ความเดิมจากตอนที่แล้ว เพื่อนๆ สามารถอ่าน วันก่อนหน้านี้ได้ ที่ LINK ด้านล่างครับ
วันที่ 1-5
http://ppantip.com/topic/31145864
วันที่ 6
http://ppantip.com/topic/31152251
วันที่ 7
http://ppantip.com/topic/31156749
วันที่ 8
http://ppantip.com/topic/31160474
วันที่ 9
http://ppantip.com/topic/31162386
วันที่ 10
http://ppantip.com/topic/31167279
วันที่ 11
http://ppantip.com/topic/31171556
วันที่ 12
http://ppantip.com/topic/31184664
วันที่ 13
http://ppantip.com/topic/31186954
วันที่ 14
http://ppantip.com/topic/31190555
ขอปรับเป็น วันที่ 17 ของการออกกำลัง 05 - Pure Cardio & 06 - Cardio Abs
เนื่องจากกลัวเพื่อนๆ จะสับสนหากดูตามของผมกับโปรแกรม INSANITY เพราะผมมีพักไม่ตรงกับวันตามตารางฝึก เลยขอปรับวันของผมให้ตรงกับ ในตารางปฏิทินแบบฝึก เพื่อเพื่อนๆจะได้นำไปเทียบเคียงได้นะครับ วันนี้จะมาขอแชร์เรื่องการวัดผลของการลดสัดส่วน เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือลดน้ำหนัก ที่หลายๆคนปรารถนา ว่าเราจะวัดยังไงที่จะทำให้เรารู้ว่าเราก้าวหน้าขึ้น เพื่ออย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้เราทำต่อไปใช่มั้ยครับ อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้นะครับ ผมเรียกว่าจุดสังเกต มีหลักๆดังนี้
1 คลาสสิคสุดๆคือน้ำหนัก อันนี้บางทีอาจจะวัดอะไรได้ไม่มาก เพราะหนึ่งกว่าจะเห็นผลว่าน้ำหนักลดก็นาน สองบางทีสัดส่วนเราดีขึ้นแต่ไม่จำเป็นว่าน้ำหนักต้องลดนะครับ เอาเป็นว่าอันนี้ข้ามไปเอาไว้ใช้เมื่อผ่านไปสัก 2 อาทิตย์
2 ผมใช้อยู่ คือ หากางเกง เสื้อ ที่เราใส่แล้วรู้สึกฟิต เข้าใจว่าเพื่อนๆที่หันมาออกกำลังเพราะอยากลดสัดส่วน มักเกิดจากการใส่กางเกงแล้วรู้สึกแน่น หรือเสื้อแล้วอึดอัด พวกนั้นนี่แหละครับตัววัดของเรา เมื่อผ่านไปสักอาทิตย์ ลองใส่อีกที ไปเรื่อยๆ มันเห็นชัดกว่าน้ำหนักอีกนะครับ เพราะตอนนี้ผมใส่เสื้อที่เคยฟิตก่อนออกได้สบายแล้ว
3 อันนี้ยากหน่อย แต่ก็เห็นแบบวันต่อวันเลย คือ การวัดด้วยสายวัดตามตำแหน่งหลักๆ เอว แขน รอบอก เป็นต้น อันนี้แล้วแต่ใครอยากวัดส่วนไหนที่รู้สึกว่ามันใหญ่โตไปครับ
4 ความรู้สึก อันนี้เป็นนามธรรมใครก็วัดไม่ได้นอกจากเราเองครับ คือ ผมเชื่อว่าเราจะรู้ตัวเราเองว่าแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น เจ๋งขึ้น หรือเปล่า ผมว่าอันนี้บอกได้ชัดมากๆ ถ้าเราไม่เข้าข้างตัวเองนะครับ ยิ่งเจอแบบฝึก INSANITY ยิ่งเห็นชัดใหญ่เลยว่าเราทำได้ดีขึ้นมั้ย
5 รูปถ่าย ถ่ายมันถูกวันเลยครับ หลังออกกำลัง หน้าท้อง ไหล่ อก ภาพรวม เก็บไว้ครับ แล้วมาดูว่าดีขึ้นมั้ย
ตอนนี้คิดออกอยู่ 5 วิธีนะครับ เกริ่นมายาวเข้าเรื่องกันครับ หลักสูตรวันนี้เป็นการกลับมาของ 2 แบบฝึกในวันเดียว เป็นวันที่หมายมั่นว่าจะดีกว่าเดิมให้ได้ เข้าสู่แบบฝึกแรก Pure Cardio การวอร์มอัพผ่านไปได้ด้วยดีครับ จุดที่เพิ่มเติมคือผมพยายามจับจังหวะการหายใจ มีสมาธิกับแต่ละท่ามากขึ้น เข้าสู่ท่ายืดเหยียดทำได้พอสมควรครับผมมีปัญหาการยืดเหยียดอย่างที่เคยบอกไปแต่ก็พยายามทำตามหายใจตาม มาต่อที่การออกแบบ NON STOP ดีขึ้นมากครับ ทำตามได้ใกล้เคียงมากกว่าเดิม มีแค่สอง สามท่าสุดท้าย ที่มีการวิดพื้นที่ยังทำตามได้ไม่หมด แต่ก็ได้มากกว่าคราวก่อนประมาณ 5 ครั้งในแต่ละท่านะครับ (ผมพยายามจำว่าท่าไหนที่เราทำไม่ค่อยได้ และพยายามจำจำนวนครั้งว่าได้กี่ครั้งไว้คร่าวๆครับ) แม้จะทำได้ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เหนื่อยนะครับ หมดแรงเลย แต่.... เรายังเหลือแบบฝึก Cardio Abs มองไปที่พื้นเหงื่อเต็มไปหดมแล้วครับ เช็ดพื้นก่อน พักดื่มน้ำ แล้วก็เริ่มเลยครับ วันนี้ผมพักน้อยกว่าเที่ยวก่อนนะครับประมาณ 2-3 นาทีได้ เริ่มต้นพอไหว แต่มาถึงตรงกระโดดยกแขนแตะเข่านี่ อื้อหือเหนื่อย .. คิดในใจว่าสู้โว้ย!! และพวกใน DVD ไม่ได้ทำต่อแบบเรายังคงดูฟิต (แอบต่อว่า 55) แต่ผลก็ดีกว่าครั้งก่อนครับทำตามได้หมด และที่ดีกว่าครั้งก่อนมากคือ ตอนนั่งเอน พึ่งได้จุดสังเกตมา ในวันนี้คือ แขนเราจับหลังเข่าแล้วเอนตัวไปข้างหลังจนแขนตึง เน้นว่าแขนตึงจุดนั้นคือจุดที่กำลังเกร็งตรงท้องเลยครับ และเราต้องทำทุกท่าในการเอนแบบนี้ พยายามเชคด้วยครับ เพราะหากเราเอนน้อยกว่านี้ผลที่จะได้ตรงท้องจะรู้สึกว่าสบายมากในการทำแต่ละท่า ทั้งที่จริงแล้วแต่ละท่า .. ตึง ตึง เกร็ง มากมาก พยายามทำตามเท่าที่ทำได้มากที่สุดครับไม่ไหวก็รวบตัวเข้ามานั่งก่อน วันนี้ผมรู้สึกว่าได้ออกกำลังกล้ามท้องแบบเต็มๆกว่าครั้งแรกมาก รู้สึกดีครับ
สภาพร่างกายวันนี้ ไม่ได้ฟิตเต็มร้อย แต่ก็ไม่ได้ล้ามากครับ แต่แอบรู้สึกอ้วนๆ จากการจัดหนักมา 2 วัน เลยพยายามลดพวกของหวานวันนี้ สรุปตอนนี้หลังออกกำลังรู้สึกเฟิร์มแล้ว คือ คล่องตัวนั่นแหละครับ
อาหารที่ทาน เช้านี้สลัดผัก แซนวิชทูน่า กาแฟเย็น (ซึ่งผมตั้งไว้ถึงเย็น ทานไม่หมดแก้วนะครับ ค่อยๆดื่ม เวลาอยากของหวาน) กลางวันข้าวคะน้าหมูสับไข่ต้มปกติครับ บ่ายมีซาลาเปาตั้ง 2 ลูก (หมูสับ เผือก) แหนะ เย็นเมื่อกี้ทานสลัดผักไข่ลวกเฉพาะไข่ขาว ปลาอินทรีย์ ส้มโอ ครับ วันนี้สุขภาพนิดนึงตามที่บอกว่ารู้สึกบวมๆ
เลยครึ่งทางของเดือนแรกไปแล้วนะครับ แต่ผนทางอีกยาวไกล การออกกำลัง INSANITY ดูเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ขาดไม่ได้ในแต่ละวันไปแล้ว หลังจากที่เคยติดการวิ่ง ผมพยายามมีเป้าหมายให้กับตัวเองในการออกกำลังหรืออะไรก็ตาม ทุกปีนะครับ ปีก่อนคือการพิชิตมาราธอน 42.195 km ซึ่งก็ผ่านไปได้แบบแทบแย่ แล้วพอผ่านมาครึ่งปีนี้หาเป้าหมายอะไรไม่ได้ก็เหมือนขาดแรงจูงใจ จนมาพบ INSANITY ปีนี้ผมจะพิชิตให้ได้ก่อนสิ้นปีครับ ผมว่าคนเราจะต้องมีเป้าหมายในการออกำลังเพื่อกระตุ้นตัวเราให้ออกต่อไปในวันที่ขี้เกียจ สู้ๆครับ No Pain No Gain ..Practice is Permanent
(=^_^=) Share ประสบการณ์ INSANITY วันที่ 17 ปรับวันเพื่อไม่ให้ งง (=^_^=)
วันที่ 1-5
http://ppantip.com/topic/31145864
วันที่ 6
http://ppantip.com/topic/31152251
วันที่ 7
http://ppantip.com/topic/31156749
วันที่ 8
http://ppantip.com/topic/31160474
วันที่ 9
http://ppantip.com/topic/31162386
วันที่ 10
http://ppantip.com/topic/31167279
วันที่ 11
http://ppantip.com/topic/31171556
วันที่ 12
http://ppantip.com/topic/31184664
วันที่ 13
http://ppantip.com/topic/31186954
วันที่ 14
http://ppantip.com/topic/31190555
ขอปรับเป็น วันที่ 17 ของการออกกำลัง 05 - Pure Cardio & 06 - Cardio Abs
เนื่องจากกลัวเพื่อนๆ จะสับสนหากดูตามของผมกับโปรแกรม INSANITY เพราะผมมีพักไม่ตรงกับวันตามตารางฝึก เลยขอปรับวันของผมให้ตรงกับ ในตารางปฏิทินแบบฝึก เพื่อเพื่อนๆจะได้นำไปเทียบเคียงได้นะครับ วันนี้จะมาขอแชร์เรื่องการวัดผลของการลดสัดส่วน เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือลดน้ำหนัก ที่หลายๆคนปรารถนา ว่าเราจะวัดยังไงที่จะทำให้เรารู้ว่าเราก้าวหน้าขึ้น เพื่ออย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้เราทำต่อไปใช่มั้ยครับ อันนี้เป็นวิธีที่ผมใช้นะครับ ผมเรียกว่าจุดสังเกต มีหลักๆดังนี้
1 คลาสสิคสุดๆคือน้ำหนัก อันนี้บางทีอาจจะวัดอะไรได้ไม่มาก เพราะหนึ่งกว่าจะเห็นผลว่าน้ำหนักลดก็นาน สองบางทีสัดส่วนเราดีขึ้นแต่ไม่จำเป็นว่าน้ำหนักต้องลดนะครับ เอาเป็นว่าอันนี้ข้ามไปเอาไว้ใช้เมื่อผ่านไปสัก 2 อาทิตย์
2 ผมใช้อยู่ คือ หากางเกง เสื้อ ที่เราใส่แล้วรู้สึกฟิต เข้าใจว่าเพื่อนๆที่หันมาออกกำลังเพราะอยากลดสัดส่วน มักเกิดจากการใส่กางเกงแล้วรู้สึกแน่น หรือเสื้อแล้วอึดอัด พวกนั้นนี่แหละครับตัววัดของเรา เมื่อผ่านไปสักอาทิตย์ ลองใส่อีกที ไปเรื่อยๆ มันเห็นชัดกว่าน้ำหนักอีกนะครับ เพราะตอนนี้ผมใส่เสื้อที่เคยฟิตก่อนออกได้สบายแล้ว
3 อันนี้ยากหน่อย แต่ก็เห็นแบบวันต่อวันเลย คือ การวัดด้วยสายวัดตามตำแหน่งหลักๆ เอว แขน รอบอก เป็นต้น อันนี้แล้วแต่ใครอยากวัดส่วนไหนที่รู้สึกว่ามันใหญ่โตไปครับ
4 ความรู้สึก อันนี้เป็นนามธรรมใครก็วัดไม่ได้นอกจากเราเองครับ คือ ผมเชื่อว่าเราจะรู้ตัวเราเองว่าแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น เจ๋งขึ้น หรือเปล่า ผมว่าอันนี้บอกได้ชัดมากๆ ถ้าเราไม่เข้าข้างตัวเองนะครับ ยิ่งเจอแบบฝึก INSANITY ยิ่งเห็นชัดใหญ่เลยว่าเราทำได้ดีขึ้นมั้ย
5 รูปถ่าย ถ่ายมันถูกวันเลยครับ หลังออกกำลัง หน้าท้อง ไหล่ อก ภาพรวม เก็บไว้ครับ แล้วมาดูว่าดีขึ้นมั้ย
ตอนนี้คิดออกอยู่ 5 วิธีนะครับ เกริ่นมายาวเข้าเรื่องกันครับ หลักสูตรวันนี้เป็นการกลับมาของ 2 แบบฝึกในวันเดียว เป็นวันที่หมายมั่นว่าจะดีกว่าเดิมให้ได้ เข้าสู่แบบฝึกแรก Pure Cardio การวอร์มอัพผ่านไปได้ด้วยดีครับ จุดที่เพิ่มเติมคือผมพยายามจับจังหวะการหายใจ มีสมาธิกับแต่ละท่ามากขึ้น เข้าสู่ท่ายืดเหยียดทำได้พอสมควรครับผมมีปัญหาการยืดเหยียดอย่างที่เคยบอกไปแต่ก็พยายามทำตามหายใจตาม มาต่อที่การออกแบบ NON STOP ดีขึ้นมากครับ ทำตามได้ใกล้เคียงมากกว่าเดิม มีแค่สอง สามท่าสุดท้าย ที่มีการวิดพื้นที่ยังทำตามได้ไม่หมด แต่ก็ได้มากกว่าคราวก่อนประมาณ 5 ครั้งในแต่ละท่านะครับ (ผมพยายามจำว่าท่าไหนที่เราทำไม่ค่อยได้ และพยายามจำจำนวนครั้งว่าได้กี่ครั้งไว้คร่าวๆครับ) แม้จะทำได้ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เหนื่อยนะครับ หมดแรงเลย แต่.... เรายังเหลือแบบฝึก Cardio Abs มองไปที่พื้นเหงื่อเต็มไปหดมแล้วครับ เช็ดพื้นก่อน พักดื่มน้ำ แล้วก็เริ่มเลยครับ วันนี้ผมพักน้อยกว่าเที่ยวก่อนนะครับประมาณ 2-3 นาทีได้ เริ่มต้นพอไหว แต่มาถึงตรงกระโดดยกแขนแตะเข่านี่ อื้อหือเหนื่อย .. คิดในใจว่าสู้โว้ย!! และพวกใน DVD ไม่ได้ทำต่อแบบเรายังคงดูฟิต (แอบต่อว่า 55) แต่ผลก็ดีกว่าครั้งก่อนครับทำตามได้หมด และที่ดีกว่าครั้งก่อนมากคือ ตอนนั่งเอน พึ่งได้จุดสังเกตมา ในวันนี้คือ แขนเราจับหลังเข่าแล้วเอนตัวไปข้างหลังจนแขนตึง เน้นว่าแขนตึงจุดนั้นคือจุดที่กำลังเกร็งตรงท้องเลยครับ และเราต้องทำทุกท่าในการเอนแบบนี้ พยายามเชคด้วยครับ เพราะหากเราเอนน้อยกว่านี้ผลที่จะได้ตรงท้องจะรู้สึกว่าสบายมากในการทำแต่ละท่า ทั้งที่จริงแล้วแต่ละท่า .. ตึง ตึง เกร็ง มากมาก พยายามทำตามเท่าที่ทำได้มากที่สุดครับไม่ไหวก็รวบตัวเข้ามานั่งก่อน วันนี้ผมรู้สึกว่าได้ออกกำลังกล้ามท้องแบบเต็มๆกว่าครั้งแรกมาก รู้สึกดีครับ
สภาพร่างกายวันนี้ ไม่ได้ฟิตเต็มร้อย แต่ก็ไม่ได้ล้ามากครับ แต่แอบรู้สึกอ้วนๆ จากการจัดหนักมา 2 วัน เลยพยายามลดพวกของหวานวันนี้ สรุปตอนนี้หลังออกกำลังรู้สึกเฟิร์มแล้ว คือ คล่องตัวนั่นแหละครับ
อาหารที่ทาน เช้านี้สลัดผัก แซนวิชทูน่า กาแฟเย็น (ซึ่งผมตั้งไว้ถึงเย็น ทานไม่หมดแก้วนะครับ ค่อยๆดื่ม เวลาอยากของหวาน) กลางวันข้าวคะน้าหมูสับไข่ต้มปกติครับ บ่ายมีซาลาเปาตั้ง 2 ลูก (หมูสับ เผือก) แหนะ เย็นเมื่อกี้ทานสลัดผักไข่ลวกเฉพาะไข่ขาว ปลาอินทรีย์ ส้มโอ ครับ วันนี้สุขภาพนิดนึงตามที่บอกว่ารู้สึกบวมๆ
เลยครึ่งทางของเดือนแรกไปแล้วนะครับ แต่ผนทางอีกยาวไกล การออกกำลัง INSANITY ดูเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ขาดไม่ได้ในแต่ละวันไปแล้ว หลังจากที่เคยติดการวิ่ง ผมพยายามมีเป้าหมายให้กับตัวเองในการออกกำลังหรืออะไรก็ตาม ทุกปีนะครับ ปีก่อนคือการพิชิตมาราธอน 42.195 km ซึ่งก็ผ่านไปได้แบบแทบแย่ แล้วพอผ่านมาครึ่งปีนี้หาเป้าหมายอะไรไม่ได้ก็เหมือนขาดแรงจูงใจ จนมาพบ INSANITY ปีนี้ผมจะพิชิตให้ได้ก่อนสิ้นปีครับ ผมว่าคนเราจะต้องมีเป้าหมายในการออกำลังเพื่อกระตุ้นตัวเราให้ออกต่อไปในวันที่ขี้เกียจ สู้ๆครับ No Pain No Gain ..Practice is Permanent