เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก
http://ppantip.com/topic/30777946
“มาร์โค ลอมบาร์ดี” ผู้เชี่ยวชาญที่สามีของเพื่อนส่งมาช่วยงานปลูกองุ่นในระยะเริ่มต้น ยื่นมือมาตรงหน้าพร้อมแนะนำตัว หญิงสาวยื่นมือไปสัมผัสกับมือใหญ่ แนะนำตัวเองเช่นกัน
“ไลลา จอห์นสัน ยินดีที่ได้พบค่ะ”
“เช่นกันครับ” เขากล่าวตอบ นัยน์ตาเรียวสีเขียวมรกตภายใต้กรอบขนตางอนสีน้ำตาลเข้มมองสบกับหญิงสาวด้วยสายตาเอาจริงเอาจัง มาร์โค ลอมบาร์ดี เป็นชายหนุ่มอายุราวสามสิบกว่าไม่น่าจะเกินสามสิบห้า เขามีรูปร่างสูงโปร่งหากแต่ก็ดูแข็งแกร่งจากมัดกล้ามที่มองเห็นได้ในทุกส่วนของร่างกาย ใบหน้าเรียวมีไรเคราครึ้มพอมองเห็นจางๆอยู่ภายใต้กรอบผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้น ผิวคล้ำอย่างคนที่ทำงานกลางแจ้งอยู่เสมอ
มาร์โคเป็นผู้จัดการไร่องุ่นคอร์เนลลี่ที่สวอนวัลเลย์ เมืองเพิร์ธ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย รัฐทางฝั่งตะวันตกของประเทศ สถานที่ที่ลิลลดา เพื่อนสนิทของเธอไปทำงานจนพบรักกับชายหนุ่มเจ้าของไร่และแต่งงานกัน หลังจากนั้นสองสามีภรรยาก็ไปๆมาๆระหว่างคอร์เนลลี่และฟาร์มที่ซันไชน์โคสท์ที่กำลังจะถูกเปลี่ยนให้เป็นไร่องุ่นตามความตั้งใจของลิลลดา เจ้าของไร่คนใหม่ที่ได้รับมรดกฟาร์มจากบิดามารดา
ลิลลดาขอให้เธอมาเป็นผู้จัดการทั่วไปให้กับไร่ที่อยู่ในระยะเริ่มต้น เนื่องจากหญิงสาวเคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการบริษัทการเงินในบริสเบน และเพื่อนสนิทของเธอเชื่อว่าไลลาจะสามารถบริหารจัดการไร่องุ่นของเพื่อนให้เจริญเติบโตได้ หญิงสาวอิดออดในตอนแรก เพราะถึงเธอจะเคยบริหารจัดการบริษัท แต่ก็เป็นการบริหารธุรกิจ ไม่ใช่บริหารการเกษตร แต่นี่เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการไร่ ซึ่งหญิงสาวไม่เคยมีความรู้ ไม่เคยทำฟาร์ม แล้วเธอจะไปจัดการไร่ให้เพื่อนได้อย่างไร
“มาร์โคจะจัดการไร่ ส่วนเธอจัดการธุรกิจ” เพื่อนสาวบอกกับเธอ
“อีกอย่าง คุณราฟกับฉันก็จะไปๆมาๆ เพื่อช่วยเธอดูอยู่แล้ว เธอทำได้แน่นอนน่า” ดูท่าทางเพื่อนจะมั่นใจในตัวเธอมากกว่าที่ไลลาจะมั่นใจในตัวเองเสียอีก
แต่หลังจากพิจารณาเหตุผลหลายประการประกอบกัน ก็ทำให้หญิงสาวตัดสินใจรับทำงานนี้ให้กับเพื่อน เธอชอบฟาร์มของบิดามารดาของเพื่อนมาแต่ไหนแต่ไร หลายครั้งที่ติดตามลิลลดามาเที่ยวที่ฟาร์ม หญิงสาวรู้สึกหลงใหลความสงบเงียบของผืนฟาร์มอันกว้างใหญ่ พื้นที่สองร้อยเอเคอร์ของ ‘ดาร์ลิง ดาวน์ส ฟาร์ม’ ที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไร่องุ่น ดาร์ลิง ดาวน์ส’ ถูกแบ่งออกเป็นสองฟากด้วยธารน้ำธรรมชาติ ที่ไหลมาจากทะเลสาปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของไร่ ในบริเวณไร่นอกจากจะมีต้นไม้ที่เป็นผลผลิตของฟาร์มและกำลังจะถูกตัดทิ้งเพื่อปรับพื้นที่ปลูกองุ่นแล้วนั้น ยังมีแปลงกุหลาบหลากพันธุ์ที่บิดาของเพื่อนปลูกไว้ เพราะลิลลดารักกุหลาบในระดับที่ไม่ธรรมดา และก็เป็นโชคดีของเธอที่จะได้มีกุหลาบสวยๆหอมๆใส่แจกันทุกวัน
เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ไลลาตัดสินใจรับงานเป็นผู้จัดการไร่ให้กับเพื่อน ต้องย้ายออกจากเมืองใหญ่ที่วุ่นวายหากแต่ก็สะดวกสบายอย่างบริสเบน มาอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของพื้นที่เพาะปลูกองุ่นในเมืองเล็กๆอย่างมาเลนี่ ก็เพราะ.. แจ๊ค..
แจ๊ค.. หญิงสาวคิดอย่างขมๆ
แจ๊คเป็นคนรักเก่าของไลลา ทั้งสองทำงานบริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก คบหากันมาตั้งแต่เริ่มทำงาน นานพอที่หญิงสาวจะคิดว่า เธอและเขาคงจะลงเอยกันในที่สุดหลังจากที่ฐานะของทั้งสองพร้อมมากกว่านี้ แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนกับฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ เมื่อแจ๊คเดินเข้ามาบอกกับเธอว่าเขาทำผู้หญิงท้อง ซึ่งผู้หญิงที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แซนดรา ผู้ช่วยของเธอนี่เอง
หญิงสาวรู้สึกช็อคที่ไม่เคยรู้เลยว่า แจ็คกับแซนดราแอบมีความสัมพันธ์กันลับๆ หากแซนดราไม่ตั้งครรภ์ เธอก็คงจะยังโง่ไม่ได้รู้เลยว่าแจ็คทำอะไรลับหลังเธอบ้าง แต่อย่างน้อยก็พอมีแง่ดีอยู่บ้างที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ไม่อย่างนั้นเธอไม่รู้ว่าจะต้องเสียเวลาไปอีกนานเท่าไหร่กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หญิงสาวรู้สึกว่าเธอไม่สามารถทนเห็นสองคนนั้นได้อีกต่อไป เธอจะไปทำงานอย่างมีสมาธิได้อย่างไรหากยังเห็นแซนดราที่ยังทำงานอยู่หน้าห้องเธอท้องโตขึ้นทุกวัน ท้องลูกของแจ๊ค ผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าจะร่วมอนาคตด้วย และเมื่อเพื่อนสาวเสนองานที่ไร่ให้ เธอจึงรับมาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับไปทำงานที่จะต้องพบเจอสองคนนั้นอยู่ต่อไป และหวังว่าความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบของไร่ที่จะกลายเป็นบ้านของเธอ จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดในใจเพราะถูกหักหลังจากคนที่รักคลายลง
“ทางนี้ค่ะ” ไลลาผายมือไปยังทางเดินที่นำไปสู่บ้านก่ออิฐชั้นเดียวหลังใหญ่กลางไร่ ซึ่งเป็นบ้านที่บิดามารดาของเพื่อนเคยอาศัยอยู่ ในสมัยที่ท่านทั้งสองยังทำฟาร์มแห่งนี้ อดีตเจ้าของฟาร์มที่เพิ่งวางมือได้ย้ายออกไปอยู่บ้านหลังเล็กริมทะเลบนชายฝั่งเมืองซันไชน์โคสท์ หลังจากที่ลิลลดาเพื่อนของเธอเข้ามาสืบทอดกิจการฟาร์มและเปลี่ยนให้เป็นไร่องุ่น บ้านหลังนี้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ประจำ โดยพักอยู่ห้องเก่าของเพื่อน ในขณะที่ลิลลดาและราฟาเอลสามีซึ่งไปๆมาๆระหว่างที่นี่และไร่องุ่นที่เพิร์ธ จะเข้าพักในห้องนอนใหญ่ซึ่งเป็นห้องเดิมของคู่สามีภรรยาอดีตเจ้าของฟาร์มในเวลาที่พวกเขามาที่นี่ บ้านหลังนี้มีทั้งหมดห้าห้องนอน จึงเหลือห้องนอนว่างอีกสามห้อง ซึ่งห้องหนึ่งจะเป็นห้องของผู้เชี่ยวชาญการปลูกองุ่นที่ถูกส่งตัวมาจากฝั่งตะวันตกซึ่งกำลังเดินตามเธอมาโดยไม่พูดไม่จาอยู่นี้ นอกจากไลลาที่อยู่ประจำในไร่แล้ว ยังมีโจอี้ เด็กรับใช้ทั่วไปในไร่อีกคนหนึ่ง หากแต่เขาอาศัยอยู่ในแกรนนี่แฟลต[1] ซึ่งติดกับคอกม้าซึ่งเขาดูแลอยู่
หญิงสาวเดินนำไปบนทางเดินโรยกรวดโดยมีผู้จัดการไร่คนใหม่เดินตามไปเงียบๆ.. เงียบเสียจนไลลาไม่กล้าชวนคุย.. เพราะไม่รู้ว่าบทสนทนาของเธอจะรบกวนความเป็นส่วนตัวของเขาหรือไม่ มาร์โค ลอมบาร์ดี ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเสวนากับเธอจนหญิงสาวต้องเก็บปากเก็บคำ แม้ว่าจะอยากชวนเขาคุยเพื่อให้บรรยากาศอันน่าอึดอัดคลายลงก็ตาม
ในตอนที่รู้ว่าจะมีคนจากฝั่งตะวันตกมาอยู่ร่วมบ้านกับเธอ ต้องทำงานในไร่ร่วมกัน หญิงสาวแอบดีใจเล็กๆที่อย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องอยู่อย่างเงียบเหงาคนเดียว เธอหวังว่าเมื่อเขามาถึง เธอและเขาคงจะกลายเป็นเพื่อนกันและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มท่าทางจริงจังอีกทั้งยังพูดน้อย.. พูดให้ถูกคือไม่พูดเลย.. หญิงสาวก็นึกไม่ออกว่าเมื่ออยู่ร่วมบ้านกันแล้ว ความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะเดินไปทางใด
ไหนลิลลี่บอกว่าเขาเป็นคนน่ารักและรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้ หญิงสาวคิด ทำไมยิ่งอยู่ใกล้เขาเธอยิ่งรู้สึกอัดอัด ราวกับอากาศที่อยู่รอบๆตัวไม่พอหายใจอย่างนั้นล่ะ
“ห้องคุณห้องนี้ค่ะ” ไลลาบอกกับชายหนุ่มเมื่อเดินมาถึงห้องห้องหนึ่งในบ้านที่อยู่คนละฝั่งกับห้องที่เธออยู่ ก่อนจะอธิบายต่อไป
“ห้องนี้เป็นอองสวีท[2]ค่ะ คุณจะได้สะดวกหน่อย เลยเข้าไปด้านนู้นเป็นห้องซักล้าง ส่วนครัวและห้องนั่งเล่นจะอยู่ทางนี้” หญิงสาวบอกพร้อมชี้มือไปยังอีกฟากของตัวบ้าน
“เลยห้องนั่งเล่นไปจะเป็นห้องของฉัน หากมีอะไรเรียกได้ตลอดเวลา”
”ขอบคุณครับ” คนพูดน้อยตอบสั้นๆ
“เรื่องอาหารการกิน อาหารเช้ากับกลางวันคงต้องช่วยตัวเอง แต่อาหารเย็น ปกติฉันก็ทำอาหารอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจก็เชิญทานด้วยกันก็ได้ค่ะ หรือหากคุณจะสะดวกที่จะทานคนเดียวก็ไม่เป็นไร” คนที่ถือกระเป๋าเดินทางทำท่าจะเปิดประตูเข้าไปในห้องชะงัก ก่อนจะหันมาสบตาเธอ นัยน์ตาสีเขียวมรกตที่มีแววจริงจังนั้น ทำให้ไลลารู้สึกราวกับถูกตรึงด้วยด้วยพลังที่มองไม่เห็น ก่อนจะหลบสายตาเขาอย่างยากลำบาก
“ทานด้วยกันก็ได้ครับ ขอบคุณ”
“พรุ่งนี้คุณจะสะดวกไปธนาคารกับฉันหรือเปล่าคะ ต้องใส่ชื่อคุณเป็นผู้มีสิทธิเบิกจ่ายในบัญชีร่วมกับฉันและทำบัตรเครดิตด้วยน่ะค่ะ” หญิงสาวถามชายหนุ่ม พร้อมความรู้สึกว่าตนเองกำลังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องงานที่จำเป็นต้องคุยกันให้รู้เรื่องแท้ๆ แต่เขากลับทำท่าทางราวกับว่าเธอกำลังพยายามจะชวนเขาคุยด้วยเรื่องไร้สาระอย่างนั้นล่ะ
“กี่โมงดีครับ” ถามแทนคำตอบ
“ออกจากไร่สิบโมง เช้าไปหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรครับ งั้นเจอกันพรุ่งนี้สิบโมง” คำตอบที่ฟังดูเหมือนตัดบท ทำให้ไลลารีบกล่าวลา ก่อนที่เธอจะทำให้ผู้จัดการไร่คนใหม่อึดอัดมากไปกว่านี้ หรือเป็นเธอเองนะที่รู้สึกอึดอัด
“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนแล้วค่ะ เชิญคุณพักผ่อนตามสบาย” กล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
[1] แกรนนี่แฟลต: ที่พักที่สร้างติดกับอาคารที่มีอยู่ก่อน มีครัวและห้องน้ำของตัวเอง
[2] อองสวีท: ห้องน้ำในห้องนอน
อุ่นไอรัก บทที่ ๑
“มาร์โค ลอมบาร์ดี” ผู้เชี่ยวชาญที่สามีของเพื่อนส่งมาช่วยงานปลูกองุ่นในระยะเริ่มต้น ยื่นมือมาตรงหน้าพร้อมแนะนำตัว หญิงสาวยื่นมือไปสัมผัสกับมือใหญ่ แนะนำตัวเองเช่นกัน
“ไลลา จอห์นสัน ยินดีที่ได้พบค่ะ”
“เช่นกันครับ” เขากล่าวตอบ นัยน์ตาเรียวสีเขียวมรกตภายใต้กรอบขนตางอนสีน้ำตาลเข้มมองสบกับหญิงสาวด้วยสายตาเอาจริงเอาจัง มาร์โค ลอมบาร์ดี เป็นชายหนุ่มอายุราวสามสิบกว่าไม่น่าจะเกินสามสิบห้า เขามีรูปร่างสูงโปร่งหากแต่ก็ดูแข็งแกร่งจากมัดกล้ามที่มองเห็นได้ในทุกส่วนของร่างกาย ใบหน้าเรียวมีไรเคราครึ้มพอมองเห็นจางๆอยู่ภายใต้กรอบผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้น ผิวคล้ำอย่างคนที่ทำงานกลางแจ้งอยู่เสมอ
มาร์โคเป็นผู้จัดการไร่องุ่นคอร์เนลลี่ที่สวอนวัลเลย์ เมืองเพิร์ธ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย รัฐทางฝั่งตะวันตกของประเทศ สถานที่ที่ลิลลดา เพื่อนสนิทของเธอไปทำงานจนพบรักกับชายหนุ่มเจ้าของไร่และแต่งงานกัน หลังจากนั้นสองสามีภรรยาก็ไปๆมาๆระหว่างคอร์เนลลี่และฟาร์มที่ซันไชน์โคสท์ที่กำลังจะถูกเปลี่ยนให้เป็นไร่องุ่นตามความตั้งใจของลิลลดา เจ้าของไร่คนใหม่ที่ได้รับมรดกฟาร์มจากบิดามารดา
ลิลลดาขอให้เธอมาเป็นผู้จัดการทั่วไปให้กับไร่ที่อยู่ในระยะเริ่มต้น เนื่องจากหญิงสาวเคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการบริษัทการเงินในบริสเบน และเพื่อนสนิทของเธอเชื่อว่าไลลาจะสามารถบริหารจัดการไร่องุ่นของเพื่อนให้เจริญเติบโตได้ หญิงสาวอิดออดในตอนแรก เพราะถึงเธอจะเคยบริหารจัดการบริษัท แต่ก็เป็นการบริหารธุรกิจ ไม่ใช่บริหารการเกษตร แต่นี่เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการไร่ ซึ่งหญิงสาวไม่เคยมีความรู้ ไม่เคยทำฟาร์ม แล้วเธอจะไปจัดการไร่ให้เพื่อนได้อย่างไร
“มาร์โคจะจัดการไร่ ส่วนเธอจัดการธุรกิจ” เพื่อนสาวบอกกับเธอ
“อีกอย่าง คุณราฟกับฉันก็จะไปๆมาๆ เพื่อช่วยเธอดูอยู่แล้ว เธอทำได้แน่นอนน่า” ดูท่าทางเพื่อนจะมั่นใจในตัวเธอมากกว่าที่ไลลาจะมั่นใจในตัวเองเสียอีก
แต่หลังจากพิจารณาเหตุผลหลายประการประกอบกัน ก็ทำให้หญิงสาวตัดสินใจรับทำงานนี้ให้กับเพื่อน เธอชอบฟาร์มของบิดามารดาของเพื่อนมาแต่ไหนแต่ไร หลายครั้งที่ติดตามลิลลดามาเที่ยวที่ฟาร์ม หญิงสาวรู้สึกหลงใหลความสงบเงียบของผืนฟาร์มอันกว้างใหญ่ พื้นที่สองร้อยเอเคอร์ของ ‘ดาร์ลิง ดาวน์ส ฟาร์ม’ ที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไร่องุ่น ดาร์ลิง ดาวน์ส’ ถูกแบ่งออกเป็นสองฟากด้วยธารน้ำธรรมชาติ ที่ไหลมาจากทะเลสาปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของไร่ ในบริเวณไร่นอกจากจะมีต้นไม้ที่เป็นผลผลิตของฟาร์มและกำลังจะถูกตัดทิ้งเพื่อปรับพื้นที่ปลูกองุ่นแล้วนั้น ยังมีแปลงกุหลาบหลากพันธุ์ที่บิดาของเพื่อนปลูกไว้ เพราะลิลลดารักกุหลาบในระดับที่ไม่ธรรมดา และก็เป็นโชคดีของเธอที่จะได้มีกุหลาบสวยๆหอมๆใส่แจกันทุกวัน
เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ไลลาตัดสินใจรับงานเป็นผู้จัดการไร่ให้กับเพื่อน ต้องย้ายออกจากเมืองใหญ่ที่วุ่นวายหากแต่ก็สะดวกสบายอย่างบริสเบน มาอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของพื้นที่เพาะปลูกองุ่นในเมืองเล็กๆอย่างมาเลนี่ ก็เพราะ.. แจ๊ค..
แจ๊ค.. หญิงสาวคิดอย่างขมๆ
แจ๊คเป็นคนรักเก่าของไลลา ทั้งสองทำงานบริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก คบหากันมาตั้งแต่เริ่มทำงาน นานพอที่หญิงสาวจะคิดว่า เธอและเขาคงจะลงเอยกันในที่สุดหลังจากที่ฐานะของทั้งสองพร้อมมากกว่านี้ แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนกับฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ เมื่อแจ๊คเดินเข้ามาบอกกับเธอว่าเขาทำผู้หญิงท้อง ซึ่งผู้หญิงที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แซนดรา ผู้ช่วยของเธอนี่เอง
หญิงสาวรู้สึกช็อคที่ไม่เคยรู้เลยว่า แจ็คกับแซนดราแอบมีความสัมพันธ์กันลับๆ หากแซนดราไม่ตั้งครรภ์ เธอก็คงจะยังโง่ไม่ได้รู้เลยว่าแจ็คทำอะไรลับหลังเธอบ้าง แต่อย่างน้อยก็พอมีแง่ดีอยู่บ้างที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ไม่อย่างนั้นเธอไม่รู้ว่าจะต้องเสียเวลาไปอีกนานเท่าไหร่กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หญิงสาวรู้สึกว่าเธอไม่สามารถทนเห็นสองคนนั้นได้อีกต่อไป เธอจะไปทำงานอย่างมีสมาธิได้อย่างไรหากยังเห็นแซนดราที่ยังทำงานอยู่หน้าห้องเธอท้องโตขึ้นทุกวัน ท้องลูกของแจ๊ค ผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าจะร่วมอนาคตด้วย และเมื่อเพื่อนสาวเสนองานที่ไร่ให้ เธอจึงรับมาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับไปทำงานที่จะต้องพบเจอสองคนนั้นอยู่ต่อไป และหวังว่าความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบของไร่ที่จะกลายเป็นบ้านของเธอ จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดในใจเพราะถูกหักหลังจากคนที่รักคลายลง
“ทางนี้ค่ะ” ไลลาผายมือไปยังทางเดินที่นำไปสู่บ้านก่ออิฐชั้นเดียวหลังใหญ่กลางไร่ ซึ่งเป็นบ้านที่บิดามารดาของเพื่อนเคยอาศัยอยู่ ในสมัยที่ท่านทั้งสองยังทำฟาร์มแห่งนี้ อดีตเจ้าของฟาร์มที่เพิ่งวางมือได้ย้ายออกไปอยู่บ้านหลังเล็กริมทะเลบนชายฝั่งเมืองซันไชน์โคสท์ หลังจากที่ลิลลดาเพื่อนของเธอเข้ามาสืบทอดกิจการฟาร์มและเปลี่ยนให้เป็นไร่องุ่น บ้านหลังนี้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ประจำ โดยพักอยู่ห้องเก่าของเพื่อน ในขณะที่ลิลลดาและราฟาเอลสามีซึ่งไปๆมาๆระหว่างที่นี่และไร่องุ่นที่เพิร์ธ จะเข้าพักในห้องนอนใหญ่ซึ่งเป็นห้องเดิมของคู่สามีภรรยาอดีตเจ้าของฟาร์มในเวลาที่พวกเขามาที่นี่ บ้านหลังนี้มีทั้งหมดห้าห้องนอน จึงเหลือห้องนอนว่างอีกสามห้อง ซึ่งห้องหนึ่งจะเป็นห้องของผู้เชี่ยวชาญการปลูกองุ่นที่ถูกส่งตัวมาจากฝั่งตะวันตกซึ่งกำลังเดินตามเธอมาโดยไม่พูดไม่จาอยู่นี้ นอกจากไลลาที่อยู่ประจำในไร่แล้ว ยังมีโจอี้ เด็กรับใช้ทั่วไปในไร่อีกคนหนึ่ง หากแต่เขาอาศัยอยู่ในแกรนนี่แฟลต[1] ซึ่งติดกับคอกม้าซึ่งเขาดูแลอยู่
หญิงสาวเดินนำไปบนทางเดินโรยกรวดโดยมีผู้จัดการไร่คนใหม่เดินตามไปเงียบๆ.. เงียบเสียจนไลลาไม่กล้าชวนคุย.. เพราะไม่รู้ว่าบทสนทนาของเธอจะรบกวนความเป็นส่วนตัวของเขาหรือไม่ มาร์โค ลอมบาร์ดี ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเสวนากับเธอจนหญิงสาวต้องเก็บปากเก็บคำ แม้ว่าจะอยากชวนเขาคุยเพื่อให้บรรยากาศอันน่าอึดอัดคลายลงก็ตาม
ในตอนที่รู้ว่าจะมีคนจากฝั่งตะวันตกมาอยู่ร่วมบ้านกับเธอ ต้องทำงานในไร่ร่วมกัน หญิงสาวแอบดีใจเล็กๆที่อย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องอยู่อย่างเงียบเหงาคนเดียว เธอหวังว่าเมื่อเขามาถึง เธอและเขาคงจะกลายเป็นเพื่อนกันและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มท่าทางจริงจังอีกทั้งยังพูดน้อย.. พูดให้ถูกคือไม่พูดเลย.. หญิงสาวก็นึกไม่ออกว่าเมื่ออยู่ร่วมบ้านกันแล้ว ความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะเดินไปทางใด
ไหนลิลลี่บอกว่าเขาเป็นคนน่ารักและรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้ หญิงสาวคิด ทำไมยิ่งอยู่ใกล้เขาเธอยิ่งรู้สึกอัดอัด ราวกับอากาศที่อยู่รอบๆตัวไม่พอหายใจอย่างนั้นล่ะ
“ห้องคุณห้องนี้ค่ะ” ไลลาบอกกับชายหนุ่มเมื่อเดินมาถึงห้องห้องหนึ่งในบ้านที่อยู่คนละฝั่งกับห้องที่เธออยู่ ก่อนจะอธิบายต่อไป
“ห้องนี้เป็นอองสวีท[2]ค่ะ คุณจะได้สะดวกหน่อย เลยเข้าไปด้านนู้นเป็นห้องซักล้าง ส่วนครัวและห้องนั่งเล่นจะอยู่ทางนี้” หญิงสาวบอกพร้อมชี้มือไปยังอีกฟากของตัวบ้าน
“เลยห้องนั่งเล่นไปจะเป็นห้องของฉัน หากมีอะไรเรียกได้ตลอดเวลา”
”ขอบคุณครับ” คนพูดน้อยตอบสั้นๆ
“เรื่องอาหารการกิน อาหารเช้ากับกลางวันคงต้องช่วยตัวเอง แต่อาหารเย็น ปกติฉันก็ทำอาหารอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจก็เชิญทานด้วยกันก็ได้ค่ะ หรือหากคุณจะสะดวกที่จะทานคนเดียวก็ไม่เป็นไร” คนที่ถือกระเป๋าเดินทางทำท่าจะเปิดประตูเข้าไปในห้องชะงัก ก่อนจะหันมาสบตาเธอ นัยน์ตาสีเขียวมรกตที่มีแววจริงจังนั้น ทำให้ไลลารู้สึกราวกับถูกตรึงด้วยด้วยพลังที่มองไม่เห็น ก่อนจะหลบสายตาเขาอย่างยากลำบาก
“ทานด้วยกันก็ได้ครับ ขอบคุณ”
“พรุ่งนี้คุณจะสะดวกไปธนาคารกับฉันหรือเปล่าคะ ต้องใส่ชื่อคุณเป็นผู้มีสิทธิเบิกจ่ายในบัญชีร่วมกับฉันและทำบัตรเครดิตด้วยน่ะค่ะ” หญิงสาวถามชายหนุ่ม พร้อมความรู้สึกว่าตนเองกำลังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องงานที่จำเป็นต้องคุยกันให้รู้เรื่องแท้ๆ แต่เขากลับทำท่าทางราวกับว่าเธอกำลังพยายามจะชวนเขาคุยด้วยเรื่องไร้สาระอย่างนั้นล่ะ
“กี่โมงดีครับ” ถามแทนคำตอบ
“ออกจากไร่สิบโมง เช้าไปหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรครับ งั้นเจอกันพรุ่งนี้สิบโมง” คำตอบที่ฟังดูเหมือนตัดบท ทำให้ไลลารีบกล่าวลา ก่อนที่เธอจะทำให้ผู้จัดการไร่คนใหม่อึดอัดมากไปกว่านี้ หรือเป็นเธอเองนะที่รู้สึกอึดอัด
“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนแล้วค่ะ เชิญคุณพักผ่อนตามสบาย” กล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
[1] แกรนนี่แฟลต: ที่พักที่สร้างติดกับอาคารที่มีอยู่ก่อน มีครัวและห้องน้ำของตัวเอง
[2] อองสวีท: ห้องน้ำในห้องนอน