พิธา อ้อนคนสาคร ขอ ‘เชาวริน’ ผู้เคยพัฒนาเคหะ แก้ไขที่อยู่อาศัยให้ชาวสมุทรสาคร
https://www.matichon.co.th/politics/local-election/news_5018844

 
“พิธา” ขอใช้เวลาปราศรัยสั้นที่สุดในชีวิต 2 นาที ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. สมุทรสาครหาเสียง เช็กเรตติ้ง บอกคนสาครน่ารักไม่เคยเปลี่ยน อึ้ง สมุทรสาคร ศูนย์กลางเศรษฐกิจ-ประมง แต่คนกลับนอนไม่หลับ เพราะที่อยู่อาศัย-บ้านช่องไม่ดี เสนอตัวเลือก ผู้สมัคร ปชน. เคยพัฒนาเคหะ มั่นใจแก้ปัญหาให้ได้
 
เมื่อวันที่ 26 มกราคม พรรคประชาชน นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน, นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค , นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. จัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยนายเชาวริน ชาญสายชล หรือ โต้ ผู้สมัครนายก อบจ. สมุทรสาคร หาเสียง ที่ตลาดอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน
 
นายพิธา ขึ้นเวทีปราศรัยเช็กเรตติ้ง ขอเสียงคนเลือกตั้ง ก่อนจะกล่าวว่า “เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะสมุทรสาคร น่ารักอย่างไรก็น่ารักอย่างนั้น วันนี้ดีใจเหลือเกินที่ได้มาช่วยหาเสียง” ตนเคยมาหาเสียงเมื่อปี 2566 สมัยเป็นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล สมุทรสาครมี ส.ส. 3 เขต 3 คน อายุ 28 ปีหมดเลย มันดึงค่าเฉลี่ยของอายุหัวหน้าเกือบครึ่ง ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ต้องมาช่วย
 
“พี่น้องชาวสมุทรสาครบอกว่าไม่เป็นไร เด็กแต่ตั้งใจทำงาน ไม่ว่า ให้โอกาสกามาทั้ง 3 คน 3 เขตแลนด์สไลด์ครับพี่น้องครับ คะแนนบัญชีรายชื่อมาเป็นอันดับหนึ่ง ทิ้งพรรคอันดับสอง 2 เท่าเองครับพี่น้องครับ วันนี้เลยต้องมาปราศรัยหาเสียงให้” นายพิธา กล่าว
 
นายพิธา กล่าวว่า ตนดูประวัติก่อนลงพื้นที่ ก็คิดดูว่าจะทำอย่างไรให้เขาชนะได้ ไม่แน่ว่าครั้งนี้อาจจะเป็นการปราศรัยที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในการหาเสียงทั้งชีวิตของตนจริงๆ
 
“อยากจะใช้เวลาอยู่กับท่านนานๆ แต่ถ้าท่านบอกว่าโอเคให้เวลา 2 นาที จะขายผู้สมัครอย่างไร ผมต้องเรียนอย่างนี้ว่า จังหวัดยังสมุทรสาครเป็นจังหวัดเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย ผมทำการบ้านก่อนลงพื้นที่ อะไรที่ทำให้จังหวัดสมุทรสาครนอนไม่หลับ ก็นั่งไล่ดู ปรากฏว่าเป็นเรื่องบ้านช่อง เป็นเรื่องเคหะ เป็นเรื่องที่อยู่อาศัย ที่นี่แย่ที่สุดในประเทศไทย 77 จังหวัดได้อันดับที่ 77 เรื่องเกี่ยวกับบ้านช่องที่อยู่อาศัย ทั้งที่เป็นจังหวัดที่มีธุรกิจรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการประมงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ” นายพิธา กล่าว
 
นายพิธา กล่าวว่า ผู้สมัครนายก อบจ.พรรคประชาชนทั้งชีวิตทำงานเรื่องที่อยู่อาศัย เคยพัฒนาบ้านให้คนอยู่ ทำเฟอร์นิเจอร์ให้พี่น้อง ถ้าสิ่งที่ทำไมท่านนอนไม่หลับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยคุณต้องกาพ่อบ้านพ่อเมืองที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างบ้าน พัฒนาบ้าน ทำเฟอร์นิเจอร์ พัฒนาให้มันดีขึ้น แบบนี้ดีหรือไม่ดี
 
“อบจ. งบประมาณมันเยอะนี่หว่า เมื่อไปดูพบว่ามีงบส่วนที่เป็นเรื่องเคหะ 16 ล้านบาท ก็เอาคนที่ดูแลเรื่องเคหะ แล้วไปเพิ่มงบ แบบนี้สมุทรสาครดีขึ้นแน่นอน ฟันธง” นายพิธา กล่าว
 
จากนั้น นายพิธา กล่าวว่า 2 นาทีพอดี ตนกลับบ้านได้แล้วใช่หรือไม่ 2 นาทีเมื่อสักครู่นี้ ซื้อหรือไม่ เลือกหรือไม่ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 08.00-17.00 น. ไปเลือกกันให้ถล่มทลาย ชนะแน่นอน ถ้าพี่น้องออกไปใช้สิทธิใช้เสียงและทำอย่างที่ทำให้ตนไม่ผิดหวังมาแล้ว คือการออกไปใช้สิทธิกันเยอะๆ แต่แพ้แน่นอนถ้าไม่ออกไปใช้สิทธิ ตนทราบดีว่าเลือกตั้ง 2 ครั้งมันไม่เหมือนกัน

---

พิธา ยก นันทิยา คือ ธนาธรเบอร์ 2 ความรู้-ประสบการณ์พร้อม เปลี่ยน อบจ.สมุทรสงครามได้ 
https://www.matichon.co.th/politics/local-election/news_5018734

ปชน.เปิดเวทีปราศรัยเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม ด้าน ‘พิธา’ ชี้ ‘นันทิยา’ คือ ‘ธนาธรเบอร์ 2’ ความรู้-ประสบการณ์พร้อม พาสมุทรสงครามสู่จังหวัดทันสมัย-มีเสน่ห์

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม พรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.สมุทรสงคราม ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง นางนันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน เบอร์ 2 โดยมีแกนนำ ส.ส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมปราศรัยและพบปะประชาชนที่มาร่วมติดตามการหาเสียงในวันนี้อย่างคับคั่ง
 
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวว่า ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เราอยากเห็นความเท่าเทียมกันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย ทุกคนควรเข้าถึงน้ำประปาที่สะอาด การรักษาพยาบาลที่ดี การเดินทางเพื่อสร้างโอกาสในชีวิต เราจึงมาทำงานการเมืองและตัดสินใจส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ เพราะพรรคประชาชนเชื่อว่าท้องถิ่นทำสิ่งนั้นได้ และพรรคประชาชนก็มีองค์ความรู้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงได้

เลขาธิการพรรค ปชน.กล่าวว่า แต่พรรคประชาชนก็ยังถูกค่อนแคะว่าขายฝัน นั่นคือสิ่งที่พวกเขาพยายามบอกกับเรา อยากให้เราหยุดฝัน ไม่พยายาม อยู่ที่เดิมเพื่อที่พวกเขาจะได้มีอำนาจเหมือนเดิม และให้สิ่งต่างๆ ยังคงเป็นอยู่แบบเดิม แต่ความฝันและความเชื่อของพรรคประชาชนต่างออกไป เราเชื่อในความเป็นไปได้และการเปลี่ยนแปลง ความเชื่อนี้ทำให้เราลุกขึ้นมาพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนความเป็นไปได้ให้เป็นความจริง
นายศรายุทธิ์กล่าวต่อไปว่า ที่สมุทรสงคราม เราเคยแข่งขันมาแล้วในอดีต ในปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่นี่ เราแพ้ ได้คะแนนมา 17,000 คะแนน ปี 2563 เลือกตั้ง อบจ. รอบก่อนเราก็ได้ส่งผู้สมัครเหมือนกัน แต่เราก็แพ้ได้ 13,000 คะแนน แต่เพราะเรามีความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง เราเชื่อว่ามนุษย์มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลง เราจึงยังคงมุ่งมั่นทำงาน และในปี 2566 เราก็ทำสำเร็จ ได้ความไว้วางใจมากว่า 40,000 คะแนน

“ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ครั้งนี้เราจะปักธงที่นี่ไม่ได้ แน่นอนว่าชนชั้นนำพยายามทำให้เราหมดหวังสิ้นหวังตลอด ไม่ว่าจะหลังการเลือกตั้ง 2566 ที่มีการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว การยุบพรรคก้าวไกล หรือการจัดการเลือกตั้ง อบจ.ในวันเสาร์ สิ่งต่างๆ คือความพยายามของชนชั้นนำที่จะทำให้เราสิ้นหวัง แต่เราไม่เคยหมดหวัง เรายังคงมีความมุ่งมั่นและความเชื่อข้างต้นอย่างแน่วแน่มั่นคง” นายศรายุทธิ์กล่าว
 
นายศรายุทธิ์กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 5 วันเท่านั้น เราจะมาร่วมกันสร้างความหวังให้ประชาชนชาวสมุทรสงครามและคนไทย ที่จะมีอนาคตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันได้จริงในประเทศและในจังหวัดแห่งนี้ ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจรณรงค์เปลี่ยนความคิดคน เชิญชวนให้คนมาเลือกตั้ง กล้าที่จะเลือกพรรคประชาชน เปลี่ยนสมุทรสงคราม สร้างจังวัดสมุทรสงครามให้กลายเป็นบ้านที่ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขและยั่งยืน
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่า ที่ผ่านมาสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ตนเคยมาขอคะแนนจากพี่น้องประชาชนมาแล้วหลายครั้ง และชาวสมุทรสงครามก็ทำให้เราได้ ส.ส.ในฝ่ายนิติบัญญัติไปกำหนดกฎหมาย เป็นปากเป็นเสียง และตรวจสอบรัฐบาล แต่ ส.ส.เป็นตำแหน่งที่ไม่มีงบประมาณของตัวเอง ไม่เหมือนกับนายก อบจ.มีอำนาจบริหารงบประมาณที่มาจากภาษีหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชนทุกคน

“สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่จิ๋วแต่แจ๋ว แม้จะเล็กที่สุด แต่ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แล้วถ้าเป็น อบจ. พรรคประชาชนจะสามารถเค้นศักยภาพของจังหวัดได้มากกว่านี้อีกเท่าไหร่ นันทิยาเป็นทั้งวิศวกรและมีประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ ผมดูประวัติแล้วเรียกได้ว่าเป็น ‘ธนาธรภาค 2’ บริหารก็ได้ เป็นวิศวกรก็ได้ ถ้าใครจะเอาประสิทธิภาพออกจากงบประมาณของจังหวัดสมุทรสงครามและทำให้โปร่งใสได้ ก็ต้องเป็นคนคนนี้” นายพิธากล่าว
 
นายพิธากล่าวต่อไปว่า จุดแข็งของสมุทรสงครามที่ทำให้ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่เด็ก นักเรียนสมุทรสงครามสอบโอเน็ตได้ติด 5 อันดับแรกของประเทศ สมุทรสงครามมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรอาหาร สมุทรสงครามต้องการนายก อบจ.ที่สามารถเค้นประสิทธิภาพจากงบประมาณ 4 ปี เกือบ 1,000 ล้านบาทออกมาให้ได้ ซึ่งนันทิยาสามารถทำให้สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ทั้งทันสมัยและมีเสน่ห์ได้ คือเป็นทั้ง hi-tech และ hi-touch
 
นายพิธากล่าวว่า นั่นหมายความว่าการศึกษาที่นี่ดีอยู่แล้ว มีประวัติศาสตร์ มีการท่องเที่ยว เราสามารถทำให้ทันสมัยมากขึ้นได้ด้วย augmented reality และ virtual reality การเกษตรที่มีลิ้นจี่และมะพร้าวสามารถดึงศักยภาพออกมาทำเป็นเหล้าชุมชน ให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นได้ การศึกษาที่ติด 5 อันดับแรกของประเทศอยู่แล้ว เอา STEM education, AI หรือ machine learning มาใส่เข้าไปอีกได้
 
นายพิธายังกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ถ้าชาวสมุทรสงครามเลือกนันทิยา ทุกคนจะยังได้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน ที่เก่งเรื่องดิจิทัลมาช่วยอีกด้วย นางนันทิยาคือนายธนาธรเวอร์ชั่น 2 ที่จะทำให้สมุทรสงครามทั้งทันสมัยและมีเสน่ห์ มีทั้งเทคโนโลยีและมีเสน่ห์ในการท่องเที่ยว สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม นันทิยาเป็นวิศวกรหญิงที่จะมาขับประสิทธิภาพของสมุทรสงครามให้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้
 

---

เท้ง ชี้เลือก นิรันดร์ เปลี่ยนสงขลาไม่เหมือนเดิม ย้ำ 1 ก.พ. ปากกาในมือมีมูลค่า 6 พันล้าน
https://www.matichon.co.th/politics/local-election/news_5018815

ปราศรัยใหญ่เลือกตั้ง อบจ.สงขลา “เท้ง-ณัฐพงษ์” ย้ำปากกาในมือท่านมีมูลค่า 6 พันล้าน คำตอบสุดท้ายเลือก “นิรันดร์” ทำทันที จัดสรรงบประมาณแบบดูแลคนใน-ใส่ใจคนนอก พัฒนาการศึกษา-สาธารณสุข-แหล่งท่องเที่ยว
 
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคประชาชนเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายนิรันดร์ จินดานาค ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา หมายเลข 2 โดยมีแกนนำ ส.ส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมปราศรัยและพบปะประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อรองหัวหน้าพรรคประชาชน, น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน, นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ นายอรรถพล บัวพัฒน์ ผู้ช่วยหาเสียง
 
นายณัฐพงษ์ ได้ขึ้นปราศรัยกับพี่น้องประชาชนว่า วันนี้ตนดีใจที่ได้มาขึ้นปราศรัยกับพี่น้องชาวสงขลาในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ส่วนตัวตนผูกพันกับพี่น้องชาวสงขลาเป็นอย่างยิ่ง ได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมพี่น้องชาวสงขลาที่ประสบอุทกภัยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาร่วมกับนายนิรันดร์ ได้เห็นการทำงานของเขามาโดยตลอด ถือเป็นคนที่ชัดเจนทั้งอุดมการณ์และความพร้อม อยู่กับพวกเรามาตั้งแต่อดีตอนาคตใหม่ ก้าวไกล และพรรคประชาชน เรียกได้ว่ากรีดเลือกออกมาเป็นสีส้ม นายนิรันดร์เคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและข้าราชการครู คลุกคลีมีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้วทั้งภาครัฐและเอกชน จึงรู้ว่าการเป็นนายก อบจ.สงขลา เราจะพัฒนาเมืองสงขลาได้อย่างไร
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า การจะพัฒนาเมืองสงขลาให้ดีนั้นเราต้องทั้ง “ดูแลคนใน” และ “ใส่ใจคนนอก” แต่ที่ผ่านมาเชื่อหรือไม่ว่า จ.สงขลามีอัตราเด็กที่มีภาวะผอมแห้งสูงถึง 26% มีเด็กอายุ 7-15 ปีที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานกว่า 24,000 คน ขณะที่ในด้านสาธารณสุข สงขลาต้องเผชิญกับสภาวะผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ประชาชนต้องเดินทางไปใช้บริการโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในตัวเมืองจนเกิดความกระจุกตัว