JJNY : โรมชี้กล่าวหาประเทศอื่น│โรมชี้ปราบแก๊งคอลได้ผล แต่ยังไม่หมด│ไม่รู้รายละเอียดไฟไหม้ศาลาตรีมุข│ประท้วงรื้อ USAID

กมธ.มั่นคงฯ ถกปมส่งอุยกูร์ โรม ชี้ กล่าวหาประเทศอื่น ไม่แน่วแน่รับตัว ทะเลาะคนอื่นทำไม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5078919

 
“กมธ.มั่นคงฯ” ถกผลกระทบส่ง อุยกูร์ กลับจีน โรม ซัดเดือด แกว่งปากหาเสี้ยน! ไปกล่าวหาประเทศอื่นไม่แน่วแน่รับตัว มองจะทำให้ปัญหาเลวร้ายขึ้น ด้าน ทูตรัศม์ ยันทำตามกม.ระหว่างประเทศ การันตีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
 
เวลา 9.30 น. วันที่ 6 มีนาคม ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกมธ. ถึงประเด็นการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนว่า วันนี้ได้เชิญนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ นายมาริษ​ เสงี่ยม​พงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​
 
รวมไปถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ มาชี้แจงเรื่องการส่งอุยกูร์กลับประเทศจีน​ แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความร่วมมือ มีเพียงนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ​ พ.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข​ รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง​ มาชี้แจง​
 
นายรังสิมันต์​กล่าวว่า เรื่องการส่งอุยกูร์​ กลับจีน ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จะถือเป็นการละเมินอำนาจศาล​หรือไม่​ และมีพ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย บังคับภายในประเทศด้วย​ ดังนั้น​เรื่องนี้อาจจะกระทบต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง​ อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณา คือผลกระทบกับประเทศไทย​ เพราะตอนนี้เริ่มมีสถานทูตหลายประเทศประกาศแจ้งเตือน​คนของประเทศเขาที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย​ ให้ระมัดระวัง​
 
ซึ่งมันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว จึงต้องถามถึงมาตรการในการรับมือ​ ยอมรับว่าวันนี้เราเอาคนอุยกูร์กลับมา​ เป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่สามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ได้​ แต่สิ่งที่ต้องบริหารกันต่อไปคือ​ ผลกระทบที่เกิดขึ้น​ ทางด้านสังคมและทางด้านของการก่อการร้าย​ รวมไปถึงด้านมิติเศรษฐกิจต่างๆ และสิ่งสำคัญคือเราอยากรู้ว่าเราได้อะไรจากการทำเรื่องนี้ เพราะราคาที่ประเทศไทยต้องจ่ายมันเป็นราคาที่แพง
 
เมื่อ​ถามถึง การเรียกร้องให้มีการเปิดกล้องวงจรปิดระหว่างส่งตัว คณะกรรมาธิการ​ จะขอดูด้วยหรือไม่​ นายรังสิมันต์​กล่าวว่า​ ยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุยกันในการบริการเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดด้วย​ เพื่อที่จะได้ดูพฤติกรรมระหว่างการส่งตัวว่าเขายินยอมที่จะไปจริงหรือไม่​ ตนเชื่อว่ามีแน่นอนแต่อยู่ที่ว่าจะให้หรือไม่​ และตนเชื่อว่านี่ไม่ใช่การส่งตัวครั้งแรก​ ผู้แทนที่เดินทางไปดูได้เข้าไปดู 109 คน​
 
ก่อนหน้านี้หรือไม่ว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร​ เพราะตนเชื่อว่าหากจะดูความเป็นอยู่ของ 48 คนที่ส่งไปล่าสุด จะเป็นอย่างไรก็ต้องไปดู 109 คนที่ถูกส่งไปก่อนหน้านี้​ ตอนนี้มีภาพออกมาว่าเขาได้เจอครอบครัวเป็นภาพอันหวานชื่น​ แต่ตนสังเกตหน้าตาของคนที่เดินทางกลับดูไม่เต็มใจ​ และหน้าตาดูเศร้าหมองไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้น​ หลายๆอย่างมันมีพิรุธ​ รวมถึงจะต้องมีการถามถึงหนังสือสัญญาว่า​ สรุปแล้วมีจริงหรือไม่และหน้าตาเป็นอย่างไร​
 
เมื่อถามว่า กรณีจะมีการพาสื่อมวลชนไทยไปดูความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์​ 48 คน​ ดูแล้วมันสมเหตุสมผลหรือไม่​ นายรังสิมันต์​ โรม​ กล่าวว่า เวลาไปดูแบบนั้น​ มันไม่ใช่วิธีการที่นำไปสู่การตรวจสอบที่แท้จริง เพราะว่าถ้าจะมีการตรวจสอบที่แท้จริงต้องให้อิสระ แต่ตนไม่มั่นใจว่าสื่อมวลชนที่จะไปครั้งนี้จะมีอิสระหรือไม่​
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารที่ทางจีนการันตีถึงความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ เพียงพอหรือไม่​ นายรังสิมันต์​ กล่าวว่า​ความปลอดภัยต้องดูในหลายบริบท ไม่ใช่ดูแค่จากคำสัญญาเท่านั้น​ เพราะชีวิตคนเวลามันเกิดอะไรไปแล้ว​ มันเอาคืนไม่ได้​ และ บริบทหลายอย่างทั้งเรื่องการแอบส่งไปยามวิกาล การติดสติ๊กเกอร์ดำ​ มันทำให้เราไม่มั่นใจ ว่ามันเป็นการทำเพื่อคนอุยกูร์จริงๆ​
 
เมื่อถามว่า มีประเทศที่ 3 มีความประสงค์รับตัวจริงหรือไม่​ นายรังสิมันต์​ โรม​ กล่าวว่า​ ตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว ตอนตนอยู่ในคณะกรรมาธิการกฎหมาย และได้พูดคุยกับ สมช. ยืนยันว่ามีประเทศที่ 3 ประสงค์ที่จะรับชาวอุยกูร์​ แต่เราไม่สามารถจะส่งไปได้ เพราะเรากังวลความสัมพันธ์กับจีน​
 
ไม่ต้องไปโทษคนอื่น ว่าเขาไม่แน่วแน่ เพราะการโทษแบบนั้นเป็นการแกว่งปากหาเสี้ยน และการไปตำหนิประเทศอื่นไม่แน่วแน่​แก้ไข​ ไม่แน่วแน่ที่จะรับ ผมงงมากว่าการพูดของคุณเป็นอะไรไปแล้ว​ คุณจะไปทะเลาะกับคนอื่นทำไม​ ก็ตอบกันตรงๆว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่คุณกังวลว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน​ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้​
 
มันมีวิธีการอย่างไร​ในการแก้ไข​ แต่คุณจะไปโทษประเทศอื่น​ ทั้งสหรัฐอเมริกา​ ตุรกี​ ไม่แน่วแน่เพียงพอ​ มันจะยิ่งทำให้เรื่องนี้เลวร้ายยิ่งขึ้น มันทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
จากนั้นนายรังสิมันต์​ ได้เปิดการประชุม​ โดยนายรัศม์​ กล่าวชี้แจงว่า​ การที่จีนให้คำมั่นกับทางการไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เรามี ทั้งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เรามีกับจีนและการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนชาวไทย รวมทั้งเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชาวอุยกูร์เหล่านั้น ซึ่งทั้งหมดได้ทำไปบนพื้นฐานของกฎหมาย ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ



โรม ชี้มาตรการปราบแก๊งคอลได้ผล แต่ยังไม่หมด จี้รบ.ลุยต่อ เหตุได้แค่ลูกกระจ๊อก ต้องเอาผิดจนท.รัฐด้วย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5078941

โรม ชี้มาตรการปราบแก๊งคอลได้ผล แต่ยังไม่หมด จี้รบ.ลุยต่อ เหตุได้แค่ลูกกระจ๊อก ต้องเอาผิดจนท.รัฐด้วย งง ยังปล่อยหม่อง ชิตตู่ ลอยนวล
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 มีนาคม ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ
 (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีการประเมินการทำงานของรัฐบาลในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ว่า ต้องยอมรับว่าการตัดไฟ อินเตอร์เน็ต และน้ำมัน เป็นก้าวแรกที่ดี และส่งผลกระทบต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จริง แต่ไม่หมด ตอนนี้เรามีข้อบ่งชี้หลายอย่างว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลับมาเห็นได้จากตัวเลข ที่ไปทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
 7,000 กว่าคน เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ถ้ายังค้างอยู่แบบนี้ เผลอๆใน 7,000 คนนี้ อาจจะกลับไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใหม่ นอกจากนี้การตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตยังไม่เพียงพอ เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้สตาร์ลิงค์มารองรับ หากรัฐบาลไม่คุยกับเจ้าของบริษัท สุดท้ายเขากลับไปใช้สตาร์ลิงค์ได้
 
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราต้องการมาตรการที่มากกว่านี้ วันนี้ไทยเทาที่จับได้เป็นแค่ระดับลูกกระจ๊อกเท่านั้น คนที่เราต้องการจริงๆ คือระดับเจ้าหน้าที่รัฐที่สมคบคิดรับส่วย แต่เรายังไม่เห็นความคืบหน้า และอัยการสูงสุดยังไม่ดำเนินการอะไรกับ พ.อ.หม่อง ชิตตู ผู้นำกองกำลัง BGF และปล่อยให้เรื่องนี้ค้างคาต่อไป เกิดอะไรขึ้นกับหน่วยงานของรัฐ ตนชื่นชมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ข้อหาก็ยังแปลก เน้นไปที่เรื่องค้ามนุษย์ ควรจะตั้งข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ ค้ายาเสพติด ก็สามารถทำได้ เนื่องจากมีหลักฐานบ่งชี้
 
ต้องยอมรับว่าการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปให้ถึงรากแก้ว เรายังไม่ประสบความสำเร็จ ผมเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะสูญเสียความมุ่งมั่นในเรื่องนี้ และจะกลายเป็นการลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น” นายรังสิมันต์กล่าว
 
เมื่อถามว่า การคัดกรองไม่ประสบความสำเร็จใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แน่นอน เราไปทลายฝั่งกัมพูชา แล้วนำมาเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง นำไปสู่การขยายผลจับกุม แต่ฝั่งเมียนมา เราไม่ได้คัดกรอง เราส่งอย่างเดียว กลายเป็นว่าเราต้องไปพึ่งพาประเทศอื่นให้เขาจัดการ สุดท้ายไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร
 


โรม บอกยังไม่รู้รายละเอียดไฟไหม้ศาลาตรีมุข ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอหารือกมธ.ก่อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5078934

โรม ยังไม่รู้รายละเอียดไฟไหม้ศาลาตรีมุข ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอหารือกมธ.ก่อน
 
เมื่อเวลา 09.30 วันที่ 6 มีนาคม ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไฟไหม้ศาลาตรีมุข หรือที่เรียกว่า ศาลารวมใจ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า ยอมรับว่าตนยังไม่ได้ไปดูในรายละเอียดมาก เบื้องต้นเห็นในข่าวแล้ว แต่จะต้องขอหารือกันในกรรมาธิการก่อนแล้วจะรายงานกันต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่