เท้ง เมิน หม่องชิตตู่ ชี้ หากจนท.รัฐบังคับใช้กม.จริงจัง พูดอะไรก็ไม่เป็นประเด็น แนะนายกฯ ชี้แจงด้วยตัวเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5045606
“เท้ง” เมินคำพูด “หม่องชิต ตู่” ชี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรงไปตรงมา แก๊ง “BGF” จะพูดอะไรก็ไม่เป็นประเด็น แนะนายกรัฐมนตรี ตอบชี้แจงด้วยตัวเองจะดีที่สุด เหตุเป็นส่วนที่รับผิดชอบโดยตรง อุบนำเรื่อง “คอลเซ็นเตอร์” กระซวกรัฐบาลกลางวงซักฟอก
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พันเอก หม่องชิต ตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF ระบุว่า ไม่ได้นำคนต่างชาติเข้าสู่เมียนมา มาทางไหน ประเทศไทยก็รู้ดีว่า สิ่งที่จะเป็นทางออกคือการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าฝั่งนั้นจะมีข้อกล่าวอ้างอย่างไร ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไร ส่วนจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ต้องรอดู ยังให้อะไรมากไม่ได้
นาย
ณัฐพงษ์ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร สังคมจะสิ้นสงสัยได้ก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา นายกรัฐมนตรีเองต้องเป็นคนที่มีส่วนรับผิดชอบที่สุดคนหนึ่ง เช่นเดียวกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีดูแลกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้มีการโยกย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จะต้องไปลงรายละเอียดหรือไม่ นาย
ณัฐพงษ์กล่าวว่า การให้ข้อมูลที่โปร่งใสต่อสาธารณะ ต่อประชาชน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ ข้อสงสัยที่เราสงสัยกันอยู่ ถ้านายกรัฐมนตรีมาตอบชี้แจงด้วยตัวเองก็จะดีที่สุด
“ณัฐพงษ์” แนะทบทวนใช้กม.พิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนาศก.
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_840304/
“ณัฐพงษ์” แนะทบทวนใช้กฎหมายพิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนา ศก.แก้ปัญหาชายแดนใต้ วอนฝ่ายความมั่นคงแจงเหตุคุมตัวนักข่าวอาสา จี้รัฐบาลชัดเจนเดินหน้ากระบวนการสร้างสันติภาพ
นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความเห็นในจังหวัดปัตตานีว่า บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง เมื่อช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนบาราโฮม ซึ่งประชาชนในพื้นที่ผลิตผ้าทำมือ ปริ้นด้วยดิจิทัล พร้อมกับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียมาจองจนเต็ม นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยกับภาคประชาสังคมเรื่องสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
จังหวัดชายแดนใต้มีหลายเรื่องที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะที่นี่อากาศไม่มีฤดูฝุ่นเหมือนกับจังหวัดอื่น โดยการพัฒนาในพื้นที่เริ่มต้นได้จะต้องปักหมุดเรื่องกระบวนการสร้างสันติภาพและใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมด้วย หากดูจำนวนนักท่องเที่ยวหรือรายได้ต่อหัวก็มีแนวโน้มดีขึ้น แม้จะยังไม่เท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่ไปดูตัวอย่างที่เทศบาลนครยะลา มีนโยบายในการทำครัวกลางให้กับเด็ก เป็นตัวอย่างที่ดีที่ท้องถิ่นพัฒนานโยบายที่ช่วยเสริมสร้างโภชนาการให้กับเด็ก
สำหรับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล เรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจจะต้องสอดประสานกัน เราอยากให้ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษที่น้อยลง และใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งในวงประชุมร่วมกับ ศอ.บต. เมื่อวานนี้ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
พริษฐ์ ยกคำวินิจฉัยศาล ยันสภาแก้รธน.ได้ ข้องใจนายกฯ คุยพรรคร่วมไหม หลัง ภท.มีมติไม่ร่วมวงถก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046043
พริษฐ์ ยกคำวินิจฉัยศาล ยันสภาแก้รธน.ได้ ข้องใจนายกฯ คุยพรรคร่วมไหม หลัง ภท.มีมติไม่ร่วมวงถก
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ภายหลังจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย มีมติไม่ร่วมพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ หวั่นขัดคำวินิจฉัยของศาล นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นดังกล่าว ระบุว่า
คำถามถึงนายกรัฐมนตรี : ท่านได้พยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้กับพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน?
ผมเห็นว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ ไม่ได้ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
ผมขอแนบย่อหน้าสุดท้ายของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 (ตามภาพใน comment) ซึ่งเขียนชัดว่า
“รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐสภากำลังเดินหน้าพิจารณาอยู่ เพราะหากรัฐสภาเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ร่างดังกล่าวก็ไม่ได้นำไปสู่การมี สสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันที แต่ร่างดังกล่าวระบุชัดว่า:
– 1. เราจะต้องจัดทำประชามติ 1 ครั้ง ก่อนว่าประชาชนจะเห็นชอบกับการให้มี สสร. มาจัดทำ รธน. ฉบับใหม่ตามที่รัฐสภาเห็นชอบหรือไม่
– 2. เราต้องจัดทำประชามติอีก 1 ครั้ง ว่าประชาชนเห็นชอบกับร่าง รธน. ฉบับใหม่ ที่ สสร. จัดทำหรือไม่
จุดยืนที่ผมพูดมานี้ ไม่ได้เป็นจุดยืนของพรรคประชาชนเท่านั้น แต่เป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
คุณอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า “ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล.. เพราะเป็นเรื่องของแต่ละพรรค และไม่มีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี”
หากคำสัมภาษณ์นี้เป็นความจริง คำถามคือตกลงแล้วที่ผ่านมา ทางนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ได้พยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้กับพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน เพื่อพยายามคลายข้อกังวลของพรรคร่วมรัฐบาล และร่วมกันผลักดันนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นเอกภาพให้ประสบความสำเร็จ
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid0mhcVNqUswzoqXoF1u6X44bLuP2NRfLPuVJsw2AZQJZ4dHfyFJpir7DsVnvR6U8ikl
เท่าพิภพ หนุนนายกฯ ปลดล็อกวันห้ามขายเหล้า บอกศึกษามาให้แล้ว ขอเสียงรบ. โหวตช่วยที
https://www.matichon.co.th/politics/news_5045592
เท่าพิภพ หนุนนายกฯ รื้อเวลาห้ามขายเหล้า-เบียร์ ยันศึกษามาให้แล้ว ขอเสียงรบ. โหวตช่วยที
จากกรณีที่ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้สั่งการในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแก้กฎหมาย เรื่องการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. รวมทั้งเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวนั้น
ล่าสุด (12 ก.พ.) นาย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวว่า
สนับสนุนครับ ประเทศเราต้องควบคุมแอลกอฮอล์ด้วยการเคร่งครัดการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะเรื่องเยาวชนครับ แต่กฎหมายเราก็ไปเข้มเรื่องอื่นออกทะเลจนทำให้กฎหมายดูไปเป็นสากลไปซะมาก ต้องแก้แบบนายกฯว่าแหละครับ
การศึกษาผลกระทบท่านก็ลองทำดู แต่เรื่องข้อกฎหมายผมศึกษาให้แล้วไม่มีอะไรมากครับไม่ต้องศึกษานาสก็ตามนี้
เรื่องเวลาขาย
1.ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 เรื่องเวลาขายอันนี้ต้องยกเลิก ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ กมธ.พิจจารณาเสร็จก็มีมาตรายกเลิกครับ
2.หลังจากยกเลิกตามข้อ 1 แล้ว พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับปัจจุบัน) ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชงให้ รมต.สาธารณสุขเห็นชอบครับ ย้ำว่า รมต.ไม่มีอำนาจชงเองคณะกรรมการก็จะมีข้าราชการสายหมอ สายสุขภาพเยอะหน่อยก็จะอนุรักษนิยมหน่อยครับ
3.ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมฯ ฉบับใหม่จะตัดอำนาจรัฐมนตรีออกเป็นอำนาจของคณะกรรมการฯโดยตรง ซึ่งแม้ รมต.สธ.จะเป็นประธาน แต่ก็จะตีโต้คัดค้านไม่เซ็นเห็นชอบได้แบบเดิม
เรื่องวันพระ หรือห้ามขายออนไลน์ก็เป็นผลงานจากคณะกรรมการดังกล่าวด้วย
ข้อเสนอของผลที่สงวนไว้เป็นเสียงข้างน้อยนั้นเห็นว่า ควรยกเลิกหรือลดอำนาจการออกกฎประกาศของคณะกรรมการดังกล่าวแล้วเปลี่ยนเป็นการออกกฎกระทวงด้วยอำนาจรัฐมนตรีแทนครับ
ยังไงฝากท่านนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และพรรคเพื่อไทยช่วยให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสนับสนุน คำสงวนของผมในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยด้วยครับ
สิ่งนี้จะทำให้ท่านนายกฯได้ทำตามที่อยากทำได้ครับ ไม่งั้นถึงแม้เป็นนายกฯ ก็จะบังคับคณะกรรมการควบคุมให้แก้แค่เรื่องวันเวลาขายเหล้านี้บอกเลยยากครับ
https://www.facebook.com/Taopiphop/posts/pfbid0MSDqB4DG3rdHhrTcPE4deL9nTSu5xjPPc9qZ9NsMnwaTZkveBu9tmenBSQyv8srbl
JJNY : 5in1 เท้งเมินหม่องชิตตู่│“ณัฐพงษ์”แนะทบทวน│พริษฐ์ยันสภาแก้รธน.ได้│เท่าพิภพหนุนปลดล็อก│รัสเซียถล่มเคียฟ ปชช.ดับ 1
https://www.matichon.co.th/politics/news_5045606
“เท้ง” เมินคำพูด “หม่องชิต ตู่” ชี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรงไปตรงมา แก๊ง “BGF” จะพูดอะไรก็ไม่เป็นประเด็น แนะนายกรัฐมนตรี ตอบชี้แจงด้วยตัวเองจะดีที่สุด เหตุเป็นส่วนที่รับผิดชอบโดยตรง อุบนำเรื่อง “คอลเซ็นเตอร์” กระซวกรัฐบาลกลางวงซักฟอก
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พันเอก หม่องชิต ตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF ระบุว่า ไม่ได้นำคนต่างชาติเข้าสู่เมียนมา มาทางไหน ประเทศไทยก็รู้ดีว่า สิ่งที่จะเป็นทางออกคือการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าฝั่งนั้นจะมีข้อกล่าวอ้างอย่างไร ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไร ส่วนจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ต้องรอดู ยังให้อะไรมากไม่ได้
นายณัฐพงษ์ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร สังคมจะสิ้นสงสัยได้ก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา นายกรัฐมนตรีเองต้องเป็นคนที่มีส่วนรับผิดชอบที่สุดคนหนึ่ง เช่นเดียวกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีดูแลกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้มีการโยกย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จะต้องไปลงรายละเอียดหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การให้ข้อมูลที่โปร่งใสต่อสาธารณะ ต่อประชาชน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ ข้อสงสัยที่เราสงสัยกันอยู่ ถ้านายกรัฐมนตรีมาตอบชี้แจงด้วยตัวเองก็จะดีที่สุด
“ณัฐพงษ์” แนะทบทวนใช้กม.พิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนาศก.
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_840304/
“ณัฐพงษ์” แนะทบทวนใช้กฎหมายพิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนา ศก.แก้ปัญหาชายแดนใต้ วอนฝ่ายความมั่นคงแจงเหตุคุมตัวนักข่าวอาสา จี้รัฐบาลชัดเจนเดินหน้ากระบวนการสร้างสันติภาพ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความเห็นในจังหวัดปัตตานีว่า บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง เมื่อช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนบาราโฮม ซึ่งประชาชนในพื้นที่ผลิตผ้าทำมือ ปริ้นด้วยดิจิทัล พร้อมกับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียมาจองจนเต็ม นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยกับภาคประชาสังคมเรื่องสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
จังหวัดชายแดนใต้มีหลายเรื่องที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะที่นี่อากาศไม่มีฤดูฝุ่นเหมือนกับจังหวัดอื่น โดยการพัฒนาในพื้นที่เริ่มต้นได้จะต้องปักหมุดเรื่องกระบวนการสร้างสันติภาพและใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมด้วย หากดูจำนวนนักท่องเที่ยวหรือรายได้ต่อหัวก็มีแนวโน้มดีขึ้น แม้จะยังไม่เท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่ไปดูตัวอย่างที่เทศบาลนครยะลา มีนโยบายในการทำครัวกลางให้กับเด็ก เป็นตัวอย่างที่ดีที่ท้องถิ่นพัฒนานโยบายที่ช่วยเสริมสร้างโภชนาการให้กับเด็ก
สำหรับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล เรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจจะต้องสอดประสานกัน เราอยากให้ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษที่น้อยลง และใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งในวงประชุมร่วมกับ ศอ.บต. เมื่อวานนี้ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
พริษฐ์ ยกคำวินิจฉัยศาล ยันสภาแก้รธน.ได้ ข้องใจนายกฯ คุยพรรคร่วมไหม หลัง ภท.มีมติไม่ร่วมวงถก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5046043
พริษฐ์ ยกคำวินิจฉัยศาล ยันสภาแก้รธน.ได้ ข้องใจนายกฯ คุยพรรคร่วมไหม หลัง ภท.มีมติไม่ร่วมวงถก
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ภายหลังจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย มีมติไม่ร่วมพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ หวั่นขัดคำวินิจฉัยของศาล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นดังกล่าว ระบุว่า
คำถามถึงนายกรัฐมนตรี : ท่านได้พยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้กับพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน?
ผมเห็นว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ ไม่ได้ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
ผมขอแนบย่อหน้าสุดท้ายของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 (ตามภาพใน comment) ซึ่งเขียนชัดว่า
“รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับสิ่งที่รัฐสภากำลังเดินหน้าพิจารณาอยู่ เพราะหากรัฐสภาเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ร่างดังกล่าวก็ไม่ได้นำไปสู่การมี สสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันที แต่ร่างดังกล่าวระบุชัดว่า:
– 1. เราจะต้องจัดทำประชามติ 1 ครั้ง ก่อนว่าประชาชนจะเห็นชอบกับการให้มี สสร. มาจัดทำ รธน. ฉบับใหม่ตามที่รัฐสภาเห็นชอบหรือไม่
– 2. เราต้องจัดทำประชามติอีก 1 ครั้ง ว่าประชาชนเห็นชอบกับร่าง รธน. ฉบับใหม่ ที่ สสร. จัดทำหรือไม่
จุดยืนที่ผมพูดมานี้ ไม่ได้เป็นจุดยืนของพรรคประชาชนเท่านั้น แต่เป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
คุณอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า “ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล.. เพราะเป็นเรื่องของแต่ละพรรค และไม่มีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี”
หากคำสัมภาษณ์นี้เป็นความจริง คำถามคือตกลงแล้วที่ผ่านมา ทางนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ได้พยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้กับพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน เพื่อพยายามคลายข้อกังวลของพรรคร่วมรัฐบาล และร่วมกันผลักดันนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นเอกภาพให้ประสบความสำเร็จ
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid0mhcVNqUswzoqXoF1u6X44bLuP2NRfLPuVJsw2AZQJZ4dHfyFJpir7DsVnvR6U8ikl
เท่าพิภพ หนุนนายกฯ ปลดล็อกวันห้ามขายเหล้า บอกศึกษามาให้แล้ว ขอเสียงรบ. โหวตช่วยที
https://www.matichon.co.th/politics/news_5045592
เท่าพิภพ หนุนนายกฯ รื้อเวลาห้ามขายเหล้า-เบียร์ ยันศึกษามาให้แล้ว ขอเสียงรบ. โหวตช่วยที
จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้สั่งการในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแก้กฎหมาย เรื่องการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. รวมทั้งเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวนั้น
ล่าสุด (12 ก.พ.) นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวว่า
สนับสนุนครับ ประเทศเราต้องควบคุมแอลกอฮอล์ด้วยการเคร่งครัดการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะเรื่องเยาวชนครับ แต่กฎหมายเราก็ไปเข้มเรื่องอื่นออกทะเลจนทำให้กฎหมายดูไปเป็นสากลไปซะมาก ต้องแก้แบบนายกฯว่าแหละครับ
การศึกษาผลกระทบท่านก็ลองทำดู แต่เรื่องข้อกฎหมายผมศึกษาให้แล้วไม่มีอะไรมากครับไม่ต้องศึกษานาสก็ตามนี้
เรื่องเวลาขาย
1.ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 เรื่องเวลาขายอันนี้ต้องยกเลิก ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ กมธ.พิจจารณาเสร็จก็มีมาตรายกเลิกครับ
2.หลังจากยกเลิกตามข้อ 1 แล้ว พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับปัจจุบัน) ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชงให้ รมต.สาธารณสุขเห็นชอบครับ ย้ำว่า รมต.ไม่มีอำนาจชงเองคณะกรรมการก็จะมีข้าราชการสายหมอ สายสุขภาพเยอะหน่อยก็จะอนุรักษนิยมหน่อยครับ
3.ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมฯ ฉบับใหม่จะตัดอำนาจรัฐมนตรีออกเป็นอำนาจของคณะกรรมการฯโดยตรง ซึ่งแม้ รมต.สธ.จะเป็นประธาน แต่ก็จะตีโต้คัดค้านไม่เซ็นเห็นชอบได้แบบเดิม
เรื่องวันพระ หรือห้ามขายออนไลน์ก็เป็นผลงานจากคณะกรรมการดังกล่าวด้วย
ข้อเสนอของผลที่สงวนไว้เป็นเสียงข้างน้อยนั้นเห็นว่า ควรยกเลิกหรือลดอำนาจการออกกฎประกาศของคณะกรรมการดังกล่าวแล้วเปลี่ยนเป็นการออกกฎกระทวงด้วยอำนาจรัฐมนตรีแทนครับ
ยังไงฝากท่านนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และพรรคเพื่อไทยช่วยให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสนับสนุน คำสงวนของผมในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยด้วยครับ
สิ่งนี้จะทำให้ท่านนายกฯได้ทำตามที่อยากทำได้ครับ ไม่งั้นถึงแม้เป็นนายกฯ ก็จะบังคับคณะกรรมการควบคุมให้แก้แค่เรื่องวันเวลาขายเหล้านี้บอกเลยยากครับ
https://www.facebook.com/Taopiphop/posts/pfbid0MSDqB4DG3rdHhrTcPE4deL9nTSu5xjPPc9qZ9NsMnwaTZkveBu9tmenBSQyv8srbl