เรื่องในซีรียส์เดียวกัน บ่มไวน์ใส่รัก
http://ppantip.com/topic/30777946
บทก่อนหน้า
บทที่ ๑
http://ppantip.com/topic/30935459
ไลลาตื่นแต่เช้าและเข้าไปในครัวเพื่อหาอาหารเช้ารับประทานอย่างที่ทำเป็นปกติ หญิงสาวกังวลนิดๆว่าจะพบกับชายหนุ่มเพื่อนร่วมบ้านที่ท่าทางไม่อยากจะเสวนากับเธอนักอยู่ที่นั่นก่อน ก่อนที่จะโล่งอกเมื่อพบว่าภายในครัวใหญ่ว่างเปล่า ปราศจากร่องรอยของคนที่เธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้า หญิงสาวถอนหายใจอย่างเสียดาย หากในตอนที่พบกันครั้งแรกเมื่อวานนี้ เขาจะไม่ทำท่าทางไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับเธอแบบนั้น เธอก็คงจะอยากผูกมิตรกับเขา และคงจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขามากกว่านี้ มันไม่สนุกนักหรอกที่จะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่ดูเหมือนว่าจะต้องพบปะพูดคุยกันทุกวันแบบนี้ รวมทั้งอาศัยอยู่ร่วมบ้านกันเสียด้วย แล้วไหนจะตอนรับประทานอาหารเย็นอีก หญิงสาวไม่น่าไปเสนอให้เขาร่วมโต๊ะด้วยเลย หรืออีกที เขาก็ไม่น่าจะตอบตกลงกับข้อเสนอของเธอเลย แล้วคราวนี้จะทำหน้าอย่างไร กินใครกินมันโดยไม่พูดไม่จาหรืออย่างไร
ผู้จัดการจำเป็นของไร่องุ่น ดาร์ลิง ดาวน์ส สลัดความคิดเกี่ยวกับผู้จัดการไร่ตัวจริงทิ้งไป พลางเดินตรงไปยังหม้อต้มกาแฟที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว เริ่มลงมือตวงกาแฟบดลงไปบนกรวย เติมน้ำ และกดปุ่มให้เครื่องทำงาน เมื่อน้ำกาแฟสีน้ำตาลเข้มเริ่มหยดลงไปบนหม้อที่รองอยู่ข้างล่าง พร้อมกับส่งกลิ่นหอมหวลไปทั้งครัว ก็ทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมาได้ กลิ่นกาแฟที่หญิงสาวหลงใหลราวกับยาเสพติดชนิดรุนแรง
ระหว่างรอกาแฟ หญิงสาวจัดการหาอาหารเช้าง่ายๆให้กับตัวเอง ด้วยขนมปังปิ้งทาเนยและเวจจีไมท์[1]สองแผ่นเท่านั้น อาหารเช้าที่สำคัญของเธอเป็นกาแฟมากกว่า ไลลามัวแต่ให้ความสนใจกับงานตรงหน้าจึงไม่ได้รู้สึกถึงการมาถึงของผู้ร่วมบ้าน ที่เข้ามายืนในครัวอย่างเงียบกริบได้พักหนึ่งแล้ว
มาร์โคเดินเข้ามาในครัวเงียบๆเพื่อหาอาหารเช้าให้ตนเอง โดยไม่ได้คิดว่าจะมีคนที่ตื่นเร็วกว่า เขาเห็นหญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับหม้อกาแฟพอดีในตอนที่เขามาถึง หญิงสาวดูมีสมาธิกับงานตรงหน้า จึงแทนที่จะทักทายเธอ เขากลับยืนมองนิ่งๆ เพื่อรอให้เธอหันกลับมา แต่แล้วหญิงสาวก็หันไปทำอย่างอื่นต่อหลังเสร็จธุระกับหม้อกาแฟ และเขาก็ยืนมองเธอด้วยความเพลิดเพลินอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งเธอทาเวจจีไวท์บนขนมปังทั้งสองแผ่นและถือจานหันกลับมาทางเขาเพื่อหาที่นั่งนั่นล่ะ เขาจึงแสดงตัว หรืออีกที เธอจึงรู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ชายหนุ่มพูดเก้อๆ หวังว่าเธอจะไม่คิดว่าเขามายืนมองเธออยู่ตั้งนานแล้วหรอกนะ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะมายืนมองผู้หญิงที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเดินไปมาในครัวได้ตั้งนานสองนาน
“สวัสดีค่ะมาร์โค” หญิงสาวทัก พลางหันไปที่หม้อกาแฟ และยกหม้อขึ้นมาทางเขาเป็นเชิงถาม ชายหนุ่มพยักหน้า
“ขอบคุณครับ”
คนที่เสนอกาแฟให้กับเขารินกาแฟใส่ถ้วยสองใบ และยกมาให้เขาใบหนึ่ง ก่อนจะเดินถือจานขนมปังและถ้วยกาแฟไปนั่งลงยังโต๊ะอาหารกลางห้อง มาร์โคเดินตามไปนั่งตรงข้ามกับเธอและรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าดูอึดอัด ท่าทางกริยาไร้มารยาทของเขาเมื่อวานนี้จะทำให้เพื่อนร่วมบ้านไม่อยากจะเสวนากับเขาแล้วกระมัง ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขบขัน ส่งผลให้นัยน์ตาเรียวสีเขียวมรกตเป็นประกายสั่นระริก และเขารู้สึกว่าผู้หญิงที่นั่งตรงกันข้ามหน้าแดงขึ้นนิดๆ
ขี้อายจังเลยนะสาวน้อย เขาคิด น่าเสียดายที่เขาไม่เคยเห็นว่าผู้หญิงขี้อายน่าสนใจ ไม่อย่างนั้นชีวิตของเขาในไร่อันห่างไกลความเจริญแห่งนี้อาจจะสนุกขึ้นมาบ้างก็ได้
สำหรับมาร์โค ลอมบาร์ดีแล้ว ผู้หญิงที่เขาสนใจคือพวกที่กล้าได้กล้าเสีย อยากสนุกกับเขาโดยไม่สนใจสังคมรอบข้าง หรือไม่ต้องการมีความสัมพันธ์จริงจังต่างหาก ส่วนพวกผู้หญิงขี้อาย พูดอะไรนิด ทำอะไรหน่อยก็หน้าแดงแบบนี้ หากเขาทำอะไรเลยเถิดไปบ้าง พวกเธอก็พร้อมจะเรียกร้องความสัมพันธ์ที่ชัดเจนจากเขาในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีอยู่ในสมอง
ผู้จัดการไร่หนุ่มคิดถึงเจ้านาย รายนั้นจริงจังกับความสัมพันธ์เสียจนเขาเองยังไม่เข้าใจ เขาเข้าใจที่ราฟาเอลจะหลงลิลลี่หัวปักหัวปำ เพราะผู้หญิงคนนั้นสวยอย่างชนิดหาตัวจับยาก ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอที่สนามบินก็ทำเอาเขาแทบลืมหายใจไปเหมือนกัน แต่เพราะเธอมาทำงานที่ไร่ เขาจึงไม่คิดจะทำอะไร และเมื่อเจ้านายหลงรักคนงานคนใหม่ถึงขั้นให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน และไม่นานก็แต่งงาน ยอมทิ้งชีวิตหนุ่มโสดที่หาความสนุกได้อีกเยอะ เพื่อที่จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียว ตรงนั้นเองที่เขาไม่เข้าใจ ราฟาเอลบอกว่า คนไม่มีหัวใจอย่างเขาไม่มีวันเข้าใจหรอก ซึ่งเขาก็เห็นด้วย เขาไม่เข้าใจพวกมีความรักเลยจริงๆ
“ปกติคุณทานอะไรเป็นอาหารเช้าคะ” หญิงสาวตรงหน้าถามเขา เรียกความคิดให้กลับมายังปัจจุบัน
“ไข่ เบคอน แฮม หรืออะไรหนักๆสำหรับทำงานในไร่น่ะครับ”
“โธ่ ฉันไม่มีอะไรเลยค่ะ มีแต่ไข่ในตู้เย็น” หญิงสาวบอก ทำหน้าเสียใจ
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมไม่ได้ทำงานในไร่นี่นะ”
“เดี๋ยววันนี้ฉันจะไปซื้อมาไว้ให้นะคะ” หญิงสาวบอกเขา ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณเบาๆ ก่อนจะเดินไปปิ้งขนมปังสำหรับตัวเอง และกลับมานั่งจัดการอาหารเช้าเงียบๆ
ไลลารอเขาจัดการกับขนมปังปิ้งทั้งสองแผ่นเสร็จเรียบร้อยจึงเริ่มบทสนทนา ท่าทางวันนี้ชายหนุ่มจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อวาน สังเกตว่าเขาคุยกับเธอด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้ทำสีหน้ารำคาญและอยากจะให้เธอไปให้พ้นหน้าตลอดเวลาเหมือนเมื่อวานนี้ ยิ่งในตอนที่นัยน์ตาสีเขียวมรกตวิบวับขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้น ทำเอาเธอถึงกับหน้าร้อนวูบเลยทีเดียว ซึ่งจนบัดนี้เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นวิบวับขึ้นมาได้
“คุณจะต้องเอารถเช่าไปคืนด้วยใช่ไหมคะ” ชายหนุ่มลงเครื่องที่บริสเบน และเช่ารถขับมาที่ไร่ด้วยตัวเองเมื่อวานนี้
“ครับ คงต้องไปหลังจากเสร็จธุระที่ธนาคาร”
“ไหนๆก็เข้าบริสเบนแล้ว คุณอยากได้อะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากซื้อเสื้อผ้าสำหรับทำงานน่ะครับ ไม่ได้เตรียมมาเลย”
“ถ้าอย่างนั้นคืนรถเสร็จฉันจะขับรถพาไปค่ะ” หญิงสาวบอก
“ถ้าไม่เป็นการรบกวน” ชายหนุ่มพูด
“ไม่หรอกค่ะ เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” ว่าพลางลุกขึ้นเก็บจานไปใส่เครื่องล้างจาน และหันมากล่าวกับชายหนุ่ม ก่อนจะเดินออกจากครัวไป
“เจอกันสิบโมงค่ะ”
ไลลาเดินออกมาจากบ้านในเวลาเกือบสิบโมงตรงตามที่นัดกันไว้กับชายหนุ่ม หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนสามส่วนเข้ารูปสีแดง กางเกงยีนส์สกินนี่สีน้ำเงินเข้ม และรองเท้าส้นสูง ใบหน้าที่ปกติจะเปลือยเปล่า วันนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ผมตรงยาวสีบลอนด์ยังคงมัดเป็นหางม้าสูงดังเช่นทุกวัน เมื่อเธอเดินพ้นประตูหน้าบ้านออกมา ก็พบกับชายหนุ่มยืนรออยู่ก่อนแล้ว
มาร์โคอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาวพอดีตัว อวดให้เห็นรูปร่างที่เต็มแน่นไปด้วยมัดกล้าม ปราศจากไขมันส่วนเกิน กางเกงยีนส์บูทคัทที่เข้ากับรูปร่างสูงโปร่ง และรองเท้าหนังสีดำ แม้จะเป็นเพียงชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ควรจะลำลอง แต่หญิงสาวก็บอกได้ว่า เสื้อผ้าบนร่างกายชายหนุ่มเป็นของแบรนด์เนมทุกชิ้น รวมกับหน้าตาที่ดีกว่าคนทั่วไป ทำให้เขามองดูเหมือนนายแบบโฆษณากางเกงยีนส์มากกว่าผู้จัดการไร่องุ่น
ไม่ยักรู้ว่าผู้จัดการไร่จะรายได้ดีขนาดแบรนด์เนมทั้งตัวแบบนี้ หญิงสาวคิดในใจ
ผู้จัดการไร่สาวมองเห็นนัยน์ตาสีเขียวมรกตบนใบหน้านิ่งเฉยนั้นกระพริบวิบวับเมื่อหันมาทอดมองเธอที่กำลังเดินตรงไปยังเขา
ผู้ชายคนนี้พูดด้วยสายตา หญิงสาวคิด ทั้งๆที่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่เธอรู้ว่าเขากำลังคิดหรือรู้สึกบางอย่างอยู่ จากสายตาที่มองมายังเธอ เพียงแต่เธอไม่รู้จักเขามากพอ ที่จะบอกได้ว่าสายตาระยิบระยับนั้นหมายความว่าอย่างไร
“หวังว่าฉันคงไม่ทำให้คุณรอนานนะคะ” หญิงสาวทักทายชายหนุ่ม
“ไม่ครับ ผมออกมาเร็วนิดหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ คุณขับตามมาก็แล้วกันนะคะ” หญิงสาวบอก ก่อนจะเดินนำเขาไปยังโรงรถ
ไลลาเดินตรงไปยังรถของทางไร่ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งเธอจะใช้เมื่อต้องไปธุระที่เกี่ยวกับงาน ในขณะที่รถเก๋งคันเล็กของตัวเองจะเก็บไว้ในโรงรถ และใช้เมื่อขับไปหามารดาในวันหยุดบ้างเท่านั้น ในขณะที่ผู้จัดการหนุ่มเดินตรงไปยังรถเก๋งแบบซีดานซึ่งเช่ามา และขับตามกันไป
[1] เวจจีไมท์: ยีสต์สกัดเข้มข้น ลักษณะครีมเหนียวเนื้อเนียนสีน้ำตาลเข้ม รสชาติเค็มปะแล่มๆ ใช้ทาขนมปัง เป็นอาหารสัญชาติออสซี่ที่คนออสซี่ทุกคนต้องกินเป็น
อุ่นไอรัก บทที่ ๒
บทก่อนหน้า
บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/30935459
ไลลาตื่นแต่เช้าและเข้าไปในครัวเพื่อหาอาหารเช้ารับประทานอย่างที่ทำเป็นปกติ หญิงสาวกังวลนิดๆว่าจะพบกับชายหนุ่มเพื่อนร่วมบ้านที่ท่าทางไม่อยากจะเสวนากับเธอนักอยู่ที่นั่นก่อน ก่อนที่จะโล่งอกเมื่อพบว่าภายในครัวใหญ่ว่างเปล่า ปราศจากร่องรอยของคนที่เธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้า หญิงสาวถอนหายใจอย่างเสียดาย หากในตอนที่พบกันครั้งแรกเมื่อวานนี้ เขาจะไม่ทำท่าทางไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับเธอแบบนั้น เธอก็คงจะอยากผูกมิตรกับเขา และคงจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเขามากกว่านี้ มันไม่สนุกนักหรอกที่จะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่ดูเหมือนว่าจะต้องพบปะพูดคุยกันทุกวันแบบนี้ รวมทั้งอาศัยอยู่ร่วมบ้านกันเสียด้วย แล้วไหนจะตอนรับประทานอาหารเย็นอีก หญิงสาวไม่น่าไปเสนอให้เขาร่วมโต๊ะด้วยเลย หรืออีกที เขาก็ไม่น่าจะตอบตกลงกับข้อเสนอของเธอเลย แล้วคราวนี้จะทำหน้าอย่างไร กินใครกินมันโดยไม่พูดไม่จาหรืออย่างไร
ผู้จัดการจำเป็นของไร่องุ่น ดาร์ลิง ดาวน์ส สลัดความคิดเกี่ยวกับผู้จัดการไร่ตัวจริงทิ้งไป พลางเดินตรงไปยังหม้อต้มกาแฟที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว เริ่มลงมือตวงกาแฟบดลงไปบนกรวย เติมน้ำ และกดปุ่มให้เครื่องทำงาน เมื่อน้ำกาแฟสีน้ำตาลเข้มเริ่มหยดลงไปบนหม้อที่รองอยู่ข้างล่าง พร้อมกับส่งกลิ่นหอมหวลไปทั้งครัว ก็ทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมาได้ กลิ่นกาแฟที่หญิงสาวหลงใหลราวกับยาเสพติดชนิดรุนแรง
ระหว่างรอกาแฟ หญิงสาวจัดการหาอาหารเช้าง่ายๆให้กับตัวเอง ด้วยขนมปังปิ้งทาเนยและเวจจีไมท์[1]สองแผ่นเท่านั้น อาหารเช้าที่สำคัญของเธอเป็นกาแฟมากกว่า ไลลามัวแต่ให้ความสนใจกับงานตรงหน้าจึงไม่ได้รู้สึกถึงการมาถึงของผู้ร่วมบ้าน ที่เข้ามายืนในครัวอย่างเงียบกริบได้พักหนึ่งแล้ว
มาร์โคเดินเข้ามาในครัวเงียบๆเพื่อหาอาหารเช้าให้ตนเอง โดยไม่ได้คิดว่าจะมีคนที่ตื่นเร็วกว่า เขาเห็นหญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับหม้อกาแฟพอดีในตอนที่เขามาถึง หญิงสาวดูมีสมาธิกับงานตรงหน้า จึงแทนที่จะทักทายเธอ เขากลับยืนมองนิ่งๆ เพื่อรอให้เธอหันกลับมา แต่แล้วหญิงสาวก็หันไปทำอย่างอื่นต่อหลังเสร็จธุระกับหม้อกาแฟ และเขาก็ยืนมองเธอด้วยความเพลิดเพลินอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งเธอทาเวจจีไวท์บนขนมปังทั้งสองแผ่นและถือจานหันกลับมาทางเขาเพื่อหาที่นั่งนั่นล่ะ เขาจึงแสดงตัว หรืออีกที เธอจึงรู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ชายหนุ่มพูดเก้อๆ หวังว่าเธอจะไม่คิดว่าเขามายืนมองเธออยู่ตั้งนานแล้วหรอกนะ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะมายืนมองผู้หญิงที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเดินไปมาในครัวได้ตั้งนานสองนาน
“สวัสดีค่ะมาร์โค” หญิงสาวทัก พลางหันไปที่หม้อกาแฟ และยกหม้อขึ้นมาทางเขาเป็นเชิงถาม ชายหนุ่มพยักหน้า
“ขอบคุณครับ”
คนที่เสนอกาแฟให้กับเขารินกาแฟใส่ถ้วยสองใบ และยกมาให้เขาใบหนึ่ง ก่อนจะเดินถือจานขนมปังและถ้วยกาแฟไปนั่งลงยังโต๊ะอาหารกลางห้อง มาร์โคเดินตามไปนั่งตรงข้ามกับเธอและรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าดูอึดอัด ท่าทางกริยาไร้มารยาทของเขาเมื่อวานนี้จะทำให้เพื่อนร่วมบ้านไม่อยากจะเสวนากับเขาแล้วกระมัง ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขบขัน ส่งผลให้นัยน์ตาเรียวสีเขียวมรกตเป็นประกายสั่นระริก และเขารู้สึกว่าผู้หญิงที่นั่งตรงกันข้ามหน้าแดงขึ้นนิดๆ
ขี้อายจังเลยนะสาวน้อย เขาคิด น่าเสียดายที่เขาไม่เคยเห็นว่าผู้หญิงขี้อายน่าสนใจ ไม่อย่างนั้นชีวิตของเขาในไร่อันห่างไกลความเจริญแห่งนี้อาจจะสนุกขึ้นมาบ้างก็ได้
สำหรับมาร์โค ลอมบาร์ดีแล้ว ผู้หญิงที่เขาสนใจคือพวกที่กล้าได้กล้าเสีย อยากสนุกกับเขาโดยไม่สนใจสังคมรอบข้าง หรือไม่ต้องการมีความสัมพันธ์จริงจังต่างหาก ส่วนพวกผู้หญิงขี้อาย พูดอะไรนิด ทำอะไรหน่อยก็หน้าแดงแบบนี้ หากเขาทำอะไรเลยเถิดไปบ้าง พวกเธอก็พร้อมจะเรียกร้องความสัมพันธ์ที่ชัดเจนจากเขาในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยมีอยู่ในสมอง
ผู้จัดการไร่หนุ่มคิดถึงเจ้านาย รายนั้นจริงจังกับความสัมพันธ์เสียจนเขาเองยังไม่เข้าใจ เขาเข้าใจที่ราฟาเอลจะหลงลิลลี่หัวปักหัวปำ เพราะผู้หญิงคนนั้นสวยอย่างชนิดหาตัวจับยาก ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอที่สนามบินก็ทำเอาเขาแทบลืมหายใจไปเหมือนกัน แต่เพราะเธอมาทำงานที่ไร่ เขาจึงไม่คิดจะทำอะไร และเมื่อเจ้านายหลงรักคนงานคนใหม่ถึงขั้นให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน และไม่นานก็แต่งงาน ยอมทิ้งชีวิตหนุ่มโสดที่หาความสนุกได้อีกเยอะ เพื่อที่จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียว ตรงนั้นเองที่เขาไม่เข้าใจ ราฟาเอลบอกว่า คนไม่มีหัวใจอย่างเขาไม่มีวันเข้าใจหรอก ซึ่งเขาก็เห็นด้วย เขาไม่เข้าใจพวกมีความรักเลยจริงๆ
“ปกติคุณทานอะไรเป็นอาหารเช้าคะ” หญิงสาวตรงหน้าถามเขา เรียกความคิดให้กลับมายังปัจจุบัน
“ไข่ เบคอน แฮม หรืออะไรหนักๆสำหรับทำงานในไร่น่ะครับ”
“โธ่ ฉันไม่มีอะไรเลยค่ะ มีแต่ไข่ในตู้เย็น” หญิงสาวบอก ทำหน้าเสียใจ
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมไม่ได้ทำงานในไร่นี่นะ”
“เดี๋ยววันนี้ฉันจะไปซื้อมาไว้ให้นะคะ” หญิงสาวบอกเขา ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณเบาๆ ก่อนจะเดินไปปิ้งขนมปังสำหรับตัวเอง และกลับมานั่งจัดการอาหารเช้าเงียบๆ
ไลลารอเขาจัดการกับขนมปังปิ้งทั้งสองแผ่นเสร็จเรียบร้อยจึงเริ่มบทสนทนา ท่าทางวันนี้ชายหนุ่มจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อวาน สังเกตว่าเขาคุยกับเธอด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้ทำสีหน้ารำคาญและอยากจะให้เธอไปให้พ้นหน้าตลอดเวลาเหมือนเมื่อวานนี้ ยิ่งในตอนที่นัยน์ตาสีเขียวมรกตวิบวับขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้น ทำเอาเธอถึงกับหน้าร้อนวูบเลยทีเดียว ซึ่งจนบัดนี้เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นวิบวับขึ้นมาได้
“คุณจะต้องเอารถเช่าไปคืนด้วยใช่ไหมคะ” ชายหนุ่มลงเครื่องที่บริสเบน และเช่ารถขับมาที่ไร่ด้วยตัวเองเมื่อวานนี้
“ครับ คงต้องไปหลังจากเสร็จธุระที่ธนาคาร”
“ไหนๆก็เข้าบริสเบนแล้ว คุณอยากได้อะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากซื้อเสื้อผ้าสำหรับทำงานน่ะครับ ไม่ได้เตรียมมาเลย”
“ถ้าอย่างนั้นคืนรถเสร็จฉันจะขับรถพาไปค่ะ” หญิงสาวบอก
“ถ้าไม่เป็นการรบกวน” ชายหนุ่มพูด
“ไม่หรอกค่ะ เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว” ว่าพลางลุกขึ้นเก็บจานไปใส่เครื่องล้างจาน และหันมากล่าวกับชายหนุ่ม ก่อนจะเดินออกจากครัวไป
“เจอกันสิบโมงค่ะ”
ไลลาเดินออกมาจากบ้านในเวลาเกือบสิบโมงตรงตามที่นัดกันไว้กับชายหนุ่ม หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนสามส่วนเข้ารูปสีแดง กางเกงยีนส์สกินนี่สีน้ำเงินเข้ม และรองเท้าส้นสูง ใบหน้าที่ปกติจะเปลือยเปล่า วันนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ผมตรงยาวสีบลอนด์ยังคงมัดเป็นหางม้าสูงดังเช่นทุกวัน เมื่อเธอเดินพ้นประตูหน้าบ้านออกมา ก็พบกับชายหนุ่มยืนรออยู่ก่อนแล้ว
มาร์โคอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาวพอดีตัว อวดให้เห็นรูปร่างที่เต็มแน่นไปด้วยมัดกล้าม ปราศจากไขมันส่วนเกิน กางเกงยีนส์บูทคัทที่เข้ากับรูปร่างสูงโปร่ง และรองเท้าหนังสีดำ แม้จะเป็นเพียงชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ควรจะลำลอง แต่หญิงสาวก็บอกได้ว่า เสื้อผ้าบนร่างกายชายหนุ่มเป็นของแบรนด์เนมทุกชิ้น รวมกับหน้าตาที่ดีกว่าคนทั่วไป ทำให้เขามองดูเหมือนนายแบบโฆษณากางเกงยีนส์มากกว่าผู้จัดการไร่องุ่น
ไม่ยักรู้ว่าผู้จัดการไร่จะรายได้ดีขนาดแบรนด์เนมทั้งตัวแบบนี้ หญิงสาวคิดในใจ
ผู้จัดการไร่สาวมองเห็นนัยน์ตาสีเขียวมรกตบนใบหน้านิ่งเฉยนั้นกระพริบวิบวับเมื่อหันมาทอดมองเธอที่กำลังเดินตรงไปยังเขา
ผู้ชายคนนี้พูดด้วยสายตา หญิงสาวคิด ทั้งๆที่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่เธอรู้ว่าเขากำลังคิดหรือรู้สึกบางอย่างอยู่ จากสายตาที่มองมายังเธอ เพียงแต่เธอไม่รู้จักเขามากพอ ที่จะบอกได้ว่าสายตาระยิบระยับนั้นหมายความว่าอย่างไร
“หวังว่าฉันคงไม่ทำให้คุณรอนานนะคะ” หญิงสาวทักทายชายหนุ่ม
“ไม่ครับ ผมออกมาเร็วนิดหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ คุณขับตามมาก็แล้วกันนะคะ” หญิงสาวบอก ก่อนจะเดินนำเขาไปยังโรงรถ
ไลลาเดินตรงไปยังรถของทางไร่ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งเธอจะใช้เมื่อต้องไปธุระที่เกี่ยวกับงาน ในขณะที่รถเก๋งคันเล็กของตัวเองจะเก็บไว้ในโรงรถ และใช้เมื่อขับไปหามารดาในวันหยุดบ้างเท่านั้น ในขณะที่ผู้จัดการหนุ่มเดินตรงไปยังรถเก๋งแบบซีดานซึ่งเช่ามา และขับตามกันไป
[1] เวจจีไมท์: ยีสต์สกัดเข้มข้น ลักษณะครีมเหนียวเนื้อเนียนสีน้ำตาลเข้ม รสชาติเค็มปะแล่มๆ ใช้ทาขนมปัง เป็นอาหารสัญชาติออสซี่ที่คนออสซี่ทุกคนต้องกินเป็น