แค่กิมมิค! "เสรีพิศุทธ์" เฉลยแล้ว ยื่น "ซองเปล่า" ซักฟอกชั้น 14 ชี้ "หญิงหน่อย" จัดให้
https://ch3plus.com/news/political/ruangden/432799
ตามคาด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาโต้กลับคุณทักษิณอย่าดุเดือด บอก คงอัดอั้นมาก จึงมาบูลลี่ตนเรื่อง พล.ต.อ.หญิง เย้ย ยื่นซองชั้น 14 แค่กิมมิค จริง ๆ เป็นแค่ซองเปล่า เย้ย จ้างนายกฯมาเลย์ตั้งเป็นที่ปรึกษาหรือเปล่า
พลตำรวจเอก
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึง กรณี ที่นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเหน็บแนมคนยื่นข้อมูลชั้น14 ให้ฝ่ายค้านใช้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่รู้จักพลตำรวจเอกหญิง ทำนองว่าไม่แมน ว่า คุณ
ทักษิณ เห็นผมถือซอง ในซองมีอะไรไหม คุณ
ทักษิณเห็นหรือเปล่า ตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ว่าพยานหลักฐานใดควรจะเปิดเผย หรือไม่เปิด ตนควรจะเปิดกับผู้มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมการสอบสวน ของ ป.ป.ช. หรือแพทยสภาต่าง ๆ ตนไม่มาเปิดอย่างนี้หรอก
"
ผมร้องเพื่อทำกิมมิค ก็ทำไปแค่นั้นเอง คุณทักษิณ ไม่รู้เรื่องอะไร เป็นแค่พันตำรวจโท เรื่องแบบนี้จะมาสู้อะไรกับตน แต่ถ้าเรื่องธุรกิจ เรื่องทุจริต ผมสู้เขาไม่ได้หรอก"
พลตำรวจเอก
เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยด้วยว่า ซองที่ยื่นให้นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ได้มีอะไรหรอก เป็นแค่กิมมิค ซึ่งคุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เจ้าของสถานที่ เป็นผู้หาซองมาให้
ส่วนความสัมพันธ์กับนาย
ทักษิณ พลตำรวจเอก
เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีอะไรต่อกันตั้งนานแล้ว
เขาเป็นคนตระบัดสัตย์ ไม่ได้มีความจริงใจ หักหลังใครได้ก็หัก ลูกน้องติดคุกหมด แม้แต่ตัวเขายังติดคุกเลย และที่ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯมาเลเซีย จ้างเขาเปล่าเนี่ย เอาเงินไปสนับสนุนพรรค
อันวาร์ หรือไม่ ขอเขาทำหนังสือมาหน่อย เป็นที่ปรึกษา ภาพจะได้ดูดี ขนาดประเทศมาเลเซีย ยังต้องจ้างเป็นที่ปรึกษา เพื่อให้ภาพตัวเองดูดี เงินเยอะหนิ ทำอะไรก็ได้ หลอกลวงชาวบ้านไปเรื่อย
ส่วนเรื่องที่คุณ
ทักษิณเหน็บเหมือนกับว่า "
ไม่แมน" เป็นการมาบูลลี่ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนเรื่องสมรสเท่าเทียมหรือไม่ /พลตำรวจเอก
เสรีพิศุทธ์ ระบุ คุณ
ทักษิณคงอัดอั้นตันใจ ไม่รู้จะทำอะไรกับตน
รับชมทางยูทูบที่ :
https://youtu.be/0OGRJ93d1KY
“โรม” ลั่น นายกฯ โบ้ยไม่ได้ ต้องกวาดล้างข้าราชการเทาเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์
https://www.thairath.co.th/news/politic/2841032
“โรม” ลั่น ต้องกวาดล้างข้าราชการเทาเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้ “นายกฯ” โบ้ยคนอื่นไม่ได้ มอง เป็นไปไม่ได้เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 นาย
รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความลับของ
หม่อง ชิตตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF/KNA เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยมีใครบ้าง ว่า ตนอาจจะพูดได้ไม่หมด แน่นอนว่าคงมีหลายคน คงจะพอเดากันได้ แต่การที่ หม่อง ชิตตู่ ดำเนินการอะไรได้ การเดินทางของบรรดาจีนเทาทั้งหลายที่ข้ามจากไทยไปเมียวดี การขนส่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การวางสายสื่อสาร สายไฟฟ้า ข้ามไปฝั่งเมียนมา มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่ตนจะรู้กว่าคนอื่น เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาทุกคนเก็บงำไว้เพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบของส่วย
ดังนั้น คงจะมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนเข้าไปเกี่ยวข้อง คำถามก็คือว่า รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ ตำรวจขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี จะโบ้ยให้กับคนอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ต้องมีการกวาดล้าง พวกตำรวจและข้าราชการเทาทั้งหลายที่สมรู้ร่วมคิดกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สว.พันธุ์ใหม่ จี้วุฒิสภา โหวตหนุนแก้รธน.วาระแรก วอนนายกฯ โชว์จุดยืนสนับสนุน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9627893
สว.พันธุ์ใหม่ เรียกร้อง สมาชิกวุฒิสภา ร่วมโหวตวาระแรก แก้รธน. มองหากเสียงไม่ถึง คงไม่ต่างจากชุดคสช. จี้ นายกฯ แสดงจุดยืนสนับสนุน ย้ำเป็นไปตามระบบนิติบัญญัติ
เมื่อวันที่ 10 ก.พ 2568 ที่รัฐสภา กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.
นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวถึงประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ว่า เป็นครั้งแรกที่ประธานรัฐสภาได้บรรจุลงระเบียบวาระ ซึ่งเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่ถูกต้อง และเป็นที่สนใจของสังคม
น.ส
.นันทนา กล่าวว่า เราเห็นด้วยกับการทำประชามติ 2 ครั้ง คือครั้งแรก ภายหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยให้ประชาชนลงมติว่าเห็นด้วยกับวิธีการที่จะได้มาซึ่งสมาขิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ และเมื่อ ส.ส.ร.ร่างเสร็จเรียบร้อย จึงจัดประชามติครั้งที่ 2 เพื่อถามประชาชนว่ารับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่
ย้ำว่า การทำประชามติ 2 ครั้ง จะทำให้เราได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมาจากประชาชน และไม่สิ้นเปลืองประมาณจนเกินไป เราเห็นด้วยกับกับการลดอำนาจของ สว.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีที่มาจากการเลือกกันเอง แตกต่างจาก สส. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงควรให้น้ำหนักหลักอยู่ที่ สส.
ส่วนที่ สว.ตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะการจะแก้รัฐธรรมนูญได้นั้น ต้องใช้เสียง สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และหาก สว.ไม่ยอมโหวตให้ การแก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมจะมองไม่ต่างอะไรจาก สว. 250 คน ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตั้งขึ้นมา แล้ว สว.ชุดนี้ จะหวงอำนาจไว้กับตัวเองเพื่ออะไร
เราจึงอยากเชิญชวน สว. ที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย มาร่วมโหวต เพื่อผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วยกัน ให้เราได้กติกาตามประชาธิปไตย ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
เราเรียกร้องให้ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายกฯเคยพูดว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นมรดกของ คสช. รวมถึงประชาชนทุกคนที่รู้สึกได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และไม่พอใจการทำงานขององค์กรอิสระ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน
ส่วนข้อเสนอให้มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความตามมาตรา 210 นั้น เรายืนยันว่าการบรรจุลงระเบียบวาระ เป็นการปฏิบัติตามกระบวนการนิติบัญญัติที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และไม่มีอะไรที่ทำให้การกระทำตรงนี้ไม่ถูกต้อง เพราะหากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ประธานรัฐสภาคงไม่บรรจุลงระเบียบวาระ
ม็อบชาวนา บุกพาณิชย์ ร้องข้าวราคาตกต่ำ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_839353/
ม็อบชาวนา บุกพาณิชย์ ร้องข้าวราคาตกต่ำ จี้ รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือดันราคาเกิน 8,000บ./ตัน
นาย
กำพล เชื้อสวัสดิ์ ชาวนาอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอธุยา พร้อมตัวแทนชาวนา 60 คน ได้เดินทางมายังกระทรวงพาณิชย์ ชูป้ายประท้วงกดดันให้กระทรวงพาณิชย์ รับเรื่องร้องเรียน แก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกเจ้าราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
โดยนาย
กำพล กล่าวว่า ตอนนี้ รัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจน กังวลว่าราคาข้าวเปลือกจะยิ่งตกต่ำไปอีก เนื่องจากขณะนี้ใกล้ช่วงเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปรังฤดูกาลผลิตปี2568 ที่จะมีผลผลิตออกสู่มากในเดือนมีนาคมนี้ โดยเกษตรกรร้องขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ 2 แนวทาง
1. โครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกเจ้า(ความชื้น 15%)ตันละ 1.1 หมื่นบาท จะช่วยพยุงราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้เพิ่มขึ้น
จากปัจจุบันข้าวเปลือกเกี่ยวสด ความชื้น 25% ขึ้นไป ขายได้ 6,000-7,000บาท เท่านั้น ขณะที่ต้นทุนไร่ละ 5,500-6,000 บาท ถ้าผลผลิตได้ไม่ถึง 1 ตันต่อไร่ก็จะขาดทุน ซึ่งปัจจุบันเฉลี่ยได้ 800 กก. เท่านั้น ซึ่งหากออกมาตรการประกันรายได้จะช่วยประคองราคาข้าวเปลือกไม่ให้ต่ำกว่า 8 พันบาท
2. มาตรการชดเชยรายได้เกษตรกร
“
ตอนนี้ปัจจัยผลิตสูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรู ค่าเช่านา อีกทั้งผลผลิตต่อไร่ไม่ได้สูง เฉลี่ยแล้ว มีผลต่อรายได้เกษตรกร หากราคาข้าวยังตกต่ำต่อ จะทำให้ชาวนาเจอวิกฤตขาดทุน”
ด้านร้อยตรี
จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ รับหนังสือจากกลุ่มชาวนา กล่าวว่า จะรีบสรุปปัญหาชาวนา เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการด้านตลาด และด้านการผลิต โดยนำเสนอถึงคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อพิจารณาออกมาตรการช่วย เบื้องต้นไม่ได้นิ่งนอนใจ ภาครัฐกำลังพิจารณาและคำนึงถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยต้องหารือร่วมกับทุกหน่ายงานที่เกี่ยวข้องและกำกับดูแลโดยตรง และจะเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว
จากข้อมูลกรมการค้าภายใน ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2568 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเปลือกเจ้า 7 ล้านตัน ขณะนี้ออกสู่ตลาดแล้ว 10% ของคาดการณ์ผลผลิต ขณะที่ข้อมูลสมาคมโรงสีข้าวไทย ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ราคาข้าวเปลือกเจ้า(ความชื้น 15% ) รับซื้อช่วง 8,000-9,100 บาท/ตัน ส่วนความชื้น 25 % ราคารับซื้อ 6,800-7,900 บาท/ตัน
JJNY : 5in1 "เสรีพิศุทธ์"เฉลยแล้ว│“โรม”ลั่นโบ้ยไม่ได้│สว.พันธุ์ใหม่จี้วุฒิสภา│ม็อบชาวนาร้องข้าวราคาตกต่ำ│เฝ้าระวังPM 2.5
https://ch3plus.com/news/political/ruangden/432799
ตามคาด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาโต้กลับคุณทักษิณอย่าดุเดือด บอก คงอัดอั้นมาก จึงมาบูลลี่ตนเรื่อง พล.ต.อ.หญิง เย้ย ยื่นซองชั้น 14 แค่กิมมิค จริง ๆ เป็นแค่ซองเปล่า เย้ย จ้างนายกฯมาเลย์ตั้งเป็นที่ปรึกษาหรือเปล่า
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึง กรณี ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเหน็บแนมคนยื่นข้อมูลชั้น14 ให้ฝ่ายค้านใช้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่รู้จักพลตำรวจเอกหญิง ทำนองว่าไม่แมน ว่า คุณทักษิณ เห็นผมถือซอง ในซองมีอะไรไหม คุณทักษิณเห็นหรือเปล่า ตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ว่าพยานหลักฐานใดควรจะเปิดเผย หรือไม่เปิด ตนควรจะเปิดกับผู้มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมการสอบสวน ของ ป.ป.ช. หรือแพทยสภาต่าง ๆ ตนไม่มาเปิดอย่างนี้หรอก
"ผมร้องเพื่อทำกิมมิค ก็ทำไปแค่นั้นเอง คุณทักษิณ ไม่รู้เรื่องอะไร เป็นแค่พันตำรวจโท เรื่องแบบนี้จะมาสู้อะไรกับตน แต่ถ้าเรื่องธุรกิจ เรื่องทุจริต ผมสู้เขาไม่ได้หรอก"
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เปิดเผยด้วยว่า ซองที่ยื่นให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ได้มีอะไรหรอก เป็นแค่กิมมิค ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เจ้าของสถานที่ เป็นผู้หาซองมาให้
ส่วนความสัมพันธ์กับนายทักษิณ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีอะไรต่อกันตั้งนานแล้ว เขาเป็นคนตระบัดสัตย์ ไม่ได้มีความจริงใจ หักหลังใครได้ก็หัก ลูกน้องติดคุกหมด แม้แต่ตัวเขายังติดคุกเลย และที่ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯมาเลเซีย จ้างเขาเปล่าเนี่ย เอาเงินไปสนับสนุนพรรคอันวาร์ หรือไม่ ขอเขาทำหนังสือมาหน่อย เป็นที่ปรึกษา ภาพจะได้ดูดี ขนาดประเทศมาเลเซีย ยังต้องจ้างเป็นที่ปรึกษา เพื่อให้ภาพตัวเองดูดี เงินเยอะหนิ ทำอะไรก็ได้ หลอกลวงชาวบ้านไปเรื่อย
ส่วนเรื่องที่คุณทักษิณเหน็บเหมือนกับว่า "ไม่แมน" เป็นการมาบูลลี่ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนเรื่องสมรสเท่าเทียมหรือไม่ /พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ระบุ คุณทักษิณคงอัดอั้นตันใจ ไม่รู้จะทำอะไรกับตน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0OGRJ93d1KY
“โรม” ลั่น นายกฯ โบ้ยไม่ได้ ต้องกวาดล้างข้าราชการเทาเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์
https://www.thairath.co.th/news/politic/2841032
“โรม” ลั่น ต้องกวาดล้างข้าราชการเทาเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้ “นายกฯ” โบ้ยคนอื่นไม่ได้ มอง เป็นไปไม่ได้เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความลับของ หม่อง ชิตตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF/KNA เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยมีใครบ้าง ว่า ตนอาจจะพูดได้ไม่หมด แน่นอนว่าคงมีหลายคน คงจะพอเดากันได้ แต่การที่ หม่อง ชิตตู่ ดำเนินการอะไรได้ การเดินทางของบรรดาจีนเทาทั้งหลายที่ข้ามจากไทยไปเมียวดี การขนส่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การวางสายสื่อสาร สายไฟฟ้า ข้ามไปฝั่งเมียนมา มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่ตนจะรู้กว่าคนอื่น เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาทุกคนเก็บงำไว้เพื่อผลประโยชน์ในรูปแบบของส่วย
ดังนั้น คงจะมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนเข้าไปเกี่ยวข้อง คำถามก็คือว่า รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ ตำรวจขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี จะโบ้ยให้กับคนอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ต้องมีการกวาดล้าง พวกตำรวจและข้าราชการเทาทั้งหลายที่สมรู้ร่วมคิดกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สว.พันธุ์ใหม่ จี้วุฒิสภา โหวตหนุนแก้รธน.วาระแรก วอนนายกฯ โชว์จุดยืนสนับสนุน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9627893
สว.พันธุ์ใหม่ เรียกร้อง สมาชิกวุฒิสภา ร่วมโหวตวาระแรก แก้รธน. มองหากเสียงไม่ถึง คงไม่ต่างจากชุดคสช. จี้ นายกฯ แสดงจุดยืนสนับสนุน ย้ำเป็นไปตามระบบนิติบัญญัติ
เมื่อวันที่ 10 ก.พ 2568 ที่รัฐสภา กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวถึงประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ว่า เป็นครั้งแรกที่ประธานรัฐสภาได้บรรจุลงระเบียบวาระ ซึ่งเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่ถูกต้อง และเป็นที่สนใจของสังคม
น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราเห็นด้วยกับการทำประชามติ 2 ครั้ง คือครั้งแรก ภายหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยให้ประชาชนลงมติว่าเห็นด้วยกับวิธีการที่จะได้มาซึ่งสมาขิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ และเมื่อ ส.ส.ร.ร่างเสร็จเรียบร้อย จึงจัดประชามติครั้งที่ 2 เพื่อถามประชาชนว่ารับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่
ย้ำว่า การทำประชามติ 2 ครั้ง จะทำให้เราได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมาจากประชาชน และไม่สิ้นเปลืองประมาณจนเกินไป เราเห็นด้วยกับกับการลดอำนาจของ สว.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีที่มาจากการเลือกกันเอง แตกต่างจาก สส. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงควรให้น้ำหนักหลักอยู่ที่ สส.
ส่วนที่ สว.ตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะการจะแก้รัฐธรรมนูญได้นั้น ต้องใช้เสียง สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และหาก สว.ไม่ยอมโหวตให้ การแก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมจะมองไม่ต่างอะไรจาก สว. 250 คน ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตั้งขึ้นมา แล้ว สว.ชุดนี้ จะหวงอำนาจไว้กับตัวเองเพื่ออะไร
เราจึงอยากเชิญชวน สว. ที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย มาร่วมโหวต เพื่อผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วยกัน ให้เราได้กติกาตามประชาธิปไตย ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
เราเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายกฯเคยพูดว่า ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นมรดกของ คสช. รวมถึงประชาชนทุกคนที่รู้สึกได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และไม่พอใจการทำงานขององค์กรอิสระ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน
ส่วนข้อเสนอให้มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความตามมาตรา 210 นั้น เรายืนยันว่าการบรรจุลงระเบียบวาระ เป็นการปฏิบัติตามกระบวนการนิติบัญญัติที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ และไม่มีอะไรที่ทำให้การกระทำตรงนี้ไม่ถูกต้อง เพราะหากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ประธานรัฐสภาคงไม่บรรจุลงระเบียบวาระ
ม็อบชาวนา บุกพาณิชย์ ร้องข้าวราคาตกต่ำ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_839353/
ม็อบชาวนา บุกพาณิชย์ ร้องข้าวราคาตกต่ำ จี้ รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือดันราคาเกิน 8,000บ./ตัน
นายกำพล เชื้อสวัสดิ์ ชาวนาอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอธุยา พร้อมตัวแทนชาวนา 60 คน ได้เดินทางมายังกระทรวงพาณิชย์ ชูป้ายประท้วงกดดันให้กระทรวงพาณิชย์ รับเรื่องร้องเรียน แก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกเจ้าราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
โดยนายกำพล กล่าวว่า ตอนนี้ รัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจน กังวลว่าราคาข้าวเปลือกจะยิ่งตกต่ำไปอีก เนื่องจากขณะนี้ใกล้ช่วงเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปรังฤดูกาลผลิตปี2568 ที่จะมีผลผลิตออกสู่มากในเดือนมีนาคมนี้ โดยเกษตรกรร้องขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ 2 แนวทาง
1. โครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกเจ้า(ความชื้น 15%)ตันละ 1.1 หมื่นบาท จะช่วยพยุงราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้เพิ่มขึ้น
จากปัจจุบันข้าวเปลือกเกี่ยวสด ความชื้น 25% ขึ้นไป ขายได้ 6,000-7,000บาท เท่านั้น ขณะที่ต้นทุนไร่ละ 5,500-6,000 บาท ถ้าผลผลิตได้ไม่ถึง 1 ตันต่อไร่ก็จะขาดทุน ซึ่งปัจจุบันเฉลี่ยได้ 800 กก. เท่านั้น ซึ่งหากออกมาตรการประกันรายได้จะช่วยประคองราคาข้าวเปลือกไม่ให้ต่ำกว่า 8 พันบาท
2. มาตรการชดเชยรายได้เกษตรกร
“ตอนนี้ปัจจัยผลิตสูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรู ค่าเช่านา อีกทั้งผลผลิตต่อไร่ไม่ได้สูง เฉลี่ยแล้ว มีผลต่อรายได้เกษตรกร หากราคาข้าวยังตกต่ำต่อ จะทำให้ชาวนาเจอวิกฤตขาดทุน”
ด้านร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ รับหนังสือจากกลุ่มชาวนา กล่าวว่า จะรีบสรุปปัญหาชาวนา เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการด้านตลาด และด้านการผลิต โดยนำเสนอถึงคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อพิจารณาออกมาตรการช่วย เบื้องต้นไม่ได้นิ่งนอนใจ ภาครัฐกำลังพิจารณาและคำนึงถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยต้องหารือร่วมกับทุกหน่ายงานที่เกี่ยวข้องและกำกับดูแลโดยตรง และจะเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว
จากข้อมูลกรมการค้าภายใน ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2568 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเปลือกเจ้า 7 ล้านตัน ขณะนี้ออกสู่ตลาดแล้ว 10% ของคาดการณ์ผลผลิต ขณะที่ข้อมูลสมาคมโรงสีข้าวไทย ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ราคาข้าวเปลือกเจ้า(ความชื้น 15% ) รับซื้อช่วง 8,000-9,100 บาท/ตัน ส่วนความชื้น 25 % ราคารับซื้อ 6,800-7,900 บาท/ตัน