.....ทั่วโลก เกณฑ์อายุในการทำงานของพนักงาน จะอยู่ที่ไม่เกิน 55-60 ปี บุคคลที่มีวัยวุฒิสูง เกิน 60 ปี ทั้งนั้น จัดเป็น “คนแก่”ในทัศนะคติคนไทย ที่ถือว่าวัย 60 ขึ้นไปหรือวัยหลังเกษียณควรพักผ่อนอยู่กับบ้าน ไม่สมควรทำงานแล้ว ยกเว้นก็แต่ เจ้าของกิจการหรือหุ้นส่วนของกิจการนั้นๆ จะทำหน้าที่บริหารเอง ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเป็นเจ้าของกิจการ
ในทัศนะคติคนไทย ที่ถือว่าวัย 60 ขึ้นไปหรือวัยหลังเกษียณควรพักผ่อนอยู่กับบ้าน ไม่สมควรทำงานแล้ว เพราะหมดสภาพทางร่างกาย และเสื่อมสติปัญญาไปตามวัย แต่ คณะตลก.ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ จัดเป็นคณะบุคคลที่มีวัยวุฒิสูง เกิน 60 ปี ทั้งนั้น จัดเป็น “คนแก่”ทั้งสิ้น เมืองไทยกลับเลือกคนเหล่านี้มาทำหน้าที่สำคัญ มิได้คำนึงถึงความสามารถทางร่างกายหรือความเสื่อมถอยทางสติปัญญาเลย
มิน่าล่ะ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ เลยทำงานบิดๆเบี้ยวๆ(เป็นมดเขียววี 3) ล่าสุดก็ฉอดเฉือกทำงานผิดหน้าที่ โดยให้ความเห็นกรณีงบประมาณ 2.2 ล้านล้าน ในเรื่องรถไฟความเร็วสูงว่า ควรจะสร้างก็ต่อเมื่อถนนลูกรังหมดไปจากประเทศเสียก่อน
แหม เอาอะไรคิด
ทำงานไม่ได้ดูหน้าที่ของตัวเองเลย หน้าที่ของตัวเองหลักๆคือวินิจฉัยให้ร่างกฎหมาย หรือพระราชบัญญัติมิให้ขัดกับรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนเรื่องการพัฒนานำงบประมาณไปสร้างความเจริญอย่างไร เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร หรือคณะรัฐมนตรี
ที่ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญแสดงความเห็นมาเยี่ยงนี้ ใช่อยากทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารเสียเองใช่หรือไม่ สงสัยอยากเป็นรัฐมนตรีกันจนตัวสั่นสะเออะทำเกินหน้าที่
หน้าที่ของตัวเองมี 9 ข้อ ไม่เห็นจะสนใจทำเลย แล้วเฉือกอยากไปทำหน้าที่ของคนอื่น
หน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญมีอะไรบ้าง
1.การวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างกฎหมายและร่างข้อบังคับการประชุมของฝ่ายนิติบัญญัติก่อนที่จะประกาศใช้บังคับมิให้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ
2.การวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ประกาศใช้บังคับแล้ว
3.การวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของเงื่อนไขการตราพระราชกำหนด
4.การวินิจฉัยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือ กรรมาธิการ กระทำการเพื่อให้ตนมีส่วนโดยตรงหรือโดยอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายหรือไม่
5.การวินิจฉัยปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
6.การวินิจฉัยมติหรือข้อบังคับพรรคการเมือง การพิจารณาอุทธรณ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการวินิจฉัยบุคคลหรือพรรคการเมืองใช้สิทธิเสรีภาพในทางการเมืองโดนมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
7.การวินิจฉัยสมาชิกภาพหรือคุณสมบัติของสมาชิกรัฐสภา รัฐมนตรีและ กรรมการการเลือกตั้ง
8.การวินิจฉัยหนังสือสนธิสัญญาใดต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนหรือไม่
9.อำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550
เมื่อดูแล้วจะเห็นว่า วันๆไอ้แก่พวกนี้ มันทำหน้าที่ตัวเองหรือไม่
เพราะตอนนี้ กลุ่ม กปปส. กระทำการเข้าข่าย ข้อ 6. บุคคลหรือพรรคการเมืองใช้สิทธิเสรีภาพในทางการเมืองโดนมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ตลก.กะโหลกกะลาพวกนี้ เฉือกบอกว่าสามารถทำได้ เป็นเสรีภาพการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ไม่ผิดอะไรเพราะปราศจากอาวุธ
ทั้งๆที่ กปปส.มัยประกาศเช้าเย็นว่าจะให้มี “สภาประชาชน”ซึ่งไม่มีบัญญัติในรัฐธรรมนูญ แต่เฉือกไม่เอาผิด แต่ไปเอาผิดฝ่ายที่ต้องการแก้ ที่มา สว.ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ว่าล้มล้างการปกครอง ซึ่งขอด่าสักคำ ว่า ปัญญาอ่อนจริงๆ
บุคคลคณะนี้ ถือเป็นความอับอายของประเทศชาติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยดำรงตำแหน่ง เป็นข้าราชการตุลาการระดับสูงกันมาทั้งนั้น แต่เฉือกตัดสินและทำหน้าที่โดยหาความเที่ยงธรรมไม่ได้ แถมยังจะมั่วหน้าที่อีก ก่อนหน้านี้ก็ขยายขอบเขตหน้าที่ตัวเองจนเหนือกว่าทุกองค์กรมาแล้ว น่าอายจริงๆ ไอ้พวกแก่กะโหลกกะลาเอ้ย
ตลก. พวกแก่กะโหลกกะลา คลั่งบ้าเกินหน้าที่
ในทัศนะคติคนไทย ที่ถือว่าวัย 60 ขึ้นไปหรือวัยหลังเกษียณควรพักผ่อนอยู่กับบ้าน ไม่สมควรทำงานแล้ว เพราะหมดสภาพทางร่างกาย และเสื่อมสติปัญญาไปตามวัย แต่ คณะตลก.ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ จัดเป็นคณะบุคคลที่มีวัยวุฒิสูง เกิน 60 ปี ทั้งนั้น จัดเป็น “คนแก่”ทั้งสิ้น เมืองไทยกลับเลือกคนเหล่านี้มาทำหน้าที่สำคัญ มิได้คำนึงถึงความสามารถทางร่างกายหรือความเสื่อมถอยทางสติปัญญาเลย
มิน่าล่ะ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ เลยทำงานบิดๆเบี้ยวๆ(เป็นมดเขียววี 3) ล่าสุดก็ฉอดเฉือกทำงานผิดหน้าที่ โดยให้ความเห็นกรณีงบประมาณ 2.2 ล้านล้าน ในเรื่องรถไฟความเร็วสูงว่า ควรจะสร้างก็ต่อเมื่อถนนลูกรังหมดไปจากประเทศเสียก่อน
แหม เอาอะไรคิด
ทำงานไม่ได้ดูหน้าที่ของตัวเองเลย หน้าที่ของตัวเองหลักๆคือวินิจฉัยให้ร่างกฎหมาย หรือพระราชบัญญัติมิให้ขัดกับรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนเรื่องการพัฒนานำงบประมาณไปสร้างความเจริญอย่างไร เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร หรือคณะรัฐมนตรี ที่ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญแสดงความเห็นมาเยี่ยงนี้ ใช่อยากทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารเสียเองใช่หรือไม่ สงสัยอยากเป็นรัฐมนตรีกันจนตัวสั่นสะเออะทำเกินหน้าที่
หน้าที่ของตัวเองมี 9 ข้อ ไม่เห็นจะสนใจทำเลย แล้วเฉือกอยากไปทำหน้าที่ของคนอื่น
หน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญมีอะไรบ้าง
1.การวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างกฎหมายและร่างข้อบังคับการประชุมของฝ่ายนิติบัญญัติก่อนที่จะประกาศใช้บังคับมิให้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ
2.การวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ประกาศใช้บังคับแล้ว
3.การวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของเงื่อนไขการตราพระราชกำหนด
4.การวินิจฉัยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือ กรรมาธิการ กระทำการเพื่อให้ตนมีส่วนโดยตรงหรือโดยอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายหรือไม่
5.การวินิจฉัยปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
6.การวินิจฉัยมติหรือข้อบังคับพรรคการเมือง การพิจารณาอุทธรณ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการวินิจฉัยบุคคลหรือพรรคการเมืองใช้สิทธิเสรีภาพในทางการเมืองโดนมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
7.การวินิจฉัยสมาชิกภาพหรือคุณสมบัติของสมาชิกรัฐสภา รัฐมนตรีและ กรรมการการเลือกตั้ง
8.การวินิจฉัยหนังสือสนธิสัญญาใดต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนหรือไม่
9.อำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550
เมื่อดูแล้วจะเห็นว่า วันๆไอ้แก่พวกนี้ มันทำหน้าที่ตัวเองหรือไม่
เพราะตอนนี้ กลุ่ม กปปส. กระทำการเข้าข่าย ข้อ 6. บุคคลหรือพรรคการเมืองใช้สิทธิเสรีภาพในทางการเมืองโดนมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ตลก.กะโหลกกะลาพวกนี้ เฉือกบอกว่าสามารถทำได้ เป็นเสรีภาพการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ไม่ผิดอะไรเพราะปราศจากอาวุธ
ทั้งๆที่ กปปส.มัยประกาศเช้าเย็นว่าจะให้มี “สภาประชาชน”ซึ่งไม่มีบัญญัติในรัฐธรรมนูญ แต่เฉือกไม่เอาผิด แต่ไปเอาผิดฝ่ายที่ต้องการแก้ ที่มา สว.ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ว่าล้มล้างการปกครอง ซึ่งขอด่าสักคำ ว่า ปัญญาอ่อนจริงๆ
บุคคลคณะนี้ ถือเป็นความอับอายของประเทศชาติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยดำรงตำแหน่ง เป็นข้าราชการตุลาการระดับสูงกันมาทั้งนั้น แต่เฉือกตัดสินและทำหน้าที่โดยหาความเที่ยงธรรมไม่ได้ แถมยังจะมั่วหน้าที่อีก ก่อนหน้านี้ก็ขยายขอบเขตหน้าที่ตัวเองจนเหนือกว่าทุกองค์กรมาแล้ว น่าอายจริงๆ ไอ้พวกแก่กะโหลกกะลาเอ้ย