ค่ำนั้นอรวิภาแต่งตัวสวยหวาน งดงาม สดใส เตรียมจะไปตามนัดกับธีภพ สาวโลกสวยเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าใบเก๋ ท่าทางดีใจล้น
อดิศักดิ์เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
“เขาว่าไง”
“กำลังมาค่ะ พอดีทางบริษัทพี่ธีมีปัญหาเลยช้าหน่อย”
อดิศักดิ์หน้าขรึม “ครั้งสุดท้ายแล้วนะ ถ้าคราวนี้ไม่มา ก็ไม่ต้องไปนัดกับเขาอีก”
อรวิภาอ้อนนิดๆ “ป่าป๊า อย่าพูดอย่างงั้นสิคะ พี่ธีเป็นคนดี เค้ามีธุระจริงๆ”
“แต่ต้องให้เกียรติกันบ้างสิ มีอย่างที่ไหน เดี๋ยวไม่มา เดี๋ยวเลท”
อรวิภาประจบประแจงบิดา “พี่ธีเค้างานยุ่งนี่คะ ป่าป๊าบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าพี่ธีเป็นคนเก่ง ขยันเอางานเอาการ”
“ขยันก็ดี แต่ลูกป๊าต้องมาก่อน ลูกป๊าใครอย่ามาทำให้เสียใจ”
อรวิภากอดอ้อน “น้องอรไม่เสียใจหรอกค่ะ น้องอรเข้าใจพี่ธี”
เครือวรรณ ดูแลสาวใช้จัดอาหารเย็นให้อดิศักดิ์อยู่ เหลียวมองสองพ่อลูกคุยกันอย่างเป็นปลื้มชื่นชม
“น้องอรขา ลูกไปเติมหน้าเติมปากอีกนิดดีไหมคะ”
“ค่ะ เดี๋ยวถ้าพี่ธีมาคอย ป่าป๊าสัญญานะคะว่าจะไม่ดุพี่ธี
อดิศักดิ์พยักหน้าแบบขอไปที อรวิภาออกไป อดิศักดิ์มองตามอย่างหนักใจหันไปหาเครือวรรณ
“คุณว่าธีภพกับเจตน์ชาญเป็นยังไง”
“คุณธีเรื่อยๆไปหน่อยนะคะ ผิดกับทางเจดการ์เม้นท์ ดูเค้าจริงจังกับลูกเรากว่านะคะ ให้ลูกเปลี่ยนมาคบกับคุณเจตน์ชาญดีกว่ามั้ยคะ”
อดิศักดิ์ส่ายหน้า พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ยังไงธนบวรก็เหมาะสมกับลูกเรามากกว่าเจดการ์เม้นท์”
“แต่ถ้าฝ่ายธีภพยังเรื่อยๆอยู่แบบนี้ เราจะทำยังไงล่ะคะ”
“ต้องทำให้เขารู้บ้างว่าลูกเราเป็นของสูง ไม่ใช่ของเล่น ต้องทุ่มหมดตัวถึงจะได้ไป”
เครือวรรณยิ้มพึงใจเห็นด้วยกับสามี
นกบิวตี้บินเข้ามาในห้อง บิวตี้คนในคราบนกนั่งหอบเหนื่อย
“บินเป็นสิบกิโลทุกวัน เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกเป็นนกซะที ยัยแม่มด ได้ยินมั้ย วันนี้ฉันหาตัวคนผิดได้ เพราะแปลงตัวเป็นนก แต่ไม่ได้แปลว่าฉันชอบเป็นนกนะ ถอนคำสาปซะทีสิ” หันไปกินอาหารนก แล้วพ่นออกมา “แหวะ กินเหมือนเดิมอยู่ได้ทุกวัน เบื่อจะตายอยู่แล้ว ได้ยินไหมว่าเบื่อ” สุดท้ายทิ้งตัวลงนอน
มาตรวัดสัมฤทธิ์ผล ส่งประกายสีทอง อยู่ใกล้ๆ หมอน โดยพรที่เข้ามาทำความสะอาดแล้ววางไว้ให้
บิวตี้คนเห็นมาตรวัดฯ ก็ตื่นเต้น ดีใจ “เฮ้ย มีสีทองแล้ว ไชโย นี่แสดงว่าที่เราจับยัยอึ่งอ่างได้ มันต้องเป็นผลงานนั้นเยี่ยม เยส เยส เย้”
ณ แดนสรวง นางฟ้าลลิตาเฝ้าจอภาพดูบิวตี้อยู่ถึงกับกุมขมับ
“ไม่ใช่ลูก คุณความดีอยู่ที่ลูกมีจิตเมตตาสงสารเพื่อนร่วมงานต่างหาก”
“ท่านอย่าได้ส่งกระแสไปดลใจนางเป็นอันขาดนะ นางฟ้า” ปรมะเทวีปราม
“แต่นางกำลังหลงทางนะคะเทวี”
“ให้นางเรียนรู้ด้วยตัวเอง นี่คือข้อตกลงของเรา”
“ช่วยประคับประคองนางด้วยเถิดเทวี โปรดเมตตา”
ปรมะเทวีนิ่งคิด มองบิวตี้ที่กำลังฟุ้งเพ้อเจ้ออยู่ในจอภาพ
บิวตี้มองมาตรวัดอย่างพิจารณา
“ถ้าเราจับผิดคนแล้วได้เส้นทองขนาดนี้ทุกวัน ทำอีกซัก ไม่เกินอาทิตย์นึงก็น่าจะเต็ม...ช่วยตำรวจสืบคดีเลยดีกว่า สืบวันละสองคดี สามวันก็เต็มเย้ ฉันหาทางแก้คำสาปได้แล้ว บิวตี้ เธอนี่ทั้งสวยทั้งฉลาด สุดยอด”
นกบิวตี้ในคราบคนยิ้มอย่างมีความสุข ทิ้งตัวลงนอน ตาปรือ สุดท้ายผล็อยหลับไป
ฝ่ายธีภพทานอาหารอยู่กับอรวิภา มาดเนี้ยบดูเป็นสุภาพบุรุษผู้อ่อนโยน แต่เผลอเหม่อลอยครุ่นคิด จนสาวโลกสวยสังเกตเห็น
“ไม่อร่อยหรือคะพี่ธี”
“ครับ เอ่อ อร่อยครับ อร่อยมาก”
“สตูว์แบบนี้น้องอรก็ทำเป็นนะคะ อาจจะไม่อร่อยเท่าที่นี่แต่ป่าป๊าก็ชอบมากค่ะ วันหลังเชิญพี่ธีไปทานข้าวที่บ้านนะคะ น้องอรจะทำให้ชิม นะคะ”
ธีภพไม่ค่อยได้ฟัง “ครับ”
“ที่นี่เขาใช้เนื้อดีนะคะ สงสัยจะเป็นเนื้อนำเข้าจากที่ไหนก็ไม่รู้ น้องอรเคยใช้เนื้อออสเตรเลียกับอเมริกา แต่นี่คงเป็นเป็นเนื้อโกเบ แต่ตอนนี้มีเนื้อจากฮอกไกโด ก็นิ่มดีค่ะ พี่ธีช่วยถามให้หน่อยสิคะ”
ธีภพงง ไม่ได้ฟังแต่แรก “ถามว่าอะไรนะครับ”
“เนื้อสั่งจากที่ไหนค่ะ น้องอรจะได้สั่งมาทำให้พี่ธีทาน”
“อ้อ ครับ น้องอรจะทานของหวานอะไรดีครับ”
“อืมม์” อรวิภาอ่านเมนู แล้วลังเล “ทานเหมือนพี่ธีดีกว่า พี่ธีช่วยสั่งให้น้องอรหน่อยสิคะ”
“ครับ” ธีภพมองเมนูนิ่งนาน
อรวิภามองท่าทีธีภพแล้วเสียใจ “พี่ธีเบื่ออร ใช่ไหมคะ”
ธีภพไม่ได้ฟัง ตาดูเมนู แต่จมอยู่ในความคิด
“ต้องเบื่อแน่ๆ เลย” อรวิภาน้อยใจมาก จนน้ำตาคลอ
ธีภพตกใจ รู้สึกผิด “เปล่าครับ คือ ที่บริษัทมีปัญหา ผมจำเป็นให้พนักงานระดับสูง พักงาน ก็เลยรู้สึก ไม่ค่อยสบายใจ”
“อ๋อ อย่างงี้นี่เอง” อรวิภายิ้มออก “น้องอรนึกว่าตัวเองน่าเบื่อซะอีก”
“ไม่หรอกครับ ใครจะเบื่อน้องอรได้”
อรวิภาออกอาการเขินอาย “ถ้างั้น เราไปกันเถอะค่ะ”
ธีภพงง “ไปไหนครับ”
“ก็กลับบ้านไงคะ พี่ธีจะได้ไปดูว่าคนที่โดนพักงานเค้าเป็นไงบ้าง”
ธีภพยิ้มให้อย่างอบอุ่น จับมืออรวิภาอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณครับที่เข้าใจ”
อรวิภาเขินใหญ่
นกบิวตี้ยืนหลับสัปหงกอยู่บนที่นอน แสงสีทองปรากฏขึ้นในห้อง แล้วเปลี่ยนเป็นปรมะเทวี ที่ปล่อยกระแสบางๆไปยังบิวตี้ที่หลับอยู่
“กุศลจิต จงนำไปสู่เหตุ จงหวนรำลึกนึกถึง กรรมดี กรรมชั่วที่กระทำลงไป ภายในห้วงแห่งจิตที่กำลังสงบนี้ด้วยเถิด”
หมอกขาวจางๆ ลอยฟุ้งหมุนวนอยู่รอบตัวบิวตี้คน เหมือนภาพฝัน เหตุการณ์ต่างๆ ผุดซ้อนเข้ามาในมโนเป็นระลอก
เริ่มจากตอนบิวตี้เข้ามาส่องกระจก เติมครีมเติมลิปกลอส เห็นศรีนวลจมอยู่กับความทุกข์ ไม่สังเกตว่าบิวตี้เข้ามา
“แม่จะโดนไล่ออกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย” ศรีนวลกดปิดสาย น้ำตาไหล นั่งลงสะอื้น “ทำไมถึงซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้”
บิวตี้ได้ยินเกือบหมด รู้สึกสลดใจ เห็นศรีนวลร้องไห้ ยิ่งรู้สึกผิด
บิวตี้เดินมาใกล้ศรีนวล “ป้าไม่ผิด ฉันบอกแล้วไงว่า จะไม่ยอมให้ป้าโดนไล่ออกเป็นอันขาด”
ภาพนั้นวูบหายไป แล้วเปลี่ยนเรื่องมาอีกเรื่อง พักตร์พิมลคุยกับธีภพ
“แพ็ตทำเพื่อบริษัทมาตั้งเยอะ แค่นี้ถึงกับจะไล่ออกเลยหรือคะ”
“ถ้าจะอยู่ต่อก็ให้ยุติเรื่องทั้งหมด พรุ่งนี้ ไปขอโทษบิวตี้เค้าซะ”
“ไม่มีทาง” แววตาพักตร์พิมลเต็มไปด้วยความชิงชัง
ภาพวูบหายไปอีก คราวนี้เปลี่ยนเรื่องเป็นเหตุการณ์สมัยวัยเด็กที่บ้านบิวตี้เมื่อยี่สิบปีก่อน
ในงานวันเกิดพักตร์พิมล บิวตี้ให้พักตร์พิมลหลับตา เตรียมเป่าเค้ก พาลืมตาเห็นหน้าเค้กรูปจิ้งจก พักตร์พิมลโกรธ บิวตี้หัวเราะ
บิวตี้เอาเค้กใส่พริกให้พักตร์พิมลกิน พักตร์พิมลเผ็ดร้องลั่น บิวตี้หัวเราะชอบใจ
จากนั้น บิวตี้ พักตร์พิมล และธีภพ เล่นวิ่งไล่จับ บิวตี้วิ่งหนี พอมาถึงต้นไม้สองต้น บิวตี้กระโดดข้ามเชือกที่ผูกดักไว้ ธีภพกระโดดข้ามแต่พักตร์พิมลสะดุดล้มร้องไห้แง บิวตี้หัวเราะเยาะ
ต่อมาบิวตี้แกล้งเอาของเละๆ เทใส่รองเท้าพักตร์พิมล พอพักตร์พิมลกับธีภพใส่รองเท้าก็เละเทะ พักตร์พิมลร้องชักดิ้นชักงอด้วยความโกรธ บิวตี้หัวเราะ
อีกเหตุการณ์บิวตี้จูงมือพักตร์พิมลที่มีผ้าปิดตามาที่สนาม แล้ววิ่งหลบไป พักตร์พิมลยืนคนเดียวโดนสปริงเกอร์พ่นน้ำใส่เปียกโชก พักตร์พิมลร้องไห้ เต้นเร่าๆ
“บิวตี้ ฉันเกลียดเธอ เกลียดที่สุด เกลียดๆๆ”
เห็นแววชิงชังฉายโชนในดวงตาคู่นั้น
ภาพวูบหายไป บิวตี้คนผวาสะดุ้งตื่น รู้สึกไม่สบายใจ
“คงเกลียดฉันมากสินะ” บิวตี้ยักไหล่ “แค่ล้อเล่นสนุกๆทำเป็นขี้แงไปได้” ทำท่าจะนอนต่อ แต่ไม่สบายใจ “ถ้าเกิดเครียดจนฆ่าตัวตายขึ้นมาล่ะ ฮื้อ ไม่หรอกน่า ยัยเฉิ่มเบ๊อะขี้ขลาดจะตาย” คิดไปคิดมาชักลังเล “ถ้าเขาแค้นจนคิดจะฆ่าฉันล่ะ” บิวตี้มีสีหน้าตกใจ “ไม่ได้ ต้องไปสืบว่าเขาจะแก้แค้นยังไงอีก”
บิวตี้คนยืนขึ้น กลายเป็นนกบิวตี้ บินปร๋อออกนอกหน้าต่างที่แง้มไว้
พักตร์พิมลนั่งเหม่ออยู่ในห้องมืดๆ ดูเครียดจัดทุกข์หนัก กรเทพเดินเข้ามา ต้องตกใจเห็นพักตร์พิมลนั่งมืดๆ จึงเดินไปเปิดไฟเพิ่ม
ลึกๆ กรเทพเห็นใจลูกสาว แต่ความที่ไม่เคยใกล้ชิดจึงแสดงออกอย่างห่างเหิน
"เป็นไงบ้าง"
“แพ็ตจะเป็นอะไรพ่อสนใจด้วยเหรอคะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ พ่อเพิ่งรู้ว่าถูกพักงานก็รีบกลับมาดู”
พักตร์พิมลประชด “ดูทำไมคะ แพ็ตไม่ทำให้เสียชื่อไปถึงพ่อหรอก สบายใจเถอะค่ะ”
กรเทพถอนใจ “แล้วที่แพ็ตทำมันถูกแล้วหรือ”
“แพ็ตก็แค่ไม่อยากให้หลานรักของพ่อต้องลำบากมาทำงาน ให้คนอื่นเขาเดือดร้อน เท่านั้นเอง”
กรเทพจะเถียง โทรศัพท์กรเทพดังมีแมสเสจเข้า
กรเทพอ่านแล้วบอกพักตร์พิมล “ธีมาหาจะไปพบเขามั้ย”
พักตร์พิมลปึงปังออกไป กรเทพถอนใจแล้วตามไป
นกบิวตี้บินวนไปมาอยู่นอกบ้านกรเทพ
บิวตี้คนหงุดหงิดหาทางเข้า “โอ๊ย จะเข้าทางไหนดีล่ะ”
สุดท้ายนกบิวตี้บินผ่านหน้าต่างกระจกห้องรับแขก เห็นธีภพกำลังพูดกับพักตร์พิมล
“พูดกันที่ออฟฟิศไม่พอหรือไง ทำไมต้องตามมาถึงบ้าน มีแผนอะไรหรือเปล่า”
พักตร์พิมลคอตกร้องไห้ กรเทพนั่งฟังอยู่ สีหน้าเคร่งเครียด
บิวตี้คนเงี่ยหูฟัง แต่ไม่ได้ยิน เลยพาลโกรธ “ต้องว่าฉันอยู่แน่ๆเลย” บิวตี้ฮึดฮัดหาทางเข้าบ้าน
นกบิวตี้นกบินหาทางรอบบ้าน ผ่านกรงนกขนาดใหญ่ มีนกหงส์หยกอยู่หลายตัว บิวตี้นกบินผ่านส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว
“อี๋ นก น่าขยะแขยงที่สุด” บิวตี้คนรีบเลี่ยงหนีไกลสุดๆ
บิวตี้นกบินกลับมาที่หน้าต่างห้องรับแขก เห็นพักตร์พิมลโผเข้าซบอกธีภพ ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“หืมม์ ออเซอะเว่อร์” บิวตี้คนชักหงุดหงิด จ้องธีภพเขม็ง “นายจะเป็นพวกเดียวกับ ยัยเฉิ่มเบ๊อะรึไง อีกหน่อยก็ไปเป็นพวกเดียวกับอากรซะเลยสิ”
รถธีภพ แล่นเข้ามาในบ้านบิวตี้ตอนเช้า ธีภพลงจากรถมาเปิดประตูด้านคนนั่ง เห็นพักตร์พิมลหน้างอหงิก ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
“ทำเงียบไปเฉยๆไม่ได้เหรอคะ แพ็ตทนฟังคำเยาะเย้ยของยัยบิวตี้ไม่ได้”
“กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ เราคุยกันแล้วนะ”
“งั้นพี่ธีต้องอยู่กับแพ็ตนะ จะได้เห็นว่ายัยบิวตี้มันร้ายขนาดไหน”
“พี่รู้ว่าเขาเป็นยังไง แต่เราต้องทำให้ถูกต้อง ไม่ให้เขามาว่าได้ทีหลัง”
“ก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะทนได้แค่ไหนนะ” พักตร์พิมลลงจากรถอย่างไม่เต็มใจ
เล่นเต็มเล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 8/3 วันอังคารที่ 29/04/2557
อดิศักดิ์เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
“เขาว่าไง”
“กำลังมาค่ะ พอดีทางบริษัทพี่ธีมีปัญหาเลยช้าหน่อย”
อดิศักดิ์หน้าขรึม “ครั้งสุดท้ายแล้วนะ ถ้าคราวนี้ไม่มา ก็ไม่ต้องไปนัดกับเขาอีก”
อรวิภาอ้อนนิดๆ “ป่าป๊า อย่าพูดอย่างงั้นสิคะ พี่ธีเป็นคนดี เค้ามีธุระจริงๆ”
“แต่ต้องให้เกียรติกันบ้างสิ มีอย่างที่ไหน เดี๋ยวไม่มา เดี๋ยวเลท”
อรวิภาประจบประแจงบิดา “พี่ธีเค้างานยุ่งนี่คะ ป่าป๊าบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าพี่ธีเป็นคนเก่ง ขยันเอางานเอาการ”
“ขยันก็ดี แต่ลูกป๊าต้องมาก่อน ลูกป๊าใครอย่ามาทำให้เสียใจ”
อรวิภากอดอ้อน “น้องอรไม่เสียใจหรอกค่ะ น้องอรเข้าใจพี่ธี”
เครือวรรณ ดูแลสาวใช้จัดอาหารเย็นให้อดิศักดิ์อยู่ เหลียวมองสองพ่อลูกคุยกันอย่างเป็นปลื้มชื่นชม
“น้องอรขา ลูกไปเติมหน้าเติมปากอีกนิดดีไหมคะ”
“ค่ะ เดี๋ยวถ้าพี่ธีมาคอย ป่าป๊าสัญญานะคะว่าจะไม่ดุพี่ธี
อดิศักดิ์พยักหน้าแบบขอไปที อรวิภาออกไป อดิศักดิ์มองตามอย่างหนักใจหันไปหาเครือวรรณ
“คุณว่าธีภพกับเจตน์ชาญเป็นยังไง”
“คุณธีเรื่อยๆไปหน่อยนะคะ ผิดกับทางเจดการ์เม้นท์ ดูเค้าจริงจังกับลูกเรากว่านะคะ ให้ลูกเปลี่ยนมาคบกับคุณเจตน์ชาญดีกว่ามั้ยคะ”
อดิศักดิ์ส่ายหน้า พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ยังไงธนบวรก็เหมาะสมกับลูกเรามากกว่าเจดการ์เม้นท์”
“แต่ถ้าฝ่ายธีภพยังเรื่อยๆอยู่แบบนี้ เราจะทำยังไงล่ะคะ”
“ต้องทำให้เขารู้บ้างว่าลูกเราเป็นของสูง ไม่ใช่ของเล่น ต้องทุ่มหมดตัวถึงจะได้ไป”
เครือวรรณยิ้มพึงใจเห็นด้วยกับสามี
นกบิวตี้บินเข้ามาในห้อง บิวตี้คนในคราบนกนั่งหอบเหนื่อย
“บินเป็นสิบกิโลทุกวัน เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกเป็นนกซะที ยัยแม่มด ได้ยินมั้ย วันนี้ฉันหาตัวคนผิดได้ เพราะแปลงตัวเป็นนก แต่ไม่ได้แปลว่าฉันชอบเป็นนกนะ ถอนคำสาปซะทีสิ” หันไปกินอาหารนก แล้วพ่นออกมา “แหวะ กินเหมือนเดิมอยู่ได้ทุกวัน เบื่อจะตายอยู่แล้ว ได้ยินไหมว่าเบื่อ” สุดท้ายทิ้งตัวลงนอน
มาตรวัดสัมฤทธิ์ผล ส่งประกายสีทอง อยู่ใกล้ๆ หมอน โดยพรที่เข้ามาทำความสะอาดแล้ววางไว้ให้
บิวตี้คนเห็นมาตรวัดฯ ก็ตื่นเต้น ดีใจ “เฮ้ย มีสีทองแล้ว ไชโย นี่แสดงว่าที่เราจับยัยอึ่งอ่างได้ มันต้องเป็นผลงานนั้นเยี่ยม เยส เยส เย้”
ณ แดนสรวง นางฟ้าลลิตาเฝ้าจอภาพดูบิวตี้อยู่ถึงกับกุมขมับ
“ไม่ใช่ลูก คุณความดีอยู่ที่ลูกมีจิตเมตตาสงสารเพื่อนร่วมงานต่างหาก”
“ท่านอย่าได้ส่งกระแสไปดลใจนางเป็นอันขาดนะ นางฟ้า” ปรมะเทวีปราม
“แต่นางกำลังหลงทางนะคะเทวี”
“ให้นางเรียนรู้ด้วยตัวเอง นี่คือข้อตกลงของเรา”
“ช่วยประคับประคองนางด้วยเถิดเทวี โปรดเมตตา”
ปรมะเทวีนิ่งคิด มองบิวตี้ที่กำลังฟุ้งเพ้อเจ้ออยู่ในจอภาพ
บิวตี้มองมาตรวัดอย่างพิจารณา
“ถ้าเราจับผิดคนแล้วได้เส้นทองขนาดนี้ทุกวัน ทำอีกซัก ไม่เกินอาทิตย์นึงก็น่าจะเต็ม...ช่วยตำรวจสืบคดีเลยดีกว่า สืบวันละสองคดี สามวันก็เต็มเย้ ฉันหาทางแก้คำสาปได้แล้ว บิวตี้ เธอนี่ทั้งสวยทั้งฉลาด สุดยอด”
นกบิวตี้ในคราบคนยิ้มอย่างมีความสุข ทิ้งตัวลงนอน ตาปรือ สุดท้ายผล็อยหลับไป
ฝ่ายธีภพทานอาหารอยู่กับอรวิภา มาดเนี้ยบดูเป็นสุภาพบุรุษผู้อ่อนโยน แต่เผลอเหม่อลอยครุ่นคิด จนสาวโลกสวยสังเกตเห็น
“ไม่อร่อยหรือคะพี่ธี”
“ครับ เอ่อ อร่อยครับ อร่อยมาก”
“สตูว์แบบนี้น้องอรก็ทำเป็นนะคะ อาจจะไม่อร่อยเท่าที่นี่แต่ป่าป๊าก็ชอบมากค่ะ วันหลังเชิญพี่ธีไปทานข้าวที่บ้านนะคะ น้องอรจะทำให้ชิม นะคะ”
ธีภพไม่ค่อยได้ฟัง “ครับ”
“ที่นี่เขาใช้เนื้อดีนะคะ สงสัยจะเป็นเนื้อนำเข้าจากที่ไหนก็ไม่รู้ น้องอรเคยใช้เนื้อออสเตรเลียกับอเมริกา แต่นี่คงเป็นเป็นเนื้อโกเบ แต่ตอนนี้มีเนื้อจากฮอกไกโด ก็นิ่มดีค่ะ พี่ธีช่วยถามให้หน่อยสิคะ”
ธีภพงง ไม่ได้ฟังแต่แรก “ถามว่าอะไรนะครับ”
“เนื้อสั่งจากที่ไหนค่ะ น้องอรจะได้สั่งมาทำให้พี่ธีทาน”
“อ้อ ครับ น้องอรจะทานของหวานอะไรดีครับ”
“อืมม์” อรวิภาอ่านเมนู แล้วลังเล “ทานเหมือนพี่ธีดีกว่า พี่ธีช่วยสั่งให้น้องอรหน่อยสิคะ”
“ครับ” ธีภพมองเมนูนิ่งนาน
อรวิภามองท่าทีธีภพแล้วเสียใจ “พี่ธีเบื่ออร ใช่ไหมคะ”
ธีภพไม่ได้ฟัง ตาดูเมนู แต่จมอยู่ในความคิด
“ต้องเบื่อแน่ๆ เลย” อรวิภาน้อยใจมาก จนน้ำตาคลอ
ธีภพตกใจ รู้สึกผิด “เปล่าครับ คือ ที่บริษัทมีปัญหา ผมจำเป็นให้พนักงานระดับสูง พักงาน ก็เลยรู้สึก ไม่ค่อยสบายใจ”
“อ๋อ อย่างงี้นี่เอง” อรวิภายิ้มออก “น้องอรนึกว่าตัวเองน่าเบื่อซะอีก”
“ไม่หรอกครับ ใครจะเบื่อน้องอรได้”
อรวิภาออกอาการเขินอาย “ถ้างั้น เราไปกันเถอะค่ะ”
ธีภพงง “ไปไหนครับ”
“ก็กลับบ้านไงคะ พี่ธีจะได้ไปดูว่าคนที่โดนพักงานเค้าเป็นไงบ้าง”
ธีภพยิ้มให้อย่างอบอุ่น จับมืออรวิภาอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณครับที่เข้าใจ”
อรวิภาเขินใหญ่
นกบิวตี้ยืนหลับสัปหงกอยู่บนที่นอน แสงสีทองปรากฏขึ้นในห้อง แล้วเปลี่ยนเป็นปรมะเทวี ที่ปล่อยกระแสบางๆไปยังบิวตี้ที่หลับอยู่
“กุศลจิต จงนำไปสู่เหตุ จงหวนรำลึกนึกถึง กรรมดี กรรมชั่วที่กระทำลงไป ภายในห้วงแห่งจิตที่กำลังสงบนี้ด้วยเถิด”
หมอกขาวจางๆ ลอยฟุ้งหมุนวนอยู่รอบตัวบิวตี้คน เหมือนภาพฝัน เหตุการณ์ต่างๆ ผุดซ้อนเข้ามาในมโนเป็นระลอก
เริ่มจากตอนบิวตี้เข้ามาส่องกระจก เติมครีมเติมลิปกลอส เห็นศรีนวลจมอยู่กับความทุกข์ ไม่สังเกตว่าบิวตี้เข้ามา
“แม่จะโดนไล่ออกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย” ศรีนวลกดปิดสาย น้ำตาไหล นั่งลงสะอื้น “ทำไมถึงซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้”
บิวตี้ได้ยินเกือบหมด รู้สึกสลดใจ เห็นศรีนวลร้องไห้ ยิ่งรู้สึกผิด
บิวตี้เดินมาใกล้ศรีนวล “ป้าไม่ผิด ฉันบอกแล้วไงว่า จะไม่ยอมให้ป้าโดนไล่ออกเป็นอันขาด”
ภาพนั้นวูบหายไป แล้วเปลี่ยนเรื่องมาอีกเรื่อง พักตร์พิมลคุยกับธีภพ
“แพ็ตทำเพื่อบริษัทมาตั้งเยอะ แค่นี้ถึงกับจะไล่ออกเลยหรือคะ”
“ถ้าจะอยู่ต่อก็ให้ยุติเรื่องทั้งหมด พรุ่งนี้ ไปขอโทษบิวตี้เค้าซะ”
“ไม่มีทาง” แววตาพักตร์พิมลเต็มไปด้วยความชิงชัง
ภาพวูบหายไปอีก คราวนี้เปลี่ยนเรื่องเป็นเหตุการณ์สมัยวัยเด็กที่บ้านบิวตี้เมื่อยี่สิบปีก่อน
ในงานวันเกิดพักตร์พิมล บิวตี้ให้พักตร์พิมลหลับตา เตรียมเป่าเค้ก พาลืมตาเห็นหน้าเค้กรูปจิ้งจก พักตร์พิมลโกรธ บิวตี้หัวเราะ
บิวตี้เอาเค้กใส่พริกให้พักตร์พิมลกิน พักตร์พิมลเผ็ดร้องลั่น บิวตี้หัวเราะชอบใจ
จากนั้น บิวตี้ พักตร์พิมล และธีภพ เล่นวิ่งไล่จับ บิวตี้วิ่งหนี พอมาถึงต้นไม้สองต้น บิวตี้กระโดดข้ามเชือกที่ผูกดักไว้ ธีภพกระโดดข้ามแต่พักตร์พิมลสะดุดล้มร้องไห้แง บิวตี้หัวเราะเยาะ
ต่อมาบิวตี้แกล้งเอาของเละๆ เทใส่รองเท้าพักตร์พิมล พอพักตร์พิมลกับธีภพใส่รองเท้าก็เละเทะ พักตร์พิมลร้องชักดิ้นชักงอด้วยความโกรธ บิวตี้หัวเราะ
อีกเหตุการณ์บิวตี้จูงมือพักตร์พิมลที่มีผ้าปิดตามาที่สนาม แล้ววิ่งหลบไป พักตร์พิมลยืนคนเดียวโดนสปริงเกอร์พ่นน้ำใส่เปียกโชก พักตร์พิมลร้องไห้ เต้นเร่าๆ
“บิวตี้ ฉันเกลียดเธอ เกลียดที่สุด เกลียดๆๆ”
เห็นแววชิงชังฉายโชนในดวงตาคู่นั้น
ภาพวูบหายไป บิวตี้คนผวาสะดุ้งตื่น รู้สึกไม่สบายใจ
“คงเกลียดฉันมากสินะ” บิวตี้ยักไหล่ “แค่ล้อเล่นสนุกๆทำเป็นขี้แงไปได้” ทำท่าจะนอนต่อ แต่ไม่สบายใจ “ถ้าเกิดเครียดจนฆ่าตัวตายขึ้นมาล่ะ ฮื้อ ไม่หรอกน่า ยัยเฉิ่มเบ๊อะขี้ขลาดจะตาย” คิดไปคิดมาชักลังเล “ถ้าเขาแค้นจนคิดจะฆ่าฉันล่ะ” บิวตี้มีสีหน้าตกใจ “ไม่ได้ ต้องไปสืบว่าเขาจะแก้แค้นยังไงอีก”
บิวตี้คนยืนขึ้น กลายเป็นนกบิวตี้ บินปร๋อออกนอกหน้าต่างที่แง้มไว้
พักตร์พิมลนั่งเหม่ออยู่ในห้องมืดๆ ดูเครียดจัดทุกข์หนัก กรเทพเดินเข้ามา ต้องตกใจเห็นพักตร์พิมลนั่งมืดๆ จึงเดินไปเปิดไฟเพิ่ม
ลึกๆ กรเทพเห็นใจลูกสาว แต่ความที่ไม่เคยใกล้ชิดจึงแสดงออกอย่างห่างเหิน
"เป็นไงบ้าง"
“แพ็ตจะเป็นอะไรพ่อสนใจด้วยเหรอคะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ พ่อเพิ่งรู้ว่าถูกพักงานก็รีบกลับมาดู”
พักตร์พิมลประชด “ดูทำไมคะ แพ็ตไม่ทำให้เสียชื่อไปถึงพ่อหรอก สบายใจเถอะค่ะ”
กรเทพถอนใจ “แล้วที่แพ็ตทำมันถูกแล้วหรือ”
“แพ็ตก็แค่ไม่อยากให้หลานรักของพ่อต้องลำบากมาทำงาน ให้คนอื่นเขาเดือดร้อน เท่านั้นเอง”
กรเทพจะเถียง โทรศัพท์กรเทพดังมีแมสเสจเข้า
กรเทพอ่านแล้วบอกพักตร์พิมล “ธีมาหาจะไปพบเขามั้ย”
พักตร์พิมลปึงปังออกไป กรเทพถอนใจแล้วตามไป
นกบิวตี้บินวนไปมาอยู่นอกบ้านกรเทพ
บิวตี้คนหงุดหงิดหาทางเข้า “โอ๊ย จะเข้าทางไหนดีล่ะ”
สุดท้ายนกบิวตี้บินผ่านหน้าต่างกระจกห้องรับแขก เห็นธีภพกำลังพูดกับพักตร์พิมล
“พูดกันที่ออฟฟิศไม่พอหรือไง ทำไมต้องตามมาถึงบ้าน มีแผนอะไรหรือเปล่า”
พักตร์พิมลคอตกร้องไห้ กรเทพนั่งฟังอยู่ สีหน้าเคร่งเครียด
บิวตี้คนเงี่ยหูฟัง แต่ไม่ได้ยิน เลยพาลโกรธ “ต้องว่าฉันอยู่แน่ๆเลย” บิวตี้ฮึดฮัดหาทางเข้าบ้าน
นกบิวตี้นกบินหาทางรอบบ้าน ผ่านกรงนกขนาดใหญ่ มีนกหงส์หยกอยู่หลายตัว บิวตี้นกบินผ่านส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว
“อี๋ นก น่าขยะแขยงที่สุด” บิวตี้คนรีบเลี่ยงหนีไกลสุดๆ
บิวตี้นกบินกลับมาที่หน้าต่างห้องรับแขก เห็นพักตร์พิมลโผเข้าซบอกธีภพ ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“หืมม์ ออเซอะเว่อร์” บิวตี้คนชักหงุดหงิด จ้องธีภพเขม็ง “นายจะเป็นพวกเดียวกับ ยัยเฉิ่มเบ๊อะรึไง อีกหน่อยก็ไปเป็นพวกเดียวกับอากรซะเลยสิ”
รถธีภพ แล่นเข้ามาในบ้านบิวตี้ตอนเช้า ธีภพลงจากรถมาเปิดประตูด้านคนนั่ง เห็นพักตร์พิมลหน้างอหงิก ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
“ทำเงียบไปเฉยๆไม่ได้เหรอคะ แพ็ตทนฟังคำเยาะเย้ยของยัยบิวตี้ไม่ได้”
“กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ เราคุยกันแล้วนะ”
“งั้นพี่ธีต้องอยู่กับแพ็ตนะ จะได้เห็นว่ายัยบิวตี้มันร้ายขนาดไหน”
“พี่รู้ว่าเขาเป็นยังไง แต่เราต้องทำให้ถูกต้อง ไม่ให้เขามาว่าได้ทีหลัง”
“ก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะทนได้แค่ไหนนะ” พักตร์พิมลลงจากรถอย่างไม่เต็มใจ