล่สาดส่องรับนางแบบชุดแรกเดินออกมา คนดูปรบมือ ชื่นชม นางแบบคนถัดๆ ไป ทยอยเดินออกมา
       อรวิภาออกมาโพสในจังหวะนี้ ด้วยท่าทางประหม่า ไม่มั่นใจ
       “ลูกผมๆ” อดิศักดิ์หันมาทางเครือวรรณ “ยายอรน่ารักจริงๆ”
       อดิศักดิ์ลุ้นลูกอย่างคุณพ่อที่เห่อลูกมากๆ
       ภาวินียิ้มรับแล้วหยิบโทรศัพท์กดไลน์หาลูกชาย “อยู่ที่ไหน มาเร็วๆ” แล้วกดส่ง
       
       พอบิวตี้ออกมา ผู้คนฮือฮาในความสวย และงามสง่า กรเทพตบมือดัง ชื่นชมหลานเป็นที่สุด เจตน์ชาญมองบิวตี้อย่างสนใจ
       อรวิภาเดินมาใกล้ ตรงจุดที่นั่งอดิศักดิ์และเครือวรรณ
       อดิศักดิ์และเครือวรรณลุกขึ้นยืนปรบมือให้ พร้อมส่งเสียงเชียร์
       อรวิภายิ้มแฉ่งจนไม่ทันระวัง สะดุดชายกระโปรงตัวเอง เสียหลักรองเท้าหลุดออกมาจากเท้า อรวิภาตะลึงยืนนิ่ง
       ทุกคนทำอะไรไม่ถูก อดิศักดิ์ตกใจ พอได้สติทำท่าจะขึ้นไปช่วยลูก
       บิวตี้เดินตามมาทันตรงที่อรวิภายืนนิ่งอยู่ บิวตี้จับแขนอรเหมือนเป็นเรื่องปกติอย่างนางแบบมืออาชีพ แล้วพยักหน้านิดๆ อรวิภาได้สติ บิวตี้มองไปยังรองเท้าที่หลุดอยู่ อรวิภาใส่รองเท้า มีบิวตี้เดินจูงมือไปอีกนิดแล้วค่อยปล่อย ทุกคนตบมือกันกราว อดิศักดิ์ และเครือวรรณโล่งอก
       เจตน์ชาญ มองบิวตี้อย่างสนใจ
       ทั้งบิวตี้และอรวิภา แยกย้ายกันเข้าหลังเวทีไป
       
       ฟาก แพ็ต หรือ พักตร์พิมล แต่งตัวสวยจะไปดูแฟชั่น เข้ามาในห้องนั่งเล่น มองหากรเทพ ผู้เป็นพ่อ มีแม่บ้าน เช็ดโต๊ะกาแฟอยู่
       พักตร์พิมลยังอารมณ์ดี “คุณพ่อล่ะ ไหนว่า แต่งตัวเสร็จแล้วไง”
       “เสร็จนานแล้วค่ะ ท่านออกไปแล้ว พอดีรอคุณแพ็ตไม่ไหว”
       พักตร์พิมลโกรธ “จะรีบไปทำไมนักหนากะอีแค่งานแฟชั่นโชว์ ยัยบิวตี้มันต้องโทร.มาตามแน่ๆ”
       แม่บ้านบอก “ไม่ทราบค่ะ”
       พักตร์พิมลตวาด “ไม่ได้ถาม”
       แม่บ้านกลัวโดนอีก รีบลนลานหนีไป
       พักตร์พิมลฮึดฮัดโวยวายบ่นบ้าอยู่คนเดียว “ห่วงแต่ลูกคนอื่น ทีลูกตัวเองทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่เคยสนใจ” แล้วกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟา “ไม่ไปไม่เปยมันแล้ว” พร้อมกับโยนกระเป๋าทิ้ง
       เสียงมือถือดัง พักตร์พิมลหยิบดู เห็นชื่อ “พี่ธี” อารมณ์ดีฉับพลัน กดรับเสียงหวาน
       “คะพี่ธี”
       
       ธีภพขับรถอยู่ระหว่างทางคุยผ่านบลูทูธ
       “ถึงงานหรือยัง”
       พักตร์พิมลงอน “แพ็ตว่าจะไม่ไปแล้วค่ะ ...ขี้เกียจขับรถ”
       “อ้าว ทำไมล่ะ นึกว่าจะได้เจอกัน มีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย”
       พักตร์พิมลกระตือรือร้นขึ้นมาทันควัน “ก็ได้ค่ะ งั้นไปเดี๋ยวนี้ พี่ธีรอแพ็ตด้วยนะคะ” หญิงสาวผุดลุกขึ้น คว้ากระเป๋ารีบร้อนออกไป
       
       ที่งาน Prima paradise แฟชั่นเซ็ตแรกจบลง นางแบบทั้งหมดยืนโพสบนเวที บิวตี้กับอรวิภายืนตรงกลาง
       พอถึงคิวจะเดินเข้า อรวิภาหันผิดด้าน โดยหันหน้ามาประจันกับบิวตี้จังๆ บิวตี้ถลึงตาใส่ อรวิภาโลกสวยตกใจ เงอะงะ หันไปด้านที่ถูก แล้วเดินเขินๆ หน้าเจื่อนเข้าเวที
       อดิศักดิ์ และเครือวรรณหัวเราะอย่างเอ็นดูปนปลื้ม
       คนดูตบมือกราว ภาวินีเอาโทรศัพท์ออกมาดูอย่างร้อนใจ ว่าทำไมธีภพยังไม่มา
       
       ตลอดเวลาเจตน์ชาญ จับตามองบิวตี้และอรวิภา ทุกฝีก้าว
       พิธีกรของงานเดินขึ้นเวที
       “ก่อนที่จะได้ชมแฟชั่นโชว์ Prima Paradiso เซ็ตต่อไป ขอเชิญร่วมการประมูลผลงานศิลปะล้ำเลอค่า เพื่อนำรายได้มอบให้ สถานสงเคราะห์สัตว์แห่งชาติ ขอเสียงปรบมือต้อนรับทีมงาน... ภัทรการประมูล”
       คนดูปรบมือกราว ทีมงานภัทรการประมูลออกมาพร้อมภาพเขียนที่จะทำการประมูล การประมูลดำเนินไป
       
       ด้านบิวตี้ ท่าทางหงุดหงิดฉุนเฉียว เดินฉับๆ เข้ามาในห้อง เลขา ช่างแต่งหน้า ช่างผมเร่งตามมา
       “ทำไมไม่เดินให้เสร็จๆ ไปนะ เสียเวลา”
       ช่างหน้าบอกซื่อๆ “งานการกุศลก็อย่างนี้แหละค่ะ”
       บิวตี้หยุดกึก เหลียวขวับ “ฉันเดินแฟชั่นโชว์การกุศลมาตั้งแต่อายุห้าขวบ ฉันรู้ดีว่างานมันควรจะเป็นยังไง”    
       ประตูเปิดออก อรวิภาหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ เดินเข้ามา เพิร์ลตามมาติดๆ
       “คุณบิวตี้คะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่ช่วยอร...ถ้าคุณบิวตี้ไม่ช่วยอรคงแย่แน่ๆ ตอนนั้นอรทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ขอบคุณจริงๆ”
       อรวิภาทำท่าจะมากอด บิวตี้ถอยกรูด
       “ที่ชั้นช่วยไม่ใช่เพราะใจดีหรืออะไรหรอก...แต่เธอรองเท้าหลุดแล้วยังยืนงงขวางทางเดินของชั้น ถ้าชั้นไม่ช่วยก็คงจะแย่ไปด้วย ก็เท่านั้นเอง เสร็จธุระแล้วใช่มั้ยคะ ฉันอยากพัก” บิวตี้มองหน้า จงใจเน้นเสียงท้ายประโยค “เป็นส่วนตัว”
       “ไม่ว่ายังไง อรก็ยังเป็นหนี้บุญคุณ คุณบิวตี้อยู่ดี เดี๋ยวฟิน่าเล่อรจะไม่ให้พลาดอีกแล้ว ขอบคุณอีกทีนะคะ”
       โดยไม่มีใครคิด อรวิภาจู่โจมเข้ากอดบิวตี้ตัวแข็ง
       “ไปกันเถอะค่ะคุณเพิร์ล อรอยากซ้อมเดิมอีกที คุณเพิร์ลช่วยอรนะคะ”
       ทั้งคู่ออกไป บริวารทุกคนคอหดหันไปมองบิวตี้ที่ยังยืนแข็งอยู่อย่างเกรงว่าจะอาละวาด
       บิวตี้เอ่ยขึ้นในที่สุดอย่างเคืองขุ่น “ล็อคประตู แล้วเอายาฆ่าเชื้อมาฉีดให้ชั้น เดี๋ยวนี้...เร็ว”
       
       อรวิภาเดินมาอย่างร่าเริงกับเพิร์ล เครือวรรณเดินเข้ามาหา มีพนักงานโรงแรมถือถาดอาหารตามหลังมา
       “ลูกอร!” โผเข้ากอดลูกสาว “ลูกแม่เก่งมากเลยค่ะ ตื่นเต้นมั้ยลูก หิวมั้ยคะ ทานผลไม้สักหน่อยนะคะลูกจะได้มีแรง จะได้สดชื่น หายตกอก ตกใจ”
       อรวิภาโผเข้าไปกอดมารดา “มะม๊าขา น้องอรไปขอบคุณ คุณบิวตี้มาค่ะ คุณบิวตี้ใจดีที่สุดเลยค่า คุณบิวตี้ไม่โกรธน้องอรเลยที่น้องอรทำรองเท้าหลุดยืนขวางทางของเธอ ถ้าคุณบิวตี้ไม่ช่วยน้องอรคงแย่แน่ๆเลยนะคะ”
       “เหรอคะลูก ดีค่ะลูก.. ไปเร้ว..เข้าไปพักในห้องให้หายเหนื่อยก่อนนะจ๊ะ”
       เครือวรรณกับอรวิภาเดินเข้าห้องไป
       เพิร์ลซึ่งฟังอยู่รู้ดีว่าสิ่งที่อรวิภาคิด ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
       “โถคุณอร...มองยายคุณบิวตี้นั้นผิดไปซะแล้วล่ะค่ะ”
       เพิร์ลพึมพำ พร้อมกับทำหน้าสยองขวัญ
       
       ในการประมูลของชิ้นสุดท้าย ไฟเปิดสว่างทั้งห้องแล้ว อดิศักดิ์ประมูลได้ไป ผู้คนตบมือชื่นชม โพเดียมพิธีกรอยู่ด้านล่างของเวที ข้างบนเวทีใหญ่ปิดไฟมืด ไม่ให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
       ธีภพกับพักตร์พิมลเดินเข้ามามองหาธนา
       “ตาธี...มานี้เร็ว” ธนาร้องเรียก
       ธีภพกับพักตร์พิมลเดินเข้ามาไหว้ทักทายทุกคน พักตร์พิมลนั่งข้างกรเทพ ค้อนขวับ
       “ไม่คิดจะรอกันเลยนะคะพ่อ”
       “ก็ดูสิ กว่าลูกจะมา ขืนพ่อรอก็ไม่ทันดูชุดแรกของบิวตี้กันพอดี”
       พักตร์พิมลค้อนอีกวงคราวนี้โกรธปนหมั่นไส้ ภาวินีกระซิบดุธีภพ
       บนเวทีพิธีกรดำเนินรายการต่อไป “สรุปยอดการประมูล เป็นเงินทั้งสิ้น”พิธีกรบิ้วท์คนดู ด้วยเสียงตื่นเต้นสุดๆ “ยี่สิบเก้าล้าน เก้าแสน เก้าหมื่น เก้าพัน เก้าร้อย เก้าสิบเก้าบาท”
       คนดูปรบมืออย่างยินดี เครือวรรณกลับมานั่งข้างอดิศักดิ์
       “และบัดนี้ขอเชิญทุกท่านกลับเข้าสู่บรรยากาศ แฟชั่นโชว์สุดอลังการ ... Prima Paradise ได้แล้ว”
       ไฟดับ เทคนิคแสงสีเสียงบนเวทีเริ่มขึ้น ปูอารมณ์สู่แฟชั่นโชว์เซ็ตใหม่ ดูท่าทางจะเริดเจิด
       ไฟเปิดสว่าง พบว่าบนเวทีถูกตกแต่งเป็น ป่าในฝัน ราวกับสวนสวรรค์ สีสันตระการตา เวทีทำเป็นช่องเหมือนกรงนกมาตั้งอยู่ นกสีสันสวยๆ อยู่ในกรง
       คนดูตื่นเต้นฮือฮา กรเทพตะลึง “ไม่นะ”
       ธนาหันมามองฉงน “มีอะไรหรือ คุณกรเทพ”
       “ดูนั่น!”
       กรเทพชี้ไปที่กรงนกบนเวที ทุกคนมองกรเทพอย่างไม่เข้าใจ
       นกในกรงบนเวที บินกันพรึบพรับ
       เลขาของบิวตี้ยืนดูอยู่ด้านหน้าเวที ตะลึงงัน นี่มันนรกชัดๆ
       
       พอเรื่องรู้ถึงหู สีหน้าขยะแขยง ชิงชัง ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้างามของบิวตี้ หล่อนพูดแกมกรีดร้อง
       “ไม่....ชั้นไม่มีวันเดิน เอาออกไป ไป๊...” พร้อมกับเอามือปิดหน้า
       ฝ่ายเวที ถือนกถอยออกมาห่างจากบิวตี้ด้วยความตกใจ
       เลขาวิ่งเข้ามา ชะงักกึก เห็นบิวตี้กำลังสติแตก ไม่กล้าพูด
       เพิร์ลบอก “แต่นี่มันเป็นคอนเซปต์ของงานเราวันนี้นะคะ รักษ์โลก รักชีวิตสัตว์”
       “ฉันไม่สน แต่ถ้ามีนก ฉันไม่เดิน”
       บิวตี้ลุกขึ้น แล้ววิ่งเตลิดออกไปจากห้อง ทุกคนตกตะลึงจังงังทำอะไรไม่ถูก
       
       เรื่องราวอันเกี่ยวกับนก กลายเป็นฝันร้ายของ ลัลน์ลลิต ธนบวร หลังเหตุการณ์เมื่อ 5 ปี ก่อน ตอนนั้น บิวตี้อยู่ในหอพัก ที่ประเทศอังกฤษ    กำลังเอาเมล็ดพืชให้อาหารนกสีสวยในกรงเล็กๆ ในห้อง บนโต๊ะทำงานมีแบบ Design เสื้อผ้าวางระเกะระกะอยู่ ตรงมุมห้องมีหุ่นที่ตัดเสื้อผ้าค้างอยู่ บิวตี้แต่งกายสวยงามสมวัยดรุณ
       กรเทพ ผู้เป็นอาเดินทางมาจากประเทศไทย และเปิดประตูเข้าห้องมา
       บิวตี้เห็นเข้าก็แปลกใจ “อากร มาได้ไงคะ” หล่อนวิ่งไปกอด สีหน้าแจ่มใส “จะมาทำไมไม่โทร.บอกก่อนล่ะคะ บิวตี้กำลังจะบินไปเจอคุณพ่อที่ฮ่องกงอยู่พรุ่งนี้เลยนะคะเนี่ย”
       กรเทพหน้าเคร่ง “บิวตี้ ทำใจดีๆ ไว้นะ อามารับหนูกลับเมืองไทย”
       บิวตี้ฉงน “เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมอาถึงทำหน้าอย่างนั้น”
       “พี่บวร...เครื่องบินตกเมื่อวานนี้” บิวตี้ตะลึง “มีนกเข้าไปติดในใบพัด นักบินควบคุมเครื่องบินไม่ได้...พี่บวร....”
       “ไม่จริ๊ง.....”
       บิวตี้กรีดร้องสุดเสียง นกในกรงตกใจบินพรึบออกจากกรงที่ไม่ได้ปิด บินเข้ามาเกาะไหล่อย่างเชื่องและคุ้นเคย บิวตี้ปัดเต็มแรง
       ท่าทีรังกียจขยะแขยงนกฉับพลับ “ไป ไปให้พ้น ไอ้นกบ้า...ไอ้บ้า”
       
       เสียงบิวตี้กรี๊ดๆๆ ประสานกับเสียงนกร้องดังระงม ไปทั่วบริเวณ

ขอขอบคุณ เว็บผู้จัดการออนไลน์ : )

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่