อุ่นไอรัก บทที่ ๓๑

กระทู้สนทนา
อุ่นไอรัก

ด้วยไออุ่นแห่งรัก หัวใจที่เคยกระด้างเย็นชา จึงอบอุ่นและนุ่มนวล



มาร์โค ลอมบาร์ดี ฉากหน้าเขาคือผู้จัดการไร่หนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่สนใจหญิงใด จนได้ฉายานักพรต เพราะวันๆก็อยู่แต่กับต้นองุ่นและสัตว์ในไร่ หากฉากหลังเขาคือเพลย์บอยผู้กลัวความสัมพันธ์จริงจังและการผูกมัด ไม่เชื่อในเรื่องความรักและการมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับคนเพียงคนเดียว และมีความสุขกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่ แต่วันหนึ่ง เขากลับรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับผู้หญิงในสเป๊คของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหัวใจเริ่มไม่ไปทางเดียวกันกับสมอง หัวใจที่เคยเย็นชาและแข็งกระด้าง กลับเริ่มอ่อนโยนและอบอุ่น เพียงเพราะไออุ่นแห่งรักที่เขาเริ่มรู้จัก

มาติดตามการเดินทางของความรักของเพลย์บอยหนุ่มที่ไม่เคยเชื่อในความรักหากแต่กลับตกหลุมรักเสียเองกันนะคะ


เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก http://ppantip.com/topic/30777946

บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


อุ่นไอรัก บทที่ ๓๑


“บาร์บได้ยินเสียงร้องของมาร์โคเลยตามขึ้นไปดู จากนั้นก็เรียกรถพยาบาล ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังช่วยชีวิตอิสซาเบลลา มาร์โคก็มองเห็นจดหมายลาตายที่อิสซาเบลลาเขียนถึง ในจดหมายนั้นเขียนไว้ว่า –“

มาร์โคที่รัก

เธอคงไม่รู้ว่าเธอมีความหมายต่อฉันแค่ไหน เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตฉัน เราเคยรักกัน เคยมีความสุขด้วยกัน แม้ตอนนี้เธอจะไม่รักฉันแล้ว แต่ฉันก็ไม่เคยหยุดรักเธอเลย เธอไม่รู้หรอกว่า การมองเธอมีความสุขอยู่กับคนอื่น ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น เธอคงไม่รู้ว่าการมองเห็นเธอจูบผู้หญิงคนอื่นต่อหน้า ทำให้หัวใจฉันแหลกละเอียดแค่ไหน เธอไม่รู้หรอกว่า การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากเธอ มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าไร้ชีวิต ขอบคุณที่บอกให้ฉันไปตาย เพราะมันดูเหมือนเป็นเพียงทางเดียวที่จะช่วยให้ฉันหายเจ็บปวดทุรนทุราย ไม่ต้องทนมองเธอเดินจากไป ไม่ต้องทนมองเธอมีความสุขกับคนอื่น ไม่ต้องทนอยู่โดยไม่มีเธอในชีวิต

ลาก่อนมาร์โค หากจะอยู่โดยไม่มีเธอ ฉันขอเลือกที่จะไม่อยู่เสียดีกว่า

รักเธอเสมอ สุดที่รักของฉัน

เบลลา


คุณมาเรียพูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นให้หญิงสาวฟัง เมื่อไลลาตื่นมาแต่เช้าขณะที่มาร์โคยังคงหลับอยู่ หญิงสาวตัดสินใจถามในสิ่งที่อยากรู้ มาร์โคดูราวกับไม่ใช่ชายคนรักที่เธอรู้จัก ไลลาจำเป็นต้องรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เธอจะไม่ยอมอยู่อย่างไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว หลังจากที่เห็นท่าทางของมาร์โคเมื่อคืนนี้ เธอคิดว่าชายหนุ่มจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ และก่อนที่จะรู้ว่าจะให้ความช่วยเหลือเขาได้อย่างไร เธอต้องเข้าใจความเป็นมาของปัญหาทั้งหมดเสียก่อน และดูเหมือนคุณมาเรียจะเป็นคนให้ความกระจ่างกับเธอได้

“มาร์โคเลยโทษตัวเองเหรอคะ” ไลลาถามหลังจากคุณมาเรียเล่าถึงจดหมายลาตายที่มาร์โคพบในห้องนอนของอิสซาเบลลาจบลง

“ใช่จ้ะ มาร์โคโทษว่าตัวเองเป็นสาเหตุทำให้เบลลาฆ่าตัวตาย” คุณมาเรียตอบแล้วนิ่งไปอย่างพยายามรื้อฟื้นความทรงจำถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสิบแปดปีก่อน

“มาร์โคเป็นคนเข้าไปเห็นเบลลาในสภาพที่แย่ที่สุด และยังคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เบลลาอยู่ในสภาพนั้นอีก ถึงแม้มันจะไม่ใช่ความผิดของมาร์โค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เบลลาฆ่าตัวตายเพราะมาร์โคบอกเลิกความสัมพันธ์ และแม้ว่ามาร์โคจะบอกว่าตัวเองไม่ได้รักเบลลา แต่อย่างไรเขาสองคนก็สนิทกันมาก เติบโตมาด้วยกัน ถึงจะไม่ได้รักอย่างจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ความผูกพันหรือความรักอย่างเพื่อน อย่างพี่น้อง ฉันคิดว่ามาร์โครักเบลลาไม่น้อยเลยล่ะ เมื่อเข้าไปเห็นเบลลาในสภาพนั้น มาร์โคถึงกับช็อค สภาพจิตใจย่ำแย่ เรา.. ฉันหมายถึงคุณเปาโลกับฉันและคอร์เนลลี่เห็นว่ามาร์โคจำเป็นต้องได้รับการเยียวยา เรานัดให้มาร์โคคุยกับเคาน์เซลเลอร์[1] ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร เบลลาโคม่าอยู่ในไอซียูเป็นสัปดาห์ มาร์โคไปเฝ้าทุกวัน เขาเศร้ามาก โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองตลอดเวลา พอวันที่เบลลาฟื้น ฉันคิดว่ามาร์โคคงจะเลิกโทษตัวเองเสียที เพราะเบลลาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว โชคดีที่เบลลาเลือกใช้ยานอนหลับเกินขนาด ทำให้อวัยวะภายในไม่ถูกทำลาย และไม่มีผลเสียอะไรในระยะยาว แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า มาร์โคปฏิเสธที่จะไปพบเบลลา และเริ่มฝันร้าย” คุณมาเรียถอนหายใจก่อนจะเล่าต่อ

“มาร์โครู้สึกผิดมากจนไม่กล้าเผชิญหน้ากับเบลลา ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ยังใหม่อยู่  แต่ยิ่งเวลาผ่านไป อาการมาร์โคยิ่งแย่ ทั้งฝันร้าย หวาดผวา เก็บตัว เงียบขรึม และไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึก ทั้ง ๆ ที่มาร์โคเป็นคนขี้เล่นอารมณ์ดี แล้วก็หลีกเลี่ยงทุกอย่างเกี่ยวกับเบลลา แม้แต่ใครจะพูดชื่อให้ได้ยินยังไม่ได้ เรารู้สึกว่าผิดปกติจึงพามาร์โคไปหาหมออีก ถึงได้รู้ว่ามาร์โคประสบกับภาวะเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง จำเป็นต้องได้รับการบำบัดจากนักจิตบำบัดร่วมกับใช้ยา รักษากันอยู่นาน แต่ในที่สุดมาร์โคก็หายจากอาการฝันร้าย แต่ก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับเบลลา ตั้งแต่วันที่มาร์โคไปพบเบลลาฆ่าตัวตายจนถึงวันนี้ ร่วมสิบแปดปี มาร์โคไม่เคยพบกับเบลลาอีกเลย”

“เราเพิ่งพบกับแดเนียลที่คอร์เนลลี่ในคืนแรกที่มาถึงค่ะ” ไลลาบอกกับคุณมาเรีย หญิงสาวจำได้ดีถึงใบหน้าเผือดสีลงกะทันหันของมาร์โคเมื่อแดเนียลเอ่ยถึงชื่ออิสซาเบลลา เธอเคยไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่ตอนนี้เข้าใจแจ่มแจ้งเลยทีเดียว

“มิน่าเล่า มาร์โคถึงดูแปลก ๆ ไป หมอบอกว่าแม้มาร์โคจะหายจากฝันร้าย แต่อาการก็สามารถกลับมาได้อีกหากมีสิ่งกระตุ้น การพบกับแดเนียลคงจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้มาร์โคคิดถึงอดีตกระมัง” คุณมาเรียพึมพำ

“คงจะเป็นยังงั้นค่ะมาเรีย แดเนียลเอ่ยถึงอิสซาเบลลา และมาร์โคก็ดูแปลก ๆ ไปตั้งแต่ตอนนั้น” หญิงสาวบอก คุณมาเรียถอนหายใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“โธ่ มาร์โค ฉันคิดว่าเขาจะไม่ต้องทนทรมานกับความรู้สึกผิดในอดีตอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ความผิดของมาร์โคเลย เหตุการณ์ครั้งนั้นเปลี่ยนเด็กอารมณ์ดี ขี้เล่น อย่างมาร์โคไปเป็นคนละคน และยังทำให้มาร์โคไม่เคยมีความสัมพันธ์จริงจังกับผู้หญิงที่ไหนอีกเลย จนรู้ว่ามาร์โคมีหนู ฉันกับคุณเปาโลก็ดีใจ คิดว่ามาร์โคคงจะให้อภัยตัวเองได้แล้วถึงได้มีความสัมพันธ์จริงจัง ไม่คิดเลยว่ามาร์โคจะกลับมาทรมานกับอาการเดิม ๆ หลังจากเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบปีแบบนี้”

“มาร์โคเคยผ่านไปได้ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขาก็ต้องผ่านไปได้ค่ะมาเรีย” ไลลาบอกคุณมาเรียอย่างให้กำลังใจ พร้อม ๆ กับที่ให้กำลังใจตัวเองไปด้วย

“ฉันอยากจะคุยกับนักจิตบำบัดของมาร์โค จะเป็นไปได้หรือไม่คะ ฉันจะได้รู้ว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวยังไง เพื่อช่วยให้มาร์โคผ่านตรงนี้ไปได้” หญิงสาวรู้ดีว่าเธอไม่สามารถไปนัดคุยกับหมอเรื่องอาการของมาร์โคได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของชายหนุ่ม ที่หมอไม่มีสิทธิจะเปิดเผยกับคนอื่นได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัว แม้คนอื่นที่ว่านั้นจะเป็นคนรักของมาร์โคเองก็ตาม หากแต่เธอก็มีสิทธิที่จะคุยกับหมอในฐานะคนรักของชายหนุ่ม เพื่อการปฏิบัติตนที่ถูกต้องและช่วยเป็นกำลังใจให้เขาผ่านไปให้ได้

“ฉันจะนัดให้นะ ขอบคุณมากนะไลลา”

“ไม่เป็นไรค่ะมาเรีย หากเรารักใครแล้ว เราก็ต้องอยู่เคียงข้างคนที่เรารักให้ถึงที่สุดไม่ใช่เหรอคะ” ไลลาว่ายิ้มๆ หากแววตาแน่วแน่ มาเรียคว้ามือบางของผู้อ่อนวัยกว่ามากุม กล่าวอย่างซาบซึ้งใจ

“ขอบคุณมากนะไลลา ขอบคุณที่รักมาร์โคได้ขนาดนี้” ไลลายิ้มตอบมารดาของคนรักและบีบมือกลับเบา ๆ อย่างจะแสดงให้รู้ว่าเธอรับรู้ถึงความซาบซึ้งใจที่ส่งมาได้อย่างดี





มาร์โคยังคงฝันร้ายและสะดุ้งตื่นอยู่ทุกคืน หากแต่เขาก็เปิดเผยต่อไลลามากขึ้น เขาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตให้หญิงสาวฟังทีละเล็กละน้อย และในที่สุดชายหนุ่มก็ทำให้ทุกคนแปลกใจระคนยินดี เมื่อเขาตัดสินใจที่จะพูดคุยกับนักจิตบำบัดอีกครั้งพร้อมกับไลลา เขาบอกกับเธอว่า

“ผมเคยกลัวที่จะต้องเข้ารับการบำบัดอีกครั้ง แต่ผมจะเผชิญหน้ากับมัน ผมจะต้องเอาชนะความรู้สึกอันเลวร้ายนี้ให้ได้ เพื่อคุณ เพื่อเรา ผมอยากจะเริ่มชีวิตใหม่กับคุณโดยไม่มีอดีตตามมาหลอกหลอนให้คุณไม่สบายใจ”

สองหนุ่มสาวเลื่อนกำหนดการเดินทางกลับดาร์ลิงดาวน์สไปอีกหนึ่งเดือน โดยระหว่างนี้มาร์โคจะกลับเข้าไปดูแลคอร์เนลลี่แทนเจ้าของเอสเตท ทำให้ย้ายกลับเข้ามาพักที่ ‘ลิตเติลฮัท’ กันอีกครั้ง แต่ก็ยังไปรับประทานอาหารเย็นกับบิดามารดาของชายหนุ่มในวันหยุดอยู่เช่นเดิม

มาร์โคดูเหมือนจะกลับมาเป็นมาร์โคคนเดิมอย่างที่ไลลารู้จักในตอนแรก แต่หญิงสาวก็รู้ว่าชายหนุ่มยังคงไม่เข้มแข็งนัก เขายังฝันร้ายอยู่บ้างในบางคืน แต่เขากล้าที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมามากขึ้น แต่ชายหนุ่มก็ยังคงรู้สึกผิดและโทษตัวเองอยู่เช่นเดิม แม้ใครจะบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ก็ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สามารถก้าวผ่านความรู้สึกผิดนั่นไปได้ และยังคงหวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับอิสซาเบลลาอยู่นั่นเอง

“คุณจำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับอิสซาเบลลา” นักจิตบำบัดบอกกับชายหนุ่ม ในตอนหนึ่งในระหว่างกิจกรรมการบำบัดที่ไลลาเข้าร่วมด้วย

“ผมกลัว” มาร์โคพึมพำ “ถ้าเขาเกลียดผม ไม่ยอมพบผม หรือไม่ยอมให้อภัยล่ะ”

“แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นนะคะมาร์โค” ไลลาหันไปบอกชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกล่าวต่อ

“คุณยังไม่เคยขอโทษเธอเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงคะว่าเธอจะไม่ให้อภัย” และเมื่อมองเห็นท่าทางลังเลของชายหนุ่ม ไลลาก็ยื่นมือไปกุมมือใหญ่ บีบเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ

“ฉันจะอยู่ข้าง ๆ คุณนะคะมาร์โค ฉันจะไม่ให้คุณเผชิญหน้ากับเธอเพียงลำพัง เราจะช่วยกันผ่านตรงนี้ไปให้ได้ นะคะมาร์โค”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่