เรื่องเต็มเล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 9/1 วันจันทร์ที่ 05/05/2557

กระทู้สนทนา


พักตร์พิมลเดินมาตามทางอย่างหัวเสีย ตามมาด้วยปีวรา กระตั้วที่รออยู่แถวๆหน้าห้อง พอเห็นพักตร์พิมลมาก็รีบพุ่งมาหา
       “เห็นยัยปีบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่เหรอคะ แล้วนี่กระตั้วจะโดนไล่ออกไหมคะคุณแพ็ต”
       ทั้งสามเปิดประตูเข้าไปในห้อง
       พักตร์พิมลหันมาเอาเรื่องปีวรา “เธอใช่ไหมที่คาบข่าวไปฟ้องคุณธี”
       “เปล่านะคะ”
       กระตั้วชะงัก หันมองปีวรา “จริงด้วย มีเธอคนเดียวที่รู้เรื่องทั้งหมด หยั่มมาจัสท์เชย์โน”
       “เรื่องอะไรคะ ปีไม่รู้เรื่องเลยนะคะสาบานได้”
       พักตร์พิมลคาดคั้น “สาบานมาซิ”
       “ถ้าปีเป็นบอกขอให้มีอันเป็นไป ครอบครัวอย่าได้มีความสุข”
       พักตร์พิมลจ้องหน้าปีวราเขม็ง “ถ้าเธอไม่บอกแล้วใครล่ะ ไอ้นกผีนั่นเหรอ”
       กระตั้วก็คิดเหมือนกัน “อาจเป็นนกที่ถูกฝึกไว้ทำจารกรรม ล้วงของ เอ๊ย ความลับ”
       “เพ้อเจ้อ”
       “ถ้างั้นคงเป็นความซวยของเราแล้วล่ะฮ่ะ ไปรดน้ำมนต์ดีลีทกรรมกันเถอะฮ่ะ”
       พักตร์พิมลแค้นไม่หาย “ดีลีทยัยบิวตี้ออกไปจากบริษัทดีกว่า”
       กระตั้วเห็นด้วย “ขืนปล่อยไว้ เราคงไม่รุ่ง”
       พักตร์พิมลขู่ปีวรา “ปีวรา จำไว้นะ เพราะฉันไม่ซัดทอดเธอ เธอถึงยังอยู่ได้โดยไม่โดนพักงาน”
       ปีวราตัวสั่นด้วยความกลัว รีบไหว้ “ขอบพระคุณค่ะ แต่ปีไม่ได้ทำอะไร”
       กระตั้วยั๊ว “ยังจะมาเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่นอีก”
       พักตร์พิมลมอบหมายงานให้ “เธอต้องคอยหาข่าว แล้วก็มารายงานฉันให้ละเอียดทุกวัน เข้าใจไหม”
       “ไม่รู้อะไรก็ไปสืบจากแก๊งหูตาสับปะรด” กระตั้วจดรายชื่อพร้อมเบอร์ นี เนย และติ๋มให้ “ตามลิสต์นี่ ทำให้สำเร็จนะ กล้าๆหน่อย”
       ปีวรารับมามือสั่นด้วยความหวั่นใจ “ค...ค่ะ”
       พักตร์พิมลบอกกับกระตั้ว “ส่วนเธอ...พักงาน 2 อาทิตย์”
       กระตั้วถอนใจเฮือก “ค่อยยังชั่ว”
       
       ปฏิบัติการเอาคืนธีภพดำเนินไป บิวตี้เดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ในศูนย์การค้า ธีภพเดินตามหน้างอ คอยถือของให้    
       “เดินตามใกล้ๆ สิ เดินไกลอย่างนั้น ฉันจะใช้ได้ยังไงล่ะ”    
       บิวตี้เดินมาหยุดตรงกลางห้างแล้วหยุด เหมือนคิดอะไรได้ “โอ๊ะ เกือบลืม”
       “อะไรอีกล่ะ”
       “ท่านประธานยังไม่ได้ขอโทษฉันเลยนะ”
       “ขอโทษเรื่องอะไร”
       “ก็ที่ว่าฉันทำงานชุ่ย สะเพร่า ไม่ได้เรื่องไง”
       “ไม่ได้พูดอย่างงั้นซักหน่อย”
       “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”
       “ก็พูดไปตามหลักฐาน” ธีภพบอกเสียงอ้อมแอ้ม “ขอโทษด้วย”
       “อะไรนะคะ ไม่ได้ยิน”
       ธีภพพูดดังขึ้นอีกนิด “ผมขอโทษ”
       “สงสัยจะเดินมากเลยหูอื้อ พูดดังๆ หน่อย”
       คราวนี้ธีตะโกน “ขอโทษ... พอไหม”
       บิวตี้พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังไม่พอ ดูถูกฉันไว้ตั้งหลายอย่าง ขอโทษแค่นี้ยังไม่สาสม”
       ธีภพมองบิวตี้งงๆไม่รู้ว่าต้องการอะไรกันแน่
       
       พนักงานต้อนรับของสปา เจ้าประจำของบิวตี้ ไหว้ต้อนรับบิวตี้กับธีภพอย่างอ่อนช้อย
       “สวัสดีค่ะคุณลัลน์ลลิตและคุณผู้ชาย
       “ส่งแค่นี้นะ” ธีภพหันหลังกลับ
       บิวตี้ดึงไว้ “ไม่ได้”
       “ผมมีงานสำคัญต้องทำ”
       “นี่ก็สำคัญ สัญญาแล้วไงว่าจะทำตามคำสั่ง”
       “ก็ทำแล้วไง”
       “อาไร้ เพิ่งไม่กี่ชั่วโมงเอง ฉันโดนมาหนักกว่านี้ตั้งเยอะ” บิวตี้พูดด้วยน้ำเสียงเยาะ
       “ผมไม่ชอบสปา ผมแพ้กลิ่นอโรม่า”
       “ฉันก็ไม่ชอบโกดังสินค้าเหมือนกัน แต่เอามาเทียบกันไม่ได้หรอกเหมือนสวรรค์กับนรก”
       พนักงานเดินมาเชิญ ท่าทีนอบน้อม “ห้องคู่รักฮันนีมูนพร้อมแล้วค่ะ”
       ธีภพหันขวับมองบิวตี้อย่างตกใจ หน้าตาดุดัน “จะทำอะไรน่ะบิวตี้”
       “เอ้า คู่รักฮันนีมูนเขามาทำอะไรในสปาล่ะ”
       ธีภพผงะ “เหลวไหล”
       “นวดตัวด้วยช็อกโกแล็ตเบลเยี่ยม เหลวไหลตรงไหน หรือจะลองขัดหน้าด้วยผงเพชรด้วยไหมล่ะ หนังหน้าย่นแก่เร็วขนาดนี้น่าจะลองทำดูนะ”
       ธีภพเสียงแข็ง “ไม่ ผมจะกลับไปทำงาน”
       “งั้นฉันจะไล่แพ็ตออกในฐานะประธานบริษัท” บิวตี้ยื่นคำขาด
       ธีภพเข่นเขี้ยว “เธอนี่มัน”
       บิวตี้ลอยหน้าบอก ท่าทางน่าหมั่นไส้มาก “ใช่ฉันสวยมาก คนสวยมักจะโดนอิจฉา พูดความจริงก็ไม่มีใครเชื่อ ถึงพิสูจน์ได้ก็ไม่มีคนรับผิดชอบ”
       “พอแล้ว”
       “ถ้าไม่รักษาสัญญากับฉัน ฉันก็ไม่รักษาสัญญากับนายเหมือนกัน”
       “บอกว่าพอแล้วไง จะนวดจะทำอะไรก็เชิญ จะได้จบๆ ไปเสียที” ธีภพหงุดหงิดสุดขีด ฝืนใจเดินตามพนักงานไป
       บิวตี้แอบยิ้มอย่างสะใจ
       
       ขณะเดียวกันที่สนามซ้อมไดร์ฟ
       อรวิภาซ้อมไดร์ฟกอล์ฟอยู่ มีเจตน์ชาญคอยจับท่าให้ ดูให้เกียรติแต่วิธีการสอนจำเป็นต้องใกล้ชิด
       “ไม่ต้องมาใกล้มาก ยืนห่างๆ ก็ได้” อรวิภาบอกฉุนๆ
       “ใจเย็นน่า มันช่วยไม่ได้ ผมทำเพราะจำเป็นเหมือนกัน”
       อรวิภาโมโหจนตีพลาดอย่างแรง เครือวรรณจับตาทุกอิริยาบถ
       “สงสัยจะแขนไม่ตรงค่ะลูกขา”
       อรวิภาหงุดหงิด “พอดีกว่า อรเบื่อแล้ว”
       “ไม่ได้นะคะ ปะป๊าบอกว่ากลับจากฮ่องกงต้องเห็นลูกตีเก่งขึ้น ไม่งั้นปะป๊าไม่ขยายร้านให้นะจ๊ะ”
       เจตน์ชาญกระซิบยั่วล้อ “ว่าไง จะขัดคำสั่งพ่อได้เหรอ”
       “คุณเจตน์สอนต่อเลยค่ะ น้องอรอย่างอแงนะคะ”
       เจตน์ชาญแกล้งยิ้มให้อรวิภา อรวิภามองแม่อย่างใจเย็น
       “ก็ได้ค่ะมะมี๊” อรวิภากระซิบกับเจตน์ชาญ “ฉันทำเพื่อร้านเท่านั้นนะ บอกไว้ก่อน”
       “ครับ น้องอรลองสวิงแล้วค้างไว้สิครับ”
       อรวิภาสวิงแล้วหยุด เจตน์ชาญช่วยจับท่า แตะแขน แตะหลัง แตะเอว
       อรวิภาเสียงเขียว “อย่ามาถูกตัวฉัน”
       เจตน์ชาญนึกสนุก กระซิบตอบขำๆ “ผมทำเพื่อบริษัทเท่านั้น เหมือนกัน”
       เครือวรรณ มองสองคนยิ้มๆ ไม่รู้ว่าอรวิภากับเจตน์ชาญชาญแอบทะเลาะกัน
       
       ส่วนที่ห้องคู่รักฮันนีมูนของสปา ธีภพนอนคว่ำหน้าหลับตาพริ้ม เผลอครางอย่างมีความสุข เขากำลังถูกนวดหลัง ท่าทางผ่อนคลาย
       บิวตี้เข้ามา นอนคว่ำหน้า พนักงานเลื่อนเสื้อคลุมของบิวตี้ลงเพื่อทาครีมนวดที่บ่า
       บิวตี้สบายตัว พูดเสียงเคลิ้ม ฟังดูเซ็กซี่ “เฮ้อ สบายจัง”
       ธีภพหันไปดูเห็นไหล่นวลเนียน เผลอมองอย่างหลงใหล พอรู้สึกตัวรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง โมโหตัวเอง
       บิวตี้เอียงหน้ามาทางธีภพ “ชอบนวดแล้วใช่ไหมล่ะ เมื่อกี้แอบครางได้ยินนะ”
       ธีภพหงุดหงิด ลุกขึ้นหันมาท่าทีฉุนเฉียว “ต่างคนต่างนวดไป ไม่ต้องยุ่งกันได้ไหม”
       เสื้อคลุมของธีภพเลื่อนลง บิวตี้เผลอมองกล้ามอกของธีภพอย่างหวั่นไหว ภาพตอนตัวเองเป็นนกบิวตี้ในคราบคนซบอกธีภพ นอนหลับไปอย่างอบอุ่นตลอดคืนผุดซ้อนเข้ามาในห้วงคิด
       บิวตี้เขินแก้มแดงระเรื่อ งดงามชวนฝัน
       ธีภพเผลอมองบิวตี้อย่างหลงใหล เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
       พนักงานดันขัดจังหวะ “เชิญนอนลงค่ะ”
       เสียงของหล่อนเหมือนหนังขาดม้วน
       ธีภพรู้สึกตัว พาลหงุดหงิด “คุณช่วยดับเทียนหอมได้ไหม ผมเวียนหัว”
       บิวตี้เองก็หงุดหงิดเช่นกัน “รูดม่านกั้นห้องด้วย”
       พนักงานรูดม่านกั้นห้อง
       ธีภพหันไปมอง เห็นเงาบิวตี้รางๆ ชายหนุ่มทอดถอนใจ
       ส่วนบิวตี้ หันมามองทางธีภพ เห็นเงารางๆ เบะปาก พึมพำอย่างสะใจ
       “ฉันรู้ว่านายเกลียดสปา ถึงพามาแก้แค้น ไม่ได้อยากจะยุ่งนักหรอก”
       พนักงานได้ยินไม่ถนัด “อะไรนะคะ”
       “เปล่า ช่วยเพิ่มกลิ่นอะโรมาอีกได้ไหม ฉันชอบ”
       
       บิวตี้ยิ้มเยาะไปทางห้องนวดธีภพ

  ณ แดนสรวง ปรมะเทวี กำลังจ้องภาพบิวตี้กับธีภพอย่างสนใจ
       
       “ธีภพรึ...คงไม่ใช่ ทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เยาว์วัย” นางฟ้าลลิตาว่า
       “ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ที่จะไปล่วงรู้อนาคตของมนุษย์” องค์เทวีบอก
       “เวลาเหลือน้อยลงทุกที ข้าพเจ้าอดเป็นห่วงไม่ได้”
       “ท่านพูดเองไม่ใช่หรือว่านางเริ่มมีเมตตาและให้อภัย”
       “ก็จริงอยู่ค่ะ แต่จะให้ลัลน์ลลิตรักผู้อื่นยิ่งกว่ารักตัวเอง ภายในเวลาสั้นๆเพียงนี้ ข้าพเจ้ายังไม่เห็นทาง” นางฟ้าลลิตาเสียงเศร้า หน้าหมอง
       “ความรักไม่เลือกกาลเวลาหรอกท่าน จะกี่ปี กี่เดือน หรือชั่วพริบตา หากได้พบคนคนนั้น ความรักอันยิ่งใหญ่ย่อมเกิดขึ้นได้”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่