อุ่นไอรัก บทที่ ๒๗

กระทู้สนทนา
อุ่นไอรัก

ด้วยไออุ่นแห่งรัก หัวใจที่เคยกระด้างเย็นชา จึงอบอุ่นและนุ่มนวล



มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก

มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ


เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://ppantip.com/topic/30777946

บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อุ่นไอรัก บทที่ ๒๗


“มาร์โค มาร์โคคะ” มาร์โครู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงเรียกของคนร่วมเตียงพร้อมสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้า ชายหนุ่มลืมตามองคนที่ปลุกเขาด้วยสายตาเลื่อนลอย ใช้เวลาพักหนึ่งจึงเริ่มฉายแววจดจำได้

“ไลลา” พึมพำเรียกชื่อเสียงเบา

“ฝันอะไรหรือเปล่าคะ คุณเหมือนละเมอ” ไลลาว่า จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนรักด้วยสายตาห่วงใย

“ผมพูดอะไรหรือเปล่าครับ” มาร์โคถาม นัยน์ตาไหววูบ ก่อนจะหลุบตาลงต่ำหลบสายตาของคนตรงหน้า เป็นบุคลิกที่ไม่ใช่มาร์โคเอาเสียเลย

“ฟังไม่ได้ศัพท์น่ะค่ะ” หญิงสาวตอบ “มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีอะไรครับ แค่ฝัน นอนต่อเถอะ” ตอบแล้วก็กว้าคนตัวบางดึงให้เข้ามานอนแนบชิด ชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนจนแน่น ซุกใบหน้าลงบนกลุ่มผมนุ่ม พึมพำเสียงเบา

“นอนนะครับไลลา ขอโทษที่ทำให้ตื่น” เมื่อชายหนุ่มตอบเช่นนั้นไลลาจึงไม่ถามอะไรต่อ แม้ว่าจะมีคำถามและข้อกังขาอยู่ในหัวมากมายเหลือเกิน แต่ถ้าหากมาร์โคอยากให้เธอรับรู้ เขาคงจะบอกเธอเอง ตอนนี้เธอรู้เพียงว่าจะต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชื่ออิสซาเบลลาที่เชฟคนใหม่ของวิทตอเรียเอ่ยถึงอย่างแน่นอน เพราะมาร์โคดูแปลกไปนับตั้งแต่นั้น เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไร และเขาก็ดูเหมือนจะไม่อยากให้เธอรู้เสียด้วย

แม้จะบอกคนในอ้อมแขนให้นอนต่อ แต่มาร์โคเองกลับเป็นฝ่ายนอนไม่หลับ มันกลับมาอีกแล้ว ความฝันที่เคยตามหลอกหลอนเขาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รุนแรงครั้งนั้น แม้ครั้งนี้จะเป็นเพียงความฝันธรรมดา ไม่ใช่ความฝันที่เป็นภาพของเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่ชายหนุ่มรู้ว่าอีกไม่นาน ความฝันนั่นจะต้องกลับมาหลอกหลอนเขาอีกแน่

“อาการอาจจะกลับมาได้ทุกเมื่อหากมีสิ่งกระตุ้น เพราะฉะนั้นหากพบว่าอาการกลับมา เริ่มกลับมาฝันร้ายอีก ต้องบอกให้หมอรู้”

คำพูดของจิตแพทย์ที่บอกกับเขาเมื่อแจ้งกับเขาว่า เขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ไม่ใช่ว่าอาการที่เขาเป็นจะไม่กลับมาอีกหากว่ามีสิ่งกระตุ้น และตอนนี้ที่เขาเริ่มฝันถึงอิสซาเบลลาทั้งๆที่แทบจะลืมเธอไปแล้ว คงจะหมายความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากว่าฝันร้ายที่เขาเคยลืมกำลังจะกลับมา เพียงเพราะพบเจอกับน้องชายของอิสซาเบลลาและฝ่ายนั้นเอ่ยถึงเธอเท่านั้นเอง

แต่มันก็เหมาะสมแล้วกับความผิดของเขา ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขมขื่น ทุกอย่างเป็นความผิดของเขา แม้เขาจะเอาชนะอาการผิดปกตินั่นมาได้หลายปี แต่สุดท้ายมันก็ตามมาเอาคืนกับเขา ซึ่งก็สาสมแล้วกับสิ่งที่เขาทำ สาสมแล้วที่เขาจะต้องอยู่กับฝันร้ายไปตลอดชีวิต แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว เขามีไลลา เขากำลังจะพาไลลาให้มาร่วมทุกข์ทรมานกับเขาใช่ไหม เขาไม่น่าเลย ไม่น่าตายใจว่าฝันร้ายนั่นจะไม่ตามมาหลอกหลอกเขาอีก ไม่น่าหลงดีใจว่าเขาคงจะเอาชนะมันได้แล้ว เขาไม่ควรมีความรัก ไม่ควรมีสัมพันธ์จริงจังกับใคร ไม่ควรจะดึงผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาร่วมรับผลของความเลวร้ายอันเกิดจากการกระทำของเขาเลย

ผมจะทำยังไงดีไลลา ชายหนุ่มพึมพำในใจ กระชับอ้อมแขนให้แน่นเข้าตามความรู้สึกภายใน ผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่เขารัก ผู้หญิงที่เขาพาเธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอันเลวร้ายของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจเลย

เขาจะทำอย่างไรดี




มาร์โคลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนสายด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นกว่าตอนก่อนหลับลงอีกครั้งมาก ทั้งนี้เพราะเขาหลับสนิทโดยไม่มีฝันใดๆมารบกวน และหวังว่ามันจะเป็นเพียงความฝันที่บังเอิญเกิดขึ้นเพราะมีเรื่องให้ต้องระลึกถึงผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น หวังว่ามันจะไม่ใช่จุดเริ่มต้นของฝันร้ายอย่างที่เขาเกรงกลัว

“อรุณสวัสดิ์ครับไลลา” ทักทายคนที่เพิ่งลืมตาตื่นหลังจากที่นอนมองใบหน้าหลับตาพริ้มเป็นนานสองนานอย่างไม่รู้เบื่อ มองเห็นไลลายิ้มรับคำทักทายของเขาด้วยท่าทางงัวเงีย อดไม่ได้ที่จะโน้มใบหน้าเข้าหา มอบจุมพิตทักทายด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในอก เขามองเห็นภาพตัวเองตื่นขึ้นมานอนมองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ข้างๆในทุกๆวัน มันคงจะเป็นชีวิตที่มีความสุขมากทีเดียว ถ้าหากจะไม่มีอดีตอันเลวร้ายของเขาที่จะมาทำให้ภาพความสวยงามนั่นแปดเปื้อนไป

“กี่โมงแล้วคะมาร์โค” ไลลาถาม มองใบหน้าสดชื่นและแววตาเป็นประกายของคนรักตรงหน้าด้วยความรู้สึกสบายใจขึ้น มาร์โคกลับมาเป็นมาร์โคคนเดิมที่เธอรู้จัก คงไม่มีอะไรอย่างที่เธอคิดมากไปก่อนกระมัง

“เก้าโมงครึ่งครับไลลา มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวครึ่งชั่วโมง” ชายหนุ่มตอบก่อนจะพลิกตัวและก้าวลงจากเตียง เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ ไลลามองตามชายหนุ่มแล้วตัดสินใจเดินตามเข้าไป หากจะรอให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอค่อยเริ่มเตรียมตัว ท่าทางครึ่งชั่วโมงจะไม่ทันแน่




“อ้าว มาแล้วเหรอลูก มาร์โค ไลลา มาเลยมา มานั่งตรงนี้” คุณมาเรียทักทายลูกชายกับว่าที่ลูกสะใภ้เมื่อเห็นคนทั้งสองเดินจูงมือกันออกมาจากในบ้าน คุณมาเรียกำลังจัดโต๊ะอาหารเช้าซึ่งเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารเอาท์ดอร์จัดวางอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีของสวนหลังบ้าน เลยไปไม่ไกลนักเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ไลลาและมาร์โคนั่งลงตามคำบอกอย่างว่าง่าย

“อีกเดี๋ยวพ่อคงมา รออยู่นี่ล่ะ” บอกก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปในบ้าน

“ผมช่วยครับแม่” มาร์โคเสนอ ชายหนุ่มลุกตามมารดา พอดีกับที่บิดาเดินตรงมา จึงหันไปบอกไลลา

“คุยกับพ่อไปก่อนนะครับไลลา เดี๋ยวผมมา”

ไลลานั่งคุยกับคุณเปาโลไม่นาน มาร์โคก็เดินออกมาจากในบ้าน ในมือมีถ้วยกาแฟทั้งสองข้าง ชายหนุ่มวางถ้วยกาแฟอันมีฟองนมฟูฟ่องโรยด้วยผงโกโก้ลงบนโต๊ะตรงหน้าบิดาและคนรัก ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง และไม่นานก็กลับออกมาพร้อมถ้วยกาแฟอีกสองถ้วย ตามมาด้วยมารดาที่ถือถาดบรรจุครัวซองท์มาหลายชิ้น

“อาหารเช้าแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆครับ” มาร์โคบอกหญิงสาว

“คัปปูชิโน่กับครัวซองท์เหรอคะ”

“คัปปูชิโน่กับบริโอเช่ต่างหาก” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ เมื่อเห็นสีหน้าไม่เข้าใจของหญิงสาวก็หัวเราะก่อนจะอธิบาย

“ครัวซองท์น่ะของฝรั่งเศสครับ ของอิตาเลี่ยนคือบริโอเช่ หรือทางตอนใต้เรียกคอร์เนตติ อาหารเช้าแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ คับปูชิโน่กับบริโอเช่”

“อ่อ อย่างเดียวกันแต่เรียกชื่อไม่เหมือนกันเหรอคะ”

“คนละอย่างครับไลลา อย่าพูดให้แม่ได้ยินเชียวว่าบริโอเช่กับครัวซองท์เป็นอันเดียวกัน เดี๋ยวยิ้มอน” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ หันไปมองมารดาอย่างล้อๆ คุณมาเรียเอ็ดลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก

“มาร์โคก็ล้อไลลาอยู่ได้” ก่อนจะหันไปยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน

“บริโอเช่ต่างกับครัวซองท์ของฝรั่งเศสตรงที่ใส่ไข่ด้วยจ้ะ ทำให้นุ่มกว่ามาก ลองชิมดูสิ” คุณมาเรียว่าพลางคีบบริโอเช่จากถาดใส่ในจานใบเล็กให้หญิงสาว

“บริโอเช่กินเปล่าๆ กับคัปปูชิโน่เป็นอาหารเช้าแบบอิตาเลี่ยน”

ไลลายกบริโอเช่ในจานที่คุณมาเรียวางลงตรงหน้าขึ้นกัดและรู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นของเนื้อแป้ง กลิ่นหอมของเนย และรสชาติหวานอร่อย แตกต่างกับครัวซองต์แบบฝรั่งเศสอย่างที่เคยกิน และรู้สึกว่าชอบความหอมนุ่มของบริโอเช่มากกว่า ยิ่งกินกับคัปปูชิโน่ยิ่งรู้สึกเข้ากันและถูกปากยิ่งนัก

“วันนี้วางแผนจะไปไหนกันจ๊ะ” คุณมาเรียหันไปถามลูกชาย เมื่อมองดูว่าที่ลูกสะใภ้จัดการบริโอเช่จนพออกพอใจแล้ว

“จะพาไลลาไปหาปู่กับย่าครับ” ชายหนุ่มตอบ

“ดีเลย ย่าบ่นถึงอยู่บ่อยๆ” คุณมาเรียพูด

“ครับแม่ ตั้งแต่ไปอยู่ควีนส์แลนด์ ก็ยังไม่เคยไปเยี่ยมปู่กับย่าอีกเลย” ชายหนุ่มพูด นิ่งคิดสักพักแล้วจึงบอกมารดา

“พรุ่งนี้ผมจะพาไลลาออกเดินทางขึ้นเหนือแล้วนะครับแม่”

“อะไรกัน จะอยู่กับแม่แค่สองคืนเองหรือไง” ถามน้ำเสียงผิดหวัง มีลูกชายกับเขาอยู่คนเดียวแต่ไม่เคยได้อยู่ใกล้ชิดเหมือนแม่ลูกคนอื่นเขาเลย

“ขอพาไลลาเที่ยวสักสองอาทิตย์นะครับแม่ ไลลาไม่เคยมาฝั่งนี้เลย แล้วเวลาที่เหลือจะพักอยู่บ้านแม่ตลอดเลยดีไหมครับ” ถามมารดาน้ำเสียงออดอ้อน

“งั้นก็ตามใจ ถึงจะไม่มาค้างกับแม่แม่ก็จะไปว่าอะไรได้ล่ะ” คุณมาเรียพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงแง่งอน ทำให้ได้อ้อมกอดอย่างประจบประแจงจากลูกชายจนทำให้ยิ้มกว้าง

และเมื่อเห็นว่าทุกคนเสร็จจากอาหารเช้าแล้ว ชายหนุ่มจึงกล่าวขอตัวกับมารดา

“งั้นผมขอไปเตรียมตัวก่อนนะครับแม่ อยากอยู่กับย่านานๆหน่อย ไม่ต้องรอกินข้าวเย็นนะครับ”

“ไปเถอะจ้ะ ฝากสวัสดีปู่กับย่าให้พ่อกับแม่ด้วยนะ อาทิตย์หน้าจะไปรับออกไปหาอะไรกิน” คุณมาเรียบอกลูกชาย จากนั้นยกจานอาหารที่เพิ่งรับประทานเสร็จเข้าไปเก็บในครัว ปล่อยให้ลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้เตรียมตัวไปหาปู่กับย่าตามสะดวก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่