คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 (ที่มา:มติชนรายวัน 31 มีนาคม 2556)
แม้รัฐบาลจะดัน "ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ...." มูลค่า 2 ล้านล้านบาท
ผ่านสภาผู้แทนฯวาระที่ 1 ได้
แต่ทางข้างหน้า ใช่จะราบรื่น
ในชั้นกรรมาธิการ เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะหาช่องรื้อทุกบรรทัดแน่
ท้าทายเพื่อไทยว่าจะ "ทันเกม" และ "กำหนดเกม" ได้หรือไม่
ถ้าปวกเปียก เหลวไหล แบบฝากบัตรใช้สิทธิแทนกันละก็
เละแน่ๆ
นี่ยังไม่พูดถึงกรณีไปถึงวุฒิสภา
เจออีกด่านโหดแน่ๆ
นอกจากลุ้นจะผ่านไม่ผ่านแล้ว เชื่อว่าที่สุดต้องกลับมาตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาแน่
ที่หวังว่าจะให้เรื่องนี้ เร็ว ไม่มีทาง
ทางยาวแน่ แถมมีการวางกับดักขวางตลอด
ตอนนี้กลุ่ม "คนไทยหัวใจรักสงบ" ไปยื่นเรื่องตรวจสอบรอที่ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" แล้ว
ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว. ใช้ทุกช่องขัดขวาง ทั้งจะให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ
และยังจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก
อย่างที่ทราบ เมื่อเรื่องอยู่ในมือ "องค์กรอิสระ" อะไรก็เกิดขึ้นได้
โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่เป็น "คุณ" ต่อรัฐบาล
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น
จู่ๆ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
ได้รวบรวมชื่อสมาชิกรัฐสภาจำนวน 77 คน
เป็น ส.ว. 42 คน และ ส.ส.ปชป. 35 คน ต่อประธานรัฐสภา
ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า ร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ....
ที่ผ่านรัฐสภาและนำขึ้นโปรดเกล้าฯเพื่อประกาศใช้แล้ว ขัดแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่
ที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้เร่งด่วน ก็เพราะร่าง พ.ร.บ.นี้จะไปเอื้อในฐานะ "เครื่องมือทางกฎหมาย"
ให้การกู้เงิน 2 ล้านล้าน และการดำเนินการโครงการต่างๆ เดินหน้าไปเร็วขึ้น
อย่างที่นายไพบูลย์บอกถ้าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะสามารถดำเนินการ
โครงการต่างๆ ได้ภายใน 12 เดือน แต่ถ้าเป็น พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานฉบับเก่า
พ.ศ.2535 จะต้องมีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งใช้เวลา 30 เดือน
เมื่อเป็นอย่างนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นใด ส.ว.และ ส.ส.ประชาธิปัตย์ก็ต้องยื่นตีความ หวังจะสกัดเรื่อง
ให้ล่าช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งที่นายไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ทางรายการอินไซด์ไทยแลนด์ 97.00 เมกะเฮิรตซ์ เองว่า
พ.ร.บ.นี้เสนอในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ส.ว.และ ส.ส.ประชาธิปัตย์เคยสนับสนุนจนเกือบจะบังคับใช้แล้ว
แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องเงินกู้ 2 ล้านล้านขึ้นมา เลยหนุน
เมื่อสิ่งที่เคยหนุน จะกลายเป็นคุณต่อโครงการไทยแลนด์ 2020 ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ต้องกลืนน้ำลาย ยื่นตีความว่ากฎหมายที่ตัวเองยกมือผ่าน ว่าขัดรัฐธรรมนูญ
เสียหน้าเสียตาบ้าง แต่ไม่มีทางเลือก ต้องสกัดเงินกู้ 2 ล้านล้านไว้ก่อน
สะท้อนว่า งานนี้ "ขวาง" กันแบบเอาเป็นเอาตาย เป็นกระบวน แถมคงมีกุนซือดีจึงมอง
เห็นจุดอ่อนแล้วรีบปิดช่อง
จึงขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้วล่ะทีนี้
เมื่อรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ จะเตรียมสู้อย่างไร
ถ้าไม่เป็นกระบวน มีเอกภาพ ทันเกม แล้วละก้อ สาหัส!
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364726687&grpid=&catid=02&subcatid=0207
เมื่อใครๆก็ทำนายว่า โครงการนี้สำเร็จ เพื่อไทยอยู่ยาว ... แน่ๆ
จะไม่สกัดได้ยังไง ... มติชิน...เอ๊ย มติชน ท้าทาย เพื่อไทย แล้ว
วางแผนไว้ยังไง .... แค่เสียงสนับสนุนของปชช....จะเพียงพอไหม?
เพราะวันนี้ .... รู้สึกว่า ปชช.เสียงข้างมาก ดูไม่ค่อยจะมีความหมาย
เพื่อนๆ ...คิดยังไง กันบ้างคะ ....
สกัดทุกท่า ..... โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร ..... มติชนออนไลน์
แม้รัฐบาลจะดัน "ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ...." มูลค่า 2 ล้านล้านบาท
ผ่านสภาผู้แทนฯวาระที่ 1 ได้
แต่ทางข้างหน้า ใช่จะราบรื่น
ในชั้นกรรมาธิการ เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะหาช่องรื้อทุกบรรทัดแน่
ท้าทายเพื่อไทยว่าจะ "ทันเกม" และ "กำหนดเกม" ได้หรือไม่
ถ้าปวกเปียก เหลวไหล แบบฝากบัตรใช้สิทธิแทนกันละก็
เละแน่ๆ
นี่ยังไม่พูดถึงกรณีไปถึงวุฒิสภา
เจออีกด่านโหดแน่ๆ
นอกจากลุ้นจะผ่านไม่ผ่านแล้ว เชื่อว่าที่สุดต้องกลับมาตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาแน่
ที่หวังว่าจะให้เรื่องนี้ เร็ว ไม่มีทาง
ทางยาวแน่ แถมมีการวางกับดักขวางตลอด
ตอนนี้กลุ่ม "คนไทยหัวใจรักสงบ" ไปยื่นเรื่องตรวจสอบรอที่ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" แล้ว
ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว. ใช้ทุกช่องขัดขวาง ทั้งจะให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ
และยังจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก
อย่างที่ทราบ เมื่อเรื่องอยู่ในมือ "องค์กรอิสระ" อะไรก็เกิดขึ้นได้
โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่เป็น "คุณ" ต่อรัฐบาล
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น
จู่ๆ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
ได้รวบรวมชื่อสมาชิกรัฐสภาจำนวน 77 คน
เป็น ส.ว. 42 คน และ ส.ส.ปชป. 35 คน ต่อประธานรัฐสภา
ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า ร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ....
ที่ผ่านรัฐสภาและนำขึ้นโปรดเกล้าฯเพื่อประกาศใช้แล้ว ขัดแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่
ที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้เร่งด่วน ก็เพราะร่าง พ.ร.บ.นี้จะไปเอื้อในฐานะ "เครื่องมือทางกฎหมาย"
ให้การกู้เงิน 2 ล้านล้าน และการดำเนินการโครงการต่างๆ เดินหน้าไปเร็วขึ้น
อย่างที่นายไพบูลย์บอกถ้าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะสามารถดำเนินการ
โครงการต่างๆ ได้ภายใน 12 เดือน แต่ถ้าเป็น พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานฉบับเก่า
พ.ศ.2535 จะต้องมีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งใช้เวลา 30 เดือน
เมื่อเป็นอย่างนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นใด ส.ว.และ ส.ส.ประชาธิปัตย์ก็ต้องยื่นตีความ หวังจะสกัดเรื่อง
ให้ล่าช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งที่นายไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ทางรายการอินไซด์ไทยแลนด์ 97.00 เมกะเฮิรตซ์ เองว่า
พ.ร.บ.นี้เสนอในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ส.ว.และ ส.ส.ประชาธิปัตย์เคยสนับสนุนจนเกือบจะบังคับใช้แล้ว
แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องเงินกู้ 2 ล้านล้านขึ้นมา เลยหนุน
เมื่อสิ่งที่เคยหนุน จะกลายเป็นคุณต่อโครงการไทยแลนด์ 2020 ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ต้องกลืนน้ำลาย ยื่นตีความว่ากฎหมายที่ตัวเองยกมือผ่าน ว่าขัดรัฐธรรมนูญ
เสียหน้าเสียตาบ้าง แต่ไม่มีทางเลือก ต้องสกัดเงินกู้ 2 ล้านล้านไว้ก่อน
สะท้อนว่า งานนี้ "ขวาง" กันแบบเอาเป็นเอาตาย เป็นกระบวน แถมคงมีกุนซือดีจึงมอง
เห็นจุดอ่อนแล้วรีบปิดช่อง
จึงขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้วล่ะทีนี้
เมื่อรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ จะเตรียมสู้อย่างไร
ถ้าไม่เป็นกระบวน มีเอกภาพ ทันเกม แล้วละก้อ สาหัส!
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364726687&grpid=&catid=02&subcatid=0207
เมื่อใครๆก็ทำนายว่า โครงการนี้สำเร็จ เพื่อไทยอยู่ยาว ... แน่ๆ
จะไม่สกัดได้ยังไง ... มติชิน...เอ๊ย มติชน ท้าทาย เพื่อไทย แล้ว
วางแผนไว้ยังไง .... แค่เสียงสนับสนุนของปชช....จะเพียงพอไหม?
เพราะวันนี้ .... รู้สึกว่า ปชช.เสียงข้างมาก ดูไม่ค่อยจะมีความหมาย
เพื่อนๆ ...คิดยังไง กันบ้างคะ ....