สวัสดีค่ะ หนุ่มสาวชาวก้นครัวที่ัรัก...
"กิมจิ"
เชื่อว่าสมัยนี้รู้จักกันทั้งนั้นว่าเป็นผักดองของเมืองโสมเกาหลี
กิมจิ แท้จริงก็คือผักดองธรรมด๊า ธรรมดา ที่ป้าเน็ทคุ้นเคยมานาน
อาจจะผิดแผกกันไปบ้างในความชอบของลิ้นรับรส และวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น
"กิมจิ" จานนี้
จึงเป็นเมนูที่ไม่มีกฎเกณฑ์กำหนดความถูกผิด ในวิธีการทำที่ชัดเจนนัก
จะทำอย่างไร ใส่แค่ไหน ขึ้นกับความพึงพอใจของคนกิน (ป้าเน็ท) เป็นสำคัญ
หากทำตามสูตรคงไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับ
การทำตามสัญชาตญาณ ที่ได้จากการ กิน และ การทดลองทำ
จึงอยากชักชวนให้ชาวก้นครัวมาทำกินเอง โดยไม่ต้องไปซื้อแบบแพงๆ กินค่ะ..
มาดูกินจิแบบเพี้ยนๆ ของป้าเน็ทกันค่ะ..
เริ่มจากการหาผักที่ชอบมาค่ะ ชอบแค่ไหนก็ทำแค่นั้น ป้าเน็ทได้มาเท่านี้แหละค่ะ
ก็พยามนำผักที่มีสีตัดกันนั่นแหละค่ะ ดองออกมาสวยดีกินอร่อยด้วย..
- ผักกาดขาว,ไชเ้ท้า, แครอท,ใบกุ๊ยช่าย ,พริกชี้ฟ้าแดงๆ , ขิงแก่
มีส่วนปรุงน้ำด้วยค่ะ ดังนี้
- เกลือ , น้ำปลาดี , น้ำตาลทราย
- แป้งข้าวจ้าว หรือ แป้งข้าวเหนียว
เริ่มจากการล้างผักให้สะอาด บางอย่างต้องปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นตามขวาง ไชเ้ท้า และ แครอท หั่นเป็นเส้นๆ ค่ะ
ใส่อ่างแก้ว โรยด้วยเกลือทะเลคลุกเคล้าเพื่อไล่น้ำออกจากผัก ทิ้งไว้สัก 1 ชม.
มาดูอีกทีจะเห็นในอ่างมีน้ำจากผักออกมาแล้ว
ให้นำไปล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อไล่น้ำเค็มออกไปค่ะ
ล้างน้ำสะอาด แล้วบีบน้ำให้ออก และนำมาผึ่งสะเด็ดน้ำค่ะ
จากนั้นก็นำแป้งข้าวจ้าว (ป้าเน็ทไม่มีแป้งข้าวเหนียว) มาละลายน้ำ
แล้วขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ คนไป จนข้าวข้นเป็นแป้งเปียก แล้วพักไว้ให้เย็นลง ก็แป้งเปียกนี่แหละ
เป็นตัวให้รสเปรี้ยวหละ ก็เหมือนที่เราดองผักใส่ข้าวสุกนั่นไง..
เตรียมขูดขิงไว้ค่ะ เดี๋ยวเราจะผสมลงในผัก
เตรียมหั่นพริกชี้ฟ้าแดง และ ต้นกุยช่าย ก็เพื่อเป็นของตบแต่งให้ดูมีสีสวยงาม
นำผักตบแต่งใส่ลงอ่างทั้งหมดค่ะ
พอแป้งเย็นแล้วก็ปรุงรสค่ะ
ใส่น้ำปลา กะๆ เอานะคะ เพราะผักเรามีความเค็มจากเกลือที่เราแช่แล้ว
ใส่น้ำตาลทราย เพิ่มรสหวานตามชอบ
คนให้เข้ากัน
แล้วจึงนำน้ำปรุงนี้มาใส่ในผัก พร้อมขิงขูด เคล้าให้เข้ากัน
อย่าลืมพริกป่นเกาหลีใส่ด้วยค่ะ แต่ของป้าเน็ทเป็นยี่ห้อไทยค่ะ
หาได้ตามท้องถิ่น ประเคนลงไปตามชอบ..อิอิ
....อืมมม ดูส่วนผสมแล้วมันรู้สึกว่าจะแห้งๆ ไปค่ะ ต้องหาน้ำมาใส่ซักเล็กน้อยค่ะ เป็นน้ำสุกนะคะ
แต่เผอิญว่า ป้าเน็ทมีน้ำองุ่นหมักอยู่ในขวดนิดหน่อย เลยถือโอกาสเอามาใช้งานค่ะ
หวังว่าพี่หลี คงไม่ว่าอะไรนะค๊า...
แล้วก็คลุกเคล้าทั้งหมดให้เข้ากัน อย่างเบามือ
อย่าลืมป้องกันมือซะด้วยนะคะ เดี๋ยวพริกจะกัดมือค่ะ อิอิ..
เก็บในภาชนะพลาสติกไว้ในอุณหภูมิห้องสัก 24 ชม. หรือมากกว่า
ให้เกิดรสเปรี้ยวตามต้องการ จึงนำเข้าแช่ตู้เย็นต่อค่ะ..
แช่ไว้ไม่กี่วันก็กินอร่อยแล้วค่ะ เปรี้ยว เค็ม หวาน กรอบๆๆๆ
มาชิม "กิมจิ" แบบของป้าเน็ทกันค่า....ง่ายๆ ไม่แพง
"สุขใดหรือจะเท่า สุขที่เราได้กินของโปรด"
ขอบคุณที่ให้เกียรติ์ติดตาม และพูดคุยกัน หรือจะติ ติง กันก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ
ป้าเน็ทรักทุกคนค่ะ สวัสดี
@ เมนูในความทรงจำ แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา "กิมจิ" แบบเพี้ยนๆ แต่ถูกใจ....@
"กิมจิ"
เชื่อว่าสมัยนี้รู้จักกันทั้งนั้นว่าเป็นผักดองของเมืองโสมเกาหลี
กิมจิ แท้จริงก็คือผักดองธรรมด๊า ธรรมดา ที่ป้าเน็ทคุ้นเคยมานาน
อาจจะผิดแผกกันไปบ้างในความชอบของลิ้นรับรส และวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น
"กิมจิ" จานนี้
จึงเป็นเมนูที่ไม่มีกฎเกณฑ์กำหนดความถูกผิด ในวิธีการทำที่ชัดเจนนัก
จะทำอย่างไร ใส่แค่ไหน ขึ้นกับความพึงพอใจของคนกิน (ป้าเน็ท) เป็นสำคัญ
หากทำตามสูตรคงไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับ
การทำตามสัญชาตญาณ ที่ได้จากการ กิน และ การทดลองทำ
จึงอยากชักชวนให้ชาวก้นครัวมาทำกินเอง โดยไม่ต้องไปซื้อแบบแพงๆ กินค่ะ..
มาดูกินจิแบบเพี้ยนๆ ของป้าเน็ทกันค่ะ..
ก็พยามนำผักที่มีสีตัดกันนั่นแหละค่ะ ดองออกมาสวยดีกินอร่อยด้วย..
- ผักกาดขาว,ไชเ้ท้า, แครอท,ใบกุ๊ยช่าย ,พริกชี้ฟ้าแดงๆ , ขิงแก่
มีส่วนปรุงน้ำด้วยค่ะ ดังนี้
- เกลือ , น้ำปลาดี , น้ำตาลทราย
- แป้งข้าวจ้าว หรือ แป้งข้าวเหนียว
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นตามขวาง ไชเ้ท้า และ แครอท หั่นเป็นเส้นๆ ค่ะ
ใส่อ่างแก้ว โรยด้วยเกลือทะเลคลุกเคล้าเพื่อไล่น้ำออกจากผัก ทิ้งไว้สัก 1 ชม.
ให้นำไปล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อไล่น้ำเค็มออกไปค่ะ
แล้วขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ คนไป จนข้าวข้นเป็นแป้งเปียก แล้วพักไว้ให้เย็นลง ก็แป้งเปียกนี่แหละ
เป็นตัวให้รสเปรี้ยวหละ ก็เหมือนที่เราดองผักใส่ข้าวสุกนั่นไง..
ใส่น้ำปลา กะๆ เอานะคะ เพราะผักเรามีความเค็มจากเกลือที่เราแช่แล้ว
ใส่น้ำตาลทราย เพิ่มรสหวานตามชอบ
คนให้เข้ากัน
หาได้ตามท้องถิ่น ประเคนลงไปตามชอบ..อิอิ
แต่เผอิญว่า ป้าเน็ทมีน้ำองุ่นหมักอยู่ในขวดนิดหน่อย เลยถือโอกาสเอามาใช้งานค่ะ
หวังว่าพี่หลี คงไม่ว่าอะไรนะค๊า...
อย่าลืมป้องกันมือซะด้วยนะคะ เดี๋ยวพริกจะกัดมือค่ะ อิอิ..
ให้เกิดรสเปรี้ยวตามต้องการ จึงนำเข้าแช่ตู้เย็นต่อค่ะ..
"สุขใดหรือจะเท่า สุขที่เราได้กินของโปรด"
ขอบคุณที่ให้เกียรติ์ติดตาม และพูดคุยกัน หรือจะติ ติง กันก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ
ป้าเน็ทรักทุกคนค่ะ สวัสดี