อุ่นไอรัก บทที่ ๒๔

กระทู้สนทนา
อุ่นไอรัก

ด้วยไออุ่นแห่งรัก หัวใจที่เคยกระด้างเย็นชา จึงอบอุ่นและนุ่มนวล



มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก

มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ


เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://ppantip.com/topic/30777946

บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


อุ่นไอรัก บทที่ ๒๔


สองหนุ่มสาวเดินเคียงกันออกมาบนทางเดินอาคารผู้โดยสารขาเข้าหลังจากเครื่องบินลงจอด โดยชายหนุ่มเป็นคนถือกระเป๋าเดินทางทั้งใบเล็กของตนเองและใบใหญ่กว่าของหญิงสาว และเพราะมีเพียงกระเป๋าสองใบที่ถือขึ้นเครื่องด้วยเท่านั้นจึงไม่ต้องเสียเวลารอรับกระเป๋าที่สายพาน ทำให้ออกมาจากอาคารได้ภายในไม่กี่นาทีหลังเครื่องบินลงจอด และทันทีที่เดินออกมาจนถึงบริเวณจุดนัดพบ ก็พบกับเจ้าของคอร์เนลลี่และภรรยาที่มารอรับอยู่อย่างที่นัดกันไว้

“กลับคอร์เนลลี่กันเลยก็แล้วกันนะ จะได้มีเวลาพักเหนื่อยหน่อยก่อนถึงเวลาอาหารเย็น” ราฟาเอลว่าซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย ทั้งหมดจึงเดินตรงไปยังลานจอดรถของสนามบิน ซึ่งรถคันใหญ่ของเจ้าของคอร์เนลลี่จอดอยู่

“นายจะพักที่ไหน” ราฟาเอลหันไปถามคนที่นั่งคู่คนขับขณะนำรถออกจากลานจอดรถมุ่งหน้าสู่คอร์เนลลี่เอสเตท ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก

“คอร์เนลลี่คืนนี้” มาร์โคตอบ

“จะพักที่บ้านไหม”

“ที่ลิตเติลฮัทดีกว่าครับ”

“อย่างนั้นก็ตามใจ แต่ถ้าจะพักที่บ้านก็ตามสบาย” เจ้าของบ้านเสนอ ก่อนจะกล่าวต่อยิ้มๆ

“ว่าไปคืนนี้นายอาจจะไม่ได้กลับลิตเติลฮัทก็ได้” เขาหมายถึงอาจจะอยู่ดื่มที่คอร์เนลลี่ทั้งคืนอย่างที่เคยทำกันบ่อยๆ ในตอนที่ทั้งเจ้าของและผู้จัดการไร่ยังเป็นหนุ่มโสด

“ถ้าอย่างนั้นเชิญอยู่ในห้องนั่งเล่นกันสองคน ฉันจะนอนกับไลลาในห้องค่ะ” ลิลลดาส่งเสียงมาจากด้านหลังเมื่อเดาได้ว่าสามีเริ่มมีความคิดจะดื่มทั้งคืน เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่ทำหน้าที่ขับรถได้ทันที ราฟาเอลกระซิบกับมาร์โคเบาๆ

“ถ้าไม่อยากมีนายเหนือหัว นายไม่ต้องรีบแต่งนะ” ซึ่งเรียกรอยยิ้มจากเสือยิ้มยากที่นั่งอยู่ข้างๆได้ มาร์โคหันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่บนเบาะผู้โดยสารด้านหลัง นัยน์ตาเปล่งประกายวิบวับ ทำให้คนที่สบตากับเขาอย่างไม่ตั้งใจถึงกับหน้าร้อนวูบวาบไปทีเดียว




รถยนต์คันใหญ่ของราฟาเอลนำพาคนทั้งสี่มาจอดลงหน้าลิทเติลฮัท ซึ่งทั้งหมดก็เข้าไปในบ้านพักพนักงานซึ่งบาร์บาร่าแม่บ้านประจำคอร์เนลลี่เอสเตทกำลังรออยู่

“สวัสดีครับบาร์บ สบายดีหรือเปล่าครับ” มาร์โคเดินไปกอดทักทายและจูบแก้มหญิงสูงวัยที่เคยอยู่ร่วมบ้านกันอย่างสนิทสนม ก่อนที่จะหันกลับมาแนะนำหญิงคนรักให้แม่บ้านชรารู้จัก

“นี่ไลลาครับบาร์บ ไลลา นี่บาร์บ แม่บ้านของคอร์เนลลี่ เธอดูแลผมมาตั้งแต่เด็กๆ”

“สวัสดีค่ะบาร์บ ยินดีที่ได้พบกันเสียทีค่ะ มาร์โคพูดถึงคุณบ่อยมาก” ไลลาก้าวเข้าไปสวมกอดทักทายกับคุณแม่บ้าน ซึ่งฝ่ายนั้นก็ตอบกลับอย่างมีไมตรี

“หวังว่าจะพูดแต่เรื่องดีๆนะคะ” แม่บ้านพูดล้อๆอย่างอารมณ์ดี

“ผมบอกว่า บาร์บใจร้าย ตอนเด็กๆชอบเก็บผมไว้ในครัวไม่ยอมให้ไปวิ่งเล่น” มาร์โคพูดยิ้มๆ

“อย่าไปเชื่อมาร์โคนะคะ ฉันไม่เคยเก็บไว้ มีแต่ไล่ก็ไม่ไป ชอบเข้ามาแอบกินขนมในครัว” คุณแม่บ้านตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ เล่นเอาราฟาเอลถึงกับหัวเราะพรืด นึกถึงสมัยเด็กๆที่เขากับวิทตอเรียใช้ให้มาร์โคมาแอบหยิบคุกกี้ในโถที่แม่บ้านประจำคอร์เนลลี่อบไว้ไปแบ่งกันกิน เพราะมาร์โคเป็นคนโปรดทำให้ถึงคุณแม่บ้านจะจับได้ก็ไม่โดนอะไรมากนัก มีแต่จะได้ขนมมากขึ้นไปอีกเท่านั้น

“แล้วนี่จะพักที่ไหน ห้องเดิมหรือเปล่า ป้าจะไปทำเตียงไว้ให้” คุณแม่บ้านถามและเสนออย่างใจดี

“ครับบาร์บ ขอบคุณมาก” มาร์โคตอบ พลางก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบขึ้นมาถือ ก่อนจะหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก

“ผมเอากระเป๋าไปเก็บในห้องก่อนนะครับไลลา นั่งคุยกับคุณราฟกับลิลลี่ไปก่อน” บอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนเดิมที่พักอยู่ในตอนที่ยังอยู่คอร์เนลลี่พร้อมกับคุณแม่บ้าน

ราฟาเอลเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาเครื่องดื่มมาบริการสองสาว ในขณะที่เพื่อนรักทั้งสองก็นั่งคุยกันถามข่าวคราวในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน ซึ่งดูเหมือนเจ้าบ้านจะเป็นฝ่ายซักไซ้ไล่เลียงผู้มาเยือนเสียมากกว่า

“อ๊ะๆ นอนห้องเดียวกัน แบบนี้แสดงว่าเพื่อนสาวแสนสนิทของฉันจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ใช่ไหม” ลิลลาถามด้วยน้ำเสียงชวนฝัน จนไลลาอดหัวเราะให้กับท่าทางของเพื่อนไม่ได้

“อีกนานย่ะ” ไลลาว่า ไม่อยากจะเพ้อฝันไปกับเพื่อนสาวมากนัก ลิลลดามองอะไรก็เป็นเทพนิยายไปเสียหมด ไม่ใช่ทุกคนจะมีชีวิตรักชวนฝันราวเทพนิยายเหมือนเธอกับเจ้าของคอร์เนลลี่เสียหน่อย

“ไม่นานหรอก มาร์โคถึงกับพาเธอมาเปิดตัวแบบนี้ อีกไม่นานต้องมีข่าวดีแน่นอน ฉันรีบไปเลือกชุดไว้ดีกว่า” ลิลลดาว่าพลางหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจกับความคิดของตนเอง ไลลาถึงกับส่ายศีรษะ

“ไม่พูดกับเธอแล้ว เพ้อเจ้อ” แกล้งว่าอย่างงอนๆ ขณะเดียวกับที่ราฟาเอลเดินกลับมาพร้อมขวดและแก้วไวน์ในมือ หญิงสาวจึงลุกขึ้นเดินไปรับแก้วไวน์จากเจ้าของคอร์เนลลี่และเดินกลับมาวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟา

“ชาร์ดอนเนย์ไม่บ่มโอ๊ค ลองชิมดูสิครับ” ราฟาเอลบอกพลางรินไวน์ใส่แก้วสามใบบนโต๊ะที่หญิงสาวเพิ่งวางลงไป

“อากาศร้อนๆแบบนี้ ชาร์ดอนเนย์เย็นๆเหมาะที่สุด” ราฟาเอลว่า ทำท่าทางเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ลองลิ้มรสไวน์ตัวใหม่ของเขา สายตาเหลือบไปเห็นมาร์โคกำลังเดินออกมาจากห้องพอดี จึงร้องบอกผู้จัดการไร่หนุ่ม

“มาร์โค หยิบชาร์ดอนเนย์ในตู้เย็นมาอีกขวดสิ หยิบแก้วมาด้วย เผื่อบาร์บด้วยนะ”

มาร์โคทำตามเจ้านายอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มวางแก้วอีกสองใบลงบนโต๊ะหน้าโซฟาที่สองสาวนั่งอยู่ พลางถามผู้เป็นนาย

“ยัยตัวร้ายไม่อยู่เหรอครับ”

ราฟาเอลหัวเราะหึๆก่อนจะตอบ

“อยู่ที่ร้าน พ่อกับแม่เอาจริงกับยัยวิคกี้แล้ว ตอนนี้เลยไม่กล้าหนีร้านไปไหนอีก”

“ยังไงครับ”

“ก็หลังกลับจากควีนส์แลนด์ พ่อแม่ก็จะไม่ให้เงินยัยวิคกี้แล้วถ้าไม่ทำให้ร้านมีกำไร เพราะที่ผ่านมาขาดทุนจนปิดร้านยังจะดีเสียกว่า พ่อกับแม่เลยยื่นเงื่อนไขให้ ร้านต้องมีกำไรอย่างน่าพอใจภายในหนึ่งปี ไม่อย่างนั้นยัยวิคกี้ต้องออกไปหางานทำ คอร์เนลลี่ไม่ให้เงินแล้ว” ราฟาเอลอธิบายยิ้มๆ ท่าทางพอใจเจือขบขันกับการที่น้องสาวถูกดัดหลังอยู่ไม่น้อย

“แล้วรายนั้นยอมเหรอครับ” มาร์โคถามอย่างรู้จักคนที่กำลังพูดถึงดี

“แรกๆก็พยศเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อรู้ว่าพ่อแม่เอาจริง ยัยวิคกี้ก็ต้องยอม เดี๋ยวไว้รอถามกันเองเย็นนี้” ราฟาเอลบอก วิทตอเรียจะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นที่บ้านหลังเล็กในไร่กับคนอื่นด้วย

“แล้วนี่นายจะไปหาพ่อแม่นายเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้ครับ ส่งคุณกับลิลลี่ขึ้นเครื่องแล้วผมกับไลลาจะไปหาพ่อแม่ เสียดายเย็นนี้พ่อกับแม่มีธุระเลยไม่ได้มากินข้าวเย็นด้วย” มาร์โคบอก พอดีกับที่บาร์บาร่าเดินออกมาจากห้องนอนของชายหนุ่มหลังจากทำเตียงเสร็จ มาร์โคจึงรินไวน์ให้ พลางถาม

“บาร์บทำอะไรกินครับเย็นนี้”

“แกะอบจ้ะ ป้าเอาเข้าเตาอบไปตั้งแต่บ่ายสามละ อีกเดี๋ยวจะต้องไปดู” บาร์บาร่าตอบ

“เดี๋ยวดื่มไวน์แก้วนี้เสร็จก็ไปพร้อมกัน ให้มาร์โคกับไลลาพักเหนื่อยก่อน แล้วไปเจอกันที่บ้านตอนหกโมงนะ” ราฟาเอลพูดกับคุณแม่บ้านก่อนจะหันมาบอกชายหนุ่มผู้เป็นแขก

“ครับ” มาร์โครับคำสั้นๆ

หลังจากทุกคนดื่มไวน์ในแก้วหมด ราฟาเอล ลิลลดาและบาร์บาร่าก็ไปที่บ้านหลังเล็กในไร่ที่เจ้าของไร่และภรรยาอาศัยอยู่ ส่วนมาร์โคหันมาถามหญิงสาวที่ตอนนี้นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกันกับเขา

“เหนื่อยไหมครับไลลา มีเวลาชั่วโมงกว่าๆกว่าจะหกโมง อยากนอนพักหรือเปล่า”

“อาบน้ำหน่อยดีกว่าค่ะ ร้อนเหลือเกิน” ไลลาตอบ หญิงสาวรู้สึกว่าอากาศต้นเดือนพฤศจิกายนของเวสเทิร์นออสเตรเลีย ร้อนในระดับที่คนควีนส์แลนด์อย่างเธอแทบจะทนไม่ไหวเลยทีเดียว และการอาบน้ำให้เย็นสบายก่อนที่จะไปร่วมรับประทานอาหารเย็นกับคนที่คอร์เนลลี่ก็ดูจะเป็นความคิดที่ดูเข้าที

“เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก” มาร์โคพูด นัยน์ตาสีเขียวมรกตส่งประกายวิบวับ ไลลาถึงกับส่งค้อนวงใหญ่ให้ชายหนุ่ม

“ฉันหมายความว่าอาบน้ำจริงๆค่ะ”

“ก็อาบน้ำจริงๆ คุณคิดว่าผมจะทำอะไร” ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ พร้อมทำหน้าซื่อ แต่ไลลารู้จักเขาดีขึ้นมากจนพอรู้ว่าสายตาวิบวับที่เห็นอยู่ตรงหน้าหมายความว่าอย่างไร

“ถ้าคุณยืนยันว่าอาบน้ำจริงๆไม่มีอย่างอื่นก็แปลว่าไม่มีอย่างอื่นนะคะ” หญิงสาวพูดน้ำเสียงขึงขัง ทำให้คนแกล้งตีหน้าซื่อต้องทำตาปรอยและส่งเสียงออดอ้อนอย่างที่ไลลาไม่อยากจะเชื่อว่าจะออกมาจากปากของผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมที่เธอเคยรู้จัก

“มีเวลาตั้งชั่วโมงกว่า อาบน้ำด้วย ทำอย่างอื่นด้วย ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ ไลลาถึงกับหัวเราะกิ๊ก

“ก็แค่เนี้ย จะทำเป็นตีหน้าซื่อทำไม”

“งั้นผมไม่เกรงใจล่ะนะ” ว่าพลางอุ้มร่างระหงขึ้นมาในอ้อมแขนและพาเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากห้องนั่งเล่นนัก และไม่กลับออกมาอีกจนถึงเวลาอาหารเย็นเลยทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่