อดีต ส.ส.พท.ยื่นฟ้อง′6 ตลก.ศาล รธน.′ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ วินิจฉัยแก้ที่มา ส.ว.
เวลา 09.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอำนวย คลังผา, นายพิชัย เกีตรติวินัยสกุล, นายพหล วรปัญญา, นายวรชัย เหมะ, นายสมคิด เชื้อคง ทั้งหมดเป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและสมาชิกรัฐสภา ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจรูญ อินทจาร, นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายเฉลิมพล เอกอุรุ, นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ, นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และนายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นตุลาการกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 90, 91, 157, 201 และ 202
คำฟ้องสรุปว่า
โจทก์เป็นสมาชิกรัฐสภาได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ 2550 ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 จำเลยทั้ง 6 ได้ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่รับคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม พร้อมพวก ที่กล่าวหาโจทก์กับพวกรวม 314 คน ในฐานะสมาชิกรัฐสภา กระทำการขัดต่อศาลรัฐธรรมนูญรวม 4 ฉบับ กรณีที่ได้ร่วมกันเสนอญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องที่มาของ ส.ว. และประเด็นอื่นๆ
โดยกล่าวหาว่าการกระทำของโจทก์เป็นการล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ต่อมาจำเลยทั้ง 6 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ได้มีคำวินิจฉัยที่ 15-18/2556 โดยมีมติ 6 ต่อ 3 ว่า โจทก์กับพวกกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ เป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญไ
ม่มีอำนาจรับคำร้องทั้ง 4 ฉบับไว้พิจารณาวินิจฉัย เพราะผู้ร้องไม่ใช่อัยการสูงสุด รวมทั้ง
ฝ่ายโจทก์สามารถพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติได้ การกระทำของจำเลยทั้ง 6 จึงเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยอำนาจและหน้าที่ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายอำนวยกล่าวว่า ในวันนี้ได้มายื่นฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 6 คน สาเหตุเพราะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว. และในประเด็นอื่นๆ ของพวกตน เป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ล้มล้างระบอบการปกครอง ตนในฐานะ ส.ส. เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. เป็นการจัดทำตามขั้นตอนในระบอบประชาธิปไตย ทั่วโลกต่างก็ทำได้เหมือนกัน นอกจากนี้ได้มีกลุ่มบุคคลที่นำคำวินิจฉัยดังกล่าวไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. กล่าวหาว่าพวกตนกระทำผิดต่อกฎหมายอีกด้วย
โดยศาลได้รับคำฟ้องไว้เพื่อพิจารณาต่อไป
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1393310066&grpid=00&catid=&subcatid=
เห็นด้วยควรทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะสาธารณชนข้องใจกับการพิจารณาคดีของ ตลก.รธน. หลายคดีมาก โดยเฉพาะในช่วงหลังๆๆดูจะยิ่งสับสนและขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และขัดต่อความรู้สึกของประชาชนและนักวิชาการที่เป็นประชาธิปไตย
อีกคดีที่วินิจฉัยขัดต่อความเห็นของคนทั่วไปที่ศาลแพ่งก็ยังนำไปอ้างก็คือเรื่องที่วินิจฉัยว่าการชุมนุมกปส เป็นไปตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ซึ่งดูแล้วเป็นการวินิจฉัยที่ขัดทั้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญเองและขัดต่อข้อเท็จจริง
เพราะข้อเท็จจริงนั้น กปปส ละเมิดสิทธิประชาชนทั่วไป ขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้ง ขัดขวางการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงของประชาชน ยุยงส่งเสริมให้มีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 28 บัญญัติว่า หากใช้สิทธิเสรีภาพไปล่วงละเมิดสิทธิผู้อื่นหรือเป็นปฏิปักษ์กับรัฐธรรมนูญ
สิทธิเสรีภาพนั้นไม่ใช่สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
การวินิจฉันเช่นนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนผู้บริสุทธ์อย่างยิ่ง
ฟ้องตลก.ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
เวลา 09.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอำนวย คลังผา, นายพิชัย เกีตรติวินัยสกุล, นายพหล วรปัญญา, นายวรชัย เหมะ, นายสมคิด เชื้อคง ทั้งหมดเป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยและสมาชิกรัฐสภา ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจรูญ อินทจาร, นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายเฉลิมพล เอกอุรุ, นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ, นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และนายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นตุลาการกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 90, 91, 157, 201 และ 202
คำฟ้องสรุปว่า โจทก์เป็นสมาชิกรัฐสภาได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ 2550 ต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 จำเลยทั้ง 6 ได้ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่รับคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม พร้อมพวก ที่กล่าวหาโจทก์กับพวกรวม 314 คน ในฐานะสมาชิกรัฐสภา กระทำการขัดต่อศาลรัฐธรรมนูญรวม 4 ฉบับ กรณีที่ได้ร่วมกันเสนอญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องที่มาของ ส.ว. และประเด็นอื่นๆ
โดยกล่าวหาว่าการกระทำของโจทก์เป็นการล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ต่อมาจำเลยทั้ง 6 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ได้มีคำวินิจฉัยที่ 15-18/2556 โดยมีมติ 6 ต่อ 3 ว่า โจทก์กับพวกกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ เป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องทั้ง 4 ฉบับไว้พิจารณาวินิจฉัย เพราะผู้ร้องไม่ใช่อัยการสูงสุด รวมทั้งฝ่ายโจทก์สามารถพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติได้ การกระทำของจำเลยทั้ง 6 จึงเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยอำนาจและหน้าที่ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายอำนวยกล่าวว่า ในวันนี้ได้มายื่นฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 6 คน สาเหตุเพราะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว. และในประเด็นอื่นๆ ของพวกตน เป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ล้มล้างระบอบการปกครอง ตนในฐานะ ส.ส. เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. เป็นการจัดทำตามขั้นตอนในระบอบประชาธิปไตย ทั่วโลกต่างก็ทำได้เหมือนกัน นอกจากนี้ได้มีกลุ่มบุคคลที่นำคำวินิจฉัยดังกล่าวไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. กล่าวหาว่าพวกตนกระทำผิดต่อกฎหมายอีกด้วย
โดยศาลได้รับคำฟ้องไว้เพื่อพิจารณาต่อไป
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1393310066&grpid=00&catid=&subcatid=
เห็นด้วยควรทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะสาธารณชนข้องใจกับการพิจารณาคดีของ ตลก.รธน. หลายคดีมาก โดยเฉพาะในช่วงหลังๆๆดูจะยิ่งสับสนและขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และขัดต่อความรู้สึกของประชาชนและนักวิชาการที่เป็นประชาธิปไตย
อีกคดีที่วินิจฉัยขัดต่อความเห็นของคนทั่วไปที่ศาลแพ่งก็ยังนำไปอ้างก็คือเรื่องที่วินิจฉัยว่าการชุมนุมกปส เป็นไปตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ซึ่งดูแล้วเป็นการวินิจฉัยที่ขัดทั้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญเองและขัดต่อข้อเท็จจริง
เพราะข้อเท็จจริงนั้น กปปส ละเมิดสิทธิประชาชนทั่วไป ขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้ง ขัดขวางการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงของประชาชน ยุยงส่งเสริมให้มีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 28 บัญญัติว่า หากใช้สิทธิเสรีภาพไปล่วงละเมิดสิทธิผู้อื่นหรือเป็นปฏิปักษ์กับรัฐธรรมนูญ สิทธิเสรีภาพนั้นไม่ใช่สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
การวินิจฉันเช่นนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนผู้บริสุทธ์อย่างยิ่ง