สส.ประชาชน แฉ คอนโดย่านนานา ปล่อยเช่ารายวันให้ค้าประเวณี พบหญิงผิวสีพาผู้ชายขึ้นห้องไม่ซ้ำหน้า
https://ch3plus.com/news/social/morning/434489

“ภัณฑิล” สส.พรรคประชาชน แฉ คอนโดย่านนานา กลางกรุงเทพฯ ปล่อยเช่ารายวันให้ค้าประเวณี พบหญิงผิวสีพาผู้ชายขึ้นห้องไม่ซ้ำหน้า ทำผู้อาศัยหวาดกลัวต้องย้ายหนี จี้รัฐบาลแก้ พ.ร.บ.อาคารชุด เพิ่มอำนาจเจ้าของห้องร่วมตัดสินใจได้ แนะ ดีอี ดึง Air bnb ลงทะเบียนให้ต่างชาติเสียภาษีหากินในไทย
 
นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงปัญหาปล่อยเช่าคอนโดรายวันให้กับชาวต่างชาติ ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาตลอด 1 ปีที่เป็นผู้แทนราษฎร ว่ามีต่างชาติมาเช่าคอนโดเป็นรายวันและสร้างความเดือดร้อน เช่น จัดปาร์ตี้และใช้ยาเสพติดจนกลิ่นกัญชาออกมานอกห้อง และมีการใช้เสียงดังรบกวน บางครั้งต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบว่าในซอยนานามีชาวอาหรับมาใช้บริการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จำนวนมาก ญาติที่มาเฝ้าไข้ก็ไม่ได้พักในโรงแรม แต่เป็นการเช่าคอนโดอยู่ จนบางครั้งอยู่อาศัยในคอนโดขึ้นป้ายว่า “เราไม่ต้องการผู้พักอาศัยรายวัน” เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย คอนโดบางแห่งถึงขั้นต้องติดตั้งเครื่องสแกนหน้า ซึ่งเรื่องผิดกฎหมายทั้ง พ.ร.บ.โรงแรม และนิติบุคคลก็ทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สามารถปล่อยเช่ารายวันได้ แต่ไม่ยอมทำตาม โดยอ้างว่าต้องมีมติจากที่ประชุมนิติคอนโด ซึ่งปัญหาของเรื่องเกิดจากพ.ร.บ.อาคารชุดกำหนดองค์ประชุมนิติคอนโดที่น้อยเกินไป แค่ เศษ 1 ส่วน 3 ของผู้อาศัย ทำให้คนแค่หยิบมือเดียวก็สามารถกำหนดทิศทางบางอย่างของคนทั้งหมดได้ จึงถึงเวลาที่ต้องแก้ไขกฎหมายดังกล่าวให้ทุกคนที่มีกรรมสิทธิ์มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและตัดสินใจร่วมกันได้
 
พร้อมกันนี้นายภัณฑิล ยังเปิดเผยว่า มีข้อร้องเรียนมาว่าย่านนานามีการปล่อยคอนโดชุดให้ผู้บริการทางเพศเช่า มีข้อเรียกร้อนว่ามีหญิงผิวสีขึ้นลงคอนโดจำนวนมาก แม้จะไม่ได้ทำให้เดือดร้อนโดยตรงแต่ก็ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยที่มีคนเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาเข้าไปคอนโดพร้อมกับผู้ชาย ทำให้กังวลว่าต้องย้ายออกหรือไม่ สะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายไม่ได้คุ้มครองคอนโดอย่างแท้จริง จนเกิดคำถามว่าการไปศึกษาแนวทางที่จะให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์อาคารชุด 75% ของพื้นที่ทั้งหมด จะสามารถคุ้มครองคนไทยที่เป็นเสียงส่วนน้อยได้อย่างไร เพราะขนาดตอนนี้สัดส่วน 49% ยังมีการตั้งนอมินีขึ้นมาทำให้คนอื่นเดือดร้อน เรื่องนี้ถูกปล่อยปละละเลยขาดการทำงานเชิงรุกเพราะเรื่องนี้ปรับได้ตามพ.ร.บ.โรงแรม เพราะเอาคอนโดมาปล่อยเช่ารายวัน
 
ซึ่งตนได้ตั้งคำถามในกรรมาธิการปกครองว่าปกติชาวต่างชาติมาพักอาศัยในไทยต้องรายงานกับตม. แต่ทุกวันนี้ไม่มีการรายงานเพราะไปเช่าคอนโดแบบรายวันใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสุ่มตรวจ ไม่ใช่เฉพาะช่วงที่มีกระแสข่าว โดยเฉพาะคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า
 
นอกจากนี้นายภัณฑิล ยังกล่าวถึงกรณีการปล่อยเช่าคอนโดรายวันในแอปฯ Airbnb ว่า ชาวต่างชาติที่ซื้อห้องไปและเอามาปล่อยห้องต่อเงินจะโอนเข้าแอปฯ จึงต้องตั้งคำถามว่าแอปฯ นี้ได้เสียภาษีในไทยหรือไม่ ต้องรับผิดรับชอบอะไรเลยใช่หรือไม่ ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะมีแนวทางบังคับให้แอปฯ เหล่านี้มาขึ้นทะเบียนอย่างไรเพื่อให้คนเหล่านี้เสียภาษีที่มาทำมาหากินในไทย

---

"เผ่าภูมิ" ขอโทษปม "คนไม่ฉลาด" รับสื่อสารพลาด "ศิริกัญญา" ซัดศก.ไทยซอมบี้ อย่าหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/434491

กรณีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงนี้ แล้วเมื่อวานนี้ คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาพูดเรื่องคนฉลาด คนไม่ฉลาด ล่าสุด เจ้าตัวออกมาขอโทษที่พูดแรงเกินไปแล้ว ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์โต้กลับ บอกว่า จะโบ้ยว่าเป็นปัจจัยภายนอกอย่างเดียวไม่ได้ ตัวเลขไม่โกหกใครตอนนี้เศรษฐกิจแบบจะเป็บซอมบี้แล้ว

คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอเมื่อเช้านี้ บอกว่า ไม่ได้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์นักลงทุน สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้มีปัญหา 2 ประเด็น คือ 1. การสื่อสารที่สั้นเกินไป และ 2. เป็นการสื่อสารที่ไม่สะท้อนเจตนารมณ์ ถ้าเกิดความไม่สบายใจต้องขออภัยด้วยจริงๆ ยืนยันว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ไม่ได้ต้องการสื่อสารว่าใครว่าโง่

เจตนาจริงๆ คือ เราเห็นตัวเลขทั้งหมด แต่ในฐานะกระทรวงการคลังพูดไม่ได้ ว่า ให้ซื้อหรื้อขายหุ้น แต่ "เจตนารมย์จริงต้องการจะพูดว่าตัวเลขดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจจริง และไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียโอกาสตรงนั้น" พร้อมยืนยันว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งกว่าตัวเลขที่ปรากฎออกมา

ขณะที่คุณศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ต่อ คุณสรยุทธถามว่า มองเรื่องตลาดหุ้นอย่างไร ปรากฎว่า คุณศิริกัญญา ตอบกลับทันทีว่า ดิฉันเป็นคนฉลาดมากพอที่จะตอบเรื่องนี้ได้หรือเปล่าคะ เมื่อกี้คนฉลาดเขาเพิ่งมาตอบนะคะ ดิฉันรู้สึกหวั่นใจมาก

จากนั้นก็ไล่เรียงรายละเอียดบอกว่า โบ้ยความผิดให้ปัจจัยภายนอกหรือทรัมป์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะ ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญก็ยังไม่เห็นอนาคตเช่นเดียวกัน กำไรของบริษัทในตลาดหุ้นก็มีแนวโน้มลดลงอยู่ตลอดเวลา

คุณศิริกัญญา ยังมองว่า ตัวเลขมันไม่โกหกใคร หากย้อนไปดูตัวเลขก็จะเห็นว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ปัญหาเรื้อรังคือ ภาคการผลิต ตอนนี้เศรษฐกิจไทยจะเป็นซอมบี้อยู่แล้ว ส่วนที่คุณเผ่าภูมิ ไล่ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ แล้วบอกว่าโตขึ้นเท่านั้น เท่านี้ คุณศิริกัญญา มองว่าเป็นการหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ตัวเลขมันดี เพราะ มันอั้นอยู่ก่อนแล้ว ตัวเลขจึงขึ้น ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

คุณศิริกัญญา บอกว่า ไม่เถียงเรื่องโมเมนตัมค่อยๆปรับดีขึ้น แต่มองว่า มันขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไตรมาส 4 ที่ประเมินว่า ต้องได้ 3.8 – 3.9 แน่นอน แบบยังไม่รวมดิจิทัลวอลเล็ตด้วยซ้ำ แต่ได้แค่ 3.2 แบบรวมดิจิทัลวอลเล็ตด้วย จึงถือว่า มันไม่ได้ช่วยกระตุ้นอะไรเลย กราฟการบริโภคภาคเอกชนราบเรียบเหมือนชีพจรเศรษฐกิจไทยตอนนี้ เหมือนคนไร้ชีพจรไปแล้ว

คุณสรยุทธ ถามว่า คุณศิริกัญญา พูดแรงไปหรือไม่ ซึ่งคุณศิริกัญญา ตอบกลับว่า เหมือนดิฉันซ้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ไม่แน่ใจ พร้อมบอกว่า ฟังรัฐมนตรีช่วยคนฉลาดพูดแล้ว รู้สึกว่าเขาชอบพูดว่า อย่าใช้ความรู้สึก ซึ่งดิฉันเป็นคนใช้ความรู้สึกน้อยอยู่แล้ว ยังรู้สึกว่าสามารถบิดไปได้ขนาดนี้

---

วิกฤตภัยแล้ง ลำน้ำมูลแห้งขอด เหลือน้ำประปาใช้ได้ 20 วัน ชาวบ้านกลัวไม่มีน้ำใช้ แห่กักตุน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9661993
 
นครราชสีมา วิกฤตน้ำประปา ประสบปัญหาภัยแล้ง ลำน้ำมูลแห้งขอด เหลือน้ำใช้ได้ 20 วัน ชาวบ้าน วิตกกังวลกลัวไม่มีน้ำใช้ แห่กักตุนน้ำ เขื่อนมูลบน-ลำแชะ แจ้งเร่งปล่อยน้ำช่วย แต่ต้องรออีก 10 วัน
 
6 มี.ค. 68 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนประปา ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่างพากันนำภาชนะ เช่น ตุ่มน้ำ โอ่งน้ำ มาเก็บน้ำไว้สำรองไว้ใช้กัน ภายหลังจากที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ได้แจ้งเตือนให้ผู้ใช้น้ำประปากว่า 46,000 ครัวเรือน ให้สำรองน้ำไว้ใช้
 
เนื่องจากช่วงนี้ประสบกับปัญหาภัยแล้ง น้ำในแหล่งเก็บน้ำดิบของประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เหลืออยู่ในปริมาณน้อย จึงจำเป็นต้องทำการปรับลดแรงดันการจ่ายน้ำประปาในช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. และเวลากลางวันตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. ของทุกวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 68 เป็นต้นไป จนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกวิตกกังวล กลัวว่าจะไม่มีน้ำใช้ พากันหาภาชนะมาสำรองน้ำไว้กันอย่างคึกคัก
นายสมจิตร ภูมิเกาะ อายุ 55 ปี ชาวชุมชนประปา ต.จอหอ กล่าวว่า บ้านของตนเองอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ใช้น้ำประปาจากการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมาเป็นหลัก ซึ่งแต่ละวันต้องใช้น้ำทำกิจกรรมในบ้านมากพอสมควร โดยเฉพาะการซักผ้า อาบน้ำ ล้างถ้วย ล้างชาม และรดต้นไม้
ซึ่งช่วงนี้ พบว่ามีบางช่วงที่น้ำประปาจะไหลอ่อน แต่โชคดีที่ตนเองได้เตรียมน้ำสำรองไว้ในตุ่มน้ำ 2 ตุ่ม และยังเปิดน้ำในห้องน้ำไว้เต็มอ่าง ตอนนี้ รู้สึกกังวลกลัวว่าน้ำจะไม่ไหล จึงต้องใช้น้ำอย่างประหยัด เช่น เคยซักผ้าทุกวัน เปลี่ยนเป็น 3 วันซักทีหนึ่ง ต้นไม้ รดน้ำเวลาเดียว ล้างถ้วย ล้างชาม ก็รอล้างทีเดียวจำนวนมากๆ อาบน้ำ ต้องประหยัด เพื่อเป็นการลดการใช้น้ำลง
 
นายสนธิ บุญศิริ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้น้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา กว่า 46,000 ราย ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง นครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยมีโรงผลิตน้ำประปาอยู่ที่ ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งต้องอาศัยน้ำจากอ่างเก็บน้ำมูลบน และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี ปล่อยน้ำมาให้ตามลำน้ำมูล ก่อนที่จะสูบเข้าไปเก็บไว้ในบ่อน้ำดิบ 3 บ่อที่ ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจุน้ำดิบได้ประมาณ 4,100,000 ลูกบาศก์เมตร
 
แต่ปัจจุบันบ่อเก็บน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เหลือปริมาณน้ำเพียง 1,000,000 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น เนื่องจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง กำลังประสบกับปัญหาน้ำเหลือน้อย จึงไม่มีการปล่อยน้ำลงในลำน้ำมูลตามปกติ ส่งผลให้ลำน้ำมูลแห้งขอด ไม่สามารถสูบน้ำมาใช้ทำประปาได้ โดยน้ำดิบที่เหลือนี้สามารถใช้ผลิตประปาได้เพียง 20 วันเท่านั้น

โดยทางการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ได้เร่งดำเนินการขอน้ำจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ปล่อยน้ำมาให้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ปล่อยน้ำมาให้แล้วตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.68 รวมปริมาณน้ำที่ปล่อยลงมาตามลำน้ำมูลกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ระยะทางการไหลของน้ำจากอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง มาถึงโรงสูบน้ำประปา มีระยะทางกว่า 114 กิโลเมตร อีกทั้งยังต้องผ่านฝายน้ำล้นอีกจำนวน 17 ฝาย ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 10 วัน กว่าจะมาถึงโรงสูบน้ำประปา
 
ดังนั้นทางการประปาส่วนภูมิภาคฯ จึงต้องบริหารจัดการน้ำดิบที่เหลือเพื่อลดความเสี่ยงขาดน้ำประปา โดยการลดแรงดันน้ำลงในช่วงคนใช้น้ำ และจะปรับแรงดันน้ำตามปกติในช่วงคนใช้น้ำมาก จึงอาจจะส่งผลกระทบทำให้น้ำไหลอ่อนในบางช่วงเวลา ซึ่งต้องขออภัยด้วย และขอให้ประชาชนเตรียมหาภาชนะมาสำรองน้ำไว้ในช่วงที่น้ำไหลแรง ทั้งนี้ก็คาดว่า หลังวันที่ 15 มี.ค. เมื่อน้ำจากอ่างเก็บน้ำไหลมาถึงโรงสูบน้ำประปาแล้ว ก็สามารถผลิตน้ำและจ่ายน้ำให้ได้ตามปกติ