วันนี้ว่างนึกอยากทำขนมขึ้นมาเพราะไม่มีขนมกิน 555 แต่อยากกินมัฟฟินเปิดดูสูตรเก่าๆที่จดๆไว้ก้อทำไปเกือบหมดแล้วมาสะดุดตรงสูตรมัฟฟินมะพร้าวแต่เจ้ากรรมน้ำหมึกที่จดไว้โดนน้ำบางส่วนอ่านไม่เห็นเลยต้องมาหาอากู๋อีกแล้วเพราะบังเอิญมีมะพร้าวแห้งที่ซื้อมาจากฟู้ดแลนด์นานจนลืมแต่เก็บไว้ในตู้เย็นทั้งถุงยังไม่ได้แกะใช้เลยเจอสูตรฮิตของก้นครัวแต่มะพร้าวที่มีอยู่ไม่พอแล้วก้อไม่อยากหารสูตรเยอะแยะด้วยเลยเลือกทำสูตรคุณปุ๊ก http://dailydeliciousthai.blogspot.com/2008/02/blog-post_28.html ซึ่งใช้มะพร้าว 1 ถ้วย เรามีมะพร้าวอยู่ 100 กรัม ก้อเอาวะเพราะมีส่วนผสมแป้งอยู่แล้วถึงมะพร้าวไม่ถึงตามสูตรก้อคงพอกินได้ แต่สูตรฮิตก้นครัวไร้แป้งถ้ามะพร้าวไม่ถึงคงไม่อร่อยแล้วก้อได้มัฟฟินมะพร้าวหน้าตาแบบนี้มาค่ะ


ลอกสูตรคุณปุ๊ก มาเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางอย่างที่ขาดไปเพราะไม่มี อย่างน้ำตาลทรายแดง กับกะทิ ซึ่งเราแทนด้วย น้ำตาลสีรำ และ นมข้นจืด
มาดูส่วนผสมของคุณปุ๊กกันค่ะ
มะพร้าวขูดแห้ง 1 ถ้วยตวง (หมอกมี 100 กรัม)
น้ำตาลทรายแดง 1 ชต. (ไม่มีใช้น้ำตาลสีรำ)
เนยละลาย         6 ชต.
แป้งอเนกประสงค์  1 ถ้วยตวง
น้ำตาล   1/3 ถ้วยตวง(ตรงนี้ก้อใช้น้ำตาลสีรำด้วย)
ผงฟู    1 ชช.
เบกกิ้งโซดา  1/4 ชช.
เกลือ   1/4 ชช.
ไข่    1 ฟอง
กระทิ   1/3 ถ้วยตวง(หมอกใช้นมข้นจืดค่ะ)
นมสด   4 ชต.
ผิวมะนาวขูด  1/2 ชช



เปิดเตาอบที่ 180°C แล้วเอาถ้วยกระดาษใส่ ไว้ในพิมพ์มัฟฟินหมอกใช้ถ้วยจีบคัพเค้กได้ 12 ถ้วยแต่ต้นฉบับทำไซส์ มินิได้ 24 ถ้วยค่ะะ
ผสมมะพร้าว กับน้ำตาลทรายแดง และเนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะ แล้วตักส่วนผสมออกมา 3 ช้อนโต๊ะเพื่อใช้สำหรับโรยหน้าค่ะหมอกใช้น้ำตาลสีรำมะพร้าวเลยสีจืดๆคราวหน้าถ้าทำคงต้องใช้น้ำตาลทรายแดงจริงละค่ะ



ร่อน แป้ง ผงฟู น้ำตาล เกลือ และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน



แล้วนำไปผสมกับส่วนของมะพร้าว พักไว้



ตีไข่กับส่วนผสมที่เหลืออยู่จนเข้ากันดี (ไข่+น้ำตาล+นมสด+กะทิ(นมข้นจืด)+ผิวมะนาว+เนยละลายที่เหลือ)



เสร็จแล้วนำไปผสมในส่วนของแป้งลงไป อย่าคนมากไปนะคะ เอาแค่พอเข้ากัน





ใส่ลงในพิมพ์



โรยหน้าด้วย ส่วนผสมของมะพร้าวที่เก็บไว้



นำเข้าอบ 20-25 นาที หรือจนสีสวยแต่ของหมอกไม่สวยเท่าไหร่ในส่วนของหน้าถ้าเป็นน้ำตาลทรายแดงน่าจะดูดีกว่านี้

ท้าาาาาาาดาาาาาาาาาา ออกมาจากเตาอบแล้วค่ะเอาออกจากพิมพ์พักบนตะแกรง



อย่างที่บอกค่ะ ควรใช้น้ำตาลทรายแดงผสมในส่วนของมะพร้าว เพราะน่าจะเกาะตัวได้ดีไม่ร่วงหล่น

แต่ที่แน่ๆคือหอมมากนี่ถ้าได้กะทิมาในส่วนผสมก้อคงหอมมากกว่านี้



จะทานตอนอุ่นหรือทานตอนเย็นแล้วก้อได้ค่ะ
ลองดูเนื้อขนมตอนอุ่นหน่อยเนอะ







นี่หมอกก้อทำไว้ตั้งแต่เช้าพักจนเย็นบนตะแกรงแล้วเก็บใส่กล่องเข้าตู้เย็นแล้วก้อเอาออกมาจิบกับชาตอนบ่ายนี่แหละค่ะ
ลาไปกับภาพนี้ ขอบคุณคุณปุ๊ก สำหรับสูตรขนมด้วยค่ะ